‘ร่างสลับอัปสรา’ นวนิยายเหนือจริงที่เปี่ยมไปด้วยจินตนาการและความสนุกของ ‘กุลวีร์’

‘ร่างสลับอัปสรา’ นวนิยายเหนือจริงที่เปี่ยมไปด้วยจินตนาการและความสนุกของ ‘กุลวีร์’

โดย : YVP.T

Loading

ถ้าอยู่ๆ คุณต้องใช้ชีวิตกับคนที่ไม่คุ้นเคย สภาพแวดล้อมที่ไม่รู้จัก และมากกว่านั้นคือ คุณต้องไปอยู่ในร่างของใครอีกคนที่ไม่ใช่ตัวเอง ร่างใหม่ที่คนละขั้วกับร่างจริงแบบสุดๆ คุณจะดีใจหรือเสียใจ แต่ไม่ว่าคุณจะรู้สึกยังไง อ่านเอาขอเตือนว่า “จงคืนของที่ไม่ใช่ของเราแก่เจ้าของที่แท้จริง”

‘ร่างสลับอัปสรา’ นวนิยายเรื่องใหม่จาก ‘กุลวีร์’ นักกายภาพบำบัดที่อีกด้านหนึ่งเขาคนนี้คือนักเขียนฝีมือดีที่โครงการอ่านเอาก้าวแรกภูมิใจ เขาคนนี้มีชื่อจริงว่า ‘วีรกุล กล้าหาญ’ ซึ่งเป็นที่มาของนามปากกานี้

สนับสนุนอ่านเอาด้วยการสั่งซื้อหนังสือ “ในสวนอักษร” คลิกที่นี่

เมื่อนักกายภาพบำบัดชอบที่จะเขียน

แม้เหตุผลในการเริ่มลงมือเขียนของแต่ละคนต่างกัน แต่อย่างหนึ่งที่คล้ายกันคือ นักเขียนแทบทุกคนชอบอ่าน ซึ่งนั่นก็ไม่ได้หมายความว่าสิ่งที่อ่านจะถูกใจหรือตรงจริตเสมอไป แล้วทำไมไม่ลงมือเขียนเองล่ะ งั้นก็เขียนเองซะเลยสิ

“ผมอ่านนิยายหลายเล่ม หลายเรื่อง หลายแนว แต่ก็ไม่ค่อยเจอสิ่งที่ตัวเองอยากเจอ หรือเจอสิ่งที่เจอแต่มันอ่านแล้วไม่หนำใจ หรือบางเรื่องมันไม่เป็นไปอย่างใจอยากให้เป็น จึงมีความคิด… เขียนเองมันซะเลย ซึ่งพอเปลี่ยนจากคนอ่านเป็นคนเขียน ทำให้รู้ว่ากว่านักเขียนจะเขียนจนจบหนึ่งเรื่องนั้น มันไม่ใช่ง่ายๆ เลย ปาดเหงื่อก็แล้ว คิดจนสมองเบลอก็แล้ว หรือเลือดตาแทบกระเด็นก็คงใช้คำคำนี้ได้ ดังนั้นงานเขียนจึงเหมือนกับการทำให้คนคนหนึ่งต้องมีความมุ่งมั่น ความพยายามที่ทำให้งานมันสำเร็จ

“ในฐานะคนเขียนคงบอกได้ว่างานเขียนเป็นสิ่งที่นำตัวอักษรมาร้อยเรียงให้เป็นเรื่องเป็นราวที่ออกมาจากจินตนาการหรือสร้างเรื่องที่อยากให้เป็นไปในทิศทางที่ตัวเองต้องการได้อย่างสบายใจ แต่ขณะเดียวกันก็ต้องรู้ว่าจะทำยังไงให้คนอ่านเข้าใจในเรื่องราวที่พยายามเขียนลงไป ซึ่งเป็นเรื่องยากสำหรับผม แต่ถ้าไม่ลองก็คงไม่รู้ จริงไหมครับ”

นักเขียนชั้นครูและนวนิยายเรื่องโปรด

นักเขียนทุกคนมีต้นแบบ ซึ่งแน่นอนว่ากุลวีร์ก็มีเช่นกัน แต่เขาซึมซับคุณสมบัติใดของต้นแบบที่ชื่นชอบมาไว้ในตัวเขาบ้างนี่คือสิ่งสำคัญ

“ผมมีนักเขียนในดวงใจมีหลายคนครับ ซึ่งแต่ละคนมีสิ่งที่นำมาเป็นแบบอย่างเพื่อปรับใช้กับงานของตัวเองได้หลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวรรณศิลป์ ภาษาที่ใช้ การวางเรื่อง วิธีการเล่าเรื่อง การเปิดแต่ละบท การปิดแต่ละบท การทิ้งอะไรไว้ให้อยากติดตาม และอีกหลายๆ อย่าง ขึ้นอยู่กับว่า เราจะดึงด้านไหนมาใช้เมื่อไหร่

“แต่ถ้าให้พูดถึงนิยายเรื่องโปรด มีเรื่องที่อยู่ในใจเสมอ คือ ‘เรือนมยุรา’ ของแก้วเก้า เรื่องนี้ทำให้ชอบอ่านนิยายแนวข้ามภพข้ามชาติ และส้มฉุนเป็นตัวละครที่จำได้แม้จะไม่ใช่พระนางก็ตาม นอกจากนี้ยังมีเรื่อง ‘ดวงใจในสายลม’ ของกีรตี ชนา ซึ่งเป็นหนึ่งในไม่กี่เรื่องที่อ่านแล้วน้ำตาซึม ‘รากนครา’ ของ ปิยะพร ศักดิ์เกษม ที่อ่านครั้งแรกแล้วชอบการใช้ภาษา การใช้คำต่างๆ เนื้อเรื่องน่าติดตาม จนผมอ่านจบข้ามวันข้ามคืน ‘แม่เบี้ย’ ของ วาณิช จรุงกิจอนันต์ โดดเด่นในการบรรยายของเรื่องที่ทำให้เห็นภาพได้ชัด อยากบอกว่า แม่เบี้ยในนิยายไม่ได้สื่อถึงเรื่องเพศเลยแม้แต่น้อย และดีใจมากที่หาเรื่องนี้มาอ่านจนได้

“ขอปิดท้ายนิยายเรื่องโปรดด้วยนิยายแปล คือเรื่อง ‘อยากให้ศพคุณอยู่หน้าไหนในตำราฆาตกรรมของผม’ เพราะเรื่องนี้มีตัวเอกกับตัวร้ายที่ฉลาดพอๆ กัน ทันเล่ห์เหลี่ยมกันและกัน มันอ่านสนุก มันลุ้น จนอ่านรวดเดียวจบครับ”

‘กุลวีร์’ กับโครงการอ่านเอาก้าวแรก

ก่อนที่เขียนเรื่องนี้ก็กุลวีร์เคยเขียนนิยายจบมาแล้วหนึ่งเรื่อง แต่เขารู้สึกว่าเนื้อเรื่องไม่ได้ชวนน่าติดตามนัก จึงไม่ได้เผยแพร่ให้ผู้อื่นอ่าน นอกจากนี้ยังมีเขียนเรื่องสั้นที่ลงในอ่านเอา ในโปรเจ็กต์ Anowl Showcase ถึง 4 เรื่อง ได้แก่ คุยกันวันรถติด, คนลืมกับคนจำ, นานกว่าเคย และ ไดอารี่พลิกล็อก

“จริงๆ แล้วผมเข้าร่วมโครงการอ่านเอาก้าวแรกรุ่น 1 ด้วยนะครับ ซึ่งตอนนั้นทำให้ผมภูมิใจว่าสามารถเขียนนิยายจบหนึ่งเรื่อง หลังจากนั้นผมยังเขียนต่อไปเรื่อยๆ จนได้ข่าวจากหน้าเพจเฟชบุ๊กของอ่านเอาว่า มีโครงการอ่านเอาก้าวแรกรุ่น 2 จึงตัดสินใจสมัครทันทีโดยไม่ลังเล เพราะอยากได้โอกาสอีกครั้งหนึ่ง และยังได้เจอครูหรือพี่ๆ ทั้งสามคนที่เป็นวิทยากรเหมือนเคย นอกจากนั้นยังได้เจอคนอยากเขียนในคลาสอีกด้วย

“สำหรับผมนะครับ สิ่งที่ได้รับจากการเข้าร่วมในครั้งนี้ คือโอกาสอย่างแท้จริง เพราะหลังจากเข้าอบรมและเขียนงานออกมาแล้ว ยังได้รับความสนใจในเรื่องที่เขียนนำไปทำละครทางช่อง One31 อีกด้วย โดยส่วนตัวผมรู้สึกว่าแค่เขียนจบและได้ลงในเว็บไซต์ให้คนอื่นๆ ได้อ่านก็น่าภูมิใจมากแล้ว แต่สิ่งที่ได้จากโครงการ มันคือโอกาสที่ไม่คาดคิดว่าคนอย่างผมจะได้รับ เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่หนึ่งในสามที่ได้รับรางวัลในรุ่นนี้ แต่กลับได้รับความสนใจ จึงเป็นเรื่องที่น่ายินดียิ่งสำหรับนักเขียนมือใหม่อย่างผมจริงๆ ครับ

“โครงการอ่านเอาก้าวแรกทั้งสองรุ่น คือที่ที่ให้โอกาสกับผมอย่างจริงแท้ ถ้ามีคำใดที่มีความหมายมากกว่าคำว่า ขอบคุณมากๆ กับที่แห่งนี้ ผมคงนำมาใช้ และยังต้องขอบคุณทุกคนที่มีส่วนให้นิยายในเรื่องนี้ได้ออกสู่สายตาแก่คนอ่านอีกด้วยครับ ผมลองถามตัวเองว่า ถ้าการเข้าร่วมรุ่น 2 ไม่ได้รับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างปัจจุบันนี้ ถ้ามีรุ่นต่อๆ ไป จะเข้าร่วมไหม ผมยังอยากไปเข้าร่วมนะครับ เพราะมันคือโอกาสสำหรับทุกคน หากคนคนนั้นต้องมีความพยายาม และไม่หยุดที่อยากจะก้าวครับ”

รู้จักกับ ‘ร่างสลับอัปสรา’

ร่างสลับอัปสรา เป็นนวนิยายที่ผมลองเปลี่ยนตัวเองจากที่อยากเขียนนิยายดราม่ารสขมมาเป็นเหนือจริง ฟีลกู๊ด คอเมดี้ แรงบันดาลใจมาจากตอนดูการประกวดมิสยูนิเวิร์สที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ซึ่งจริงๆ แล้ว ผมเองไม่เคยดูการประกวดสาวงามมาก่อนเลยนะครับ แต่ระหว่างที่ดูก็เกิดความคิดขึ้นมาว่า ถ้าคนไม่สวยไปอยู่บนเวทีตอนที่ได้มงกุฎจะรู้สึกยังไง จึงเกิดเป็นพล็อตเรื่องนี้ขึ้นมา ซึ่งธีมของเรื่องคือ ของที่ไม่ใช่ของของเราควรคืนให้แก่เจ้าของที่แท้จริงไป ส่วนฉากหลักของเรื่องคือท้องทุ่งนา ซึ่งเป็นเรื่องใกล้ตัวของตัวเอง เพราะตอนเด็กๆ ผมก็วิ่งเล่นลุยโคลนในท้องนานี่ละครับ

“เรื่องราวของ ‘ร่างสลับอัปสรา’ จะเกี่ยวกับสาวขี้เหร่บ้านทุ่งที่สลับร่างกับสาวสวยเมืองกรุงในตอนที่กำลังจะได้สวมมงกุฎสาวงาม จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อสองคนนี้สลับการใช้ชีวิตกัน แต่ยังไม่พอเพียงเท่านั้น เมื่อสาวกรุงอยากได้ร่างสวยของตนคืนจึงคิดทวงร่าง ขณะที่สาวบ้านทุ่งขี้เหร่อยากสวย อยากได้มงกุฎสาวงาม ทำให้ลุ้นกันไปว่าตัวละครแต่ละตัวจะได้ตามความต้องการหรือไม่ ใครจะคู่กับใคร สุดท้ายแล้วสองสาวจะอยู่ในร่างไหน จะมีสักกี่คนสมหวัง และนางอัปสรามาข้องเกี่ยวข้องยังไง ต้องติดตามอ่านกันนะครับ

“นอกจากความสนุกชวนติดตามและเสียงหัวเราะที่จะได้ขณะอ่านเรื่องนี้แล้ว ผู้อ่านอาจได้กลิ่นท้องทุ่ง บรรยากาศท้องนา การปลูกข้าวตั้งแต่การไถนาจนถึงเก็บเกี่ยวเป็นเมล็ด ตลอดจนการทำอาหารและขนมบางชนิดที่ตั้งใจสอดแทรกเข้าไปด้วย ผมไม่รู้ว่าจะสื่อถึงคนอ่านได้มากแค่ไหนนะครับ แต่อยากให้ลองอ่านเรื่องนี้ ลองทำความรู้จักกับตัวละครในเรื่องไปจนจบ อยากให้ผู้อ่านรู้ว่า… บางทีคนธรรมดาอย่างเราก็สามารถเป็นพระเอกนางเอกของเรื่องได้เช่นกันครับ แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ก็ขอย้ำอีกครั้งครับว่า ของที่ไม่ใช่ของเรา จงคืนให้แก่เจ้าของที่แท้จริงไปดีกว่าครับ วันนี้เป็นของเรา วันหนึ่งก็ต้องกลับไปเป็นของเขาอยู่ดี แต่คำพูดเหล่านี้ต้องการสื่ออะไร ร่างสลับอัปสราจะบอกคุณครับ”

ใช่ค่ะ อะไรที่ไม่ใช่ของเรา ก็จงคืนให้กับเจ้าของที่แท้จริงจะดีที่สุด แต่สำหรับของจริงที่ไม่ต้องยืมใครมาชั่วคราวก็คือผลงานเรื่องต่อไปที่กุลวีร์เตรียมไว้เพื่อมอบให้กับคุณผู้อ่าน เพราะเขาบอกว่า ณ ตอนนี้ กำลังเขียนนิยายเรื่องใหม่แล้วนะคะ

“ผมกำลังเขียนนิยายเหนือจริงเรื่องที่สองอยู่ครับ และกำลังจะเขียนจบในไม่ช้า มีนิยายหลายเรื่องที่หยิบยกวรรณคดีไทยมาเกี่ยวข้อง บางเรื่องนำตัวละครมาเกี่ยว บางเรื่องเข้าไปในวรรณคดีนั้นๆ แต่นิยายของผมที่กำลังเขียน แค่ขอนำสิ่งที่เกิดขึ้นในวรรณคดีไทยมาใช้กับชีวิตจริงของคน แต่จะเป็นอะไรนั้น บอกชื่อก็คงได้รู้กันครับ ถ้าอย่างนั้นขอปิดชื่อไว้ก่อนดีกว่าครับ และตอนนี้กำลังคิดพล็อตเรื่องให้แก่เขมินทร์ (หนึ่งในตัวละครในเรื่อง ‘ร่างสลับอัปสรา’) ด้วยครับ มีชื่อเรื่องเรียบร้อย ถ้าอยากรู้แอบไปส่อง หรือเลื่อนดูในเฟชบุ๊กของผมได้เลยครับ

“สุดท้ายนี้ ผมขอขอบคุณจากใจกับผู้อ่านทุกท่านในอ่านเอามากๆ นะครับ ที่ให้ความสนใจเรื่อง ‘ร่างสลับอัปสรา’ ผู้อ่านทุกคนคือกำลังใจสำคัญแก่นักเขียนหน้าใหม่และมือใหม่นามว่า ‘กุลวีร์’ ขอบคุณจริงๆ ครับที่ชื่นชอบเรื่องนี้ อยากพูดคุยหรืออยากติดตามกันได้ที่เฟชบุ๊ก Velakun Klahan นะครับ“

อ่านเอามั่นใจเหลือเกินค่ะว่า ‘ร่างสลับอัปสรา’ จะทำให้คุณผู้อ่านเกิดเสียงหัวเราะได้อย่างแน่นอน และมากกว่านั้น นวนิยายเรื่องนี้ จะทำให้ได้แง่คิดในการใช้ชีวิตไม่มากก็น้อย ลองอ่านกันดูนะคะ… ร่างสลับอัปสรา โดย กุลวีร์ ค่ะ

Don`t copy text!