“กลิ่นมาลี” นวนิยายพีเรียดที่อบอวลไปด้วยเสน่ห์โดย SUDA
โดย : YVP.T
มาลีคือน้องสาวฝาแฝดผู้แสนดีของมาลัย ที่ชะตากรรมช่างน่าสงสารเพราะถูกพ่อบังเกิดเกล้าขายเข้าโรงชำเรา!!
มาลีคือหญิงสาวที่ออกหลวงชาญภูเบศร์รักอย่างหมดหัวใจแต่เขาไม่อาจครองคู่ได้ เพราะแม้ว่าเธอจะไม่ใช่หญิงรับชำเราแต่ก็มาจากโรงชำเรา!!
และ มาลี…คือตัวเอกในนวนิยายเรื่อง “กลิ่นมาลี” นวนิยายที่เป็นหนึ่งในผลผลิตจากโครงการช่องวันอ่านเอาปี 2 ที่เขียนขึ้นโดย SUDA พยาบาลวิชาชีพที่รักการอ่านและค้นพบว่าความชอบของตัวเองคือการได้อ่านและเขียนนวนิยายพีเรียดไทยมากๆ
ก่อนหน้านี้ SUDA หรือชื่อเต็มๆ ก็คือ ‘สุดา จันทร์อ้น’ พยาบาลวิชาชีพประจำแผนกหอผู้ป่วยใน(IPD) โรงพยาบาลยางชุมน้อย จังหวัดศรีสะเกษ เคยมีผลงานเขียนมาแล้วถึง 16 เรื่อง
“เส้นทางนักเขียนน่าจะเริ่มต้นจากเป็นคนชอบอ่านหนังสือมาตั้งแต่เด็กค่ะ เพราะโตมากับหนังสือของคุณอาที่มีเต็มชั้นวาง และเราก็หยิบมาอ่านเกือบครบทุกเล่ม มีทั้งวรรณกรรมเยาวชน นวนิยาย นิตยสารรายปักษ์ เรื่องสั้น พอเรียนชั้นมัธยมก็มักจะขลุกตัวอยู่ในห้องสมุดโรงเรียนและหยิบนวนิยายออกมาอ่านเสมอ เรียกได้ว่าเป็นเด็กที่ชอบการอ่านเป็นชีวิตจิตใจเลยค่ะ
“แต่พอถึงวัยทำงานกลับไม่ได้อ่านนวนิยายเลย สาเหตุเป็นเพราะเราแบ่งเวลาไม่ดีเองทำให้มัวแต่ทำงานหนักจนห่างหายไปจากการอ่าน จนวันกระทั่งวันหนึ่งก็เพิ่งรู้สึกตัวว่าชีวิตเราขาดอะไรบางอย่างไป เลยกลับมาตั้งคำถามกับตัวเองว่าเรามัวจริงจังกับชีวิตจนลืมเวลาผ่อนคลายไปหรือเปล่า หลังจากนั้นจึงเริ่มจัดตารางเวลาชีวิตให้สมดุล ให้มีเวลาทำงาน มีเวลาผ่อนคลาย มีเวลาอ่านนวนิยายบ้าง
“แต่พอแบ่งเวลาว่างได้แล้ว ก็เลยรู้ตัวว่าสิ่งที่หายากกว่าเวลาว่าง…ก็คือการหานวนิยายที่ตรงกับใจเราในตอนนั้น จึงเกิดความรู้สึกอยากเป็นคนเขียนขึ้นมาค่ะ เพราะคิดว่าถ้าเราสามารถกำหนดเรื่องราวของตัวละได้คงสนุกกว่านี้แน่ๆ”
แต่เพราะว่าเป็นผู้อ่านมาโดยตลอด พอมาลงมือเขียนเองก็ไม่มีแก่นให้ยึด หลักการทั้งหลายก็ยังไม่รู้ แต่ SUDA ก็ตั้งใจเขียนออกมาอย่างสม่ำเสมอ กระทั่งได้เผยแพร่ผลงานแบบรายตอนและขายเป็น Ebook รวมถึงพิมพ์เล่มขายเอง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนวนิยายพีเรียดไทยไม่อิงประวัติศาสตร์อย่างที่เธอชอบ
“ช่วงสองปีก่อนที่เริ่มเขียนนวนิยายของตัวเอง ก็เริ่มจากเขียนไปแบบงูๆ ปลาๆ อย่างคนที่ไม่มีความรู้เรื่องการเขียนเลย แต่เขียนเองก็สนุกเองนะคะ เพราะการเขียนเป็นความรู้สึกอีกแบบที่ชอบยิ่งกว่าการอ่านเสียอีกค่ะ ยิ่งเมื่อเผยแพร่นวนิยายเรื่องแรกไปแล้ว ผลตอบรับจากคนอ่านค่อนข้างดีจึงเขียนต่อมาเรื่อยๆ
“อยู่มาวันหนึ่งเพื่อนนักเขียนก็ได้แชร์โพสต์ประชาสัมพันธ์โครงการช่องวันอ่านเอาครั้งที่ 2 มาให้ ตอนนั้นอยากเข้าร่วมมาก เพราะอยากให้นวนิยายของเราได้ออกมาเป็นละครสักครั้ง ประกอบกับเป็นแฟนคลับช่องวันอยู่แล้วด้วย พอมีโครงการนี้ก็ยิ่งพลาดไม่ได้เลยค่ะ”
โครงการช่องวันอ่านเอาครั้งที่ 2 คือ การอบรบนักเขียนครั้งแรกในชีวิตของ SUDA ที่เธอเข้าอบรมพร้อมพล็อต ‘กลิ่นมาลี’ ที่เตรียมมา
“ตอนที่เข้าอบรมรู้สึกตื่นเต้นมากค่ะ อาจเพราะเราเป็นนักเขียนมือใหม่และไม่เคยอบรมที่ไหนมาก่อนเลย แอบกลัวว่าพี่ๆ กรรมการจะชอบพล็อตของเราไหม แต่พอหลังจากอบรมแล้วความกดดันก็เริ่มลดลงค่ะ เพราะได้รับความเมตตาจากพี่ๆคณะกรรมการทั้ง5ท่าน ที่ช่วยชี้ข้อบกพร่องและให้คำแนะนำว่ากลิ่นมาลีควรจะเขียนไปในทิศทางไหน ควรเพิ่มตรงไหน ลดตรงไหน แก้ไขตรงไหน เพื่อให้กลิ่นมาลีออกมาเป็นฉบับที่สมบูรณ์ที่สุด
“และนอกจากจะให้โอกาสในการประกวดครั้งนี้แล้ว พี่ๆ คณะกรรมการยังให้เทคนิคการเขียนนวนิยายเพื่อให้นำไปใช้ในการเขียนเรื่องต่อไปด้วย ขอขอบพระคุณจากใจค่ะ”
เมื่อผ่านการแนะนำ แก้ไข ปรับปรุง หลายตลบ สุดท้าย ‘กลิ่นมาลี’ ก็ได้ออกสู่สายตาชาวอ่านเอา และกลายเป็นหนึ่งในนวนิยายพีเรียดไทยที่ผู้อ่านอินกันมากอีกหนึ่งเรื่อง
“ชอบเขียนนวนิยายแนวพีเรียดไทยมากค่ะ โดยเฉพาะในสมัยอยุธยาหรือรัตนโกสินทร์ตอนต้น ทุกวันนี้ยังเขียนแนวพีเรียดอยู่ แต่ก็ยังรู้สึกว่าตัวเองยังไม่แม่นเรื่องประวัติศาสตร์มากพอ จึงอยากจะพัฒนาตนเองต่อไปเรื่อยๆ เพื่อให้ผลงานมีความสมจริงมากขึ้นค่ะ
“สำหรับ ‘กลิ่นมาลี’เป็นเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งที่ถูกสร้างมลทินให้โดยที่เธอมิอาจปฏิเสธได้ เป็นผู้ถูกกระทำมาตั้งแต่เด็กจนโต ถูกกดให้อยู่ในฐานะต้อยต่ำที่สุดของชนชั้นสังคมสมัยนั้น แต่ถึงแม้ภายนอกใครจะดูถูกว่าเธอต้อยต่ำอย่างไร ภายในของเธอก็ยังคงงดงามเสมอ ไม่ได้ด้อยค่าตามไปด้วย
“ตัวละครชื่อมาลีจะเป็นผู้หญิงที่ใช้ชีวิตเรียบง่าย รักสงบ อ่อนแอในบางครั้งแต่ก็เข้มแข็งในบางคราวไม่ต่างจากคนทั่วไป เธอไม่เคยเรียกร้องให้ใครมาเห็นคุณค่าของเธอ แต่เมื่อเธอถูกตัดสินว่าเป็นคนต้อยต่ำทั้งที่เนื้อแท้ไม่ได้เป็นอย่างนั้น ชีวิตอันแสนเศร้าของมาลีจึงทำให้ทุกคนรอบกายเธอหันมาตั้งคำถาม ว่าแท้จริงแล้วคุณค่าของการเป็นมนุษย์คนหนึ่งมันขึ้นอยู่กับอะไร มันจะต้องขึ้นกับสิ่งที่ใครอื่นตีตราให้…หรือมันอยู่ที่หัวใจของคนคนนั้น
“กลิ่นมาลีมีเรื่องราวเกี่ยวกับเครื่องหอมด้วย ตัวเราเองในฐานะคนเขียนจึงต้องทำการบ้านค่อนข้างหนักเลยค่ะ ตั้งเรียนรู้ตั้งแต่เรื่องดอกไม้พื้นถิ่นในไทย ลองฝึกทำเครื่องหอมง่ายๆ เช่นบุหงาสด บุหงาแห้ง ลองทำขนมหินฝนทองอบควันเทียน ขนมกง ลองใช้เครื่องหอมที่ทำจากกรรมวิธีโบราณจริงๆ จนได้ข้อมูลมากพอเพื่อใช้เขียนในเรื่องนี้
“นอกจากเรื่องเครื่องหอมแล้ว ยังต้องทำการบ้านเรื่องวิถีชีวิตชาวบ้านและแผนที่ภูมิสถานในสมัยกรุงศรีอยุธยาด้วยค่ะ กว่าจะได้นวนิยายเรื่องนี้ต้องหาข้อมูลหลังบ้านเยอะมาก แต่แปลกนะคะที่ไม่รู้สึกเหนื่อยเลยและยังอยากจะทำต่อไปเรื่อยๆ หรือเป็นอย่างที่เขาว่าไว้ ‘ทำในสิ่งที่รัก…มักจะมีความสุขเสมอ’ ”
งานเขียนหนึ่งชิ้น ไม่ว่าจะเป็นงานเขียนอะไรก็ตาม จะเป็นเพียงบทความสั้นๆ นวนิยายเรื่องยาว หรือเรื่องสั้น 4 หน้าจบ ก็ล้วนแต่ต้องใช้เวลา และไม่ใช่เรื่องง่ายกว่าที่งานเขียนนั้นๆ จะเสร็จลง แต่อ่านเอาเชื่อว่า หากคุณรักการเขียน คุณจะไม่ย่อท้อและเดินหน้าเขียนต่อจนถึงตัวอักษรสุดท้าย เช่นเดียวกับ SUDA ที่เธอทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจอย่างเต็มกำลังในงานเขียนทุกชิ้นของเธอ เพราะสิ่งที่เธอเชื่อเสมอคือ…
“ถ้าเรารักในงานเขียนแล้ว…ความรักในงานจะทำให้เราก้าวต่อไปจนถึงความสำเร็จ”