Groove Publishing พานักเขียน ๑๕ ชีวิต ออกเดินทางตามเส้นทางของ “ความหลง”

Groove Publishing พานักเขียน ๑๕ ชีวิต ออกเดินทางตามเส้นทางของ “ความหลง”

โดย : กิ่งสุรางค์ อนุภาษ

Loading

หลังจากประสบความสำเร็จกับโปรเจ็กต์รวมเรื่องสั้น “ร้าง” ที่รวมนักเขียน ๑๓ คนมาถ่ายทอดเรื่องราวความเวิ้งว้างในมิติของตัวเอง ล่าสุด สำนักพิมพ์กรู๊ฟ พับลิชชิ่ง กลับมาอีกครั้งกับโปรเจ็กต์ใหม่ “หลง” ชื่อที่เรียบง่ายแต่ชวนให้ฉงนว่าครั้งนี้ผู้อ่านจะได้ “หลง” แบบไหนกันแน่… หลงทาง หลงรัก หรือหลงอยู่ในโลกของตัวเอง

คราวนี้มีนักเขียนร่วมขบวนถึง ๑๕ ท่าน และพิเศษยิ่งกว่าเดิม เพราะนอกจากจะมีนักเขียนชั้นครูอย่าง “พงศกร” มาร่วมสร้างสรรค์แล้ว ยังได้รับเกียรติจากนักเขียนระดับตำนาน ม. มธุการี ผู้เขียน หัวใจสองภาค, จากที่นี่ถึงดวงดาว และอีกมากมาย มาร่วมพาผู้อ่านดำดิ่งไปในโลกแห่งความลึกลับที่ซ่อนอยู่ในคำว่า “หลง” อีกด้วย

“หลง” เกิดขึ้นได้อย่างไร

อรรถรัตน์ จันทรวรินทร์ หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ “พี่กรู๊ฟ” จาก Groove Publishing เล่าถึงที่มาที่ไปของโปรเจ็กต์นี้ให้ฟังว่า “ตอนคิดโจทย์ใหม่ เราอยากได้อะไรที่ทั้งสนุก ท้าทาย และเปิดพื้นที่ให้แต่ละคนได้ปล่อยของกันเต็มที่ครับ เพราะคราวนี้เรามีนักเขียนถึง ๑๕ คน เลยต้องหาคำที่ตีความได้กว้างพอ ‘หลง’ ก็เลยตอบโจทย์นั้นดีมาก มันจับต้องยาก มีความเป็นนามธรรม แต่ก็เปิดกว้างให้นักเขียนแต่ละคนเลือกทางของตัวเองได้เต็มที่”

เขาเล่าต่อถึงบรรยากาศการ “จับฉลากโจทย์” ที่กลายเป็นเอกลักษณ์ของโปรเจ็กต์ว่า “เราประชุม Zoom พร้อมกันเลยครับ ให้นักเขียนทั้งรุ่นเก่า รุ่นใหม่ ได้ทำความรู้จักกัน แล้วก็จับฉลากหัวข้อแบบสดๆ มันไม่ใช่แค่การแจกโจทย์ แต่เป็นการสร้างมิตรภาพระหว่างนักเขียนกับทีมงานด้วย”

พี่กรู๊ฟเองก็ร่วมเขียนด้วยเหมือนกัน และเขาได้โจทย์ “หลงป่า”

“หลงป่าของพี่ก็คือหลงเข้าไปในป่าจริงๆ เลยครับ ไม่ได้ตีความเชิงอารมณ์ เพราะอยากลองเล่าความ ‘หลง’ ที่จับต้องได้ แต่ในอีกแบบหนึ่ง พี่ไม่เคยไปป่า ไม่เคยหลงด้วยซ้ำ เลยอาศัยแรงบันดาลใจจากคลิปยูทูบของคนเกาหลีที่ชอบไปกางเต็นท์ในป่า บางคนไปตอนฝนตก บางคนตอนหิมะตก ดูแล้วรู้สึกชื่นชมมาก แต่ก็คิดในใจว่า ‘เราคงไม่มีวันทำแบบนั้นได้หรอก ป่ามันน่ากลัว!’”

รวมเรื่องสั้นที่เป็นมากกว่าหนังสือ

โปรเจ็กต์ “หลง” ไม่ได้เป็นเพียงหนังสือรวมเรื่องสั้นธรรมดา แต่คือพื้นที่สำหรับนักเขียนได้ต่ออายุผลงานและเชื่อมโยงกับผู้อ่าน  “เราทำโปรเจ็กต์รวมเรื่องสั้นเพื่อให้นักเขียนมีเล่มใหม่ออกในงานหนังสือครับ บางคนยังไม่มีนิยายใหม่ แต่พอมีรวมเรื่องสั้นแบบนี้ เขาก็ได้เจอผู้อ่าน ได้แจกลายเซ็น ได้ฟังคำติชม ซึ่งเป็นประสบการณ์สำคัญในการพัฒนางานเขียนต่อไป” 

แม้แต่ละคนจะมีแนวทางและประสบการณ์ต่างกัน แต่ความแตกต่างนั้นเองที่สร้าง “สีสัน” ให้หนังสือทั้งเล่ม

“บางคนไม่เคยเขียนเรื่องสั้นเลย บางคนไม่เคยแตะแนวลึกลับหรือเหนือจริง แต่พอรวมกันแล้วมันกลมกลืน น่าสนใจดีมากครับ”

การร่วมงานกับนักเขียนระดับ “ตำนาน”

อีกหนึ่งเซอร์ไพรส์ที่ทำให้ทีมงานตื่นเต้นไม่แพ้กัน คือการได้ร่วมงานกับ ม. มธุการี นักเขียนระดับตำนานแห่งวงการวรรณกรรมไทย

นายแพทย์พงศกร จินดาวัฒนะ หรือ “คุณหมอโอ๊ต” ผู้เขียนนิยายชื่อดังและหนึ่งในผู้ร่วมโปรเจ็กต์นี้ เล่าย้อนถึงช่วงเวลานั้นด้วยแววตาเปี่ยมความปลื้ม

“ต้องบอกว่าเป็นความภูมิใจมากๆ เลยครับ เพราะคุณ ม. มธุการี เป็นนักเขียนที่อยู่ในใจของนักอ่านมานาน ผลงานของท่านทั้ง หัวใจสองภาค, ชีวิตเปื้อนฝุ่น, คนละโลก, ทรายล้อมมุก ฯลฯ ล้วนเป็นงานระดับตำนาน คุณ ม. มธุการี เองยังบอกว่าไม่ค่อยได้เขียนเรื่องสั้น เรื่องเดียวที่มีตอนนี้คือ “จุดดับในแก้วไวน์” ที่เราเคยพิมพ์ไว้เมื่อหลายปีก่อน พอปีนี้เราทำโปรเจ็กต์ “หลง” ก็เลยลองชวนดู ปรากฏว่าท่านตอบตกลงด้วยความสนุก! ถือเป็นเกียรติสูงสุดของทีมงานเลยครับ เราเก็บเงียบไว้ตั้งนานกว่าจะได้ประกาศ ดีใจมากจริงๆ เพราะนี่คือสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดขึ้น”

สำหรับคุณหมอโอ๊ตเอง เขาจับได้โจทย์ “หลงทาง” 

“ผมได้หลงทางครับ ซึ่งดูเหมือนจะเป็นโจทย์ง่าย แต่จริงๆ ก็ไม่ง่ายเลยนะ (หัวเราะ) แต่ละคนตีความ ‘หลง’ ในแบบของตัวเอง บางคนไปทางนามธรรม บางคนเป็นเชิงสถานที่ แต่สุดท้ายทุกเรื่องต่างสะท้อน ‘การหลงในใจ’ ของมนุษย์ในรูปแบบต่างกันครับ”

มุมมองจากบรรณาธิการ

ผู้ดูแลงานตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำของโปรเจ็กต์นี้คือ คุณกนก อำนวยพร บรรณาธิการผู้เคยร่วมทำงานในโปรเจ็กต์ “ร้าง” เช่นกัน เขาเล่าด้วยแววตาภูมิใจว่า

“ความท้าทายของเล่มนี้อาจไม่ใช่ในแง่การทำงาน แต่สิ่งที่ตื่นเต้นที่สุดคือการได้เห็นเรื่องสั้นของคุณ ม. มธุการี อีกครั้ง เพราะนานมากแล้วที่ท่านไม่ได้เขียนเรื่องสั้นเลย และผลงานครั้งนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง สำนวนเรียบง่ายแต่คมกริบ ถ่ายทอดอารมณ์ได้ลึกจนวางไม่ลง ถือเป็นเกียรติของสำนักพิมพ์อย่างแท้จริงครับ”

สำหรับความโดดเด่นของนักเขียนแต่ละคน เขากล่าวว่า “แต่ละเรื่องมีเอกลักษณ์ชัดมาก เพราะนักเขียนตีความ ‘ความหลง’ ในแบบของตัวเอง บางคนเล่าผ่านอารมณ์ บางคนเล่าผ่านสถานที่ หรือแม้แต่ความทรงจำ พอรวมกันแล้วมันเกิดมิติที่หลากหลายมาก ผู้อ่านจะได้ทั้งความรู้สึก ความคิด และภาพของความหลงในหลายมุมมอง”

ก่อนจบบทสนทนา เขาทิ้งท้ายด้วยประโยคจากคำนำในเล่ม ซึ่งสรุปหัวใจของโปรเจ็กต์นี้ได้อย่างงดงามว่า

“เมื่อความหลงคือความเข้าใจผิด สำคัญผิด หรือติดอยู่กับความไม่รู้ จิตใจก็จะถูกปกคลุมด้วยความมืดบอด แล้วใครเล่าจะพาตัวเองออกจากหล่มนั้นได้ ถ้าไม่ใช่ตัวเราเอง ด้วยความมีสติและการรู้เท่าทันสิ่งที่เกิดขึ้น”

ติดตามอ่านรวมเรื่องสั้น “หลง” จากปลายปากกาของนักเขียน ๑๕ คนได้แล้ว วันนี้ 

Don`t copy text!