สะท้อนด้านมืดและสว่างในใจ ผ่าน ‘แรมสิบห้าค่ำนี้มีปาฎิหาริย์’ ผลงานใหม่แกะกล่องของ ‘ณรัญชน์’

เคยได้ยินมาว่า อยากรู้ว่าใครคนนั้นเป็นคนอยากไร เพียงมอบเงิน มอบอำนาจให้เขา เราก็จะรู้ได้ ซึ่งงานเรื่อง ‘แรมสิบห้าค่ำนี้มีปาฎิหาริย์’ ของ ณรัญชน์ สะท้อนแนวคิดนี้ได้เป็นอย่างดี

“จุดเริ่มต้นของความคิดที่จะเขียนเรื่องเกี่ยวกับกระจกที่บอกอนาคตได้ มาจากการอ่านดวงในอินเตอร์เน็ตค่ะ สังเกตว่าเวลาเราอ่านคำทำนายราศีของเราเสร็จ ก็มักจะไปอ่านคำทำนายของราศีอื่นด้วย เวลาดวงของเราไม่ดีแต่ราศีอื่นได้คำทำนายแบบดีมากๆ ก็จะแอบริษยา อยากให้ดวงดีอย่างนั้นบ้าง เลยเอาประเด็นนี้มาแตกยอดเป็นตัวละคร ‘วิศรุต’ ที่รู้ชะตาชีวิตคนอื่น แล้วเกิดความอิจฉา ถึงขนาดแย่งชีวิตคนอื่นมาเป็นของตัวเอง” ณรัญชน์เล่าถึงแนวคิดในการสร้างผลงานชิ้นนี้

แรมสิบห้าค่ำนี้มีปาฎิหาริย์จัดเป็นนิยายสไตล์ ลึกลับ แฟนตาซี ซึ่งเป็นแนวถนัดของนักเขียน

“เรื่องนี้มีกระจกที่สามารถบอกดวงชะตาได้ แต่ก็มีดรามาผสมด้วย เพราะเนื้อเรื่องที่เหลือจะเป็นการดำเนินชีวิตของมนุษย์ปกติ ไม่ได้อิทธิฤทธิ์ปาฎิหาริย์อะไรมากมาย โดยนิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องของกันต์ เด็กยากจนที่ได้ครอบครองกระจกไฉฟู่ ซึ่งสามารถบอกชะตาชีวิตของทุกคนที่เขาต้องการรู้ กันต์ก็เลยใช้สิ่งที่รู้จากกระจกนี้ มาแย่งชิงชีวิตที่สดใสของวิศรุตมาเป็นของตัวเอง แต่แล้วการสวมรอยเป็นคนอื่นโดยมีความโลภเป็นเครื่องหล่อเลี้ยงกลับไม่ราบรื่นอย่างที่คิด เพราะธรรมะย่อมชนะอธรรม ความชั่วไม่สามารถเอาชนะความดีได้

“สถานการณ์ตลอดทั้งเรื่องก็เป็นสิ่งที่ผู้เขียนต้องการจะให้คนอ่านได้ขบคิดอยู่แล้ว แต่เหตุการณ์ที่อยากจะพูดถึงคือตอนที่วิศรุตจะทำลายชื่อเสียงห้างของธิปก ซึ่งเป็นคู่แข่งของตัวเอง เลยจ้างคนเอาใบปลิวไปโปรยเพื่อโจมตีว่าธิปกเคยโกงเงินบริษัท พอได้อ่านใบปลิวชาวบ้านแถวนั้นก็เชื่อตาม ตรงนี้สะท้อนว่าคนเราไม่ว่าจะในยุคสมัยไหน (ในนิยายคือพ.ศ.๒๕๑๐) มักจะคล้อยตามอะไรง่ายๆ เพียงแค่ได้ยินข่าวลือเท่านั้นเอง ยิ่งถ้าคนปล่อยข่าวจงใจตอกย้ำหลายๆ ครั้งก็ยิ่งเชื่อแบบฝังหัวกันไปเลย เหมือนกับคนสมัยนี้ที่รับข่าวสารจากอินเตอร์เน็ตแล้วก็มีบางคนที่เชื่อตามไป ทั้งๆ ที่ไม่มีหลักฐานยืนยันว่าเรื่องนั้นเป็นความจริงหรือเปล่า ซึ่งอันตรายมาก ถ้าหากไปเจอคนที่ไม่หวังดีเข้า

“สารที่จะบอกคือทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว ในเรื่องนี้ถึงแม้ว่าวิศรุตจะมีแต้มต่อตรงที่สามารถรู้เหตุการณ์ภายภาคหน้าว่าคนอื่นจะทำอะไรต่อไป แต่เพราะเขาเลือกที่จะทำแต่สิ่งเลวร้าย ในที่สุดเขาก็เป็นฝ่ายแพ้ เพราะความชั่วที่ทำไว้ก็ย้อนกลับมาทำลายตัวเอง ตรงกันข้ามกับธิปกซึ่งเป็นพระเอกของเรื่อง ทั้งๆ ที่ถูกกลั่นแกล้งจนตกต่ำ ต้องสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ธิปกก็ยังคงยึดมั่นในความดีและความจริงใจ และในที่สุดเขาก็เป็นฝ่ายชนะ”

ใครสนใจอยากอ่านนิยายเรื่องนี้แบบม้วนเดียวจบ แนะนำว่าให้แวะมาที่บูธ N18 ที่มั่นของสำนักพิมพ์ กรู๊ฟ พับลิชชิ่ง ในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ ๕๓ หรือสั่งซื้อผ่านของทางออนไลน์ทุกช่องทางของทางสำนักพิมพ์ นอกจากนี้ยังมีผลงานที่น่าสนใจของนักเขียนอีกหลายท่าน ใครชอบงานแนวไหนสามารถจับจองได้เลยค่า