เปลือกมุกสีชมพู บทที่ 3 : Loose Lips ปากมาก

เปลือกมุกสีชมพู บทที่ 3 : Loose Lips ปากมาก

โดย : ขวัญอินทร์

Loading

เปลือกมุกสีชมพู โดย ขวัญอินทร์ นวนิยายดราม่าเข้มข้นที่อ่านเอานำมาให้ได้อ่านออนไลน์ เรื่องราวที่จะแสดงให้เห็นว่าเราอาจไม่เคยมองเห็นเนื้อแท้ของใครได้เลย ถ้าเราเลือกมองแค่เพียงเปลือก ความสำเร็จ ความล้มเหลว และภาพจำที่ผู้อื่นตีกรอบให้ เราจึงไม่ควรด่วนตัดสินใคร เพราะสุดท้ายผลกรรมจะเปิดโปงทุกอย่างไม่ช้าก็เร็ว

 

จิน น้ำมะนาว เหล้าราสป์เบอร์รี โทนิค

“ผมลงตรงนี้ดีกว่าครับ ในซอยรถท่าจะติด” ต้นบุญบอกคนขับรถจอด เมื่อเห็นว่ารถต่อแถวยาวออกมาถึงถนนใหญ่ ชายหนุ่มในชุดเสื้อสีขาวแขนยาวเน็กไทสีดำ กางเกงสแล็กสีเดียวกัน ก้าวลงจากรถพร้อมหอบพวงหรีดขนาดใหญ่ ดูทุลักทุเล จะว่าไปมันก็ทุลักทุเลตั้งแต่ที่ได้รับโทรศัพท์จากพ่อว่าให้เขาเป็นตัวแทนครอบครัวมาร่วมรดน้ำศพคุณนวลพรรณ เทวะกรณ์ จนเขาจึงต้องเลื่อนไฟลต์บิน ทั้งที่มีกำหนดเดินทางกลับกรุงเทพฯ ในค่ำนี้ แต่กว่าเขาจะจัดการธุระเสร็จก็ไม่ทันมารดน้ำศพอยู่ดี จึงต้องมาฟังพระสวดตอนค่ำแทน

เขาเดินไปตามแนวกำแพงบ้านที่สูงจนแทบไม่เห็นด้านใน บ้านหลังนี้กินเนื้อที่เกือบทั้งซอย โชคดีที่เขาไม่ให้รถเลี้ยวเข้ามา เพราะซอยนี้เป็นซอยตัน จะกลับรถก็คงลำบาก สนามหน้าบ้านขณะนี้มีเต็นท์ขนาดใหญ่ห้อยชายสีขาวดำวางเต็มพื้นที่ จุคนได้มากพอกับจัดงานที่วัด ไม่แปลกใจที่เจ้าภาพคิดจัดงานศพในบ้าน ทั้งที่ไม่ค่อยมีคนนิยมทำกันแล้วในยุคปัจจุบัน นอกเสียจากว่าจะรวยจริงและถูกสั่งเสียเอาไว้

บ้านหลังใหญ่สีครีม ถูกออกแบบด้วยสไตล์ทันสมัย ในฐานะคนอยู่ในวงการอสังหา คำคิดว่าราคาของมันไม่ต่ำกว่าสิบล้าน ซึ่งก็ขึ้นกับการตกแต่งภายในด้วย แต่ที่น่าแปลกคือตรงที่ควรเป็นที่จอดรถกลับเป็นเรือนพักห้องเดียวยกพื้นขึ้น มีทางเดินเชื่อมบ้านสองหลังเข้าด้วยกัน ทางเดินอีกด้านก็ติดกับบ้านสองชั้นสีครีมหลังเก่าหลังหนึ่ง

เต็นท์สำหรับวางโลงศพอยู่ระหว่างบ้านหลังเก่ากับหลังใหม่ ถูกประดับประดาด้วยดอกไม้สีขาวสวยเด่นมาแต่ไกล โลงศพถูกวางบนเวทีสูงครึ่งเมตร กว้างพอสำหรับเป็นที่พระสวด ส่วนแขกที่มาร่วมไว้อาลัยนั่งเก้าอี้ข้างล่าง

ต้นบุญเดินตรงไปที่หญิงสาวคนหนึ่ง ผมยาวสีดำผูกรวมตึง ยกสูง ผูกด้วยโบขาวดำ ชุดกระโปรงสีดำยาวครึ่งน่อง เธอกำลังสั่งลูกน้องแขวนพวงหรีด ข้างเธอเป็นหญิงวัยกลางคน ผมซอยสั้นรับหน้า ดูสวยสง่าสมวัย ซึ่งเขามั่นใจน่าจะเป็นคุณขจี เทวะกาญจน์ ลูกสาวคุณนวลพรรณผู้วายชนม์

“ฟ้าว่าทำที่แขวนสองระดับดีกว่าค่ะ อีกหลายวันน่าจะไม่พอ”

ทั้งสองคนไม่มีทีท่าว่าจะเห็นเขา จนกระทั่งคนงานเป็นฝ่ายสะกิดบอก ทั้งสองจึงหันมา ต้นบุญใจกระตุกเล็กน้อยเมื่อเห็นหน้าเธอชัดๆ ด้านหลังว่างามแล้ว ด้านหน้าดูงามกว่า คิ้วเธอคมเข้มเรียวสวย ดวงตาโต จมูกปากรับกันเหมาะเจาะ เขาเพิ่งเข้าใจคำว่า สวยงาม ก็ตอนนี้เอง

“อุ๊ย สวัสดีค่ะ ต้องขอโทษด้วยนะคะไม่ทันเห็น” เธอรีบขอโทษขอโพย กิริยายิ่งน่ารัก เขามองเพลินจนเกือบลืมแนะนำตัว

“สวัสดีครับผมต้นบุญ ต้นตระการครับ เป็นตัวแทนคุณพ่อภูวดล คุณพ่อให้ผมนำพวงหรีดมาเคารพศพก่อนครับ”

คุณขจีพยักหน้ารับ มองเขาแบบสำรวจชั่วอึดใจ สายตาคมกริบเหมือนเครื่องเอกซเรย์ก่อนเบือนหน้าไปบอกฟ้าพราวว่า “อาภูวดล คนที่เคยอาศัยใบบุญคุณยายไงลูก”

“อ๋อ ฟ้าจำได้แล้วค่ะ อาภูวดลคนที่ส่งของบำรุงดีๆ มาให้คุณย่าบ่อยๆ ขอโทษด้วยนะคะที่ตอนแรกจำไม่ได้” ท่าทางขอโทษขอโพยน่ารักของเธอ ทำให้คำพูดชวนตงิดใจของคุณขจีดูเบาลง

”ขอบคุณค่ะ เชิญนั่งก่อนนะคะ ประเดี๋ยวฟ้าไปตามเด็กยกน้ำมาให้” เธอรับพวงหรีดจากเขาสั่งคนงานให้ไปวางไว้ด้านหน้าสุด ก่อนจะเชื้อเชิญเขาให้ไปนั่งที่ชุดรับแขก

“แล้วนี่พ่อเราเค้าไม่มาด้วยเหรอ” คุณขจีถามขณะเดินไปด้วยกัน ใบหน้าเธอเรียบเฉยไม่ได้รู้สึกยินดีหรือตื่นเต้นที่เขาเป็นลูกชายภูวดล

“พ่อลงมาพรุ่งนี้ครับ” เขาตอบสุภาพ

“คุณต้นเชิญทางนี้ค่ะ นี่คุณตาไกร อากรณ์ คุณตาคะคุณต้นบุญ ลูกชายอาภูวดลค่ะ”

ชายชราขมวดคิ้วเล็กน้อย พยายามนึกทวนชื่อว่าพ่อเขา ก่อนพูดด้วยความตื่นเต้นทันทีที่คิดออก เขาเองก็เพิ่งนึกได้เช่นกัน คุณตาไกร น่าจะคือ สส.ไกร อดีตรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมแน่เลย

ถ้าจะทำธุรกิจที่นี่ เราก็ต้องติดต่อตระกูลนี้ไว้บ้าง โดยเฉพาะคุณกรณ์ลูกชาย สส.ไกร

อีกครั้งที่เขาทึ่ง นอกจากจะสวยมากแล้ว ฟ้าพราวยังเป็นนักประสานสัมพันธ์ที่เก่งมากด้วย ทำให้เขานั่งสนทนากับทั้งสองท่านได้อย่างสนิทใจเหมือนเป็นลูกหลานคนหนึ่ง

ยิ่งเมื่อรู้ว่าเขามีโครงการสร้างคอนโดฯ ที่นี่ ก็เอ่ยปากจะช่วยอำนวยความสะดวกเรื่องการขอใบอนุญาตให้ทันที

“ติดต่ออาโดยตรงเลยนะ แต่ต้องรีบหน่อยเพราะอาใกล้อยู่ครบวาระแล้ว” นายกกรณ์เอ่ยปาก

“แกจะไปกลัวอะไร ก้องเกียรติยังอยู่ทั้งคน” สส.ไกรพูดขัดขึ้น น้ำเสียงไม่พอใจลูกชาย

“ก้องเกียรติเป็นลูกชายอาเอง วางตัวกันไว้ว่าจะให้ลงสมัครแทนอา” คุณกรณ์บอกให้ชายหนุ่มรุ่นลูกเข้าใจ

“น่าจะรุ่นๆ กันนะว่าแต่เราเกิดปีอะไรล่ะ” คุณปู่ไกรถาม

“ปีเดียวกันกับก้อง แล้วก็ฟ้าพราวน่ะสิ” คุณกรณ์อุทาน เมื่อเขาบอกปีที่เกิดออกไป

“ดีๆ เป็นพวกรุ่นใหม่ไฟแรงกันทั้งนั้น รู้จักกันไว้น่ะดีแล้ว ต่อไปจะได้พึ่งพาอาศัยกัน” คุณปู่ไกรพูดส่งท้าย จากนั้นแขกเหรื่อเริ่มเข้ากันมาก เขาจึงขอตัวกลับไปนั่งที่เดิม เพื่อหลีกทางให้คนอื่นเข้ามาพูดคุย ดูๆ แล้วงานนี้ที่มีคนช่วยงานเยอะ และถูกจัดขึ้นอย่างสมเกียรติ ส่วนหนึ่งคงเพราะบารมีจากทั้งสองท่านด้วย

ต้นบุญเลือกที่จะนั่งเล่นโทรศัพท์ฆ่าเวลาระหว่างรอพระสวด เขานั่งริมนอกสุดของเต็นท์เพื่อจะได้เข้าออกสะดวก ไม่นานก็เริ่มมีแขกกลุ่มหนึ่งอายุไล่ๆ กับคุณขจี ทยอยมานั่งตรงแถวหลังสุดถัดจากเขาไปสองแถว ซึ่งทุกคนกำลังคุยกันเรื่องการเสียชีวิตปุบปับของคุณนวลพรรณอย่างออกรส จนเขาต้องหูผึ่งแอบฟังไปด้วย

“ขจีเล่าให้ฟังว่า คุณนวลช็อกที่หลานสาวคนเล็กใจแตก ไปเป็นเมียเก็บเสี่ย”

“รู้ได้ไง”

“เพื่อนหนูฟ้าอัดคลิปเอาไว้”

“ต๊าย หลานสาวคนเล็ก ลูกกระจ่างน่ะเหรอ ชื่ออะไรนะ”

“มุก มุกอันดา”

“ใช่ นั่นแหละ จำได้มั้ยที่จีเล่าให้ฟังว่า น้องชายไปทำเด็กห้องอาหารท้อง จนได้เด็กคนนี้”

“คนที่เป็นนายก แล้วโดนคดีจนต้องขายที่วิ่งเต้นจนหมดตัวใช่มั้ย”

ต้นบุญแทบกลั้นหายใจเมื่อได้ยินถึงตรงนี้ บอกไม่ถูกว่ารู้สึกอย่างไรที่ได้ยินคนนินทาเจ้าภาพกลางงานแบบนี้ ประมาณมางานศพคืนเดียว แล้วรู้เรื่องทั้งตระกูล ทั้งกลุ่มยังคงซุบซิบ แต่เสียงเบาลงจนแทบไม่ได้ยิน คงเริ่มรู้ตัวว่าพูดเสียงดัง

“ดื่มน้ำก่อนมั้ยคะ นินทาเจ้าภาพจนคอแห้งเชียว”

น้ำเสียงที่แปลกไปจากกลุ่มที่นินทา พร้อมเสียงวางถาดน้ำโครมใหญ่ ทำให้เขาต้องเหลียวกลับไปมอง เขาบอกไม่ถูกว่าจะรู้สึกยังไงเมื่อเห็นหญิงสาวผมสีชมพูยืนกอดอก สีหน้าเอาเรื่อง จ้องกลุ่มนินทากลุ่มนั้น เขาคุ้นท่ายืนนี้และนึกออกทันทีว่า เป็นบาร์เทนดี้ผมสีชมพู ของบาร์จับจิต

“ว่าไงคะ ทำไมไม่พูดต่อล่ะ กำลังสนุกเลย มุกทำไมนะ เป็นเด็กเสี่ยใช่มั้ย แล้วไงอีก นิสัยเหมือนแม่ใช่มั้ย” น้ำเสียงสุดท้ายฟังดูสั่นสะท้าน จนเขารู้สึกว่าเหตุการณ์น่าจะบานปลาย

“ป้าก็พูดตามที่รู้มา” หญิงวัยกลางคนน่าจะรุ่นเดียวกับคุณขจี รีบพูดกลบเกลื่อน

“แก่อยู่นานเลยรู้เรื่องชาวบ้านดีนะคะ ว่าแต่ป้ารู้เรื่องลูกผัวตัวเองบ้างมั้ยล่ะ” เสียงเธอดังพอที่จะทำให้แขกบริเวณนั้นเริ่มหันกลับมามอง หญิงสูงวัยคนหนึ่งทนฟังเด็กคราวลูกต่อว่าไม่ไหว จึงผุดลุกขึ้น ทั้งโกรธทั้งอาย คนอื่นก็พากันลุกตามด้วย

“อ้าว ป้าจะหนีทำไม อยากรู้มั้ยว่าผัวป้ามีเมียน้อยกี่คน ป้าจีเคยเล่าให้ฟังเหมือนกัน” มุกอันดายังไม่ลดละ เดินไปดักหน้าตอนนี้เองที่เขาเห็นท่าไม่ดี จึงลุกขึ้นยืนเตรียมจะไปห้ามเธอ ดูเหมือนฟ้าพราวจะเห็นถึงความผิดปกตินั้นด้วย เธอหน้าตื่น เดินปรี่เข้ามาคว้าแขนของมุกอันดาไว้

“มุกมีเรื่องอะไรกัน!”

มุกอันดาสะบัดแขนสุดตัว “พวกพี่แมร่ง จริงใจกับใครบ้าง ปากหวานก้นเปรี้ยวทั้งแม่ทั้งลูก” เธอต่อว่าฟ้าพราวเสียงสั่น ก่อนผละหนีออกไป

ฟ้าพราวนิ่งงัน รู้สึกอับอายที่จู่ๆ ก็โดนด่า ครั้นจะตามไปก็กลัวเรื่องจะบานปลาย จึงได้แต่พยายามเก็บอารมณ์เต็มที่

“มีเรื่องอะไรกันคะ” เธอหันมาถามเพื่อนแม่แทน

“ป้าอยู่ไม่ไหวแล้วละ บอกแม่ด้วยว่าค่อยมาทำบุญวันหลัง” หญิงสูงวัยแต่งตัวดี เม้มปากแน่นเชิดหน้าขึ้น เดินหลังตรงออกไปจากเต็นท์ เพื่อนร่วมวงสนทนาวัยเดียวกันเห็นดังนั้น ก็ลุกขึ้นลากลับ โดยไม่พูดถึงเรื่องเมื่อกี้อีก

“ค่ะๆ ขอบคุณมากนะคะ” ฟ้าพราวไม่มีแก่ใจรั้งใครให้อยู่ต่อ ยิ่งเมื่อเห็นชายหนุ่มที่ชื่อต้นบุญยืนอยู่ใกล้ๆ ก็ยิ่งรู้สึกอาย เธอพยักหน้ากึ่งขอโทษขอโพยที่เกิดเรื่องวุ่นวาย เขาพยักหน้ายิ้มรับก่อนนั่งลง ฟังพระสวดอภิธรรม จนกลับเขาก็ไม่เจอกับมุกอันดา บาร์เทนดี้ผมสีชมพูนั่นอีก

 

 



Don`t copy text!