รักจังอยากเล่า
โดย : รักจัง So Cute
สวัสดีค่ะทุกคน นี่รักจังนะคะ วันนี้รักจังมีเรื่องมาเล่าให้ทุกคนอ่านแหละ เป็นเรื่องของ รักจังกับปักใจเอง คือ…รักจังสงสัยว่า ทำไมมนุษย์ป้าที่ชื่อ “ปิยะพร” ถึงได้คิดจะเขียนเรื่องราวของรักจังและปักใจขึ้นมา แล้วทำไมมนุษย์ป้าคนนี้ถึงมั่นใจจังว่า รู้จักพวกเราอย่างดี ที่สำคัญนะ ป้าคนนี้ยังเอาชื่อเราไปตั้งชื่อนิยายด้วย!!
พอรักจังคิดได้แบบนี้ รักจังก็นอนไม่หลับ ขนาดคุณฐิติลูบพุงขาวๆ ของรักจังอยู่ตั้งนาน รักจังก็ไม่เคลิ้มเหมือนทุกครั้ง ก็เลยต้องหาคำตอบให้ได้ วันรุ่งขึ้นเลยมุดรั้วไปหาป้าปิยะพร แล้วก็ได้เรื่องมาเล่าให้ทุกคนอ่านตอนนี้ค่ะ
ก่อนอื่นนะคะ รักจังขอเล่าถึงโปรไฟล์คุณป้าคนนี้ก่อน คุณป้าคนนี้ชื่อ คุณป้าเอียดค่ะ แต่ชื่อในวงการที่มนุษย์เรียกว่า วรรณกรรม คุณป้าใช้ชื่อว่า “ปิยะพร ศักดิ์เกษม” มีอาชีพเป็นนักเขียนนิยาย แต่…นิยายคืออะไรรักจังไม่รู้เรื่องหรอก รู้แต่ว่า ตอนนี้ รักจังคือนางเอกของเรื่อง “รัก (จัง) ปักใจ” ที่คุณป้าเขียนขึ้นมาคร้า!!
แล้วทำไมต้องเขียนถึงรักจังล่ะ?
คุณป้าปิยะพรบอกกับรักจังว่า จริงๆ แล้วเรื่องของ รักจังและปักใจ ไม่ได้อยู่ในแผนการทำงานของคุณป้าแต่แรก!! ตอนแรกที่รักจังได้ยินนะ ก็แบบ…อ้าว…ทำไมอย่างนั้นล่ะ แต่พอคุณป้าเล่าก็เข้าใจ เพราะว่าช่วงนี้บรรยากาศทั่วโลกวุ่นวาย มีแต่เรื่องเครียด จากที่วางแผนว่าจะเขียนเรื่องหนึ่งให้เว็บชื่อว่า “อ่านเอา” ก็ต้องเปลี่ยนแผน เพราะเรื่องที่วางพล็อตเอาไว้คร่าวๆ ออกแนวดราม่า แต่คนน่าจะได้อ่านอะไรที่ผ่อนคลายมากกว่า คุณป้าเลยเขียนเรื่องน่ารักๆ ขำขัน เบาสบาย เป็นเรื่องที่จะทำให้คนอ่านและคนเขียนยิ้มได้ ก็เลยเลือกเขียนเรื่องที่พล็อตไม่ซับซ้อนมาก แต่มีมุมตลกและลูกเล่นที่จะสร้างภาพจำในใจจากตัวละครเอก (อย่างรักจังและปักใจไงล่ะ คริๆ) ซึ่งที่ลงตัวสุดๆ คือ เรื่องของ “รัก (จัง) ปักใจ” นี่แหละ
แต่ฟังเท่านี้ รักจังก็ยังไม่เคลียร์นะ เพราะที่รักจังอยากรู้อีกคือ เรื่องของตัวรักจังและปักใจ!!
รักจัง : คุณป้าเอาต้นแบบตัวของรักจังและปักใจมาจากไหนล่ะคะ
คุณป้าปิยะพร : อ๋อ…พอดีว่า ที่บ้านของป้าเลี้ยง Pembroke Welsh Corgi มาเจ็ดปีอยู่ 1 ตัวค่ะ ชื่อ “คิ้วท์” แล้วช่วงหลังๆ ก็มีมาให้ช่วยเลี้ยงเป็นบางวันอีกตัว ชื่อ “ปังปัง” ก็เลยได้เรียนรู้และคุ้นเคยกับนิสัยของเขามากพอควร และด้วยนิสัยของป้า เวลาที่จะเลือกเลี้ยงสุนัขพันธุ์ไหนก็ตาม ป้าจะค้นคว้าอ่านความเป็นมา ลักษณะนิสัยต่างๆ ของเขา เรียกว่าอ่านเยอะจนรู้จักหลายสายพันธุ์เลยนะคะ
รักจัง : แล้วทำไมเรื่อง “รัก (จัง) ปักใจ” ต้องเป็นพันธุ์เดียวกับรักจังล่ะคะ
คุณป้าปิยะพร : จริงๆ แล้ว ป้าเคยเลี้ยงมาหลายพันธุ์นะคะ ทั้งหมาจู หมาไทยหลังอาน เทอร์เรีย อัลเซเชียน ดัชชุน โดเบอร์แมน ค็อกเกอร์ โกลเด้น แต่ที่เลือกเป็นพันธุ์ของรักจังเนี่ย เพราะในพล็อตเรื่องที่คิดไว้ ป้าอยากเขียนถึงสุนัขที่มีขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กจนเกินไป ซุกซนและมีความเป็นตัวของตัวเองสูง น่ารักแต่ออกแนวอินดี้หน่อยๆ คอร์กี้แบบรักจังและปักใจก็เลยลงตัวกับงานที่ป้าจะเขียนที่สุดค่ะ
รักจัง : แล้ว…มันยากไหมคะ ที่คุณป้าต้องมาเขียนเป็นสุนัขอย่างรักจัง
คุณป้าปิยะพร : ไม่ยากนะคะ เพราะอารมณ์ ความคิดของสุนัขอย่างรักจังต่างจากคนค่ะ รักจังและเพื่อนสุนัขจะไม่มองอะไรซับซ้อน มีความซื่อตรง จริงใจ ยิ่งตัวป้าเองเลี้ยงสุนัขมาตลอดชีวิต ได้ใกล้ชิดคุ้นเคยกับพฤติกรรมของเขาก็ยิ่งเข้าใจเขา แล้วตลอดชีวิตการทำงานของป้า จะมีน้องหมามานอนหนุนขาหรือไม่ก็นอนอยู่ใต้โต๊ะทำงานมาตลอด พอป้าต้องเขียนเป็นสุนัขก็เลยไม่ยากค่ะ แต่ส่วนยาก ป้าว่าน่าจะเป็นการที่ป้าต้องจัดสมดุลและความต่อเนื่องระหว่างบทบาทของตัวละครที่เป็นน้องหมากับตัวละครที่เป็นคนให้แนบเนียนและเหมาะสมกับช่วงเวลาในการเล่าเรื่องมากกว่าค่ะ และนอกจากนี้นะ สิ่งที่ป้าตั้งใจใส่ลงไปในเรื่องคือ ประสบการณ์ตรงจากที่ได้เลี้ยงสุนัขและจากที่ศึกษามาจากแหล่งต่างๆ ที่ไม่ใช่การสอน ไม่ใช่การเขียนแบบตำรา แต่จะเขียนให้กลมกลืนกับเนื้อเรื่อง เพราะป้าหวังว่าเกร็ดความรู้และแนวคิดนี้จะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าของกับสัตว์เลี้ยงราบรื่นและมีความเข้าใจต่อกันมากขึ้นไงคะ
รักจัง : แล้วคุณป้าเคยคิดจะเอาสัตว์เลี้ยงชนิดอื่นมาเป็นตัวเอกแทนรักจังกับปักใจไหมคะ
คุณป้าปิยะพร : ถ้าเป็นเรื่องนี้ละก็ ยังไงๆ ก็ต้องเป็นสุนัขอย่างรักจักและปักใจค่ะ เป็นสัตว์อื่นไม่ได้เลย ถ้ารักจังกับปักใจเป็นแมวหรือเป็นกิ้งก่าหรือเป็นงูเหลือม ก็ต้องรื้อพล็อตใหม่หมดตั้งแต่แรก แค่จะเอาปักใจไปไว้ในกรงสี่ปีก็คงทำไม่ได้แล้วค่ะ
รักจัง : คุณป้าชอบเลี้ยงหมามากๆ เลยเหรอ
คุณป้าปิยะพร : ป้าว่าการมีสัตว์เลี้ยงนี่ทั้งมีความสุข ทั้งสนุก ทั้งตลกขบขันกับกิริยาท่าทีนะคะรักจัง เพราะเขาจะมีวีรกรรมฮาๆ ให้ได้หัวเราะกันตลอดเวลา ตัวป้าเองได้ความช่างสังเกตและความรับผิดชอบด้วย เพราะสัตว์เลี้ยงไม่สามารถจะใช้คำพูดสื่อสารอะไรกับเราได้ ป่วยเจ็บตรงไหน ไม่สบายกาย ไม่สบายใจเพราะอะไร คนเลี้ยงต้องสังเกตดูอย่างเดียวเลย ส่วนความรับผิดชอบก็คือเขาอาบน้ำเองไม่ได้ หาข้าวกินเองไม่ได้ ไปหาหมอเองไม่ได้ แปรงขนตัวเองไม่ได้ เราต้องเป็นคนดูแลค่ะ ละเลยไม่ได้ รวมทั้งการต้องรับผิดชอบเล่นกับเขาด้วย ต้องเล่น ต้องให้ออกกำลังทุกวันค่ะ แต่สิ่งที่สำคัญคือ ป้าได้ความรักจากเขาค่ะ ในชีวิตของสัตว์เลี้ยง เขามีแต่เราเท่านั้น ขณะที่เรายังมีเพื่อน มีญาติ มีการงาน มีกิจกรรมมากมาย อันที่จริงถ้าคิดดีๆ แล้วเรามีแต่ได้จากเขานะคะ เขาได้ตอบแทนกลับมาเกินกว่าค่าข้าวค่าน้ำที่เราเลี้ยงดูเขามากมาย การให้เวลาและความรักความเอาใจใส่กับเขามากๆ จึงเป็นการตอบแทนที่ควรทำค่ะ
ได้ฟังคุณป้าบอกกับรักจังแบบนี้ รักจังก็ชื่นใจก้นกระดิกเลยเนี่ย ยิ่งคุณป้าบอกกับรักจังก่อนจะบ๊ายบายว่า รักจังมีส่วนช่วยมนุษย์ผ่อนคลายความเครียด รักจังยิ่งดีใจ เพราะรักจังก็อยากให้คนอ่านได้เพลิดเพลินและผ่อนคลายจากโลกทุกวันนี้เหมือนอย่างที่คุณป้าบอกว่า “โลกตอนนี้เหมือนกำลังลอกคราบแบบเพื่อนๆ แมลงของรักจัง โลกกำลังปรับ กำลังถูกเขย่าให้เข้าที่ คนเลยไม่มั่นใจกับอนาคต…แต่การได้อ่านเรื่องของ “รัก (จัง) ปักใจ” จะทำให้มนุษย์มีความสุขและยิ้มได้บ้าง”
…ฟังแบบนี้รักจังดีใจมากเลยนะเนี่ย แล้วเพื่อนๆ คนอ่านละคะ ชอบเรื่องของ รัก (จัง) ปักใจ ไหม ถ้าชอบละก็ อย่าลืมกดไลค์กดแชร์ ให้เพื่อนๆ คนอื่นได้มาอ่าน รัก (จัง) ปักใจ ด้วยกันนะคะ