ปล้นดวงใจมหาสมุทร : บทนำ

ปล้นดวงใจมหาสมุทร : บทนำ

โดย : อสิตา

Loading

ปล้นดวงใจมหาสมุทร โดย อสิตา เธอและเขาเป็นลูกคนละแม่ที่แค่เห็นหน้าก็แทบพุ่งเข้ากัดกันแต่อยู่ดีๆ ท่านทวดที่ไม่ใช่มนุษย์แต่หน้าตาเหมือนโพไซดอนก็มาบอกให้ตามล่าหาเนื้อคู่ให้เจอและทั้งคู่จะตายก่อนวันเกิดครบสามสิบ! ศึกแย่งสมบัติของเจ้าสมุทรก็ว่าหนักแล้ว ยังต้องวิ่งหนีจากความตายอีก เรื่องราวจะเป็นยังไง อ่านออนไลน์ได้ที่อ่านเอา

เกลียวคลื่นกระซิบขับขาน ตำนานแห่งท้องทะเล

ครั้งหนึ่ง พวกเราเคยปล่อยให้มนุษย์ใจร้ายช่วงชิงดวงใจไป

ความรักไร้ค่าถูกขยี้จนแหลกสลาย กลายเป็นฟองทะเล

นับแต่นั้นมา…

ผู้สามารถช่วงชิงดวงใจมหาสมุทรมาครอง จะได้รับพรแสนล้ำค่า

หารู้ไม่สาปร้ายอาจตามติด รอกระหน่ำชีวิตที่เหลือให้อับปาง!

 

ผ่านเวลาจนทั้งหมดจมหายกลายเป็นเพียงเรื่องเล่า

ยังคงเป็นที่สงสัย จะไปเสาะหาดวงใจที่ว่าได้จากไหน

และมัน…หน้าตาเป็นเช่นไร

************************

บ้านนี้มีบางอย่างแห้งแล้ง…

เป็นความรู้สึก เป็นหัวใจของคนร่วมบ้านซึ่งแตกแยก

ไม่มีวันประสานรวมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว

ทำไมจะไม่รู้ เขาต้องรู้ดีสิ ก็เพราะ…ตัวเขาเองได้เฝ้าดูคนในบ้านมาเนิ่นนาน ตั้งแต่รุ่นปู่ย่า จนมาบัดนี้เสาหลักของบ้านรุ่นก่อนเพิ่งถึงแก่กรรม เขาเองสวมดำคล้ายร่วมผสมโรงไว้ทุกข์ จนตอนนี้ก็ถูกยุงรุมกัดอยู่ในความมืดด้วยสวมใส่สีที่พวกมันโปรด

ลูกหลานที่เหลือไม่รักกัน ภายในใจคนพวกนี้ก็ไม่ต่างจากเคหาสน์โอฬารซึ่งถูกแบ่งแยกเป็นสองฝั่ง ซ้าย ขวา ถูกขวางไว้ด้วยสระยาวแทรกตัดพื้นที่อย่างกับสองฝั่งคลอง เจ้าของสายตาทอดถอนใจ บางทีแตกเป็นสองคงยังไม่พอ บัดนี้ ได้เวลาจัดการขั้นเด็ดขาด ต้องสร้างความร้าวฉานให้ลุกลามจนทุกอย่างแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ

เรื่องนี้จะทำคนเดียวไม่ได้ ตลอดเวลาลงมือจำเป็นต้องคอยส่งข่าว ถึง…ท่าน

กระตุ้นให้ท่านตื่นตัว รับรู้และมีส่วนร่วม ต้องอาศัยมือที่ยิ่งใหญ่ของท่านช่วย!

เขาถอนใจอีกที จะเรียกหาคนสูงส่งเช่นนั้นย่อมไม่ง่ายเลย ที่ที่ท่านอยู่ ไม่ใช่ว่าเครือข่ายไหนๆ โทร.กริ๊งเดียวท่านจะสะดุ้งรับสาย จำเป็นต้องใช้วิธีติดต่ออย่างพิเศษ

…หลายคืนก่อน

ณ ตึกเล็กสำหรับพักอาศัยของคนทำงานในบ้านที่แยกออกไปต่างหาก เขานอนอุตุอยู่บนเตียงแคบเกินตัวอยู่สักหน่อย สะดุ้งตื่นด้วยเสียงรบกวนคล้ายเสียงคลื่น เป็นคลื่นจริงๆ คลื่นน้ำ ฟังคล้ายพรายฟองอาบไล้เม็ดทรายบนหาด ผสานลมหายใจแห่งท้องทะเล สำเนียงแสนคุ้นใจ เพราะ ‘ทะเลนั้นเป็นเหมือนถิ่นของเรา’ เขารีบงัวเงียมัวขี้ตา มือเปะปะหาบนชั้นหัวเตียง…จนควานพบหอยเบี้ยยักษ์ซึ่งวางไว้คล้ายของประดับ สัญญาณจากท้องทะเลแว่วมาจากข้างในเปลือกขาวแต้มจุดกระจายสีน้ำตาลนี้เอง ของคนอื่นอาจเป็นหอยสังข์ตามรสนิยม หรือหอยอะไรสักชนิดที่มีรูกลวงเหมือนอย่างนี้ ที่ไม่แนะนำให้ใช้เลยคือหอยทรงแหลม อย่างหอยฉมวกหรือหอยเจดีย์ซึ่งเสียบแก้วหูทะลุมาแล้วหลายราย ยิ่งเวลารับสายในความมืดโดยสติยังไม่เต็มร้อย

ท่านไม่ติดต่อมานานนัก อาจจะเกินสิบปี เขารอแล้วรอเล่า รอสัญญาณเพรียกหา รอให้ท่านบอกว่าถึงเวลาสำคัญ และคืนนี้ท่านก็ติดต่อมา ท่ามกลางเสียงซ่าผะแผ่วราวคลื่นลมปลอบประโลม ท่านเอ่ยทักทายอย่างอารมณ์ดี เขาฟังแล้วแทบตกเก้าอี้ ต้องกลั้นสะอื้น ไม่ใช่เพราะคิดถึง แต่เพราะ…คำที่ท่านเลือกใช้

“ยอ-โบ-เซ-โย้”

เขากุมขมับ ส่ายหน้าเงียบงัน…

นี่คือวิกฤติ ดูท่าชาวเราถูกอิทธิพลมนุษย์ครอบงำมากเกินไปแล้ว ที่ไม่ส่งสารมาเลย นึกไปว่าท่านคงจะเก็บตัว กบดาน เพ่งสมาธิครุ่นคำนึงถึงแผนการแก้แค้น ดุจกระเบนสมุทรซ่อนเข็มร้ายแทงคนถึงตายไว้ข้างใต้ทราย แต่ที่แท้ ท่านก็…ติดซีรีส์เกาหลี จนถึงกับเซย์ฮัลโหลกันแบบนี้!

ความจริงพุ่งเข้ากระซวกสมอง ทำเอาจิตใจซึ่งเปราะบางอยู่แล้วแทบไม่อาจทนทาน แต่เขาก็ต้องกัดฟันถือหอยเบี้ยไว้ด้วยมือสั่นระริก จะกวนตะกอนให้ท่านขัดเคืองมิได้เลย เพราะในเวลาอารมณ์ไม่ขุ่นท่านมักจะขี้เล่น เป็นมิตร

“ขอรับท่าน ผมรออยู่ รอคอยมาตลอด”

ท่านสั่งการด้วยน้ำเสียงสบายๆ นัดแนะวันคืนให้ลงมือทำสิ่งต่างๆ ยึดตามข้างขึ้นข้างแรมเหมือนเก่า เขาถอนใจ ยังดีที่ไม่ต้องคอยเปิดปฏิทินอีกแล้ว แอปพลิเคชันในโทรศัพท์มือถือของพวกมนุษย์ช่วยให้สะดวกขึ้นโข

จากคืนโน้น…

มาจนคืนนี้…

เขาสอดแนมความเคลื่อนไหวในบ้านอย่างละเอียดยิ่งกว่าเคย จนนับได้ถึงฤกษ์แรมที่ท่านสั่ง หากใช้วิธีเดียวกันแจ้งข่าว กลับไปอาจโดนตำหนิว่าเป็นวิธีที่ ไม่สมเกียรติ ท่านอาจโมโห และแรงโทสะนั้นแรงกว่าคลื่นยักษ์ ต้องเอาใจ มีพิธีรีตองมากหน่อย ต้องใช้งาน ‘สิ่งนั้น’ …หากได้เห็นมันอีกครั้งท่านคงยินดีแน่

ตึกใหญ่ถูกแบ่งเป็นคล้ายสองฟากฝั่ง แต่สุดปลายสระว่ายน้ำทรงยาวยังมีโถงรับแขกมหึมาโอบโค้งเชื่อมสองแดนถึงกัน แขกไปใครมาก็จะเห็นเรือในขวดแก้วแขวนอยู่เหนือขึ้นไป บางคราว มองแล้วรู้สึกเหมือนน้ำในนั้นกระเพื่อมไหวราวคลื่นทะเลซัดเรือโยนขึ้นโยนลง ตาฝาด ไม่ต้องมีใครไปบอกคนเหล่านั้นก็จะชิงบอกตัวเองเสร็จสรรพ เพราะใจไม่เคยเชื่อว่าในโลกยังมีบางสิ่งอยู่นอกขอบเขตการรับรู้ แต่นี่ไม่ใช่เรื่องผีสาง เป็นเรื่องราวของสิ่งมีชีวิตอย่างจริงแท้ แน่ใจได้ว่าไม่หักมุม นี่ล่าสุดก็เพิ่งรู้กันสินะ หูชั้นกลางของมนุษย์น่ะวิวัฒนาการมาจากเหงือกปลา

คงต้องเรียกว่า

เรื่องต่อไปนี้เป็นตำนานของบางสิ่งที่คนทั่วไปไม่รู้จัก

แม้มีที่มาดั้งเดิมจากทะเลเหมือนๆ กัน แต่มนุษย์ขึ้นบกมาก่อน

ส่วนพวกเรามาทีหลัง…จึงมีใจรัก หวงแหนบ้านเดิมมากกว่า!

พูดให้ตรงก็คือ หลังจากวิวัฒนาการมาเป็นคนแล้ว เราบางส่วนยังแตกต่างกับคน มีความสามารถพิเศษเฉพาะตัวแต่ละบุคคลติดมาตั้งแต่เกิด ผิวหนังไม่มีเหงื่อ สามารถขึ้นๆ ลงๆ กลับขึ้นบกแล้วลงน้ำไปใหม่ก็ยังได้ แต่เราไม่ใช่สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ ไม่ใช่เลย เป็นด้วยพลังของท้องทะเลเพรียกหา มอบอำนาจอย่างพิเศษให้คนผู้ยังมีหัวใจเชื่อมโยงถึงถิ่นเก่า

ลากเอาบันไดยาวเข้าไปยังโถงรับแขก เอื้อมสุดแขนจึงสามารถประคองเรือในขวดแก้วลงมาด้วยมือสั่นๆ หนักเอาเรื่อง น้ำทะเลแท้ๆ ข้างในกระฉอกไหว เขาประคองขวดอย่างหวงแหนออกสู่ที่แจ้ง ลงบันไดชานระเบียงไปเรื่อยๆ บันไดหินขั้นเตี้ยทอดสู่สระซึ่งส่งกลิ่นน้ำเกลือจอมปลอม ใจนึกรังเกียจ นี่มันเทียบกับกลิ่นทะเลครามได้ที่ไหน

เขาไม่ได้สนใจเรือ ต้องอุ้มขวดโดยระวังก็เพราะ…หากเพ่งดูดีๆ ในน้ำทะเลนั้นมีเงาของอะไรบางอย่างเคลื่อนไหว ไม่ใช่เงาเดียว ดีบ้าง ร้ายบ้าง มีที่เป็นพวกเดียวกันและ ‘ที่จำต้องถูกกักขังไว้’ แน่นอน พวกนี้เป็นสิ่งมีชีวิตในแง่หนึ่ง แต่คำว่า อาถรรพณ์แห่งท้องทะเล ก็อาจใช้นิยามถึงพวกมันบางตัว

…ฝากคำกระซิบส่งข่าวด้วยภาษาสำเนียงที่ชาวสมุทรสื่อสารกัน คลื่นเสียงเบาๆ สั่นสะเทือนผ่านอากาศ ผ่านมือ ส่งต่อไปยังขวดแก้วและสิ่งมีชีวิตซึ่งอยู่ภายใน มันจะว่ายไปพบ ไปบอกข่าวต่อท่าน เหมือนอย่างกับว่าตัวเขาเองไปคุกเข่ากระซิบใส่หูถึงข้างเก้าอี้ คืนแรมเช่นนี้พลังของบางตัวแรงยิ่ง จึงเคลื่อนไหวปรูดปราดอยู่ใต้น้ำ คล้ายดิ้นรนหาทางหนีจากขวด ต้องระวังให้จงหนัก ปล่อยแค่ตัวที่ต้องการไปส่งข่าวให้ท่านอารมณ์ดี

เรื่องนั้นหายห่วง ตามประวัติ ตัวเขาไม่เคยทำงานพลาด

สักครั้ง…

“ป๊าววววววว”

เสียงร้องแหลมเสียดแก้วหู สัตว์ขนขาวแต่เหมือนถูกส่งมาจากนรกพุ่งตัดหน้า ต้องเรียกว่า พุ่งมาพันขาเขาก่อนโจนหนีในพริบตา แต่เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว

เพล้งงงง!

เขาเงยขึ้นจากท่าล้มพังพาบคาบันได มองขวดแตก น้ำไหลนองจากบันไดหินลงสู่สระราวกับขั้นน้ำตก เรือเสากระโดงหักไร้ชีวิตยังตะแคงเค้เก้อยู่ไม่ไกล แต่ไอ้ตัวขาวๆ ดำๆ ที่เคยอยู่ในขวดมานับศตวรรษ พวกมันดีดตัว กระเสือกกระสนหนีลงสระหรูตรงหน้าไปจนหมดสิ้นแล้ว เงาดำมืดพุ่งวาบดิ่งลงลึก เงาสีขาวเงินโจนทะยานจนน้ำแตกกระจาย ไกลออกไป ไกลออกไป จนถึงอีกปลายสระก็หายกริบ

เมื่อเป็นอิสระจากขวด ‘ทุกที่ที่มีน้ำ’ มันสามารถเดินทางไปถึง

ทั้งตัวดี ตัวร้าย และ…ร้ายสุดๆ ออกถึงทะเลได้อย่างแน่นอน

บรรยากาศสงัดลง ทว่าเขาแน่ใจ ไม่ช้าไม่นานท่านต้องเดือด ถึงตอนนั้นหอยเบี้ยในห้องเขาคงสั่นแทบระเบิด ส่งเสียงระลอกคลื่นลมออกมาเหมือนสึนามิบุก คิดแล้วถึงกับกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ใจหวิวๆ สมองทำงานเร็วรี่หาทางหนีให้รอด ไม่กล้ารับสาย! แม้ตลอดชีวิตไม่เคยมีเมีย แต่ตอนนี้เข้าใจล่วงหน้าถึงความรู้สึกฉี่แทบราดเพราะกลัวเสียงโทรศัพท์เรียกตัว

บางทีควรรีบวิ่งไปเอาไอ้หอยกลวงๆ ไม่มีเนื้อนั้นออกมา

…ทิ้งต๋อมลงน้ำ ตามไอ้พวกบ้านั่นไปอีกสักตัว

 



Don`t copy text!