หนึ่งมิจ (ฉาชีพ) ชิดใกล้ : เคร้าช์ จูเนียร์

หนึ่งมิจ (ฉาชีพ) ชิดใกล้ : เคร้าช์ จูเนียร์

โดย : นกอัญชันหางดำ

Loading

กลั่นเกลาเล่าเพลิน โดย นกอัญชันหางดำ คอลัมน์ที่ได้แรงบันดาลใจจากโลกวรรณกรรมที่มีตัวละครมากมายโลดแล่นอยู่ในใจนักอ่าน และมีเรื่องราวให้กล่าวถึงได้เสมอ คอลัมน์นี้จึงขอชวนทุกท่านมาเพลิดเพลินกับการรีวิวตัวละคร ทั้งตัวเอก ตัวร้าย และตัวประกอบ ในมุมมองเชิงเปรียบเทียบกับโลกปัจจุบัน พร้อมสอดแทรกข้อชวนคิดไว้เบาๆ

เมื่อพูดถึงดัมเบิลดอร์กับสเนป ผู้มีพลังเวทมนตร์ระดับสูงสองคนที่มีบทบาทสำคัญคอยช่วยเหลือฝึกฝนและวางหมากให้แฮร์รี่จนสามารถสู้ต่อด้วยตัวเองและได้รับชัยชนะในที่สุด ก็เปรียบได้กับการมีหัวหน้าที่ดีและรุ่นพี่ที่คอยสนับสนุนให้สามารถทำภารกิจของทีมจนสำเร็จลุล่วงได้

แม้ว่าการซัปพอร์ตของสเนปจะเป็นไปในแบบที่ห่างไกลกับคำว่า ‘อ่อนโยน’ ก็ตาม แต่ถ้าใครอยากจะอ้อนวอนขอให้โลกใบนี้ใจดีกับเราหน่อย ขอให้แคล้วคลาดจากคน Toxic ปากร้าย ขอเจอคนที่พูดจาดี ๆ คอยเป็นกองเชียร์ไม่ใช่กองแช่งคอยจิกกัดประชดประชัน ไม่เคยชื่นชม สำหรับคนที่โชคดีก็อาจจะได้พบกับแฮกริด แต่ถ้าดวงตกก็อาจจะได้พบกับบาร์ตี้ เคร้าช์ จูเนียร์ แทน

ในชีวิตจริงหากได้พบกับคนที่มีความคิดสอดคล้องกัน ดูเหมือนมีอุดมการณ์รักความถูกต้องเรื่องเดียวกัน ทำตัวเป็นปฏิปักษ์กับคนที่ไม่ชอบหน้าเรา คอยพูดจาให้กำลังใจ และยื่นมือเข้ามายามที่เราเดือดร้อนต้องการความช่วยเหลือ เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่เชื่อและเข้าข้างเราในขณะที่คนอื่นหันหลังให้ คงไม่แปลกถ้าจะรู้สึกไว้เนื้อเชื่อใจ ไม่คิดระแวงระวัง เชื่อในคำพูดและการกระทำของเขาว่าเป็นความหวังดีจากใจ แต่อย่าลืมว่า จิตมนุษย์นี้ไซร้ ยากแท้หยั่งถึง

แฮร์รี่ได้รู้จักเคร้าช์ครั้งแรกในฐานะอาจารย์สอนวิชาการป้องกันตัวจากศาสตร์มืดคนใหม่ตอนอยู่ปีสี่ (ที่จริงวิชานี้ก็มีอาจารย์คนใหม่มาให้ทำความรู้จักได้ทุกปีเลย) เปิดเทอมมาก็สร้างความประทับใจให้แฮร์รี่กับรอนได้ตั้งแต่ยังไม่เข้าห้องเรียนด้วยการลงมือกำราบมัลฟอยที่มาหาเรื่องรอนและทำร้ายแฮร์รี่จากด้านหลัง ปกติแล้วมัลฟอยจะทำตัวกร่างระรานไปทั่วไม่กลัวใครเพราะถือว่ามีพ่อเป็นกรรมการโรงเรียนและอาจารย์ประจำบ้านสลิธีรินก็มักจะให้ท้ายเด็กบ้านตัวเอง แต่ไม่ใช่กับอาจารย์ใหม่คนนี้ เขาลงโทษทันทีที่เห็นมัลฟอยทำผิด ถึงเอาพ่อมาขู่ก็ไม่กลัว แถมยังพร้อมชนกับสเนปด้วย ไม่มีเกรงใจ ซึ่งน้อยคนนักจะกล้าทำแบบนี้

สำหรับงานสอนหนังสือ อาจารย์ใหม่ทำหน้าที่ได้ดีแม้จะไม่ใช่พนักงานประจำ เป็นสัญญาจ้างแค่ปีเดียวแต่ก็สอนอย่างเต็มที่ไม่มีกั๊ก นักเรียนทุกชั้นปีกระตือรือร้นที่จะเข้าเรียน ไม่ว่าจะรุ่นแฮร์รี่หรือรุ่นพี่อย่างเฟร็ดกับจอร์จ วีสลีย์ เพราะอาจารย์คลุกคลีกับงานภาคสนามมาจริง ๆ จึงไม่เน้นตำรา แต่เน้นปฏิบัติ และเปิดโอกาสให้เด็กได้ลองมีประสบการณ์กับคำสาปโทษผิดสถานเดียวโดยบอกว่าเพื่อให้หัดรับมือกันแต่เนิ่น ๆ นักเรียนก็สนุกกันสิ กำลังอยู่ในวัยอยากรู้อยากลอง อะไรที่ดาร์ก ๆ มันก็ดูเท่ดี

แม้แต่นอกห้องเรียนอาจารย์ยังคอยช่วยเหลือให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์กับแฮร์รี่เสมอ (เช่น บอกใบ้ถึงคาถาที่ควรฝึกใช้ตอนที่ต้องสู้กับมังกร) เป็นคนแนะแนวอาชีพ จุดประกายให้แฮร์รี่อยากเป็นมือปราบมาร แถมยังช่วยให้พ้นจากเรื่องเดือดร้อนไม่ถูกสเนปจับได้ตอนที่แอบออกมาจากหอนอนตอนกลางคืนด้วย นอกจากนี้ในการประลองเวทไตรภาคีก็ยังแอบช่วยแฮร์รี่ทำภารกิจโดยไม่ออกหน้าออกตาเพื่อไม่ให้ผิดกฎหรือมีใครมาหมั่นไส้ว่าลำเอียงเข้าข้างแฮร์รี่ ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ล้ำลึกมากเพราะทำให้เจ้าตัวบอกไม่ได้ว่าใครช่วยเหลือบ้าง นอกจากนี้บางเรื่องแฮร์รี่เองไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครอยู่เบื้องหลังเพราะคนที่มาช่วยให้ข้อมูลเป็นพันธมิตรกับแฮร์รี่อยู่แล้วอย่างเช่นแฮกริด เซดริก ดิกกอรี่ และด๊อบบี้ จึงไม่เป็นที่ผิดสังเกตในสายตาใครต่อใคร ส่วนคนที่มาบอกข้อมูลก็ไม่รู้ตัวว่าถูกหลอกใช้เพราะอยากช่วยแฮร์รี่อยู่แล้วจึงไม่มีใครเอะใจ

จนกระทั่งเมื่อเกิดเหตุการณ์สำคัญและความจริงปรากฏนั่นแหละจึงจะได้เห็นถึงนิสัยใจคอส่วนลึกของคนประเภทนี้ ได้รู้ว่าที่ผ่านมาเขาหลอกได้ทุกคนแม้กระทั่งครอบครัว เขาทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ของตนเองเท่านั้น ต้องการความดีความชอบจากนายใหญ่เลยใช้คนอื่นเป็นเครื่องมือ หรือใช้ให้เป็นเหยื่อรับผิดแทน ส่วนที่น่าขำแต่หัวเราะไม่ออกคือ เขานี่ล่ะที่เป็นสาเหตุของปัญหาและอุปสรรคที่เราเจอ แต่กลับทำตัวเป็นคนที่เข้าข้างและเชื่อคำพูดเรา คอยแนะนำช่วยเหลือเป็นบุญคุณกันเสียอีก ก็ถ้าเคร้าช์ไม่ใส่ชื่อแฮร์รี่ในถ้วยอัคนีแต่แรก แฮร์รี่คงไม่โดนคนเกือบทั้งโรงเรียนเข้าใจผิดแล้วมารุมด่าและเมินเฉยใส่จนต้องเป็นทุกข์อยู่นาน แล้วก็ไม่ต้องกดดันกับการประลองที่ตัวเองไม่ได้อยากลงแข่งด้วย

ลุคที่สร้าง : เป็นมือปราบมารที่บอกว่าเกลียดผู้เสพความตายที่ยังเพ่นพ่านอยู่นอกคุก พอได้สอนหนังสือก็เอาคำสาปร้ายแรงมาสอนเด็กโดยอ้างถึงความจำเป็น เคยช่วยแฮร์รี่ยามคับขันให้รอดพ้นการลงโทษจากสเนป และแอบช่วยให้แฮร์รี่ไปถึงเส้นชัยได้เป็นคนแรกในการประลองเวทไตรภาคี

ร่างที่เป็น : เป็นผู้เสพความตายที่เคยต้องโทษติดคุกจึงเกลียดพวกเดียวกันที่เอาตัวรอดไปได้ พอมีโอกาสสวมรอยเป็นครูก็ทำร้ายจิตใจเด็กโดยแอบอ้างการสอนใช้คำสาปต้องห้ามเหมือนที่พ่อแม่เด็กเคยโดน ส่วนที่ช่วยแฮร์รี่ก็เพื่อกลบเกลื่อนความผิดของตัวเองไม่ให้ถูกสเนปจับได้ และแอบช่วยแฮร์รี่ให้ชนะการแข่งขันเพื่อส่งตัวไปให้นายใหญ่

สรุปคือปลอมทุกเรื่อง ปลอมตัว ปลอมนิสัย ทำทุกอย่างเพื่อเป้าหมายส่วนตัวโดยไม่คิดถึงความรู้สึกของใครแม้กระทั่งพ่อแม่ แม้แต่การให้หนังสือสมุนไพรศาสตร์กับเนวิลล์ก็เพราะหวังผลให้งานตัวเองสำเร็จ ไม่ได้คิดช่วยปลอบใจเนวิลล์อย่างที่แฮร์รี่คิดเอง การไม่เข้าข้างมัลฟอย ทำตัวเป็นศัตรูกับสเนปและแอนตี้ผู้เสพความตาย แม้ว่าจะมาจากความรู้สึกที่แท้จริงแต่ไม่ได้แปลว่าเขาเป็นพวกเดียวกับแฮร์รี่

ส่วนการที่ทำตัวไม่เกรงกลัวใคร คอยจับผิดคนอื่น รู้ทันเรื่องศาสตร์มืดก็ไม่ใช่เพราะเป็นมือปราบมาร แต่เพราะอยู่ฝ่ายมารเต็มตัวและหัวใจ ซึ่งเห็นได้จากตอนที่ถูกจับได้แล้วต้องขึ้นศาลว่าเขาเปิดการ์ดเป็นแพะรับบาป รับบทเป็นเหยื่อที่ถูกใส่ร้าย คร่ำครวญขอความเห็นใจ ยืนกรานแต่ว่าตัวเองไม่ผิด แต่ไม่เคยสำนึกในการกระทำที่ร้ายแรงของตัวเอง โทษแต่พ่อแม่ไม่เคยโทษตัวเองเลย เวลาทำอะไรไม่เคยนึกถึงครอบครัวแต่พอมีเรื่องก็อ้างความเป็นลูกขอให้พ่อแม่ช่วย

ที่จริงเคร้าช์มาจากตระกูลดีมีฐานะ พ่อก็มีตำแหน่งใหญ่โตที่กระทรวง เรียกว่ามีต้นทุนชีวิตดีกว่าใครหลายคน แต่กลับเลือกทางเดินที่พาตัวเองไปสู่ความตกต่ำ คบคนพาล พาลพาไปหาผิด เมื่อคบผู้เสพความตายเป็นมิตร ชีวิตจึงไปลงเอยที่จุมพิตพิฆาตจากผู้คุมวิญญาณ ในชีวิตจริงถ้าใครต้องเจอกับคนอย่างเคร้าช์ บอกเลยว่านี่คือบาปเคราะห์มาเยือนแล้ว เพราะยากที่จะแยกแยะได้ว่าคนนี้ดีแท้หรือแค่ทำตัวเนียนมาดีด้วย การมีคู่แข่งหรือศัตรูคนเดียวกันไม่ได้หมายความว่าเขาจะมาเป็นพันธมิตรกับเราเสมอไป บ่อยครั้งที่ได้เห็นว่าพอกำจัดฝ่ายตรงข้ามได้แล้วก็จะหันมาเล่นงานคนที่เหลืออยู่แทน ดังนั้นการรับมือกับคนประเภทนี้คงต้องใช้วิธีของแม้ด-อาย มู้ดดี้ตัวจริง นั่นคือ จงตื่นตัวอยู่เสมอ อย่าไว้วางใจใครง่ายนักเพื่อจะได้เตรียมตั้งรับได้ทันกับคนที่แสร้งทำเป็นช่วยเราทุกเรื่องแต่คอยจะเชือดเราตอนจบ

สำหรับคนประเภทนี้อยู่ให้ห่างไกลเป็นดีที่สุด ซึ่งการจะหลุดพ้นจากคนและสถานการณ์ที่เลวร้ายได้นั้นไม่ใช่แค่รอความช่วยเหลืออย่างเดียว แต่เราต้องกล้าพาตัวเองออกมาด้วย … เราไม่อาจเปลี่ยนตัวตนใครที่อยู่รอบตัวได้ก็จริง แต่เราสามารถเปลี่ยนคนรอบตัวเราได้นะ

Don`t copy text!