ซ่อนรัก บทที่ 40 : วันเปิดร้านใหม่

ซ่อนรัก บทที่ 40 : วันเปิดร้านใหม่

โดย : โสภี พรรณราย

ซ่อนรัก โดย โสภี พรรณราย เมื่อความรักพังทลาย ปารีสจึงออกเดินทางด้วยหวังว่าโลกกว้างจะช่วยเยียวยาหัวใจ แต่สิ่งที่เธอคิดและตัดสินใจอาจไม่เป็นอย่างที่คาด เมื่อหนุ่มหล่อเข้มคนนี้เข้ามาในชีวิต และความหลังของหล่อนกับเขาเป็นความรักที่ต้องเก็บซ่อนเอาไว้ในส่วนลึก นวนิยายออนไลน์ที่อ่านเอาอยากให้คุณได้อ่านออนไลน์

มัวแต่ให้วิศว์ซ่อนตัว จนลืมเรื่องอาหารบนโต๊ะ

สองชามกับเครื่องปรุงทั้งถาดและน้ำดื่มสองแก้ว สำหรับคนสองคนชัดๆ เลย

ปารีสพูดไม่ออก แล้วหฤทัยอีกล่ะที่ช่วยแก้ตัว

“คุณสิตไม่รู้อะไร ยัยปาบทจะกินจุก็กินจุจนน่ากลัว เห็นหุ่นดีๆ แบบนี้ กินไม่ยั้งเลยค่ะ ข้าวต้มแค่สองชามเรอะ บางทีน้อยไปด้วยซ้ำ ยิ่งวันนี้ตื่นสาย คงกินทั้งอาหารเช้ากับอาหารกลางวันควบกันไปเลย”

ดุสิตยิ้มกว้าง เขาไม่ได้สนใจอาหารบนโต๊ะมากไปกว่าการตบแต่งรอบห้องที่ดูลงตัวไปทุกมุม ตั้งแต่ห้องนั่งเล่น ห้องอาหาร ห้องครัวและเชื่อมโยงไปถึงห้องนอนที่ปิดประตู

“น่าอยู่มากครับ ผมขอเดินชมรอบๆ นะครับ” พูดอย่างเป็นกันเองกับเจ้าของบ้าน

สำหรับดุสิตแล้ว การเป็นกันเองเชื่อมโยงกับความสนิทสนมและเขาถือว่าเธอเป็นคนสนิทของเขา

สนิท…และพิเศษ…

“เชิญค่ะ” ปารีสจะห้ามได้อย่างไรล่ะ เจ้านายเอ่ยปากทั้งที

ชายหนุ่มเดินไปเรื่อย จนถึงหน้าห้องนอน

ประตูปิดไม่สนิท แง้มอยู่ เขาจึงผักเข้าไปทันที เพราะถือว่าขอชมรอบๆ แต่ต้นแล้ว

เขาแค่ชะโงกหน้าเข้าไป แต่ไม่ถึงกับเข้าไปสำรวจตรวจตราอะไร

“ว้าย!” กุลวดีเผลอร้อง “อย่าเข้าไปนะคะ”

กลัวว่าจะจ๊ะเอ๋กับใครคนหนึ่ง

กุลวดียกมือทาบอก วิศว์ควรอยู่ที่นั่น ในห้องนอน แต่ดุสิตเปิดแล้วก็ยังปกติดี

อ้าว! แล้ววิศว์ซ่อนที่ไหนล่ะ

ดุสิตหันมาพูดกับปารีส

“ผมมากะทันหัน คุณคงไม่ว่าอะไรนะครับ”

“โทรมาก่อนดีกว่านะคะ” ปารีสพูดตรงๆ

เขาหัวเราะเบาๆ

“นั่นสิครับ บุกมาเลย คุณอาจตกใจ เพื่อนคุณสองตกใจมากจนผมงง”

“เพราะคุณเป็นเจ้านายไงคะ”

“นอกเวลางานไม่ใช่เจ้านายแล้วครับ ผมว่าจะมารับคุณไปทานอาหารด้วยกัน”

ปารีสโคลงศีรษะ

“ฉันไม่สะดวกค่ะ วันนี้ฉันมีธุระ”

“นั่นสินะ ผมควรโทรนัดก่อนจริงๆ” มองสภาพแล้วอาจมาผิดเวลา เห็นท่าทางกระอักกระอ่วนของสาวๆ จึงพูดว่า “ผมควรกลับก่อน เจอกันที่บริษัทครับ”

สามสาวพร้อมใจเดินมาส่งเจ้านายหนุ่มถึงหน้าห้อง

และพอประตูปิดลง หฤทัยก็ถามปารีส

“คุณวิศว์อยู่ไหนล่ะ?”

“ตอนคุณสิตเปิดห้องนอน ฉันเกือบเป็นลม” กุลวดีว่า

“เว่อร์ เว่อร์ไป จะเป็นลมเชียว” หฤทัยตีแขนกุลวดี

“ก็คิดดูสิ จ๊ะเอ๋แน่ๆ อยู่แล้ว”

แล้ววิศว์อยู่ที่ไหนล่ะ?”

ปารีบเดินไปเลื่อนฉากกั้นห้อง และเปิดประตูอีกห้อง…ห้องที่ซื้อติดกันสำหรับบิดามารดามาพัก

วิศว์จึงก้าวออกมา

“ลำบากคุณวิศว์แย่เลย” กุลวดีพูดกับปารีส “ยังไงก็เปิดตัวแฟนเร็วๆ”

ปารีสเงียบ…

หฤทัยสะกิดกุลวดี

“เรากลับห้องเราเถอะ เรื่องผัวเมีย” เหตุการณ์เกิดขึ้นกะทันหันเช่นนี้ สองผัวเมียคงต้องคุยกัน

กุลวดีพยักหน้าเข้าใจ

“หวังว่าคุณสิตคงไม่โผล่มาอีก”

“อย่าห่วงเลย เพราะต้องมีอีกแน่ๆ มาเคาะประตูหน้าห้องยัยปาเลย แบบไม่มีเวลาให้เตรียมตัว อ้อ…มีกระเช้าผลไม้อยู่ที่ห้องเรานะ ว่างๆ ไปเอามากินด้วย”

พูดไปพูดมาสองสาวออกจากห้องไปดีกว่า

วิศว์เดินไปห้องอาหาร ถามหญิงสาว

“ข้าวต้มเย็นหมดแล้ว ผมว่าอุ่นหน่อยดีไหมครับ?”

เธอเดินมาทรุดกายนั่ง

“ไม่ต้องค่ะ”

“ผมยังไม่อิ่มเลย”

แล้ววิศว์ก็กินต่อ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ปารีสเสียอีก กินแค่คำเดียวก็วางช้อน อยู่ๆ พาลกลืนไม่ลง พยายามจะอ่านอารมณ์ฝ่ายตรงข้ามว่าคิดอะไรอยู่

ราบเรียบเหลือเกิน เรียบจนฝ่ายหญิงทนไม่ไหว

“วิศว์คะ คุณจะไม่พูดอะไรบ้างเหรอคะ?”

“เขาว่ากันว่า เวลากินอาหารต้องพูดเรื่องที่ทำให้เจริญอาหาร”

หญิงสาวตาโต

“แสดงว่าเรื่องที่เกิดขึ้นอาจทำให้คุณกินไม่ลง?”

“ผมพยายามมองให้มันเป็นเรื่องเล็กๆ”

“ฉันคิดว่าเล็ก…”

“ขนาดคุณว่าเล็ก แต่คุณกลับกินไม่ลงเสียเอง”

“เอ้อ…เอ้อ…ฉัน…”

วิศว์โคลงศีรษะ

“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมรู้ว่าคุณไม่สบายใจ”

ปารีสกำมือแน่น

“ฉันก็อธิบายไม่ถูก ทำไม…ทำไม…ฉันอยากเห็นคุณสบายใจ อยากเห็นคุณยิ้ม”

“นั่นสินะ…ผมถึงเข้าใจคุณ คุณอึดอัดไม่สบายใจ เพราะคุณแคร์ผม คุณกลัวผมไม่สบายใจ อย่ากังวลเลยครับ ผมพูดเสมอ ผมไว้ใจคุณ และเจ้านายมาเยี่ยมลูกน้อง คิดในแง่ดี เจ้านายคุณใจดีมาก”

ใช่สิ…เขาคิดในแง่ดี และพูดแค่ในแง่ดี

เพื่อ…เธอ…

ชีวิตคู่มันไม่ง่ายเลย เริ่มต้นและอยู่ในช่วงปรับตัวเข้าหากัน และต้องไม่พยายามเปลี่ยนอีกฝ่าย ควรยอมรับอีกฝ่ายแบบสบายๆ ไม่เครียด เพราะที่ผ่านมาก็เคยเผลอถกเถียงกันหลายครั้งอย่างขาดสติ

มึนชา…แล้วคืนดี…

ไม่เก็บเป็นอารมณ์ ทั้งที่วิศว์เองรู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับการปกปิดความจริง

รอดูต่อไปจะปกปิดได้ถึงไหน ขึ้นอยู่กับปารีสคนเดียวเท่านั้น

เพราะคำพูดของฝ่ายชาย จึงทำให้หญิงสาวรู้สึกผ่อนคลาย และเริ่มมีรอยยิ้มจางๆ บนใบหน้า

“อย่าให้คนอื่นมาทำให้เสียบรรยากาศเลยนะคะ”

“ผมก็หวังแบบนั้นแต่ต้น”

“ฉันยังไม่อิ่มเหมือนกัน” ตักข้าวต้มเข้าปาก

วิศว์มองภรรยาสาว…

เธอ…เธอ…จะเข้าใจสักวันว่า ต้องทำอย่างไร

 

งานเปิดร้านของอุเทน

ร้านของอุเทนเรอะ…เปล่าเลย ร้านรัศมีต่างหาก เป็นอีกสาขาหนึ่งที่ขยายร้านเพิ่มขึ้น ปากรัศมีว่าเป็นร้านของอุเทน จริงๆ แล้วฝ่ายชายรู้ว่าเป็นโซ่อีกเส้นที่ล่ามเขาไว้

เหมือนเธอใจดีกับเขาเหลือเกิน ให้เขามากเหลือเกิน ยอมให้เขาบริหารร้านใหม่ ลึกๆ อยู่ในอำนาจเงินของสาวใหญ่คนนี้เช่นเดิม

มีเพื่อนๆ ญาติมิตรในวงการอัญมณีมาร่วมยินดีด้วย มีคนออกปากชมว่า

“คุณรัศมีใจกว้างมาก เปิดร้านให้สามีคนเก่ง”

และรัศมีจะตอบว่า

“ฉันก็ต้องอยู่เบื้องหลังคอยผลักดันล่ะ หนุ่มๆ จะทำอะไรเป็นต้องอาศัยมือเก๋าอย่างรุ่นเราคอยช่วย”

เมีย…ที่อายุมากกว่าผัวเกือบยี่สิบปี

ดูๆ ไปรัศมีไม่เคยปล่อยตัวให้แก่ แม้จะดูอายุมากกว่าอุเทนก็จริง แต่ยืนคู่กันแล้ว ไม่ต่างกันมากนัก

วิศว์กับบรมอยู่ในงาน ในฐานะทั้งแขก และบริษัทที่รับตกแต่งออกแบบให้

แขกอีกสองคนที่กำลังเดินมา

ดุสิตและปารีส

จริงๆ แล้ว ปารีสปฏิเสธตั้งแต่อยู่บริษัท ขอไม่มาร่วมงานนี้ แต่ถูกดุสิตพูดจาขึงขัง

ไม่ได้ครับ ถ้าคุณไม่ไป ผมก็ไม่ไปนะ มันจะน่าเกลียดเกินไป คนในวงการเดียวกัน แล้ววันก่อนคุณรัศมีเอ่ยปากกับเราสองคนแล้ว

หญิงสาวจึงเปลี่ยนใจ ไม่มีประโยชน์หรือความกลัวที่ต้องหลบหน้าอดีตคนรักกับอดีตเจ้านาย เผชิญหน้าบ่อยๆ จนความรู้สึกชาชิน ไปพบให้ชาชินเพิ่มขึ้น…จนปราศจากความรู้สึกเลย

จิรานุชกับรินทร์ก็ไปร่วมงานด้วย ด้วยเหตุผลที่จิรานุชพูดกับดุสิตว่า

“อากับคุณรัศมีก็ถือว่าอายุไล่เลี่ยกัน คุณรัศมีมากกว่านิดหน่อย เห็นกันมานาน แข่งขันทางธุรกิจกัน แต่เป็นเพื่อนกันเสมอ”

รัศมีถึงกับโอบกอดจิรานุช

“ขอบคุณคุณนุชมาก อุตส่าห์มาร่วมยินดี”

รินทร์มอบแจกันดอกไม้ให้อุเทนในนามบริษัทเพชรอนันต์

“แหม…เพื่อนในวงการเดียวกันนี่นา” จิรานุชว่า

“ดีใจ…ดีใจที่เห็น…พร้อมหน้า”

เห็น…หมายถึง ปารีส

อะไรกันนักหนา แย่งคนรักสำเร็จแล้ว แต่เหมือนยังไม่สะใจเลย ยังมองปารีสแปลกๆ อยู่

หรือเพราะปารีสมีท่าทีหยิ่งงผยอง มีท่าทางที่สงบนิ่งเกินไปไม่เหมือนคนที่ถูกแย่งคนรัก แถมยังมีดุสิตหนุนหลัง ดูแล้วอนาคตรุ่งโรจน์เสียยิ่งกว่าอุเทนที่ตนพยายามพักดันให้เหนือกว่าชายอื่น ให้รู้ว่าแต่งงานกับคุณรัศมีคนนี้ ไม่ผิดหวังแน่นอน

คนที่ผิดหวังอาจเป็นรัศมีเสียเอง ที่เริ่มมองเห็นชายอื่นโดดเด่นกว่าสามีตัวเอง

“ปารีส…ดีใจที่เธอยอมมาร่วมงานของอุเทน” รัศมีโอบกอดปารีส ในขณะที่ปารีสตัวแข็ง จะเสียมารยาทก็ตาม หญิงสาวทนโอบตอบไม่ได้

พอรัศมีผละจากร่างปารีส หญิงสาวพูดว่า

“ควรมายินดีกับอุเทนค่ะ งานแรกก็งานแต่งงาน อีกงานก็มีร้านใหม่ จะหาผู้ชายโชคดีแบบอุเทนได้สักกี่คนกันคะ” ปรายตาไปทางอดีตคนรัก

อุเทนรู้สึกร้อนวูบวาบทันที คำพูดเน้นหนักเน้นเบาของปารีสมีผลต่อเขาเสมอ รู้สึกตัวเองผิดมาตลอดที่ละทิ้ง ‘หัวใจ’ เลือก ‘เงิน’

เลือกแล้วก็เลือกเลย ต้องเดินไปให้สุดๆ กับทางเลือกตัวเอง

“ใช่แน่นอน อุเทนเป็นผู้ชายโชคดี แล้วเธอล่ะ…ปารีส…คนเก่งของฉัน  ยังไงก็เก่งไม่เบานะ” แล้วมองเห็นวิศว์จึงกวักเรียก “คุณวิศว์คะ นี่ล่ะ…คนเก่งตัวจริง ร้านสวยเพราะเขา” วิศว์เดินมาใกล้ “คนเก่งตัวจริง” รัศมีเน้น “วันนี้ฉันต้องแนะนำลูกค้าเพิ่มให้เขาอีก”

บรมก็เดินมาใกล้

“ขอบคุณครับ ดีใจที่ลูกค้าชอบครับ”

“งานนี้ต้องยกความดีให้คุณวิศว์ของพวกเราค่ะ”

รัศมีพูดเหมือนสนิทสนมกับวิศว์เป็นพิเศษยังไงยังงั้น ยังพูดต่อว่า “ถ้ามาอุดหนุนร้านเรา ฉันยอมขายขาดทุนหรือให้ฟรีเลยค่ะ”

ปารีสเบ้ปากและเดินทางผละออกมา ไม่อยากได้ยินแล้ว

อุเทนเดินตามหญิงสาว ปล่อยให้ภรรยาพูดคุยชื่นชมวิศว์ไป

“ปาครับ”

“มีอะไร?” ปารีสเย็นชา “ปาขอเตือน คุณควรอยู่ใกล้ๆ คุณรัศมีไว้ อุเทนได้เปรียบแต่งงานแล้ว อย่าให้ใครแย่งไปล่ะ”

อุเทนโคลงศรีษะ

“แต่งงานก็แค่…แค่…เรียกว่าอะไรดี”

“หลักประกันไงล่ะ”

“ไม่ใช่หลักประกัน ไม่มีอะไรแน่นอนเลย”

“เรอะ…คุณเพิ่งรู้เรอะ?”

“ผมยังห่วงปานะ”

“ตายแล้ว เราไม่อยู่ในฐานะจะห่วงใยอะไรกันแล้ว”

“คุณสิตได้ชื่อว่าเจ้าชู้มาก เขาจะจริงจังกับปาหรือเปล่า ปาต้องมองคนให้ลึกๆ”

“คุณพูดถูกนะ ที่ผ่านมา ปายังมองคนไม่ลึกพอ เลยถูกทรยศอย่างไม่รู้ตัว กว่าจะรู้…ถึงวันแต่งงานแล้ว เพราะเชื่อใจมากเกินไป มันเป็นบทเรียนที่ทำให้ปาไม่กล้าไว้ใจใครเลย” รวมทั้ง ‘วิศว์’ คนที่ตนเลือก ปารีสยังเว้นระยะกับวิศว์

“คุณดุสิตก็ไว้ใจไม่ได้นะ ปา…”

แล้วมีเสียงโพล่งว่า

“ใช่…อุเทนพูดถูก คุณสิตได้ชื่อว่าเจ้าชู้ตัวพ่อเลยล่ะ ควงแล้วทิ้งแล้วเปลี่ยนคนใหม่ ประสาเศรษฐีหนุ่มเสน่ห์แรง ใครๆ ก็อยากเป็นคู่ควงด้วย แต่ใครจะเป็นตัวจริงล่ะ” เป็นเสียงของรัศมี

“คุณสิตเป็นเจ้านายของฉันเอง ไม่ต้องกังวลแทนฉันหรอก”

รัศมีแค่นหัวเราะ หัวเราะเยาะ

“ห่วงและกังวลแทนแน่นอน เพราะเธอเคยเป็นคนโปรดของฉัน ฉันรู้นะ เธอไม่มีอุเทน เธอก็ต้องหาคนมาทดแทน…”

“ฉันจะหาคนที่รักฉันจริงๆ”

“เรอะ…แต่เธอกำลังหาคนที่ร่ำรวยมหาศาล เพื่อเอาชนะฉันกับอุเทน  ขอพูดเลย เธอไม่มีทางชนะหรอก คุณสิตเห็นเธอเป็นแค่ตุ๊กตาตัวใหม่ ของเล่นชิ้นใหม่ เธอจะได้ชื่อว่าประสบความสำเร็จก็ต่อเมื่อคุณสิตขอเธอแต่งงาน ไม่งั้นก็แค่ตุ๊กตาคู่ควง”

 



Don`t copy text!