มรดกมนตรา : บทนำ

มรดกมนตรา ผลงานของ วัชรนริศ ที่อ่านเอานำมาให้อ่านออนไลน์ทาง anowl.co กับเรื่องราวของนักวิจัยสาวผู้ไม่เชื่อในสิ่งลี้ลับที่ได้รับคฤหาสน์โบราณกลางป่ากาญจนบุรีเป็นมรดกจากญาติที่ไม่เคยรู้จัก ทว่าคฤหาสน์หลังนี้กลับซ่อนคำสาป วิญญาณ และอดีตอันมืดมนที่รอการปลุกตื่น พร้อมการฟื้นคืนของ “อัคนีนาฏเทวี” อสูรสาวในตำนาน

ท่ามกลางแสงจันทร์ที่สาดส่องลงมายังผืนป่ากว้างใหญ่ วิหคกลางคืนบินโฉบผ่านยอดไม้ที่สูงชัน และเงาของมันก็ทอดยาวราวกับจะโอบล้อมคฤหาสน์วารีมรกตอันเก่าแก่ ตัวคฤหาสน์ตั้งตระหง่านท่ามกลางความมืด ราวกับคอยเฝ้ามองทุกสรรพสิ่งในยามค่ำคืน ใบไม้แห้งที่ร่วงหล่นลงมากระทบพื้นส่งเสียงแผ่วเบาเคล้าคลอกับเสียงลมหนาวที่พัดผ่าน สร้างบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความลึกลับน่าพรั่นพรึง

ตัวคฤหาสน์เองเป็นศิลปะแบบยุโรปผสมไทยโบราณ ตั้งอยู่ในใจกลางป่าที่ล้อมรอบด้วยต้นไม้ใหญ่อายุกว่าร้อยปี เงาของต้นไม้เหล่านี้บดบังแสงจันทร์จนทำให้บริเวณโดยรอบคฤหาสน์ดูคล้ายกับถูกปิดกั้นจากโลกภายนอก ขณะที่แสงไฟภายในคฤหาสน์กลับเรืองแสงบางเบา ท่ามกลางความเงียบงันนี้ มีเพียงเสียงแมลงกลางคืนและเสียงลมที่กระทบกิ่งไม้เป็นเพื่อนแก่ผู้อยู่อาศัย

‘คฤหาสน์วารีมรกต’ ชื่อนี้เคยเป็นที่กล่าวขานกันในยุคสมัยรัชกาลที่ 5 มันถูกสร้างขึ้นมาเป็นสัญลักษณ์แห่งความมั่งคั่งและอำนาจของ ‘ตระกูลวารีมรกต’ แต่ความงามสง่าของมันกลับซ่อนเรื่องราวที่น่าหวาดกลัวไว้ใต้ผืนดิน ผนังอิฐเก่าแก่ปกป้องความลับอันดำมืดที่ถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น ภายในคฤหาสน์ยังมีห้องลับและทางเดินใต้ดินที่ไม่มีใครกล้าเหยียบย่าง นอกจากคนในตระกูลผู้สืบทอดมรดกแห่งความลึกลับนี้

บนหิ้งบูชาภายในห้องพระของคฤหาสน์ มี ‘กล่องผนึกเทพมนตรา’ และ ‘พระขรรค์เพลิงพยัคฆ์’ ถูกจัดวางไว้อย่างประณีต พระขรรค์นี้เป็นมรดกจากบรรพบุรุษของตระกูล ซึ่งเชื่อกันว่ามีอำนาจในการปกป้องจากสิ่งชั่วร้าย ขณะที่กล่องมนตราถูกบอกเล่ากันว่าเป็นที่กักขังพลังอาถรรพณ์ลี้ลับ แต่ไม่เคยมีใครเคยได้เปิดมันเพราะคำสาปที่ผนึกไว้

ในหมู่บ้านที่เงียบสงบซึ่งห่างไกลจากความเจริญ ผู้คนต่างเล่าขานกันถึงคำสาปที่ติดตัวคฤหาสน์วารีมรกตมา ทุกค่ำคืนจะมีเสียงร้องโหยหวนดังมาจากภายใน เสียงกรีดร้องของวิญญาณที่ไม่ได้รับการปลดปล่อย เรื่องราวของเงาลึกลับที่คอยเคลื่อนไหวไปตามห้องต่างๆ โดยไม่มีใครพบตัวต้นเหตุ ผู้คนในหมู่บ้านต่างหวาดกลัวและหลีกเลี่ยงที่จะเข้าใกล้คฤหาสน์หลังนี้ในยามราตรี

‘ทิพย์ธิดา’ หญิงสาวที่สืบทอดคฤหาสน์และมรดกทั้งหมดจากบรรพบุรุษของตระกูลวารีมรกต ไม่เคยเชื่อในเรื่องของเวทมนตร์หรือคำสาป เธอเป็นหญิงสาวที่มั่นใจในตนเองและมีทัศนคติที่ตรงไปตรงมา ทิพย์ธิดาเชื่อว่าทุกเรื่องที่เล่าขานเกี่ยวกับคำสาปเป็นเพียงเรื่องเล่าของคนโบราณที่พยายามทำให้คฤหาสน์ดูน่ากลัว เพื่อป้องกันไม่ให้ใครเข้าไปยุ่งเกี่ยว

แต่ทุกอย่างเปลี่ยนไปในค่ำคืนหนึ่ง เมื่อเธอได้พบกับวิญญาณของ ‘ท่านชายอดิศร’ ผู้เป็นบรรพบุรุษของตระกูล เขาปรากฏตัวต่อหน้าเธอท่ามกลางแสงจันทร์เย็นสงบในห้องพระของคฤหาสน์ พร้อมคำเตือนถึงภัยร้ายที่กำลังจะมาเยือน ท่านชายอดิศรบอกกับทิพย์ธิดาว่าคำสาปที่ถูกส่งต่อมาหลายชั่วอายุคนนี้ยังไม่สิ้นสุด และมีเพียงเธอเท่านั้นที่สามารถปลดปล่อยมันได้

ทิพย์ธิดารู้สึกทั้งตื่นตระหนกและสับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนั้น เธอเริ่มสงสัยในสิ่งที่ตนเคยปฏิเสธมาตลอด และการปรากฏตัวของท่านชายอดิศรได้ผลักดันให้เธอต้องเริ่มค้นหาความจริงที่ซ่อนอยู่ในคฤหาสน์แห่งนี้ เธอต้องเผชิญหน้ากับอดีตที่ดำมืดของครอบครัว รวมถึงพลังเวทมนตร์ที่ถูกพันธนาการไว้ภายในคฤหาสน์ที่ไม่มีใครเคยรู้มาก่อน

‘มรดกมนตรา’ เป็นเรื่องราวของการค้นพบความจริงที่ซ่อนเร้น การสืบทอดพลังอาถรรพณ์ และการเผชิญหน้ากับวิญญาณและพลังเวทมนตร์ที่เกี่ยวข้องกับคำสาปของบรรพบุรุษ ทิพย์ธิดาต้องตัดสินใจที่จะยอมรับในชะตากรรมของตนเองและใช้พลังที่ได้รับจาก ‘พระขรรค์เพลิงพยัคฆ์’ เพื่อหาวิธีทำลายคำสาปที่คุกคามทั้งชีวิตของเธอและทุกคนรอบตัว การเดินทางของเธอจะนำพาผู้อ่านไปสู่โลกที่เต็มไปด้วยเวทมนตร์ ความลึกลับ และการต่อสู้กับพลังอาถรรพณ์ที่จะทำให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องต้องเผชิญหน้ากับผลของคำสาปที่ถูกซ่อนเร้นมายาวนาน