ผจญภัยลุยน้ำลงห้วยที่ The Narrows ในอุทยานแห่งชาติไซออน
โดย : Kanonsky
อ่านเอา ไม่ได้เป็นนำเสนอเพียง นิยายออนไลน์ เท่านั้น แต่เรายังสรรหาเรื่องราวน่าสนใจรอบโลก อย่างการท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆ มาฝากกัน ในคอลัมน์ โลกกลางเลนส์ โดย Kanonsky พนักงานออฟฟิศที่ชอบสะพายกล้องไปส่องโลก
………………………………………….
เดอะแนร์โรว์ส (The Narrows) เป็นเส้นทางเดินป่าที่ผมชอบมากที่สุดเส้นทางหนึ่งในสหรัฐอเมริกาครับ ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติไซออน (Zion National Park) ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของรัฐยูทาห์ เป็นเส้นทางเดินป่าที่มีชื่อเสียงจากความสวยงามแปลกตาของสองข้างทาง เพราะว่าเราจะต้องเดินไปตามแม่น้ำเวอร์จินโดยที่สองข้างทางนั้นจะขนาบข้างไปด้วยหน้าผาหินทรายที่แคบสูงชันกว่าร้อยฟุต
หน้าผาที่สูงชันนี้เกิดจากการกัดเซาะของแม่น้ำเวอร์จินนั่นเอง โดยจุดที่แคบที่สุดจะมีความกว้างเพียง 20 ฟุตเท่านั้น นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้บริเวณนี้ถูกขนานนามว่า ‘The Narrows’
ที่ผมเล่าให้ฟังตอนต้นว่าต้องเดินไปตามแม่น้ำนั้น เอาจริงๆ แล้วมันคือการเดินในแม่น้ำเลยครับ ดังนั้น การมาเดินที่ เดอะแนร์โรว์สต้องเตรียมตัวเตรียมใจว่ามาเปียกแน่นอน ที่สำคัญกว่านั้นยังต้องตรวจสอบสภาพอากาศกับระดับน้ำของแม่น้ำเวอร์จินให้ดีก่อนออกเดินอีกด้วย เพราะเส้นทางเดอะแนร์โรว์สนั้นมีความเสี่ยงที่จะเกิด flash flood หรือน้ำหลากได้ตลอดเวลาที่ฝนตกครับ โดยทางอุทยานห้ามคนเข้าไปยังเดอะแนร์โรว์สทันทีที่อัตราการไหลของน้ำในแม่น้ำเกิน 150 ลูกบาศก์ฟุตต่อวินาทีเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว
ช่วงที่ผมไปเดอะแนร์โรว์สนั้นเป็นเดือนพฤศจิกายนที่น้ำเริ่มน้อยลงแล้ว ความลึกของน้ำก็จะอยู่ประมาณระดับเอวของผม ส่วนอันตราการไหลจะอยู่ที่ประมาณ 50-70 ลูกบาศก์ฟุตต่อวินาที จึงเดินไม่ลำบากมากนัก แต่เราก็จะพบกับความหนาวเย็นของน้ำเป็นอุปสรรคแทน น้ำในแม่น้ำเวอร์จินช่วงเดือนพฤศจิกายนนั้นอยู่ที่เลขตัวเดียวครับ ประมาณ 5 องศาเซลเซียส จึงจำเป็นต้องเตรียมอุปกรณ์กันน้ำและกันหนาว เช่น กางเกงกันน้ำ ร้องเท้าและถุงเท้ากันน้ำ มาให้พร้อม ซึ่งทั้งหมดนี้หาเช่าและซื้อได้ที่ร้านขายอุปกรณ์ปีนเขาหน้าอุทยานเลย ผมก็เช่าเอาจากร้านนี้นี่แหละครับ เพราะคงไม่ได้ใช้บ่อยๆ
การเดินที่เดอะแนร์โรว์สนั้น คนส่วนใหญ่จะนิยมการเดินแบบ bottom-up คือเป็นการเดินย้อนจากปลายน้ำที่เรียกว่า Temple of Sinawava ไปยังต้นน้ำครับ เพราะไม่ต้องขออนุญาตจากอุทยานแบบการเดิน top-down ให้ยุ่งยาก แถมอยากจะหยุดตรงไหนก็สามารถหยุดแล้วเดินย้อนกลับออกมาได้ทันที แต่ไฮไลต์หลักที่ทุกคนพยามยามจะเดินไปให้ถึงก็คือบริเวณที่แคบที่สุดและสูงชันที่สุดที่มีชื่อเรียกว่าวอลล์สตรีท (Wallstreet) ครับ เพราะเป็นจุดที่เราถ่ายรูปออกมาได้อลังการและสวยที่สุด ซึ่งบริเวณนี้จะใช้เวลาเดินประมาณสองชั่วโมงครึ่งถึงสามชั่วโมง ขึ้นอยู่กับความแรงของแม่น้ำและความสามารถในการเดินของแต่ล่ะคน โดยช่วงเวลาที่สวยที่สุดเหมาะกับการถ่ายรูปก็คือช่วงก่อนเที่ยงและบ่ายต้นๆ ครับ เพราะจะเป็นเวลาที่แสงแดดฉากกำแพงหินทรายของวอลล์สตรีทจนเป็นสีส้มทองสวยงาม
เบ็ดเสร็จแล้วการเดินที่เดอะแนร์โรว์ส เราต้องใช้เวลาเดินไป-กลับอย่างน้อยก็ 6-7 ชั่วโมงครับ และรับรองว่าเหนื่อยลิ้นห้อยแน่นอน แต่ประสบการณ์ที่ได้เห็นความสวยงามอลังการที่ธรรมชาติสร้างนั้นผมว่าก็คุ้มค่ามากๆ เช่นกัน
- READ เดินป่าฝ่าฝนพรำๆ ไปชมน้ำตกแฟรี ในออริกอน
- READ เที่ยวหุบเขา Val di Funes ในเทือกเขาโดโลมิติอิตาลี
- READ สะบักสะบอมไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ Iceberg Lake
- READ ทิวทัศน์สองข้างทางบนถนน Going to the Sun
- READ โดดเดี่ยวที่พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์
- READ พาชมปราสาทคุมาโมโต้ก่อนถล่มจากแผ่นดินไหว
- READ ใบไม้เปลี่ยนสีที่ Maroon Lake วิวสวยจับจิต อากาศหนาวจับใจ
- READ ชื่นชมธรรมชาติสไตล์ญี่ปุ่นที่หุบเขาทาคาจิโฮะ
- READ ปีนตึกหาวิวเมืองที่สวยที่สุดในมหานครนิวยอร์ก
- READ ผจญภัยลุยน้ำลงห้วยที่ The Narrows ในอุทยานแห่งชาติไซออน
- READ ชมความงดงามของโบสถ์แซ็งต์-ชาแปลในปารีส
- READ ดับร้อนที่ทะเลสาบน้ำแข็งโยกุลซาลอน
- READ เดินข้ามสะพานบรูคลิน (Brooklyn Bridge) กิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาถึงนิวยอร์ก
- READ นั่งดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ภูเขาเคิร์กจูเฟลล์ (Kirkjufell) ประเทศไอซ์แลนด์
- READ ทะเลดอกบลูบอนเน็ต ที่สวนสันทนาการมิวชูเบน
- READ วิวในฝันที่ Palouse Hills
- READ น้ำตกสุดอลังการกลางแคนยอนใน Palouse Falls State Park
- READ เดินเล่นกลางทุ่งดอกไม้ในรัฐเท็กซัส Ennis Bluebonnet Trail