
ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 22 : อสุรกายเต็มบ้าน
โดย :
“ขุนเขาแมกไม้” นวนิยายเรื่องเยี่ยมในชุดโหราศาสตร์ ผลงานเรื่องล่าสุดของ ’กฤษณา อโศกสิน‘ ศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์ประจำปีพุทธศักราช 2531 กับเรื่องราวของเดินดงและอิทธิพลของดาวเสาร์ที่มีต่อชีวิตของเขาได้ในอ่านเอา
แสงสุดท้ายของดวงอาทิตย์วันนี้ที่กำลังลับไปจากขอบเขา ดูราวกับแสงแห่งความหวังอันศักดิ์สิทธิ์ แต่ยังพิชิตมิได้ของชายผู้ยังคงนั่งอยู่บนม้าไม้ไผ่ยาวที่มีตะเกียงลานวางอยู่ดวงหนึ่ง
เก่งกำลังล้างจานชามที่เพิ่งกินอาหารมื้อเย็นเสร็จสิ้น ดินทั้งแข็งและเย็นด้วยละไอความหนาวแห่งฤดูสุดท้ายของปีที่เขาไม่เคยพานพบในเมืองกรุง
ในมือเขามีหนังสือเล่มสำคัญพลิกอ่าน มีสมุดบันทึกเล่มเล็กติดมาด้วย ช่วยให้เขาได้จดชื่อพืชพรรณ
‘เมื่อจะปักไม้มงคลให้ปักเรียงตามทักษิณาวรรต’
ครั้นพลิกดูตรงหน้าอันว่าด้วยการเรียงไม้มงคล ก็พลันพบถ้อยคำ
ไม้มงคลมีทั้งหมด 9 ชนิด
ในการก่อสร้างอาคารหรือก่อฐานถาวรวัตถุต่างๆ นิยมมีพิธีวางศิลาฤกษ์ซึ่งจะใช้ไม้มงคล 9 ชนิดเป็นไม้ปักกับพื้นดิน
ถ้าปลูกเรือนปีเถาะ คือ ปี พ.ศ.2566 นี้ ก็ควรนำเอาใบตะเคียน ใบเฉลียง พร้าหอม ใบกล้วยน้ำห่อปลายเสาเอก ท่านว่าจะสมบูรณ์พูนสุข เงินทองไหลมาเทมา ศัตรูคิดร้ายพินาศไปเอง
พวกอสุรกายพ่ายหนี
“เก่งเว้ย” เดินดงอ่านมาถึงตรงนี้จึงเรียกลูกน้องเสียงหลง “ตอนเราลงเสาปลูกกระท่อม พ่อแม่คงไม่ได้ทำตามตำราแน่เลย…พวกอสุรกายถึงเต็มบ้าน”
“พี่…เบาๆ อย่าเอะอะ” อีกฝ่ายลดเสียงลงด้วยความเกรงโอษฐภัยจากนายจ้างผู้หลายครามิอาจสะกดวาจาร้อนแรงไว้ได้ “เดี๋ยววิญญาณได้ยิน จะยุ่งกันใหญ่”
ชายหนุ่มฟังแล้วเลยขำขันขึ้นมา กลบความกังขากังวลร้อยแปดที่ถ้าเผลอตัวก็ชวนกันผุดขึ้นมาเต็มอารมณ์
“เออ…เอาละ…ไม่พูดละ” ว่าแล้วจึงหันกลับ แต่ก็ยังไม่หิ้วตะเกียงขึ้นเรือน…ขณะที่เก่งล้างจานเสร็จ หยิบไฟฉายที่ใช้เป็นอุปกรณ์ชั่วคราว ก่อนที่น้ำไฟจะมาติดตั้ง นัยว่าทุกอย่างจะเร็วขึ้นตามที่นายโอกาสทิ้งท้ายไว้เมื่อครู่ ‘คุณดงคงต้องพึ่งตะเกียงกะไฟฉายอีกไม่เกินสองวัน ไฟน้ำมาพรึ่บเลยละฮะ…’ ฉายกราดตรวจตราความเรียบร้อยว่าไม่มีงูเงี้ยวเขี้ยวขอมารอฉกกัดอยู่แถวหน้าส้วมที่ดูเผินๆ เหมือนตู้ไปรษณีย์นี่แน่นอน
“พี่ก็อาบน้ำซะก่อนซี” ลูกน้องก็เลยเตือน “น้ำร้อนเพิ่งเดือด…อาบเลยไหม…ผมผสมให้เลยนะ”
ชายหนุ่มจึงทำตาม…ทั้งอาบน้ำ ทั้งใช้ตู้ ปณ.เล็กจิ๋วเสร็จสรรพ นุ่งผ้าเช็ดตัวขึ้นบันไดไม้ไผ่เข้าไปสวมกางเกงผ้าสำลีทับด้วยสเวตเตอร์ เนื่องด้วยค่ำคืนนี้ อากาศยิ่งทวีความเย็นกว่าคืนที่ผ่านมา
มองผ่านหน้าต่างอันกางอยู่ด้วยไม้อันเดิมแลเห็นแต่เงารั้วที่เพิ่งเสร็จหมาดๆ เมื่อหัวค่ำ…ช่วยให้หมดกังวลกว่าสี่วันที่ผ่านไป
เลยมีกำลังใจนั่งพิงฝา เหยียดขาอ่านเรื่องราวของพันธุ์พฤกษาจากหน้าหนังสือเพื่อจะได้ละเอียดลออพอที่จะคัดเอามาลงดิน
“เออ…เก่งเว้ย” ดังนั้นเขาจึงส่งเสียงบอกกล่าวลูกน้องผู้บัดนี้กำลังอาบน้ำดังซู่ซ่าอยู่ข้างโอ่ง…ก็ส่งเสียงไปอย่างนั้น ได้ยินหรือไม่ก็ช่าง ถือว่าเอาเสียงเป็นเพื่อน “ไม้มงคลที่ควรปลูกไว้นี่มี 9 ชนิดนะเฟ้ย”
ไม่มีเสียงจากอีกฝ่ายตอบกลับ มีแต่เสียงน้ำยังคงดัง เขาก็เลยจาระไน
“ไม้ชัยพฤกษ์ หมายถึง ชนะสิ่งทั้งปวง
ไม้ราชพฤกษ์ หมายถึง เป็นไม้เหนือไม้ทั้งหลาย…อ้าว…นี่เราเพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองนะ
ไม้ทองหลาง หมายถึง ความมั่งมี
ไม้มะยม หมายถึง ความนิยม
ไม้กันเกรา หมายถึง การปกป้องคุ้มครองอันตราย
ไม้ทรงบันดาล หมายถึง เทวดาคุ้มครอง
ไม้สักทอง หมายถึง ทรัพย์
ไม้พะยุงหรือพะยูง หมายถึง ช่วยประคับประคอง
ไม้ขนุน หมายถึง เกื้อหนุนค้ำจุน
แกว่า เราควรปลูกอะไรก่อนฮะ เก่ง”
เสียงน้ำเมื่อครู่หยุดแล้ว ลูกน้องห่มผ้าเช็ดตัวก้าวขึ้นมาบนชานด้านหลัง พลางปิดประตูห้อง
“หนาว” อีกฝ่ายบอกพลางทำเสียงกึกๆ ในไรฟัน
“ใช่…คืนนี้หนาวกว่าเมื่อคืน แต่สบายใจกว่า…” เดินดงพึมพำพลางเหลือบไปยังหน้าต่างไม้ไผ่ “ก็หวังว่าจะไม่มีใครมากวนอีกนะ”
“รู้น้า..ปากอย่างใจอย่าง” เก่งลากเสียงล้อ ก่อนจะดึงผ้าห่มมาพันตัวเหลือแค่ดวงหน้า
นายของเขาก็เลยยกมือหงิกๆ ให้
“หน็อย…ทำเป็นรู้ใจ…นางน่ะเหรอ เสือนะเฟ้ย ไม่ใช่หมู”
นายโอกาสเกาะท้ายจักรยานยนต์ลูกชายนำรถไถดินสองคันมาตั้งแต่เก้านาฬิกา ซึ่งกะแล้วว่าให้ทั้งเดินดงและเก่งได้ทำกิจส่วนตัวเสร็จก่อน
ดังนั้น จึงค่อนข้างแปลกใจที่ยังไม่เห็นหน้าสามคนพ่อลูกเมื่อวาน
มีแต่โต๊ะ เก้าอี้ ที่ขนมาเป็นพยานล่วงหน้า วางเรียงๆ กันอยู่เต็มลานกว้างข้างกระท่อม
“อ้าว…ผมน่ะนึกว่าจังมาเร็วกว่าซะอีกฮะ…สงสัย…”
“น้องจัน…” อุกกาต่อไว้เพียงนั้น
พ่อของผู้พูดก็เลยนิ่งเพราะนึกรู้
พอดีเสียงรถไถที่ทั้งสองฝ่ายส่งมาเริ่มทำงาน นายโอกาสกะให้รถของเขาทั้งสองคันไถดินด้านซ้าย ยาวตรงไปบนที่โล่งเบื้องหน้า…ที่ที่จะไปสู่จุดหมายปลายทางคือขุนเขาสีเขียวที่โค้งขึ้นลาดลง ส่งความน่าเกรงขามแกมลึกลับมาแต่ไกล
“ได้แบบนี้จะเร็วมาก…” นายโอกาสในเสื้อคลุมตัวหนา สวมหมวกหลุบปีกลงปิดหน้า กันได้ทั้งความเย็นและแสงแดด…เหมือนกันทั้งพ่อลูก
ฝ่ายนายอุกกาเดินไปเดินมาไม่อยู่นิ่ง…พลางเหลียวไปทางขวามือ ครั้นอดรนทนไม่ไหวจึงหันไปทางบิดา
“แล้วนี่อาจังจะมาไหมพ่อ”
พ่อของเขาก็เลยพยักพเยิดกับเดินดงเชิงบอกกล่าว
“คุณดู…ดูเอาเองละกัน…ว่า…มันหลงใหลไฟลุกหนูใบจันขนาดไหน…มันว่าคิดถึงจนนอนไม่หลับ แล้วเขาล่ะ…ทำไมไม่ถามมั่งว่า…แล้วหนูนั่นเขาคิดถึงแกมั่งไหม…หรือว่าคิดถึง แต่สะกดไว้…”
นายโอกาสก็ยังทำท่าเข้าข้างลูกตนเองอยู่ดี
เดินดงก็เลยบอกเชิงปลอบ ซ่อนความหมั่นไส้เวทนาไว้ในใบหน้า
“ผู้หญิงดูยากนะคุณ…บางทีเขารัก แต่ก็ทำเหมือนไม่สนใจ…เขาทำได้นะ…”
“น่าน-น่า-ซี…” นายโอกาสลากเสียงอย่างถูกใจ “ก็เจ้าอุกมันไม่ค่อยจะสีสากะ…เอ้อ…กะอะไรดี…”
เขาเตรียมจะใช้คำว่า มารยาหญิงออกมาแล้ว หากก็ยั้งไว้ได้
“กะความรู้สึกของอะไรนะ…เอ้อ…ของอิตถีเพศ” นายโอกาสใช้คำหรูเพื่อให้ดูว่าเขาก็มิใช่ชาวบ้านธรรมดาหรอกนะ
แต่ยังมิทันจะขาดคำ นายจังที่มีนายจัดเกาะท้าย ก็พาจักรยานยนต์คู่ใจมาถึง
“มาซะทีซีค้าบบบ” นายโอกาสดีใจทั้งๆ หน้าสลดลง
แต่ผู้ที่แทบจะต้องร้องออกมาด้วยความผิดหวังก็คือนายอุกกา
เพราะนายจังมีถุงผ้าเล็กๆ มายื่นให้
“หาเจอแล้ว สร้อยข้อมือที่อุกให้หนูจัน…เขาฝากมาคืน…คือเขาไม่อยากรับของมีราคาขนาดนี้น่ะอุก…”
“โธ่…จัง” นายโอกาสครางแทนลูกเสร็จสรรพ แต่ก็จำต้องพยักหน้าให้อุกการับถุงนั้น “ทำไมเอามาคืน…แต่ก็เอาละอุก…น้องคืนชั่วคราว…คราวหน้าค่อยหาของหมั้นใหม่…”
“อย่าเพิ่งเลยพี่โอ” นายจังปรามอย่างเห็นได้ชัดว่า…รับคำสั่งเฉียบขาดมาจากใคร
เดินดงได้แต่นั่งมองสองศัตรูคู่มิตรอย่างรู้สึกสนิทกว่าเดิม
ที่คิดว่าเขาทั้งคู่คือศัตรูกันเพราะต่างก็เป็นเจ้าของไร่พืชแข่งกันซื้อแข่งกันขาย แข่งกันมีเส้นสายทางการเมืองไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ก็กลับกลายเป็นคู่มิตรบางครั้ง คู่ศัตรูบางคราวไปเสียได้
นี่จะว่าเป็นตำราพิชัยสงครามแบบไหนก็ยังมิอาจแจกแจงให้ถ่องแท้
“อย่าขัดใจกันเลยดีกว่าฮะ” ในที่สุดชายหนุ่มก็ไกล่เกลี่ย “คุณอุกก็รอหน่อยคงไม่เป็นไร…คุณใบจันยังไม่คุ้นกับคุณมากละมัง ก็เลยไม่รับของ…เธอก็ต้องเคร่งครัดแบบนี้แหละครับถึงจะเรียกได้ว่าเป็นกุลสตรีของชุมชน”
เดินดงนึกไม่ถึงเช่นกันว่าเขาสามารถจะเสกสรรถ้อยคำจนได้ความอันมีแต่ไมตรีจิตได้ถึงเช่นนี้
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 22 : อสุรกายเต็มบ้าน
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 21 : เสนอตัว
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 20 : หนังสือล้ำค่า
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 19 : ‘ดวง’ ของทั้งคู่
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 18 : คู่แข่งคู่ควง
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 17 : ท่ามาก
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 16 : ทุกหนแห่งล้วนมีราคา
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 15 : ติดพัน ‘แม่เสือ’
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 14 : ไอ้หน้าโง่อหังการ
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 13 : คนดวงแข็ง
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 12 : ไหว้เจ้าที่
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 11 : ผู้มาเยือน
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 10 : ยามวิกาล
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 9 : วิถีเพิ่งเริ่มต้น
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 8 : ต้นไม้ใหญ่มีอารักษ์
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 7 : พืชพรรณไม้มงคล
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 6 : ตำราล้ำค่า
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 5 : ช้างบุก
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 4 : นายจัดลูกนายจัง
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 3 : สองชายฉกรรจ์
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 2 : ผู้พบใหม่
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 1 : ชีวิตที่เริ่มต้น