ไพ่เดท – ไพ่ทาวเว่อร์

“อ่านเอาเล่าเรื่อง” คอลัมน์ที่รวมบทความจากผู้เข้าอบรมในโครงการ อ่านเอาเล่าเรื่อง ที่จัดโดยเว็บไซต์อ่านเอา โดยโครงการนี้ เป็นโครงการที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้นำเรื่องราวที่ประทับใจของตัวเองมาถ่ายทอดในรูปแบบเรื่องเล่า และสานฝันสำหรับทุกคนที่อยากเริ่มต้นสู่เส้นทางการเป็นนักเขียน

“โอ๊ย ดีใจจังพี่รับสายแล้ว หนูอยากคุยกับพี่มากเลย หนูเปิดไพ่มาทุกวัน ได้แต่ไพ่ เดธหรือไพ่ทาวเวอร์ทุกวันเลยพี่ ช่วยหนูด้วยนะพี่”

นี่คือเสียงมาตามไลน์คอลของน้องในที่ทำงานเก่า ที่รักการเปิดไพ่ทาโรต์อย่างมาก แทบจะไปดูกับทุกคนที่ออกตัวว่ารับดู จนกระทั่งถึงกับมีไพ่ไว้เปิดเองด้วย ถือได้ว่าคลั่งไคล้ขั้นสุดเท่าที่เคยเจอมา

แทบอยากจะบอกกลับไปว่าดูครบทุกสำนักแล้วหรือยัง แต่ก็ไม่ได้ทำเพราะรู้ว่าเจ้าตัวคงกำลังเครียด เพราะปกติก็เป็นคนเครียดไปทุกเรื่อง ไม่ว่าเรื่องเล็กเรื่องน้อยอะไร ก็เป็นเรื่องใหญ่โตได้เสมอ อย่าได้มีใครทักอะไรก็ตาม

คำถามแรกที่ถามกลับไปคือ คำถามที่ถามคืออะไร แล้วได้ไพ่อะไร คำตอบจากแฟนคลับไพ่ตัวยงบอกว่า ถามเรื่องงานจะมีปัญหาหรือไม่ เปิดใบแรกไพ่เดธขึ้นมา และพอถามว่าแก้ได้มั้ย เปิดได้ไพ่ทาวเวอร์พังทลายลงมา  เลยทำอะไรไม่ถูก เหมือนวันนั้นทุกอย่างจะล่มสลายไปต่อหน้า ไม่มีกระจิตกระใจจะทำงานเลย

แค่ได้ยิน อยากถามกลับไปว่าตอนนี้ล่มสลายอย่างที่คิดแล้วหรือเปล่า ก็ยังเห็นอยู่ปกติ กินหมูกระทะแก้เครียดอยู่ไม่ใช่เหรอ เพราะเพิ่งโพสต์ลงเฟซบุ๊กอยู่สักพัก

ไพ่ทาโรต์ หรือที่บางคนอาจเรียกว่าไพ่ยิปซี เป็นศาสตร์ที่กำลังได้รับคำนิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน แต่จริงๆ แล้วมีมานานมาก รู้จักกันในวงแคบ จนขยายกว้างออกไป จนมีคนให้ความสนใจมากมาย บางคนก็เชื่อมาก บางคนก็ไม่เชื่อเลย ปนๆ กันไป

การอ่านไพ่ตามความหมายที่ศิลปินสร้างสรรค์ไพ่ ให้ความหมายของไพ่แต่ละใบมีความหมายโดยตรง และโดยอ้อมที่อาจต้องใช้การตีความทางหลักจิตวิทยา หลักการเหตุและผล และหลักการอื่นๆ อีกมากมายประกอบกันเข้าไป จะดูแต่หน้าไพ่อย่างเดียวก็อาจไม่ได้ความหมายที่แท้จริง

อย่างที่แฟนคลับตัวยงถามครั้งแรก คือถามปัญหาเรื่องงานแล้วได้ไพ่เดธ แก้ไขได้หรือเปล่า เช่นเดียวกับได้ไพ่ทาวเวอร์ อยากจะบอกว่าความหมายที่แท้จริงของไพ่เดธที่มีภาพโดยส่วนใหญ่ ที่ใช้ไพ่ชุดไรเดอร์เวท เป็นหลัก จะเป็นภาพคนขี่ม้าข้ามคนนอน มีนักบวชยืนตรงหน้า ในขณะทีไพ่ทาวเวอร์ เป็นภาพตึกหลายชั้นกำลังไฟไหม้ คนกระโดดหนีกันออกมา ถ้ามองแค่นั้นโดยไม่มีเหตุและผลสนับสนุนอะไรเลย ก็ไม่แปลกที่จะตกใจ

แต่การดูไพ่ตามวิธีที่ถูกถ่ายทอดมา มักจะให้ตั้งคำถาม ถามต่อเนื่อง และนำทุกใบมาอธิบาย ถ้าในลักษณะที่ถามแบบนี้ คำถามแรกที่ถามว่างานจะมีปัญหามั้ย แล้วเปิดไพ่ใบเดียวได้ไพ่เดธ ความหมายที่น่าจะเป็นงานนี้อาจจะยกเลิกไป เปลี่ยนไปทำอย่างอื่นมากกว่า อาจจะเป็นเพราะโครงการเปลี่ยนกลยุทธ์​หรือมีอุปสรรค ไพ่เดธเป็นไพ่ที่ให้ความหมายของก้าวข้ามไปสู่สิ่งใหม่ ถ้าไม่อยากทำอยู่แล้ว น่าจะดีใจมากกว่าเสียใจนะ และเมื่อถามต่อว่าแก้ไขได้หรือไม่ ได้ไพ่ทาวเวอร์ก็ยิ่งตอกย้ำบอกได้ว่างานที่คุณไม่อยากทำนี้คุณไม่ได้ทำหรอก ซึ่งเป็น ความในใจของคุณที่ไม่อยากทำอยู่แล้วมากกว่า

แล้วทำไมคิดว่าคนถามไม่อยากทำ เพราะถ้าอยากทำ น่าจะตั้งคำถามกับไพ่คนละแบบ เช่น งานที่กำลังทำจะประสบความสำเร็จหรือไม่ แก้ปัญหาอุปสรรคได้ใช่มั้ย เป็นลักษณะการตั้งคำถามเชิงบวกมากกว่า  แต่ ถึงตั้งคำถามเชิงบวกแล้วได้ไพ่เดธ หรือทาวเวอร์มาอีก เช่น ประสบความสำเร็จมั้ย ได้ไพ่เดธ สามารถอ่านได้ว่า คุณกำลังได้รับงานใหม่มาทำ หรือก้าวไปทำงานเฟสต่อไป ย่อมแปลได้ว่าก็ต้องดีระดับหนึ่ง แก้ปัญหาอุปสรรคได้มั้ย ได้ไพ่ทาวเวอร์ก็หมายความว่าแก้ได้โดยจัดการเปลี่ยนคนที่ทำงานไม่ได้ออกไป หาคนที่ทำได้ มาทำ ก็จะทำให้ทุกอย่างดีอย่างที่ต้องการ ดังนั้น ควรคิดถึงปัญหาแบบนี้มากกว่าจะคิดทุกอย่างลบไปก่อน จะถามต่อ หรือพอแค่นี้ คนที่ฟังก็ใจพองฟู มีพลังต่อสู้ ทำงานต่อไปแล้ว

การดูไพ่และตีความหมายไพ่ นอกจากดูความหมายโดยตรงแล้ว คิดบวกก็สำคัญ มองทางแก้ปัญหาต่างหากที่ควรเป็นหลักในการใช้ไพ่ตอบคำถาม ไพ่ชี้ชะตาชีวิตเป็นหรือตายไม่ได้หรอก คนนี่แหละชี้ชะตาของตัวเอง ไพ่เป็นแค่แนวทางในการแก้ปัญหาหรือบอกปัญหา คนนี่แหละที่ต้องใช้สติในการแก้ไขมัน

ดูไพ่ ต้องใช้ไพ่แก้ปัญหา ไม่ใช่ให้ไพ่สร้างปัญหาให้เรา…