
บุปผาตีตรา บทที่ 15 : ฤาจะเป็นโชคชะตา
โดย : สีน้ำฟ้า
![]()
บุปผาตีตรา โดย สีน้ำฟ้า นวนิยายสะท้อนอคติและพลังคำพูด ผ่านชีวิต “นวลปราง” ที่ใช้การศึกษาโต้กลับคำครหา และ “อุรา” ผู้หลงทางจนกลายเป็นเมียเช่า เรื่องราวในอีสานยุคสงครามเวียดนาม ถ่ายทอดมิตรภาพ ความรัก และบาดแผลจากการถูกตีตรา ชี้ให้เห็นว่าคำพูดบางคำอาจผลักดันหรือทำลายชีวิตคนได้ อ่านออนไลน์ได้แล้วบนเว็บไซต์อ่านเอา anowl.co
อุราหายไปหลายวัน จนนวลขนของย้ายไปอยู่ที่ร้านแล้ว เธอก็ยังไม่มาย้ายข้าวของไปอยู่ด้วยกันเพราะอุรากำลังมีความสุขกับชีวิต ระหว่างเธอกับไมค์เป็นไปด้วยดี ไมค์ให้เงินไว้ใช้ประจำแต่เธอยังทำงานอยู่ นวลจะเจอเพื่อนเฉพาะที่ทำงาน อีกไม่กี่วันถัดมาอุรามาบอกขอลาออกจากงานเพื่อไปอยู่กับไมค์ นวลเค้นเพื่อนแล้วไม่ทำงานจะเอาเงินที่ไหนใช้ อุราตอบว่าไมค์จะเป็นคนให้เงิน ไมค์รักอุรามากไม่อยากให้ทำงาน เขาหวง
นวลเพลียใจไม่รู้จะทำอย่างไร พูดแล้วพูดเล่า อุราก็เข้าหูซ้ายออกหูขวา เธอบอกว่าอุระรับรู้เหมือนกัน แต่เขาก็ยุ่งอยู่กับการทำงานจึงไม่ได้สนใจน้องสาวมากนัก เขาคิดว่าอุราโตพอที่จะรับผิดชอบตัวเองแล้ว
คืนหนึ่งอุราเมาเดินแทบไม่ไหว ไมค์เป็นคนประคองมาส่งที่หน้าร้านของนวล เธอรีบรับเพื่อนและกล่าวขอบคุณไมค์ ไม่ทันได้ถามว่าเกิดอะไรขึ้น ไมค์ก็จากไป อุราทำท่าจะอ้วกใส่ นวลต้องรีบกึ่งลากกึ่งพยุงไปห้องน้ำ อุราอาเจียนปล่อยของเก่าออกมาหมดไส้หมดพุง จากนั้นก็โผเผมาหาที่นอน นวลจัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าและเช็ดตัวเช็ดหน้าลบเครื่องสำอางให้เพื่อนจนสะอาดดี
อุราพลิกตัวนอนตะแคงแล้วหลับไปเลย รุ่งขึ้นนวลไปทำงาน กลับมาอีกที อุรายังนอนอยู่ นวลถามว่ากินข้าวกินปลาหรือยังก็ไม่ตอบ นวลเลยเดินออกไปปากซอยอีกครั้ง ซื้อข้าวต้มมาจัดแจงเทใส่ชามและเรียกเพื่อนมากิน อุรามองแล้วเมิน
“เอ้า เล่ามาอาการมันเป็นยังไง เสี่ยวข้อย อกหักรึ”
นวลทักเล่นๆ แต่อุราเหมือนถูกจี้จุดร้องไห้โฮออกมา จนนวลทำอะไรแทบไม่ถูก
“อ้าว ทะเลาะกับไมค์จริงรึ”
“บักไมค์ไม่ได้รักเราจริง มันมีผู้หญิงอื่น พอเราจับได้มันบอกว่า อ้าว ก็เราเต็มใจไปกับเขาเอง แถมเขาก็ยังให้เงินให้ทองใช้ ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนไม่ใช่ความรัก”
นวลอยากกรี๊ด แล่นไปฉีกอกบักไมค์ซะจริง แต่ทำได้แค่ปลอบโยนเพื่อนไปตามสภาพ ปล่อยให้คนอกหักร้องไห้ตีโพยตีพายไปตามเรื่อง
“เอาน่ะ เจ้าบอกเราว่าอกหักดีกว่ารักไม่เป็นนิ”
“ใช่ซี ข้อยมันคนบ่ดี นี่ถ้าข้อยจีบเจสัน เจ้าคิดหรือว่าเจ้าจะได้คบกับเขา ข้อยใจดีกับเจ้าดอก”
“ฮะ อะไรยังไง”
“เอ้า บักเจสัน ข้อยพบเพิ่นที่บาร์ก่อนเจ้า ข้อยเล็งอยู่ ไม่กี่วันถัดมา ข้อยเห็นพี่น้อยเรียกเจ้าไปคุยและแนะนำตัวกับเจสัน ข้อยก็เสียสละให้เจ้า”
แทนที่จะโกรธ นวลกลับขำจนต้องกลั้นหัวเราะ พยักหน้า
“อืม เจ้าเป็นคนดี เป็นเสี่ยวที่รักข้อย ขอบใจหลายเด้อ อีนาง”
“ฮือๆๆๆ ข้อยทำความดีแล้วไสบ่ได้ดี บักไมค์ บักเปรต บักผีปอบ”
อุราขุดคำด่าเท่าที่นึกขึ้นได้พ่นออกมา นวลเข้ามานั่งใกล้ๆ กอดและปลอบ ปลอบไม่เป็นผลก็เริ่มบ่น พยายามป้อนข้าว จนอุรายอมกินข้าว
“แทนที่มันจะไปได้กับคนไกลๆ มันไปได้กับอีนิ่ม เพื่อนอีกคนที่ไปกินไปเที่ยวด้วยกันทุกคน บักชาติหมา”
“เออ…น่ะ ไม่ต้องบ่นแล้ว กินข้าวก่อน มีแรงแล้วค่อยไปสู้รบตบมือกับมัน ข้อยจะไปช่วยตบมันเอง ไม่ต้องห่วง ข้อยช่วยเจ้าเอง”
“ฮือๆๆ”
“กินข้าว อ้ำ…”
นวลจับช้อนป้อนให้อีกคำ คนกินก็ทนกล้ำกลืนฝืนกิน ไม่รู้ข้าวต้มอร่อยหรือหิว ป้อนไปไม่กี่คำอุราก็แย่งถ้วยข้าวมาตักกินเองจนหมดถ้วย นวลเอาน้ำมาให้ดื่มเสร็จแล้วปล่อยให้อุรานอนกลิ้งเกลือกบนที่นอนต่อไป ถามแล้วว่าให้อยู่เป็นเพื่อนไหม ถ้าไม่ จะไปทำงานต่อ อุราตอบว่าไม่ต้อง ง่วงแล้วขอนอนหลับสักตื่น
วันเวลาผ่านผันไปตามครรลองของชีวิต ร้านของนวลมีงานล้นมือ จนไปขอลาออกจากบาร์มาทำงานที่ร้านเต็มตัว เธอทำเองทั้งหมดไม่ว่าจะตัดเย็บเสื้อผ้าปะชุนซ่อมแซมเสื้อผ้า ตกแต่งเสื้อผ้างานเยอะมากจนแทบทำไม่ทัน
อุระไปได้ดีกับกิจการรถสามล้อถีบให้เช่า เจสันกลับมาแล้ว มาที่ร้านตัดเสื้อผ้า เจออุระได้คุยกันถูกคอ จึงแนะนำให้รู้จักกับเพื่อนที่เป็นผู้จัดการบริษัทรับสัมปทานซ่อมเครื่องบินของทหาร การได้ไปฝึกงานจนได้บรรจุเป็นพนักงานประจำทำให้อุระก้าวหน้าไปอีกขั้นหนึ่ง
นวลกับเจสันยังพบปะพูดคุยกันตามโอกาสต่างๆ จนเริ่มสนิทสนมกัน แล้ววันที่เจสันขอนัดเดตกับนวลก็มาถึง นวลนัดทั้งอุระและอุรามากินข้าวที่ร้านอาหารเช้าที่เธอเคยเจอกับเจสันครั้งแรก
“เจสันเขาขอเดตกับนวลวันไหน”
อุราตักอาหารเข้าปากแล้วเคี้ยว อุระร้าวระบมในอกแต่ก็ฝืนยิ้ม ส่งซอสพริกที่อยู่ใกล้ตัวส่งให้นวล แล้วกลับมาก้มหน้าเขี่ยอาหารในจานตัวเองไปมา
“วันเสาร์ เราจะไปดูหนัง อ้ายอุระกับอุราไปด้วยกันไหม”
“ฮึ่ย เดต เจ้าต้องไปกับเขาสิ เรานัดกับอ้ายแฟร้งค์ และเพื่อนอีกสองคนไปดูหนัง”
“อ้อ แฟร้งค์ เพื่อนใหม่อีกแล้วใช่ไหม” อุราไม่ตอบ นวลเลยหันไปทางอุระ
“อ้ายอุระ ไปเป็นเพื่อนข้อยบ่”
“เขาคงอยากไปกับนวลสองคน อ้ายไปได้ไง อีกอย่าง อ้ายต้องเข้าเวรที่บริษัท ไปบ่ได้ดอก”
“นวล เจ้าไปเถอะ ชีวิตของเราไง ข้อยบอกเจ้าแล้ว จะผิดจะถูก เราค่อยว่ากัน ไปเดตก็ไม่จำเป็นต้องไปได้กันนี่นา”
อุราสารภาพกับเพื่อนรักว่าเธออกหักเพราะเจสันไปสนใจนวล ทำให้เธอต้องไปคบกับไมค์ที่ตามจีบเธอมานานหลายเดือน แต่พอคบกับไมค์ ดันถูกเขาหักอกอีก ไมค์ไปคบกับคนอื่น แฟนคนปัจจุบันของอุราชื่อแฟร้งค์ นวลเองยังไม่เคยพบมาก่อน
“เดต คือไปเที่ยวกับคนที่ต้องการคบหาดูใจกัน ไปกี่ครั้งก็ได้ ไม่จำเป็นต้องกำหนดกิจกรรม ว่าทำอะไรกัน ถ้ามีเซ็กซ์ ถึงจะพัฒนาไปเป็นบอยเฟรนด์ เกิร์ลเฟรนด์”
“อื่อ เจ้าก็เข้าใจวัฒนธรรมของเขา”
“เจ้าว่า ข้อยพาเจสันไปหาพ่อกับแม่ได้หรือเปล่า”
“แล้วแต่เจ้า ถ้าเจ้าจะพาไป ข้อยว่าให้ลองไปเดตกันสักห้าหกเทื่อก่อน ก็พาไปบ้าน ประเทศไทยเราการพาผู้ชายไปทำความรู้จักกับพ่อแม่ หมายถึงจะแต่งงานกันแล้ว แต่ความหมายของเจสันเราก็ไม่รู้ว่าเขาต้องการแต่งงานไหม”
“เขาเคยพูดกับเจ้าบ่”
“เจสันเคยพูดกับอ้าย ว่าอยากแต่งงานกับนวล”
เจ้าของร้านซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ตลอดเดินมาหยิบขวดซอส นวลยิ้มให้ เลยกลายเป็นเปิดโอกาสให้พี่เจ้าของร้านได้พูด
“พี่เห็นเจ้ากับคุณเจสันตั้งแต่วันแรก และพี่ว่าผู้ชายคนนี้น่ะเป็นคนดี เขาไม่เคยมีเรื่องเสียหาย เขาอาจจะกินเหล้า สูบบุหรี่ แต่เขาไม่เคยไปมั่วไพ่โปไฮโลมวยตู้ วันหยุดมื้อเช้าก็มากินที่นี่ หรือร้านไหนสักแห่ง จากนั้นถ้าไม่ดูหนัง เขาก็ไปนอนเล่นที่โนนหนองนา”
“โนนหนองนา ที่เป็นหนองน้ำน่ะหรือ มีคนไปเที่ยวบ่”
“ฝรั่งชอบไปเล่นน้ำ เขาว่าสระน้ำธรรมชาติ ไม่เหมือนสระว่ายน้ำตามโรงแรม มีคลอรีน เขาว่าซั่น”
“อือ ใครไม่ว่ายน้ำ เขาก็ไปวิ่ง ไปออกกำลังกาย พวกทหารต้องออกกำลังกายให้ร่างกายแข็งแรง”
“อ้อ จังซั่นเนาะ”
“พี่รู้จักเจสันมาปีกว่าแล้ว เขาว่าจะได้ปลดประจำการ ก่อนกลับบ้านที่อเมริกาเขาต้องการแต่งงานกับสาวไทย พี่คิดแล้วว่าต้องเป็นเจ้า”
“แต่พวกเราไม่รู้เลย บ้านเขาเป็นแบบไหน อยู่เหมือนบ้านเราหรือเปล่า เขาว่าหนาวมาก แต่งแล้วเขาจะอยู่บ้านเราไม่กลับบ้านหรือเปล่า ไม่รู้อะไรทั้งนั้นเลย”
“เอาน่า นวล ข้อยว่าเจ้าคิดแค่ไปเดตกับเจสัน อย่าเพิ่งไปคิดถึงบ้านเขาเมืองเขาเป็นอย่างไรเลย นั่นมันเป็นเรื่องอนาคต อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด อีกไม่กี่วันก็ขึ้นปีใหม่ ปีสองพันห้าร้อยสิบห้าแล้วโลกพัฒนาไปกว่าแต่ก่อนมากแล้ว”
“ข้อยกลัว อุรา เจ้าไปเป็นเพื่อนข้อยแหน่”
“เอ้า กล้าๆ กลัวๆ เนาะเสี่ยวข้อย”
อุระผุดลุกขึ้นยืน นวลมองพี่ชายเพื่อนอย่างงุนงง อ้ายอุระหน้าเครียด ก็คงเป็นห่วงงานเพราะนี่ก็สายมากแล้ว
“อ้าย จะเข้างานแล้วบ่ ไปเถอะ ข้อยไม่รั้งเจ้าแล้ว เดี๋ยวจะเสียงาน”
“อือ อ้ายไปก่อนน้อ”
นวลมองตามหลังอุระที่สาวเท้ายาวๆ จากไป บอกแม่ค้าคิดเงิน พี่สาวเจ้าของร้านบอกว่า อุระจ่ายเงินล่วงหน้าไว้ให้นวลแล้ว ไม่ต้องจ่าย นวลยกมือไหว้ขอบคุณแล้วชวนอุราเดินออกไป
เมื่อวันนัดพบกันมาถึง ณ หน้าโรงหนังวิสต้า เป็นโรงหนังที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัด สามารถรับผู้เข้าชมได้ถึงหนึ่งพันสองร้อยที่นั่ง ติดป้ายโฆษณาที่วาดด้วยสีน้ำมันขนาดใหญ่โต และติดชื่อหนังที่เข้าฉาย เจสันบอกให้นวลยืนรอ เขาไปซื้อตั๋ว วันนี้นวลสวยเป็นพิเศษ แต่งหน้าบางๆ ทาลิปสีเดียวกับชุดที่สวม
ชุดเดรสสีชมพูมะเหมี่ยวเสื้อคอบัวสีขาวแขนตุ๊กตาแขนสั้นกระโปรงสั้นเหนือเข่าดูอ่อนหวานโดดเด่น ผู้ชายที่เดินผ่านไปมาเหลียวมองด้วยสายตาวาววาม ผ่านไปเกือบปีแล้วที่รู้จักกันมานวลกับเจสันสื่อสารกันได้ดีขึ้น แต่ยังใช้ภาษามือประกอบอยู่บ้าง นี่เป็นครั้งแรกที่ออกเที่ยวกันในนามคู่รัก
มีผู้ชายฝรั่งสองคนเดินมาหานวล พูดด้วยภาษาอังกฤษ
“เท่าไหร่ ไปกับผมไหม สองคน คนละชั่วโมง”
นวลยิ้มใจเย็น เพราะพวกฝรั่งเป็นแบบนี้เสมอ จะว่าเขาดูถูกมันก็ไม่เชิง เพราะว่าที่นี่กลายเป็นเมืองที่มีการซื้อขายบริการกันจนแทบจะแยกไม่ออก ครั้นจะดีดดิ้นโต้เถียงไปก็เสียอารมณ์ซะเปล่าๆ
“ไม่ไป ฉันมากับเพื่อน เขาไปห้องน้ำ ฉันกำลังรอเขาอยู่”
พวกนั้นยิ้มแล้วก็จากไป มันก็ดีตรงที่ว่า พูดกันไปเลย เปิดเผย ใช่หรือไม่ใช่ ก็คุยกันรู้เรื่อง กรณีไม่เมานะ ถ้าเมาว่ากันไปอีกเรื่อง
ว่าแล้วคนเมาก็มาพร้อมกับอุรา น่าจะเป็นแฟนใหม่ ที่ใหม่กว่าแฟร้งค์ เรื่องราวของอุรารวดเร็วจนนวลแทบจะตามไม่ทัน เวลาเจอกันก็แค่รับรู้ว่า อุราไม่ต้องทำงานประจำแล้ว ไม่ค่อยกลับมาที่หอพัก หรือมาก็แค่มาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วไปอีก เธอบอกพักอยู่บ้านเพื่อน และที่ไม่ทำงานเพราะมีแฟน เขาเป็นคนให้เงินใช้ นวลไม่กล้าถามอีกแล้วว่าแฟนชื่ออะไร นิสัยอย่างไร ไม่กล้าแม้แต่จะคิดว่าเพื่อนเป็นเมียเช่า
ถ้าเห็นอุราพาใครมายืนอยู่ข้างๆ ไม่ต้องไปถามหาคนเก่า ทางที่ดีอย่าพูดชื่อเพราะอาจจะทักผิดคน เพื่อนจะมีปัญหากับผู้ชายที่มาด้วย
นวลทำจมูกฟุดฟิด ฝรั่งคนนี้น่าจะเป็นคนที่ชอบดื่มเบียร์มากที่สุด แค่ยืนอยู่ใกล้นี่ได้กลิ่นเบียร์ลอยมาปะทะจมูกฉุนมาก
“อุรา เจ้าก็มานะ ขอบใจหลาย” นวลยิ้มทักทายเพื่อน
“เป็นห่วงเจ้า” อุราตอบพร้อมกับผายมือมาทางนวลหันไปบอกคนข้างๆ
“เมล เพื่อนฉันชื่อนวล”
นวลยิ้ม ยื่นมือไปจับมือใหญ่ๆ ของชายฝรั่งที่ยื่นมา
“ยินดีที่รู้จัก เมล”
“ยินดีที่รู้จักนวล”
แม้จะเมา พูดอ้อแอ้ลิ้นพันกัน กับนวล เขาแสดงกิริยาสุภาพมาก รอยยิ้มของเขาจริงใจไม่หยาบโลน กับอุราก็ดูเขาห่วงหาอาทรเธออยู่มาก แขนใหญ่แข็งแรงโอบรอบเอวของอุราไว้ไม่ห่าง อุราดูสวยสดใสในชุดเดรสคอกว้างสีเขียวตัดเย็บจากผ้ายืดเนื้อนิ่มกระชับสัดส่วนเว้าอก เอว ชัดเจน กระโปรงสั้นโชว์เรียวขาสีแทน นวลเนียน
- READ บุปผาตีตรา บทที่ 15 : ฤาจะเป็นโชคชะตา
- READ บุปผาตีตรา บทที่ 14 : สร้างตัวตน
- READ บุปผาตีตรา บทที่ 13 : โลกเป็นโรงละครใหญ่
- READ บุปผาตีตรา บทที่ 12 : ยินดีที่รู้จัก
- READ บุปผาตีตรา บทที่ 11 : ในเรื่องเล่า
- READ บุปผาตีตรา บทที่ 10 : ขวัญมาเด้อหล่า
- READ บุปผาตีตรา บทที่ 9 : บังเอิญมีจริงไหม ?
- READ บุปผาตีตรา บทที่ 8 : ชีวิตที่ต้องเรียนรู้
- READ บุปผาตีตรา บทที่ 7 : น้องเขาเพิ่งมาใหม่
- READ บุปผาตีตรา บทที่ 6 : ทางเลือกและทางรอด
- READ บุปผาตีตรา บทที่ 5 : เฮ้ย ! นั่นที่นาใคร
- READ บุปผาตีตรา บทที่ 4 : เอื้อยชอบแบบนี้
- READ บุปผาตีตรา บทที่ 3 : ฝันร้าย
- READ บุปผาตีตรา บทที่ 2 : เด็กเลี้ยงควาย
- READ บุปผาตีตรา บทที่ 1 : โนนบุปผาแดง








