3 นักเขียนรุ่นใหม่กับอีกก้าวสำคัญสู่ความเป็นมืออาชีพจากอ่านเอาก้าวแรก#2
หลังจากที่ “อ่านเอาก้าวแรก” รุ่น 1 ผ่านไป รุ่น 2 ก็ตามมาติดๆ ซึ่งในปีนี้ก็เข้มข้นไม่แพ้กัน เพราะผู้เข้าร่วมโครงการแต่ละคนก็มีไม้เด็ดและจุดเด่นเฉพาะตัวที่ขอบอกเลยว่า ทำใจลำบากที่จะตัดสินจริงๆ แต่เพื่อผู้อ่านที่น่ารักและเพื่อให้วงการวรรณกรรมบ้านเราได้มีนักเขียนคุณภาพ เราจึงเฟ้นหา คัดสรร คัดเลือก พิจารณา ถกเถียง ลงความเห็น จนได้ผู้ชนะที่เราเชื่อว่า พร้อมแล้วกับการก้าวสู่การเป็นนักเขียนนิยายมืออาชีพ
“ญาสิตางศุ์ ชัยวัฒน์” เจ้าของรางวัลชนะเลิศจากผลงานนิยายเรื่อง “บันทึกดาราเร้นฟ้า”
“พอทราบว่าได้รางวัลชนะเลิศ ตื่นเต้นและดีใจมากเลยค่ะ เพราะไม่เคยคิดมาก่อนว่า ความชอบอ่านและชอบเขียนของตัวเอง จะพาให้เรามาถึงตรงจุดนี้ได้จริงๆ
“เราเริ่มต้นจากการเป็นนักอ่านแค่นั้น ไม่ได้ตีกรอบว่าจะต้องเป็นหนังสืออะไร ถ้านิยายก็อ่านหลากหลายสไตล์มาก เพราะหน้าที่หลักของเราคือ ต้องดูแลธุรกิจให้กับที่บ้าน อาศัยเพียงช่วงเวลาว่างที่ไม่มีลูกค้าเอาหนังสือมานั่งอ่านเท่านั้นเอง เพราะที่บ้านมีหนังสือเยอะมาก โดยเฉพาะนิยายที่ไม่เพียงตัวเองที่อ่าน แต่คุณพ่อคุณแม่ก็ชอบอ่านเช่นกัน ซึ่งเรื่อง ที่ชอบเป็นพิเศษคือเรื่องมังกรหยกของกิมย้ง เราประทับใจในตัวนางเอกคือ ‘อึ้งย้ง’ เพราะเธอมีความฉลาด ทันคน อมาถึงนิยายของเราเองก็เลยดึงคาแรกเตอร์ความฉลาด เอาตัวรอดเก่ง มีไหวพริบ มาใส่ไว้ในตัวนางเอกของเรื่องด้วย
“ถ้าถามว่า เราพอใจกับผลงานตัวเองไหม ก็คิดว่าทำออกมาได้ค่อนข้างน่าพอใจนะคะ อีกอย่างที่เราทำการบ้านหนักมาก คือเรื่องของการหาข้อมูล เพราะเนื้อเรื่องของเรานั้นมีความต่างกันอยู่ในเรื่องของวัฒนธรรมจีน สิ่งสำคัญจึงเป็นเรื่องของการสังเคราะห์ข้อมูล ให้ถูกต้องและแม่นยำมากที่สุด”
ญาสิตางศุ์เคยมีผลงานเขียนนิยายแนวกำลังภายในมาก่อนหน้านี้ แต่กลับรู้สึกว่าผลงานของตัวเองยังไม่สมบูรณ์ จึงได้ตัดสินใจเข้าร่วมโครงการ “อ่านเอาก้าวแรก” ปีที่ 2 เพื่อเติมเต็มในทักษะงานเขียนของตัวเอง ให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม
“จริงๆ การเข้าร่วมโปรเจ็กนี้ หวังเพียงพัฒนางานเขียนให้ดีขึ้นค่ะ และการได้เข้ามาอบรมกับ อ่านเอา เป็นอะไรที่มาเติมเต็มความรู้ให้กับตัวเอง เรามีโอกาสได้เรียนรู้เทคนิคการวางพล็อตเรื่อง ธีมเรื่อง คาแรกเตอร์ตัวละคร และสิ่งสำคัญอื่นๆ อีกมากที่เรารู้สึกว่า เรายังทำได้ไม่ค่อยดี ยังคิดเลยว่าก่อนหน้านี้ที่จะเริ่มเขียนนิยายอย่างจริงจัง น่าจะได้เข้ามาอบรมกับ อ่านเอา เสียก่อน น่าจะทำให้นิยายเรื่องแรกๆ ของเราสมบูรณ์กว่านี้ เพราะโครงการนี้ขยายแนวคิดของเราให้กว้างขึ้น ได้มองเห็นทฤษฏีที่ถูกต้อง ทำให้เราได้เห็นจุดบกพร่องของตัวเอง ได้ไอเดียใหม่อีกเยอะ”
“อัจฉราพร ฦาชา” เจ้าของรางวัลรองชนะเลิศจากผลงานนิยายเรื่อง “พระนคร ๒๔๑๐ แม่สื่อตัวร้ายกับนายโปลิศ”
ใครจะไปคิดว่า งานเขียนเรื่องแรกจะนำความสำเร็จและความภาคภูมิที่ติดพ่วงรางวัลมาให้ทันที นั่นทำให้นักเขียนหน้าใหม่คนนี้เริ่มมีความมั่นใจในความสามารถของตัวเองมากขึ้น
“คิดไม่ผิดเลยที่เข้าร่วมโครงการอ่านเอาก้าวแรก รุ่นที่ 2 ค่ะ เพราะถ้าจะให้พูดไปแล้ว ด้วยการที่เป็นบล็อกเกอร์ที่ต้องเดินทางบ่อยเพราะทำรายการท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น การที่จะหาเวลานั่งนิ่งๆ ปั้นนิยายสักเรื่องคือสิ่งที่ยากมาก จริงๆ มีพล็อตอยู่เยอะในหัว เพราะชอบอ่านนิยายมาก แต่พอจะเริ่มต้นเขียนก็ตันๆ เหมือนจัดวางอะไรๆ ไม่ค่อยถูกที่ งานเขียนในส่วนนิยายเลยไม่ค่อยเดินหน้า แต่พอได้เข้าร่วมโครงการอ่านเอาก้าวแรก รุ่นที่ 2 สิ่งที่เคยเป็นปัญหาก็เบาลง
“สิ่งที่ได้เรียนจากพี่ๆ วิทยากรซึ่งเป็นนักเขียนมืออาชีพสามารถนำมาปรับใช้จนเห็นผลในเชิงบวก มันยิ่งเป็นตัวบอกเราว่า เราขยับเข้าใกล้ความฝันที่อยากเป็นนักเขียนนิยายมาตั้งแต่เด็กๆ มากขึ้น สิ่งแรกที่ส่งผลชัดเจนคือสามารถจบนิยายของเราได้จริงๆ เนื้อเรื่องของเราเป็นสไตล์พีเรียดย้อนยุค ข้อมูลจะเยอะมาก กระจัดกระจายเต็มไปหมด วิทยากรทำให้เราเห็นภาพว่าจะต้องทำยังไง การที่มีข้อมูลมากๆ เป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้ว แต่เราต้องเปิดใช้ได้อย่างถูกที่ถูกจุด มองเห็นวิธีการจัดการกับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในงานเขียนของเรา การวางเส้นเรื่องและธีมของเรื่อง การกำหนดสถานการณ์ รวมทั้งคาแรกเตอร์ของตัวละคร เรานำมาปรับใช้ ก็เกิดวิธีการที่ดีออกมา สามารถจบเรื่องได้ในแบบของเรา ซึ่งเขียนจบเป็นเรื่องแรกด้วย ต้องขอบคุณวิทยากรทุกท่านจริงๆ ที่ช่วยผลักดันเรา”
จึงไม่แปลกที่คำว่า ‘เกินคาดฝัน’ จะเป็นสิ่งที่เธอรู้สึก โดยเฉพาะเมื่อนิยายของเธอได้รับรางวัล
“ในเรื่องที่เขียน ตัวละครมีตัวตนอยู่จริงในประวัติศาสตร์แล้วกับอาชีพแม่สื่อที่คุณยายของนางเอกเป็นคนทำ มันเป็นอะไรที่ว้าวมากสำหรับเรา คือผู้หญิงในยุคนั้นจะไม่ค่อยมีบทบาทอะไรมากนัก แต่กับตัวละครคุณยาย กลับเป็นคนหัวสมัยใหม่ เป็นตัวละครที่แอคทีฟ เจ้าแผนการ มีความรู้ เพราะการจะจับคู่คน ต้องใช้ศาสตร์หลายอย่าง เราก็เลยสร้างให้นางเอกเป็นทีมงานขอแก ซึ่งนางเอกเองก็มีความมาดมั่น ดูแตกต่างมากจากผู้คนในยุคนั้น
“สำหรับใครก็ตามที่คิดจะจริงจังกับการเขียนนิยาย โครงการนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีมากๆ เลยค่ะ การได้เข้ามาพบเจอพี่ๆ นักเขียนที่เป็นวิทยกรมากความสามารถทุกท่าน ทำให้ได้คำแนะนำไปปรับใช้จนสามารถข้ามเส้นเดิมที่ติดขัดอยู่ไปได้ สุดท้ายจะได้ผลงานที่ดีออกมา”
“พุธษรัตน์ เพ็ชรแดง” เจ้าของรางวัลรองชนะเลิศจากผลงานนิยายแนวสืบสวนสอบสวน เรื่อง “พรนับพัน”
“เรื่องราวใน ‘พรนับพัน’ มีแนวคิดที่ว่าใครที่ชอบทำอะไรไม่ดีกับคนอื่น กรรมก็จะตามสนอง ก็เลยกำหนดวิธีให้กรรมตามสนองขึ้นมา โดยให้คนๆ นั้นได้ไปตกอยู่ในสถานการณ์ที่ตนเองกระทำกับคนอื่น เปลี่ยนบทบาทเป็นผู้ถูกกระทำบ้าง แล้วจะรู้สึกอย่างไร”
แม้ธีมของเรื่องจะไปในเชิงกฏแห่งกรรม แต่นิยายเรื่องพรนับพันมีจุดที่น่าสนใจในเรื่องของพล็อตแนวสืบสวนสอบสวน ซึ่งเป็นแนวถนัดประจำตัวของพุธษรัตน์
“เป็นคนอ่านหนังสือทุกแนว เพียงแต่ช่วง 4-5 ปีหลังจะอ่านแนวสืบสวนสอบสวนเยอะมาก ก็เลยวางพล็อตไว้หลายทางมากๆ แต่ทุกครั้งที่ลงมือเขียนก็จะเจอกับความไม่มีน้ำหนักของเส้นเรื่อง ตัวละครขาดมิติในการนำเสนอ จุดก่อตัวของสถานการณ์และการคลี่คลายก็ดูยังไม่มีน้ำหนักมากพอ ทำให้งานเขียนของเราดูยังขาดหายอะไรไปบางอย่าง ทำให้รู้สึกว่า เราต้องหาวิธีการคลายปมในงานเขียนของตัวเองให้ได้
“จริงๆ แล้ว ตั้งใจจะสมัครตั้งแต่รุ่นที่ 1 แต่ไม่ทัน พอมารุ่นที่ 2 เลยมาสมัครเสียแต่เนิ่นๆ ค่ะ ซึ่งบอกเลยว่า ไม่ผิดหวังจริงๆ การอบรมที่เรารอคอยมันคุ้มค่า เพราะทุกอย่างในการอบรมมีประโยชน์กับเรามาก ทำให้เรารู้ว่าจะทำอย่างไรให้นิยายของเราน่าสนใจ ปรับคาแรกเตอร์ตัวละครอย่างไรให้มีเสน่ห์ วางเส้นเรื่องอย่างไร ให้ผู้อ่านอ่านแล้วรู้สึกไม่สะดุด และเชื่อในพล็อตของเราอย่างสนิทใจ ที่สำคัญอยากให้คนอ่านได้ข้ดคิดจากเรื่องที่เราสร้างขึ้นด้วย อย่างคำว่า กฎแห่งกรรม ยุติธรรมเสมอ ก็เป็นหนึ่งในหลักคิดที่เราวางไว้
“สำหรับคนที่ยังไม่เคยเขียนนิยายหรือกำลังคิดที่อยากจะเริ่มเขียน ลองเข้ามาอบรมในโครงการของ อ่านเอา ดูนะคะ เราขอพูดจากประสบการณ์ของตัวเองให้ฟังได้เลยว่า การได้มาเป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้ ทำให้เกิดความมั่นใจขึ้นมากในงานเขียนของตัวเอง เป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ อยากให้ทุกคนได้มาสัมผัส และเชื่อได้เลยว่า งานเขียนของทุกคนจะดีขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน”
นิยายสามเรื่องสามสไตล์จากสามนักเขียนไฟแรง รอให้ผู้อ่านได้สัมผัสเรื่องราวที่บรรจงถ่ายทอดร้อยเรียงไว้อย่างตั้งใจใน www.anowl.co เร็วๆ นี้