‘เหลี่ยมเล่ห์เรไร’ ผลงานของ ‘จันทร์จร’  การเลือกทำในสิ่งที่ถูกต้อง แม้จะเป็นเพียงคนส่วนน้อย ก็อาจสร้างแรงกระเพื่อมได้

‘เหลี่ยมเล่ห์เรไร’ ผลงานของ ‘จันทร์จร’ การเลือกทำในสิ่งที่ถูกต้อง แม้จะเป็นเพียงคนส่วนน้อย ก็อาจสร้างแรงกระเพื่อมได้

โดย : กิ่งสุรางค์ อนุภาษ

Loading

อินกระแสแชร์ลูกโซ่จริงๆ กับผลงานเรื่อง ‘เหลี่ยมเล่ห์เรไร’ ผลงานล่าสุดของ ‘จันทร์จร’ ซึ่งต้องบอกว่าแรงบันดาลใจของเธอได้มาจากเรื่องราวสุดคลาสสิกที่ยังเกิดขึ้นต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

“ต้องเท้าความไปตอนเข้าร่วมโครงการช่องวันอ่านเอา ปี ๔ ตอนนั้นอยากได้ประเด็นที่ร้อนแรง เป็นเรื่องที่คนกำลังสนใจ ช่วงนั้นมีข่าวเกี่ยวกับเรื่องแชร์ลูกโซ่พอดี เลยเห็นว่าเป็นประเด็นที่น่าจับมาเล่า เริ่มจากการเล่าเรื่องในมุมของเหยื่อที่ลุกขึ้นสู้เพื่อความยุติธรรมเป็นแกนหลัก นอกจากนี้ยังได้แรงบันดาลใจจากซีรีส์แนวแก้แค้นอย่าง The Glory ทำให้เรื่องนี้มีมิติของอารมณ์ที่ซับซ้อนและการชิงไหวชิงพริบที่เข้มข้นมากขึ้นค่ะ

เหลี่ยมเล่ห์เรไรมีความเหมือนกับนิยายเรื่องอื่นๆ ตรงที่เล่าเรื่องราวการต่อสู้ของตัวละครหลักซึ่งเป็นผู้หญิง ในนิยายของจันทร์จรจะว่าด้วยเรื่องการต่อสู้เพื่อบางสิ่งของตัวละครหลักเสมอ ส่วนความต่างคือเหลี่ยมเล่ห์เรไรเป็นการฉีกแนวนิยายของจันทร์จรไปแบบสุดทางเลยค่ะ เพราะเลือกที่จะหยิบประเด็นการหลอกลวงทางการเงินมาเล่น พูดถึงการกระทำความผิดผ่านฉากหน้าของความใจบุญสุนทาน แล้วปรับให้เป็นทางของนิยายแนวแก้แค้น ซึ่งไม่เคยเขียนแนวนี้แบบจริงจังมาก่อน ต้องมีการเชือดเฉือนกันระหว่างตัวละคร แล้วแทรกเนื้อเรื่องการสืบสวนเล็กๆ นับเป็นความท้าทายในการเล่าเรื่องมากค่ะ”

ผลงานลำดับที่ ๔

เหลี่ยมเล่ห์เรไรเป็นผลงานลำดับที่๔ ของจันทร์จร โดยก่อนหน้านี้เธอมีผลงานเรื่องกลกาลปาฏิหาริย์ หลังภาพมายา (รางวัลชนะเลิศจากโครงการช่องวันอ่านเอาปีที่ ๓) และความปรารถนาของดานิกา

“เหลี่ยมเล่ห์เรไรเป็นนิยายแนวดรามา แก้แค้น และสืบสวน ว่าด้วยเรื่องของหญิงสาวคนหนึ่งที่ต้องการเปิดโปงความจริงเบื้องหลังมูลนิธิที่ถูกใช้เป็นฉากบังหน้าในการทำธุรกิจสีเทา และแก้แค้นกลุ่มคนที่พรากชีวิตแม่ของตัวเองไปเมื่อ ๑๕ ปีที่แล้ว เพื่อให้รู้ว่าภายใต้หน้ากากความดีงามที่ฉาบไว้เบื้องหน้า พวกเขาเหล่านั้นได้ปิดบังความจริงที่ฉ้อฉลไว้อย่างไร และเธอจะเรียกความเป็นธรรมให้กับเหยื่อคนอื่นๆ ที่ถูกหลอกลวงได้หรือไม่

ต้องบอกเลยว่านี่ไม่ใช่แนวถนัดของตัวเองเลยค่ะ เรียกว่าไม่เคยเขียนมาก่อนเลยก็ว่าได้ และยังเป็นเรื่องที่ได้รับการแก้ไขปรับปรุงมากที่สุดด้วย (หัวเราะ) แต่ก็เป็นความท้าทายที่ได้เขียน และได้เปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ของการเขียนนิยายที่ฉีกไปจากเดิมด้วยค่ะ”

นิยายที่ท้าทายทุกความสามารถ

“การเขียนผลงานเรื่องนี้มีความท้าทายหลายอย่าง เช่นการออกแบบปมและการชั้นเชิงในการต่อสู้กันของตัวละคร ที่สำคัญคือต้องทำให้คนอ่านเชื่อว่าตัวละครนี้ฉลาด (หัวเราะ) โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่าง เรไร และ มธุกร สองตัวละครหลักในเรื่องที่ต้องขบเขี้ยวกับตลอด ตั้งแต่หยั่งเชิงกันในทีแรก การเชือดเฉือนที่ต้องเข้มข้นขึ้นในช่วงกลาง จนไปถึงฉากสำคัญที่นำไปสู่จุดจบของเรื่อง นอกจากนั้นก็เป็นการหาข้อมูลเกี่ยวกับการฟอกเงิน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในเรื่องที่ถูกพูดถึงมากที่สุด ตั้งแต่จำลองโครงสร้างทางการเงินของมูลนิธิที่ดูเหมือนโปร่งใส และสร้างกระบวนการฟอกเงินที่สมจริงที่สุด รวมถึงการค้นคว้าข่าวเกี่ยวกับการปราบปรามธุรกิจสีเทา ยิ่งทำให้รู้สึกว่าได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ ไปพร้อมกับตัวละคร และนับเป็นความภูมิใจในการหาข้อมูลเลยค่ะ

“ส่วนเรื่องการเขียนก็สำคัญไม่แพ้กัน เช่น เรื่องที่เป็นเหมือนอุปสรรคในการเขียนคือมีเรื่องที่อยากเล่ามากเกินไปค่ะ รวมถึงความพยายามที่จะเล่าเรื่องให้ครอบคลุม ด้วยการใส่ทุกอย่างลงไปทั้งเรื่องการหลอกลวง ความสัมพันธ์ของตัวละคร และการหักเหลี่ยมเฉือนคม จนกลายเป็นโครงเรื่องที่ซับซ้อนเกินไป แต่พอได้ฟังคำแนะนำจากคณะกรรมการและนำมาปรับปรุงเนื้อเรื่อง ก็เริ่มพบกับความสว่างปลายอุโมงค์ค่ะ (หัวเราะ) อีกทั้งยังมีเรื่องการรักษาสมดุลของเนื้อเรื่องที่ต้องสนุก และไม่แทรกเนื้อหาจนหนักเกินไป แต่ก็ต้องไม่เบาจนไร้ความสมเหตุสมผล สุดท้ายเลยคือการสร้างตัวละครที่มีความสมจริงเป็นคนมากที่สุด ซึ่งในทีแรกต้องยอมรับว่าแก่นของเรื่องยังไม่ชัดเจนพอจนมาฟังแนะนำจากคณะกรรมการเลยได้กลับมาทบทวนและมาเห็นว่าตัวละครฝั่งดีนั้นมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือการเปิดโปงความจริง จึงทำให้ได้แนวทางที่ชัดเจนมากขึ้น และต้องบอกเลยว่าเหลี่ยมเล่ห์เรไรเป็นนิยายที่ได้รับการปรับแก้มากที่สุดเท่าที่เคยทำมาเลยค่ะ”

 

แชร์ลูกโซ่ กับประสบการณ์ในชีวิตจริง

“จริงๆ เรื่องแชร์ลูกโซ่เป็นเรื่องที่เกิดจากคนรอบข้างซึ่งเข้าไปเกี่ยวข้องธุรกิจนี้ แล้วมาชักชวนคนในครอบครัวไปทำ จะว่าไปผู้เขียนก็เป็นอีกคนที่หลงเชื่อแล้วชวนคนอื่นเข้ามาด้วยเช่นกันค่ะ สุดท้ายก็โดนหลอกจนเกิดความเสียหาย แต่ความเสียหายนั้นมันไม่ได้เกิดขึ้นไม่ใช่แค่ตัวเองเพียงคนเดียว ยังส่งผลถึงคนที่ชวนมาด้วย ความรู้สึกผิดจากเหตุการณ์นั้นยังคงติดอยู่ในใจจนถึงทุกวันนี้ และประสบการณ์นี้ได้กลายมาเป็นแรงผลักดันสำคัญในการเขียนเหลี่ยมเล่ห์เรไร เพราะเคยคิดว่าหากมีคนที่รู้จริงและต้องการจะเปิดโปงคนเหล่านี้ ด้วยความร่วมมือและการการวางแผนที่มีชั้นเชิง คงจะเป็นเรื่องที่น่าสนใจและช่วยให้คนอ่านอยากเอาใจช่วยมากขึ้นค่ะ”

แม้ความจริงจะถูกปกปิดไว้ แต่ในที่สุดก็จะมีตัวตนเสมอ

“ตลอดเวลาที่เขียนนิยายเรื่องนี้ สิ่งสำคัญที่ได้เรียนรู้ก็คือความกล้าหาญที่จะยืนหยัดเพื่อสิ่งที่ถูกต้อง อย่างตัวละครเรไรซึ่งระหว่างเส้นทางการเปิดโปงความจริงนั้น อาจทำให้เธอเสี่ยงต่อการสูญเสีย หรือแม้แต่ถูกสังคมบางส่วนต่อต้าน แต่หากตั้งใจยืนหยัดเพื่อสิ่งที่ถูกต้องแล้ว แม้จะเป็นเพียงไม่กี่คน ก็อาจสร้างแรงผลักดันเพื่อการเปลี่ยนแปลงบางอย่างได้ ซึ่งเรไรเป็นตัวละครที่ไม่ได้เริ่มต้นมาจากคนที่มีอำนาจในการต่อสู้แต่แรก เลยทำให้รู้สึกว่าแม้คนธรรมดาที่ไม่ได้มีอำนาจมากมาย แต่หากตั้งใจที่จะต่อสู้เพื่อสิ่งที่ถูกต้องแล้ว ถึงจะยากเย็นแค่ไหน สิ่งที่ได้รับกลับมาย่อมมีคุณค่าเสมอค่ะ

“นิยายเรื่องนี้พูดถึงประเด็นเรื่องการปกปิดความผิดไว้ด้วยหน้ากากความดี ซึ่งผู้เขียนคิดว่าเรายังคงเห็นปัญหานี้ได้ในปัจจุบันค่ะ อย่างตามข่าวบางครั้งก็เห็นว่าคนบางคนใช้อำนาจในทางที่ผิดเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ โดยไม่สนใจผลกระทบที่เกิดขึ้นกับผู้อื่น คำถามคือเราควรปล่อยให้สิ่งเหล่านั้นเป็นเรื่องปกติหรือไม่ สิ่งสำคัญที่เรื่องนี้เน้นคือ ‘ความจริง’ แม้จะถูกปกปิดหรือซ่อนเร้นไว้ด้วยเล่ห์เหลี่ยมแค่ไหน แต่ในที่สุด ความจริงมักจะมีหนทางแสดงตัวออกมาเสมอ เช่นเดียวกับตัวละคร ‘เรไร’ ที่ยืนหยัดเปิดเผยความจริง แม้ต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรคมากมาย หากจะเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้อ่านเชื่อว่า ในโลกที่ดูเหมือนไร้ซึ่งความยุติธรรม แต่ก็ยังมีโอกาสสำหรับการเปลี่ยนแปลงเสมอ ผู้เขียนก็จะยินดีเป็นอย่างยิ่งค่ะ”

สามารถติดตามเรื่องเหลี่ยมเล่ห์เรไรและผลงานของ จันทร์จรได้ที่เว็บไซต์อ่านเอา และเร็วๆ นี้จะมี E-Book ออกมาให้ได้เลือกอ่านกันอีกด้วย นอกจากนี้ยังสามารถติดตามข่าวสารและผลงานอื่นๆ ของจันทร์จรได้ทาง เฟซบุ๊ก จันทร์จร ซึ่งจะมีการอัปเดตข่าวสารเกี่ยวกับนิยายเรื่องใหม่ และกิจกรรมต่าง รวมถึงบทความและเรื่องสั้นของเธออีกด้วย 

Don`t copy text!