
A MIND จิตอริยะ นิยายแนวระทึกขวัญ-สืบสวน มีความเป็นโรแมนติกดรามาเข้ามาผสม ของ ’ไข่เจียวหมูสับ‘
โดย : กิ่งสุรางค์ อนุภาษ
ใครชอบนิยายแนวสืบสวนทริลเลอร์บอกเลยว่า ‘A MIND จิตอริยะ‘ ของ ’ไข่เจียวหมูสับ‘ ตอบโจทย์โดนใจแน่นอน อีกทั้งผลงานชิ้นนี้ยังได้รับรางวัลรองชนะเลิศจากโครงการช่องวันอ่านเอาปี ๔ อีกด้วย ซึ่งระหว่างรอสร้างเป็นละคร เราเลยอยากชวนแฟนๆ นักอ่านมาอ่านกันก่อนไปเลย
“ผมเป็นคนชอบนิยายแนวสืบสวนทริลเลอร์เลยอยากลองเขียนแนวนี้ดูครับ ประกอบกับได้รับแรงบันดาลใจมาจากประสบการณ์ตรงที่มักเจอกับคนนิสัยบิดเบี้ยวอยู่บ่อยๆ ซึ่งคนประเภทนี้บางคนก็ฉลาดจนสามารถเอาเปรียบคนรอบข้างได้อย่างแนบเนียน แถมยังไร้ความรู้สึกผิดอีก และอยากเขียนงานที่สะท้อนความมืดดำของคนออกมาในหลายรูปแบบ” คุ้ง-สรสิทธิ์ เลิศขจรสุข เจ้าของนามปากกากล่าว
“A MIND เรียกได้ว่าเป็นนิยายแนวระทึกขวัญ-สืบสวน มีความเป็นโรแมนติกดรามาเข้ามาผสม อาจมีกลิ่นอายของนิยายเชิงจิตวิทยาบ้างพอกลมกล่อม เน้นชีวิตที่เปลี่ยนไปของปกป้องเมื่อเขาคืนชีพมาในร่างใหม่ และพบว่ายังมีเสี้ยวของความทรงจำฆาตกรหลงเหลืออยู่ในตัว มันไม่ใช่นิยายที่ชายสองจิตแย่งพิชิตใจสาวงาม แต่เป็นการเอาชีวิตรอดจากอันตรายรอบด้าน การเสียสละ การหมกเม็ดแผนร้าย การยอมรับสิ่งที่หลบอยู่ภายในส่วนลึกของตนเอง และการกำเนิดใหม่ของความชั่วและความดีครับ”
นักเขียนหน้าใหม่เล่าให้ฟังต่อไปว่าพล็อตของนิยายเรื่องนี้เกิดขึ้นมาหลายปีแล้ว “พล็อตมีมาตั้งแต่เริ่มเขียนเรื่อง ‘เธอซึมเศร้า แต่เขา OCD’ เมื่อหลายปีก่อนแล้วครับ เพราะมันเป็นช่วงหลังจากทำงานมาได้หลายอาชีพ จึงพบเห็นความบิดเบี้ยวและตรรกะประหลาดๆ ของคนมามากพอสมควรจนเกิดเป็นแรงบันดาลใจ แต่เพราะช่วงนั้นไอเดียกับพล็อตค่อยข้างกระจัดกระจายเอามากๆ กว่าจะลงตัวก็นานเลย
“ซึ่งเรื่องย่อโดยสังเขปของนิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องในอนาคตอันใกล้ มีการก่อตั้งโครงการที่เรียกว่าโครงการ A MIND หรือที่รู้จักกันในชื่อของ ’โครงการสลับจิตเพื่อความยั่งยืนของทรัพยากรมนุษย์‘ โดยมีเป้าหมายในการสลับจิตระหว่างนักโทษประหารกับเหยื่อจากคดีฆาตกรรมหรือคดีร้ายแรง โดยเหยื่อนั้นต้องเป็นบุคคลที่สร้างคุณงามความดีให้กับประเทศ มีมันสมอง ความถนัด ศักยภาพทางร่างกายที่สูง หรือเรียกว่าอัจฉริยะ แต่ไม่จำเป็นต้องเป็นเหยื่อในคดีเดียวกับนักโทษที่จะนำมาสลับตัวด้วย ตัวฆาตกรที่ได้รับโทษประหารจะถูกเรียกว่า ‘ผู้เป็นตัวแทน’ ในขณะที่ผู้ถูกสลับจิตให้ฟื้นขึ้นมาจะเรียกว่า ‘ผู้ฟื้นสติ’
“จิตของเหยื่อจะฟื้นขึ้นมาในร่างของนักโทษ เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ในร่างกายที่แข็งแรง ส่วนจิตของนักโทษนั้นก็จะไปอยู่ในร่างที่ตายไปแล้ว ซึ่งจะเรียกว่าถูกประหารก็ไม่ผิด ต่างกันตรงแทนที่จะตายไปเปล่าๆ สองคน แต่กลับมีคนฟื้นขึ้นมาใช้ชีวิตใหม่ได้หนึ่งคน
“ตัวเอกของเรื่องคือปกป้อง-ปักษ์ดนู ชายผู้สมบูรณ์พร้อมด้วยความรู้ ความสามารถ รวมถึงมีคุณธรรม เขาเสียชีวิตเพราะเข้าปกป้องผู้บริสุทธิ์ ต่อมาจึงถูกนำร่างเข้าโครงการสลับจิต และได้ชีวิตใหม่ด้วยร่างกายของฆาตกรต่อเนื่องคนหนึ่ง เรื่องราวของเขาน่าจะไปได้สวย แต่ปัญหาที่ตามมาคือความทรงจำของคนร้ายนั้น เหมือนกับว่ามันยังหลงเหลืออยู่ในร่างกายใหม่นี้ และนั่นจะนำมาซึ่งหายนะอันยิ่งใหญ่เกินจะคาดเดา”
สรสิทธิ์บอกว่าเรื่องหลักๆ ที่ต้องการจะสะท้อนผ่านเรื่องนี้คือความดำมืดในจิตใจของคนเรานั้นมีหลากหลาย
“มีทั้งชั่วร้ายโดยจำเป็น ชั่วร้ายโดยที่รู้ว่าตัวเองก็ชั่ว แต่ไม่สามารถหยุดได้ ชั่วร้ายแบบที่ไม่เคยมองว่าตัวเองผิด และหาเหตุผลมารองรับการกระทำต่ำๆ ของตัวเอง รวมถึงชั่วร้ายแบบหลบในที่แม้แต่เจ้าตัวก็ไม่ทราบ และบางคนก็ยังชั่วร้ายและบิดเบี้ยว ทำร้ายคนอื่นโดยไม่มีเหตุผลอีกด้วย
“ในด้านอ่อนแอของแทบทุกตัวละคร ความจริงก็มาจากคนเขียนเองแหละครับ เพราะฉะนั้นตัวละครหลักทั้งหลายจึงสามารถเปลี่ยนจากคนมาดดีกลายเป็นขี้แพ้ได้ในพริบตา ส่วนด้านความบิดเบี้ยวนั้น ส่วนใหญ่ก็เอามาจากประสบการณ์จริงที่เคยมีปฎิสัมพันธ์มาครับ แล้วตัวผมก็รู้สึกแย่กับการที่คนดีๆ ต้องมาเสียชีวิตก่อนวัยอันควร การได้เขียนเรื่องนี้จึงเหมือนการปลดล็อกอะไรบางอย่างในใจของตัวเองด้วยครับ”
ถ้าจะให้พูดถึงเสน่ห์ในผลงานเรื่องนี้เขาบอกว่ารู้สึกลังเลอยู่บ้าง “แต่ถ้าในสายตาของผู้แต่งก็รู้สึกว่าตัวนิยายมันมีพื้นที่ให้ตัวละครแสดงแง่มุมออกมาได้เยอะดี ทั้งคนประเสริฐ คนชั่ว ขี้แพ้ หรือแม้แต่โรคจิตวิปริต ไม่ได้จำกัดแค่ขาวดำหรือสีเทา รวมถึงตัวร้ายรูปงามอย่าง ธาดาร์ โพ้นวิไสย ก็เป็นตัวละครโปรดของผมครับ
“สิ่งที่ผมอยากบอกนักอ่านผ่านผลงานชิ้นนี้คือทุกคนล้วนมีความบิดเบี้ยวและชั่วร้ายในใจ ซึ่งบางคนก็ชั่วปนดี แต่บางคนก็ร้ายถึงขั้นไม่พบแสงสว่างในใจแม้เพียงนิด แถมยังเก็บซ่อนไว้ได้อย่างมิดชิด คนที่ดีร้อยเปอร์เซ็นต์นั้นหายากจนแทบไม่มี แต่คนที่เลวร้ายร้อยเปอร์เซ็นต์อาจจะพบได้ง่ายกว่ามาก และหลายคนก็ทั้งเลวทั้งฉลาดจนสามารถทำร้ายคนอื่นได้อย่างง่ายดาย
A MIND จิตอริยะ เป็นผลงานนิยายเรื่องที่สองที่ได้ตีพิมพ์ เป็นผลงานที่ผมรักและตั้งใจเขียนจนแทบสลบ อยากให้เพื่อนๆ ลองซื้อไปอ่านดูกันนะครับ งานหนังสือสัปดาห์หนังสือรอบนี้สำนักพิมพ์มีทั้งนิยายและรวมเรื่องสั้นมากมายด้วย ซึ่งนักเขียนทุกคนรวมถึงพี่ๆ ทีมงานต่างก็ลงแรงลงใจกันเต็มที่ หวังอย่างยิ่งว่าจะถูกใจนักอ่านทุกท่านครับ”