เสาหลักที่แข็งแกร่งมั่นคงและตรงแบบแผน : มักกอนนากัล

เสาหลักที่แข็งแกร่งมั่นคงและตรงแบบแผน : มักกอนนากัล

โดย : นกอัญชันหางดำ

Loading

กลั่นเกลาเล่าเพลิน โดย นกอัญชันหางดำ คอลัมน์ที่ได้แรงบันดาลใจจากโลกวรรณกรรมที่มีตัวละครมากมายโลดแล่นอยู่ในใจนักอ่าน และมีเรื่องราวให้กล่าวถึงได้เสมอ คอลัมน์นี้จึงขอชวนทุกท่านมาเพลิดเพลินกับการรีวิวตัวละคร ทั้งตัวเอก ตัวร้าย และตัวประกอบ ในมุมมองเชิงเปรียบเทียบกับโลกปัจจุบัน พร้อมสอดแทรกข้อชวนคิดไว้เบาๆ

ถึงจะต้องรับมือกับพวกที่ชอบยึดกฎเกณฑ์ข้อบังคับหรืออ้างหลักการผิด ๆ เพี้ยน ๆ อย่างอัมบริดจ์กันอยู่บ้าง แต่อย่าเพิ่งถอดใจและกลายเป็นพวกแอนตี้กฎระเบียบแบบเหมารวมไปเสียก่อน เพราะถึงอย่างไรก็เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการอยู่รวมกันของคนหมู่มากในสังคม นอกจากนี้คนเจ้าระเบียบเจ้าหลักการก็ไม่ได้บ้าอำนาจจนไม่ฟังเสียงใครไปเสียทุกคน เป็นเรื่องดีหากองค์กรหนึ่งจะมีทั้งคนรุ่นเยาว์แบบเฮอร์ไมโอนี่ และมีรุ่นใหญ่แบบ มิเนอร์ว่า มักกอนนากัล คอยช่วยกันตักเตือนดูแลและขับเคลื่อนทีมในแต่ละสถานการณ์

มักกอนนากัลมีบทบาทในหนังสือชุดแฮร์รี่ พอตเตอร์ตลอดเล่มหนึ่งจนถึงเล่มเจ็ด แม้จะไม่ได้เป็นคนสำคัญถึงขนาดเป็นจุดเปลี่ยนของเรื่อง ไม่ได้เป็นคนแรกที่แฮร์รี่นึกถึงและวิ่งไปหาทุกครั้งเมื่อเกิดเรื่อง แต่ก็มักจะเป็นคนแรกที่ไปถึงที่เกิดเหตุและช่วยบรรเทาเหตุการณ์ไว้ได้ นอกเหนือจากการเป็นอาจารย์สอนวิชาแปลงร่าง อาจารย์ประจำบ้านกริฟฟินดอร์ และรองอาจารย์ใหญ่ของฮอกวอตส์ซึ่งเป็นเบอร์สองรองจากดัมเบิลดอร์ (นี่ก็ถือว่าเยอะนะทำหน้าที่ไม่ซ้ำมีงานประจำได้ทุกบทบาทแบบนี้) ถึงจะไม่ได้รับมอบหมายภารกิจพิเศษอื่น ๆ แต่คนแบบมักกอนนากัลถือเป็นกำลังหลักที่ไม่อาจขาดไปได้เลย เปรียบเหมือนรุ่นพี่อาวุโสที่เก่งจริงและสั่งสมประสบการณ์มานาน พร้อมช่วยดูแลคนในทีมให้อยู่รอดปลอดภัย ปกป้องให้พ้นจากคนที่มาหาเรื่องอย่างไม่เป็นธรรม ขณะเดียวกันหากเด็กทำผิดก็พร้อมสั่งสอนและลงโทษตามความจำเป็นเพื่อให้เด็กได้เรียนรู้และหลาบจำ (ต่างจากสเนปที่ชอบแกล้งเอาหูไปนาเอาตาไปไร่เวลาเด็กสลิธีรินทำผิด เรามักจะได้เห็นมักกอนนากัลหักคะแนนความประพฤติเด็กบ้านกริฟฟินดอร์ด้วยตัวเองอยู่เรื่อย ๆ แฮร์รี่กับเนวิลล์นี่ขาประจำ แอนเจลิน่า จอห์นสัน กัปตันทีมควิดดิชบ้านกริฟฟินดอร์ตอนแฮร์รี่อยู่ปีห้าก็เคยโดน แม้แต่เฮอร์ไมโอนี่ก็ไม่เว้น)

ในฐานะครู มักกอนนากัลคอยอบรมสั่งสอนนักเรียนตามแนวทางที่ควรเป็น ไม่อ่อนข้อกับเรื่องวิชาการ แต่ก็ยืดหยุ่นรับฟังเหตุผลยอมปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์และความจำเป็น โดยเฉพาะถ้าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการฝึกฝนและพัฒนานักเรียน ตอนปีหนึ่งยอมให้แฮร์รี่ร่วมทีมควิดดิชประจำบ้านเพราะเล็งเห็นถึงศักยภาพที่ซ่อนอยู่ แม้อาจจะดูเหมือนเสียเปรียบเพราะอายุและประสบการณ์น้อยกว่าผู้เล่นทีมอื่นแต่แฮร์รี่ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ตอนปีสามยอมไปขอเครื่องย้อนเวลาจากกระทรวงเวทมนตร์เพื่อให้เด็กที่มีมันสมองเป็นเลิศอย่างเฮอร์ไมโอนี่ได้มีโอกาสเข้าเรียนครบทุกวิชาที่เกินจำนวนปกติที่คนอื่นเรียน เพื่อให้ได้ลองเรียนรู้และตัดสินใจด้วยตัวเองว่าแค่ไหนควรพอ และตอนปีหกก็ยังช่วยแนะแนวให้คำปรึกษาเนวิลล์ให้คลายความกดดันและเลือกเรียนตามความสามารถที่เหมาะสม รวมทั้งช่วยเจรจากับย่าของเนวิลล์ไม่ให้บังคับเด็กลงวิชาเรียนตามใจผู้ปกครองทั้งที่เด็กไม่ถนัดด้วย

ไม่เพียงแค่บ้านกริฟฟินดอร์ ถึงจะเป็นเด็กสลิธีรินมักกอนนากัลก็ยื่นมือเข้าช่วยเหลือหากเห็นว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องเหมาะสมและผิดระเบียบ อย่างเช่นตอนปีสี่ที่มัลฟอยถูกลงโทษโดยอาจารย์คนใหม่ใช้วิธีแปลงร่างให้กลายเป็นตัวเฟเร็ต นอกจากนี้กับเพื่อนร่วมงานที่เป็นอาจารย์ด้วยกัน มักกอนนากัลก็ไม่เคยแสดงพฤติกรรมวางอำนาจเหนือใคร (ถ้ารัศมีความเข้มงวดจะแผ่ออกมาเองจนทั้งครูทั้งนักเรียนเกิดความเกรงใจไม่กล้าหือเองนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง) มีอะไรก็พูดคุยหารือฟังความเห็น ให้ความสำคัญกับทุกคนแม้แต่แฮกริด ให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องมีโอกาสแสดงความคิดเห็นร่วมกันก่อนการตัดสินใจในเรื่องสำคัญเกี่ยวกับองค์กร อย่างเช่นตอนปีหกหลังเหตุการณ์พิฆาตบนหอคอย และแม้แต่กับเป็นคนที่มีอุปนิสัยและความคิดเห็นขัดแย้งกันมาโดยตลอดอย่างอาจารย์ประจำวิชาพยากรณ์ศาสตร์ ไม่เคยแม้แต่จะคบหาสนิทสนมกันในเวลาส่วนตัว ดูเหมือนคนที่ไม่ชอบหน้ากันซึ่งไม่มีวันเข้ากันได้ด้วยซ้ำ แต่เมื่อทรีลอว์นีย์ถูกอัมบริดจ์เล่นงานและไล่ออก มักกอนนากัลเป็นคนแรกที่ออกหน้ามาขัดขวางและแสดงน้ำใจกับทรีลอว์นีย์จนดัมเบิลดอร์มีเวลาตามมาจัดการเองได้ในที่สุด

ในฐานะรองหัวหน้า มักกอนนากัลก็พร้อมสนับสนุนดัมเบิลดอร์ในทุกสถานการณ์ อะไรที่ไม่เห็นด้วยก็คัดค้านพูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมา และเมื่อถกเหตุผลความจำเป็นกันแล้ว แม้หัวหน้าจะไม่ได้อธิบายเรื่องทั้งหมด ก็ไม่ได้น้อยอกน้อยใจว่าถูกลดความสำคัญหรือเกิดงอนจนทิ้งงาน ไม่ถือตัวว่าเก่งจนต้องให้ใคร ๆ มาง้อขอความช่วยเหลือ ยังคงให้ความร่วมมือกับทีมอย่างเต็มที่เช่นเคย คงเป็นเพราะคนที่เก่งจริงนั้นจะมีความภาคภูมิใจในตนเองอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องให้ใครมายกย่องเขาก็รู้คุณค่าของตัวเอง ไม่ต้องมาคอยอิจฉาหาเรื่องใคร เอาเวลาไปพัฒนาตัวเองดีกว่า ต่างจากคนแบบอัมบริดจ์หรือมัลฟอยที่ถึงจะมีตำแหน่งสูงหรือร่ำรวยก็ไม่ทำให้มีความสุขอย่างแท้จริง เพราะไม่ว่าจะวางโตข่มเหงรังแกดูถูกผู้อื่นสักกี่คนก็ไม่อาจช่วยลบปมด้อยในใจได้

ในเล่มเจ็ดตอนศึกสุดท้ายที่ฮอกวอตส์จะเห็นได้ว่ามักกอนนากัลเป็นคนที่รับฟังเหตุผลโดยคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมเป็นอันดับแรกและไม่ลืมยึดเรื่องความปลอดภัยของเด็กเป็นที่ตั้ง แต่ก็ยังให้สิทธิ์เลือกเองหากใครจะร่วมต่อสู้ก็ไม่ห้ามถ้าอายุครบเกณฑ์แล้ว อีกทั้งยังเป็นคนที่ตัดสินใจตั้งกองกำลังต่อสู้กับจอมมารเพื่อถ่วงเวลาให้แฮร์รี่ไปตามหาฮอร์ครักซ์ตามคำสั่งของดัมเบิลดอร์ ถึงรู้ว่าพลังเวทมนตร์จะสู้จอมมารได้ไม่ตลอดรอดฝั่งก็ไม่เกรงกลัว เรียกว่าเป็นคนที่ใจถึงและเป็นที่พึ่งได้เสมอ

สำหรับมักกอนนากัลความเชี่ยวชาญในการแปลงร่างไม่มีผลกับตัวตนที่แท้จริงข้างในที่มีความมั่นคงเข้มแข็งและมีความภักดีไม่มีแปรเปลี่ยนตามการเปลี่ยนแปลงจากภายนอก การที่สิ่งต่าง ๆ จะดำเนินไปได้ตามปกติก็ต้องอาศัยคนที่กล้าหาญมั่นคงยืนหยัดในหลักการที่ถูกต้องแบบนี้ล่ะ เป็นงานที่สำคัญไม่น้อยกว่างานสายลับสองหน้าหรืองานหลักอย่างการทำลายฮอร์ครักซ์เลย เพราะเมื่อแต่ละฝ่ายต่างทำหน้าที่ในความรับผิดชอบของตัวเองอย่างเต็มที่ ก็จะเป็นการเติมเต็มซึ่งกันและกันซึ่งจะช่วยพาทีมให้บรรลุเป้าหมายได้ในที่สุด

ปล. ในฐานะทาสแมว ขอขอบคุณมักกอนนากัลกับเฮอร์ไมโอนี่ที่ทำให้ภาพลักษณ์ของแมวไม่ดูแย่จนเกินไปเพราะการไปมีส่วนข้องเกี่ยวกับอัมบริดจ์ในแง่ที่มีผู้พิทักษ์เป็นร่างแมว เนื่องจากมักกอนนากัลเองก็มีร่างแปลงแอนนิเมจัสเป็นแมว และเฮอร์ไมโอนี่ก็มีแมวครุกแชงก์ที่แสนฉลาดเป็นสัตว์ประจำตัว แยกแยะฝ่ายดีฝ่ายชั่วได้เก่งกว่าคนอีก แมวคงเป็นสัตว์พิเศษ นอกเหนือจากการเป็นตัวของตัวเอง ฉลาด รู้จักเลือกวิธีจัดการใครต่อใครได้อยู่หมัด (อุ้งตีนมังคุด) แล้ว คงมีความผูกพันอะไรบางอย่างเกี่ยวกับคนเจ้าหลักการพวกนี้กระมัง

Don`t copy text!