ย้อนวันวาน 8 พิกัดท่องย่านเก่า ‘ เทเวศร์ ‘

ย้อนวันวาน 8 พิกัดท่องย่านเก่า ‘ เทเวศร์ ‘

โดย : ศรัณยู นกแก้ว

Loading

 จองโรงแรมในเครือ  Accor Hotels ทุกการเข้าพักและชำระเงิน 

จะมียอดสนับสนุนเข้าสู่เว็บไซต์อ่านเอาของพวกเรา :)

 

เลาะเรียบคลองผดุงกรุงเกษมออกสู่เจ้าพระยา เทเวศร์ คือย่านเก่าแก่ริมฝั่งคลองที่ยังคงมนต์ขลัง เพราะตลอดสองฝั่งน้ำและตรอกถนนยังคงเรียงรายด้วยบ้านเก่า อาคารโคโลเนียลลูกผสมไทยยุโรป ซึ่งซุกซ่อนร้านอร่อยเจ้าดังในอดีต สุดถนนติดกับท่าเรือเทเวศร์ยังมีความสำคัญต่อหน้าประวัติศาสตร์ในฐานะที่ตั้งของวังที่ประทับแห่ง ต้นราชสกุลกิติยากร นั่นก็คือ พลตรี พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ากิติยากรวรลักษณ์ กรมพระจันทบุรีนฤนาถ พระราชโอรสองค์ที่ 12 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ วังแห่งนี้นี่เองที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ทรงประทับขณะยังทรงพระเยาว์ และมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นด้วยว่าขณะที่พี่เลี้ยงอุ้มพระองค์เดินเล่น แขกเลี้ยงวัวซึ่งเป็นเพื่อนของแขกยามประจำวังเทเวศร์ได้ผ่านมาและทำนายทายทักพระองค์ไว้ว่า “ต่อไปจะเป็นมหารานี” (1)

ปัจจุบันไร่สวนริมเจ้าพระยาในย่านเทเวศร์ถูกแทนที่ด้วยอาคาร ผู้คน อีกทั้งความร่วมสมัยที่เข้ามาผสมผสาน ทว่าสิ่งหนึ่งที่ยังไม่เจือจางคือเสน่ห์ของวันวานอันเป็นเอกลักษณ์ของย่านเก่าเทเวศร์ ลองมาดูกันดีกว่าไหมว่าถ้าจะท่องเทเวศร์กันให้ทั่วแล้วมีพิกัดไหนบ้างที่ควรแวะบ้าง?

 

  1. Eat : ตลาดเทวราช

ตลาดเทเวศน์

ติดกับท่าเรือเทเวศร์คือที่ตั้งของ ‘ตลาดเทวราช’ หรือที่คนส่วนใหญ่คุ้นชินว่า ‘ตลาดเทเวศร์’ แหล่งวัตถุดิบสำคัญของครัวกรุงเทพฯ ที่ขึ้นชื่อเรื่องผักพื้นบ้านตามฤดูกาลในภูมิภาคต่างๆ ท้ายตลาดคือแหล่งช้อปปิ้งดอกไม้ ต้นไม้ขนาดย่อม แต่ที่ดึงดูดยิ่งกว่าคือร้านอร่อยที่ตั้งอยู่โดยรอบ อย่างตำนาน ชิฟฟ่อนเบเกอรี่ ซึ่งเปิดขายเค้กชิฟฟ่อนใบเตยเป็นเจ้าแรกในย่าน นอกจากความนุ่มละมุนของเนื้อเค้กแล้ว ชิฟฟ่อนเบเกอรี่ยังมีดีที่ราคาซึ่งเป็นมิตรกับเงินในกระเป๋ายิ่งนัก

มาเทเวศร์ทั้งทีต้องไม่ลืมพุ่งตรงไป ร้านกุ๊กชม ครัวริมน้ำเจ้าพระยาที่ได้ฉายาว่าอร่อยติดดินแถมวิวติดดาว ด้วยความที่กุ๊กชมเคยทำงานในครัวโรงแรมมาไม่ต่ำกว่า 30 ปี เมนูของร้านจึงมีทั้งไทยและตะวันตก พิเศษด้วยราคาที่ใครๆ ก็เข้าถึงได้ ด้านเมนูขึ้นชื่อของกุ๊กชมต้องยกให้ประเภทสปาเกตตี มักกะโรนี และสเต๊กที่ราคาร้อยนิดๆ ก็ฟินได้

ส่วนใครต้องการลิ้มรสร้านเก๋าในวันวาน ย่านนี้มีให้เลือกนับสิบ โดยแต่ละร้านต่างก็มีเมนูประจำครัวที่แตกต่างกันไป จนทำให้อยากจะเดินแวะชิมไปเสียทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นข้าวหมกไก่สุวิมล ข้าวหมูแดงกิ้วเทเวศร์ ข้าวซอยแม่สุภาพ ผัดไทยเทเวศร์ ผัดไทยตะหลิวสั้น ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาลิ้มฮั่วเฮง โสภณลูกชิ้นหมู ดาวขนมเบื้อง  ข้าวต้มเชี่ยวชาญพานิช และ ข้าวเหนียวมูนลูกสาว ก.พานิช เป็นต้น ใครเป็นสายทัวร์กินตัวแตก ปักหมุดเทเวศร์ไว้ไม่ผิดหวัง

พิกัดและข้อมูล :

  • ตลาดเทวราช ถนนสามเสน
  • ร้านกุ๊กชม ถนนกรุงเกษม (ติดกับท่าเรือเทเวศร์) โทร. 08-5904-6936 เปิดบริการ วันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 10.00-18.30 น.
  • ชิฟฟ่อนเบเกอรี่ ถนนสามเสน โทร. 0-2281-1315 เปิดบริการทุกวัน เวลา 9.00-19.30 น. www.facebook.com/chiffonbakery (หยุดวันอาทิตย์ เว้นอาทิตย์)

Map : 

 

2. Temple : วัดเทวราชกุญชร วรวิหาร

วัดเทวราชกุญชร

มาย่านเทเวศร์แล้วไม่ได้เข้าไปเช็กอินที่ วัดเทวราชกุญชร วรวิหาร ก็เหมือนกับมาไม่ถึง แต่อย่าเพิ่งคิดว่าเป็นวัดแล้วต้องน่าเบื่อ หรือต้องตั้งใจมาทำบุญเท่านั้น เพราะที่วัดเทวราชฯ มีมากกว่าความศรัทธา ที่นี่ยังมีพิพิธภัณฑ์ไม้สักทองซึ่งเป็นอาคารปั้นหยา 2 ชั้น ใช้เสาไม้สักทองทั้งหลัง แต่ละต้นมีขนาดใหญ่ราวสองคนโอบ ด้านในพิพิธภัณฑ์จัดแสดงหุ่นขี้ผึ้งขนาดเท่าองค์จริงของพระสังฆราชแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งผู้ปั้นสามารถดึงบุคลิกที่โดดเด่นของแต่ละพระองค์ออกมาได้ชัดเจนมาก

และที่ต่างจากวัดอื่นก็คือจิตรกรรมฝาผนังในพระอุโบสถที่เปลี่ยนจากพุทธประวัติแบบพุทธนิยมมาเป็นภาพการปลงอสุภกรรมฐาน 10 ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีการฝึกวิปัสสนากรรมฐานด้วยการพิจารณาซากศพ ซึ่งแม้จะเป็นเพียงภาพแต่ก็สมจริงและน่ากลัวจริงจนเผลอยกมือขึ้นปิดตาเพื่อค่อยๆ แอบดูกันเลยทีเดียว

พิกัดและข้อมูล :

Map : 

 

ซื้อหนังสือที่ www.naiin.com ไม่ว่าเล่มใดก็ตาม

ทุกยอดการสั่งซื้อจะมีส่วนแบ่งกลับมาเพื่อสนับสนุนเว็บไซต์อ่านเอา

ชุมชนแห่งการอ่านของพวกเรา : )

 

3. Hidden Cafe: ขนมฉัน

ขนมชั้น

ท่ามกลางกระแสขนมไทยที่ได้ความนิยมจากละคร บุพเพสันนิวาส ขนมฉัน บนชั้น 5 ของอาคารพาณิชย์ คือหนึ่งในบาร์ขนมหวานที่แจ้งเกิดจากนวนิยายเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน ที่นี่คือบาร์ขนมไทยครบวงจรที่มีตั้งแต่ขนมเครื่องทอง ไปจนถึงขนมเครื่องกะทิ ใส่สไตล์และองค์ประกอบด้านความว้าวลงไปอีกนิด กลายเป็นประสบการณ์การกินขนมไทยที่มีมากกว่าความอร่อย

อย่างขนมครกที่คุ้นเคย ก็ทำให้ไม่คุ้นด้วยการหยอดแป้งขนมครกและกะทิมาในถาดหลุมทองเหลือง ปิดฝาให้ร้อนระอุ ก่อนจะให้ลูกค้าใช้ช้อนแคะขนมครกด้วยตนเองเป็นอันสนุกสนาน หรืออย่างทองม้วน ทองพับก็จับคู่มากับไอศกรีมกะทิ ส่วนขนมไทยใส่น้ำกะทิทั้งหลายก็ใส่กระทะทองเหลืองตั้งบนเตาดินเผาไว้ให้เลือกที่หน้าบาร์ ซึ่งตกแต่งแบบไทยเท่ เก๋ไม่เหมือนใคร

พิกัดและข้อมูล :

  • ชั้น 5 โรงแรม ณ บางลำพู ถนนพระสุเมรุ โทร. 08-5484-4044 เปิดบริการวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 11.00-24.00 น.
  • www.facebook.com/kanomchanthaidesserts

Map : 

 

4. Coffee Hopping : Cylub

เมื่อร้านกาแฟและร้านจักรยานมารวมกัน คาเฟ่เล็กๆ ที่ชื่อ Cylub จึงเกิดขึ้น ด้านในเต็มไปด้วยอุปกรณ์จักรยาน ซึ่งทั้งขายและนำมาประดับผนัง ส่วนเมนูก็เน้นสลัด แซนด์วิช เค้ก ไอศกรีม เสิร์ฟคู่กาแฟที่ใส่ไอเดียใหม่ๆ ลงไป

อย่างกาแฟเย็นรสต้มยำที่สดชื่นด้วยเครื่องสมุนไพร หรืออย่าง ‘ฮัก’ ก็เป็นเมนูกาแฟสุดน่ารักหอมหวานน้ำผึ้งดอกลำไย แต่มากกว่าเรื่องอาหารและกาแฟ การนั่งใน Cylub นานๆ แล้วก็เกิดแรงบันดาลใจให้อยากได้อยากมีจักรยานสวยๆ ไว้ปั่นมานั่งที่ Cylub ในครั้งหน้า

พิกัดและข้อมูล :

Map : 

 

5. Museum : ศูนย์การเรียนรู้ธนาคารแห่งประเทศไทย

จากเทเวศร์สามารถเดินเรื่อยๆ มาสู่แยกบางขุนพรหมได้ไม่ไกลมาก และ ศูนย์การเรียนรู้ธนาคารแห่งประเทศไทย ก็เป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของย่านนี้ที่ต้องห้ามพลาด เพราะนอกจากความสวยงามของอาคารในยุคโพสต์โมเดิร์นที่มีความโดดเด่นในส่วนของหลังคาแล้ว ด้านในศูนย์การเรียนรู้ฯ ยังครบถ้วนทั้งห้องสมุดด้านการเงิน พิพิธภัณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทย นิทรรศการด้านการเงินที่จะทำให้เรื่องการเงินไม่เป็นเรื่องยากอีกต่อไป

รวมทั้งพื้นที่นั่งทำงานในแบบ Co-Working Space วิวริมแม่น้ำเจ้าพระยา และที่ขาดไม่ได้คือร้านกาแฟ Pacamara ที่มีวิวสะพานพระราม 8 ให้ได้ดื่มด่ำตลอดการจิบกาแฟสายพันธุ์ไทย

พิกัด และข้อมูล :

  • 273 ถนนสามเสน แขวงวัดสามพระยา เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200
  • โทร. 0-2356-7766, www.botlc.or.th

พิกัด และข้อมูล :

  • ถนนสามเสน ใต้สะพานพระราม 8 โทร. 0-2356-7766
  • เปิดบริการวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 9.30-20.00 น.
  • www.botlc.or.th

 

6. Chef’s Table : บ้านนวล

เป็นร้านอาหารที่คิวยาวเป็นอันดับต้นๆ ของกรุงเทพฯ เลยก็ได้สำหรับ บ้านนวล ร้านอาหารรสมือแม่ที่ได้อดีตสไตลิสต์นิตยสารแฟชั่นผู้ควบตำแหน่งเชฟมาจัดแต่งให้น่านั่งท่ามกลางบรรยากาศไทยๆ ที่นี่เปิดบริการมื้ออาหารเป็นรอบคือเที่ยงและค่ำ แต่ละรอบรับได้เพียง 2 โต๊ะ รวมความจุเพียง 15 ที่นั่งต่อรอบ

ด้วยความที่เชฟเลือกใช้วัตถุดิบสดใหม่ ออกไปจ่ายตลาดแบบวันต่อวัน ลูกค้าจึงต้องสั่งอาหารล่วงหน้าเท่านั้น โดยความโดดเด่นของเมนูคือการเลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพในแต่ละฤดูกาล ทำสดใหม่ มีเสียงโขลก เสียงกระทะ เสียงสับให้ได้ยินตลอดมื้ออาหาร ที่เด็ดจริงต้องยกให้หมูผัดกะปิจากชุมพร กุ้งผัดมันกุ้ง ปลาต้มส้ม สามชั้นทอดน้ำปลา ซึ่งแม้เมนูจะธรรมดาเหมือนทำกินที่บ้าน แต่รสชาตินั้น นวล สมชื่อ

พิกัด และข้อมูล :

  • ถนนสามเสน ซอยสามเสน 2
  • จองโต๊ะผ่าน IG: baannual372 เท่านั้น

Map : 

 

7. Art : วัดราชาธิวาสราชวรวิหาร

หลายคนอาจจะรู้จักวัดแห่งนี้ในฐานะพระอารามหลวงฝ่ายธรรมยุติกนิกาย ที่ซึ่งรัชกาลที่ 4 เคยเสด็จมาจำพรรษาขณะออกผนวชและได้ก่อตั้งธรรมยุตินิกายขึ้น ณ วัดป่านอกกำแพงพระนคร ทว่ามากไปกว่าบันทึกประวัติศาสตร์หมวดพระพุทธศาสนา

วัดราชาธิวาสฯ ยังเป็นดั่งแกลเลอรีอาร์ตที่รวบรวมงานศิลปะชั้นครู อันได้แก่ ภาพสีปูนเปียกหรือเฟรสโก ซึ่งตราตรึงอยู่บนผนังพระอุโบสถซึ่งมีรูปร่างแปลกตาด้วยศิลปะขอมแบบนครวัด ผลงานการออกแบบร่างของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัตติวงศ์ นายช่างเอกแห่งยุครัตนโกสินทร์ โดยมีนาย Cario Rigoli จิตรกรชาวอิตาลีผู้วาดภาพโดมในพระที่นั่งอนันตสมาคมเป็นผู้วาดขยายและเขียนสี ซึ่งนั่นทำให้จิตรกรรมไทยของที่วัดราชาธิวาสฯ แตกต่างด้วยการเน้นความสมจริง ทั้งกล้ามมัดของร่างกายมนุษย์ และแสงเงา ต่างไปจากจิตรกรรมไทยในอุดมคติที่คุ้นเคย

พิกัด และข้อมูล :

  • ซอยสามเสน 9 ถนนสามเสน

Map : 

 

8. Stay & Dining : โรงแรม เดอะ ระวีกัลยา แบงค็อก

ระวีกัลยา

โปรแกรมย้อนวันวานในย่านเก่าเทเวศร์จะครบถ้วนทุกอรรถรสไม่ได้เลยหากไม่ได้ปิดท้ายด้วยการเช็กอินเอนกายท่ามกลางบรรยากาศไทยย้อนยุคและความร่มรื่นย์ของหมู่ไม้ใน โรงแรม เดอะ ระวีกัลยา แบงค็อก ซึ่งจะพาย้อนไปในความคลาสสิคของเรือนไทยสมัยรัชกาลที่ 6 เมื่อครั้งที่ความอ่อนช้อยของสถาปัตยกรรมโลกตะวันออกแห่งสยามประเทศมาบรรจบกับความคลาสสิกสไตล์โคโลเนียลในโลกตะวันตก

เดิมทีหมู่เรือนไม้สีเขียวไข่กาแห่งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของวังเทเวศร์ อีกทั้งยังเป็นบ้านพักของ พระนมทัต พึ่งบุญ ณ อยุธยา ซึ่งเป็นพระนมในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ต่อมาเมื่อมีการปรับปรุงให้มีความสะดวกสบายและร่วมสมัยจึงได้กลายเป็นห้องพักสไตล์ไทยบูทีกที่ให้ความไพรเวตเพียง 38 ห้อง พร้อมห้องอาหาร เดอะ ระวีกัลยา ไดนิ่ง และ Imperial Spa สปากลางกรุงซึ่งครบทั้งศาสตร์การนวดไทย และทรีตเมนต์นวดน้ำมันอโรมา ท่ามกลางสวนเขียวและความอ่อนหวานของศิลปะไทย และความไพเราะของโคลงกลอนที่นำมาตกแต่ง

ไม่ต้องเดินทางไกลไปยังรีสอร์ตต่างจังหวัดก็สามารถชาร์จพลังความผ่อนคลายให้เกิดขึ้นได้กับทรีตเมนต์ที่ผสมผสานระหว่างศาสตร์วัดโพธิ์และสถาบันสุขภาพโพธาลัย ซึ่งทั้งสองแห่งถือได้ว่าเป็นที่สุดของศาสตร์การนวดไทย ที่ทั้งชาวไทยและต่างชาติควรได้ลองเข้าไปใช้บริการกันสักครั้ง

นอกจากสปาและห้องพักที่เหมือนได้นั่งไทม์แมชชีนย้อนเวลาสู่อดีตแล้ว ถ้าจะเก็บแต้มย่านเก่าเทเวศร์ให้ครบต้องไม่พลาดห้องอาหาร เดอะ ระวีกัลยา ไดนิ่ง ซึ่งนำเสนออาหารไทยโบราณในคอนเซ็ปต์ รสมือพระนมทัต ที่จัดเต็มทั้งความครบรสแบบไทยและความประณีตอย่างสำรับชาววัง พร้อมคัดเลือกตำรับไทยโบราณหากินยากมาให้ได้ลิ้มลอง ไม่ว่าจะเป็นม้าฮ่อ หมี่กรอบ ขนมจีนซาวน้ำ ข้าวยำน้ำบูดูสายบุรี น้ำพริกลงเรือ รวมทั้งขนมไทยที่แสนธรรมดาอย่างขนมเหนียว ก็ปั้นแต่งออกมาได้ประณีตสมนาม ระวีกัลยา ที่สื่อความหมายถึง สตรีผู้สูงศักดิ์ นั่นเอง

และถ้าอยากจะละเลียดเที่ยวเทเวศน์ให้ทั่วโดยไม่เร่งรีบ เราขอแนะนำให้ไปค้างคืน Staycation แล้วค่อยๆ เที่ยวไปทีละพิกัด รับรองเลยว่าเพลิน  

พิกัด และข้อมูล :

  • ซอยเทเวศร์ 2 ถนนกรุงเกษม 
  • โทร. 0-2628-5999, www.raweekanlaya.com
  • เดอะ ระวีกัลยา ไดนิ่ง เปิดบริการทุกวัน เวลา 6.30-22.00 น.
  • www.facebook.com/RaweekanlayaHotel

RaweekanlayaHotel

 

Map : 

 

อ้างอิง : (1) หนังสือ เป็น อยู่ คือ โดย ท่านผู้หญิงเกนหลง สนิทวงศ์ ณ อยุธยา

 

 จองโรงแรมในเครือ  Accor Hotels ทุกการเข้าพักและชำระเงิน 

จะมียอดสนับสนุนเข้าสู่เว็บไซต์อ่านเอาของพวกเรา :)

Don`t copy text!