ความทรงจำหล่นบนพื้นดิน
โดย : ชุนเทียน
“ฝนตก แดดออก” คอลัมน์ที่รวมบทความที่เขียนถึงประสบการณ์ชีวิต ความคิด ความรู้สึกต่อเรื่องราวรอบตัวที่ชุนเทียนได้พบ…แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ แต่ถ้ามองให้ดี คุณจะสัมผัสได้ถึงอากาศสบายๆ ในยามฝนโปรย และมีความสุขทุกครั้งที่เงยหน้ามองฟ้าเมื่อแดดออกในทุกวัน
ตุ้บ! ลูกแล้วลูกเล่าที่หล่นเกลื่อนพื้นดินตรงหน้า ละมุดตันนี้กำเนิดมาจากเมล็ด รสชาติของมันละมุนลิ้น ไม่ถึงกับหวานจนแสบคอ ถ้ายังไม่สุกจัดจนงอมซะก่อน อายุเกินร้อยปีแล้ว แม่เล่าว่า ทวด (ย่าของแม่) เป็นผู้ปลูก สมัยนั้นถ้าให้ฉันเดาละก็ คงเป็นการกินแล้วโยนเมล็ดทิ้งตามพื้นดินให้ขึ้นเองมากกว่าตอนกิ่ง พืชที่ขึ้นจากเมล็ดมีรากแก้ว ส่งผลให้มันหยัดยืนต้น ใหญ่โตมั่นคงท้าทายกาลเวลามายาวนาน ต่างกับพืชที่ขยายพันธุ์โดยการตอนกิ่ง หรือปักขำ มักแข็งแรงและอายุยืนน้อยปีกว่าพืชที่มีรากแก้วหยั่งโดยเมล็ด
ตุ้บ! กระรอกตัวน้อยยังไม่ลืมตาหล่นลงตรงหน้าฉัน แหงนหน้าขึ้นไปมองบนกอไผ่ แม่มันส่งเสียงร้องดังอย่างกระวนกระวาย กระโดดปืนป้ายบนกิ่งไม้อย่างรวดเร็วไปมา มันเห็นฉันแล้วไม่กล้าลงมาเอาลูก ว่าแล้วก็หาใบตองแถวนั้นจับลูกมันไปวางบนศาลพระภูมิข้างบ้าน แล้วแอบดูอยู่ว่ามันจะมามารับลูกไหม?
นานเท่านานมันก็ไม่กล้าลงมาหาลูกสักที มิไยที่ฉันพยายามเปลี่ยนที่วางลูกมันให้ใกล้มันขึ้นเรื่อยๆ มันก็ไม่ลง
แม้กระทั่งฉันเดินออกไปจากตรงนั้นขึ้นมาทำธุระบนบ้านเป็นชั่วโมง กลับลงไปดูอีกทีลูกมันยังอยู่ที่เดิม จะว่ามันตายก็ไม่ใช่ ความที่กลัวมันจะโดนมดกัดและตากแดด ทำให้ต้องตัดสินใจไปฝากญาติข้างบ้านที่เคยเลี้ยงกระรอก ปรากฏเขารับไปเลี้ยงที่บ้านเขาจนทุกวันนี้มันตัวอ้วนพี
ไม่ใช่ลูกกระรอกทุกตัวจะโชคดีรอดชีวิต บางครั้งฉันจับมันขึ้นไปไว้บนหลังคาโรงรถที่มีร่มไม้ใบบัง เพราะเห็นแม่มันปัวนเปี้ยนอยู่แถวนั้น ผ่านไปสักพักขึ้นไปดูอีกที มันหายไปแล้ว อยากจะคิดว่าแม่มันมารับไปแล้วจะเบาใจมากกว่า
กระรอกกับสวนผลไม้ กระรอกกับสวนมะพร้าว เป็นเรื่องที่เห็นจนชิน เจ้าของสวนมักไม่ชอบพวกมัน ความที่มันชอบกินผลผลิตจากสวนเป็นหลักนั่นแหละ บางที่ถึงกับจ้างคนงานมาดักยิงเอาไปย่างกินก็เคยได้ยินบ่อยๆ มันเป็นเรื่องที่คนรักสัตว์ไม่น่าจะชอบนัก แต่มองในมุมของเจ้าของสวนก็น่าเห็นใจที่ผลผลิตถูกขโมยไปจากน้ำพักน้ำแรงที่เขาควรจะได้
‘เจ้ายุ่ง’ เป็นกระรอกตัวแรกและตัวเดียวที่เคยเลี้ยง จำไม่ได้แน่ว่าที่มาของมันมาจากไหน คงมีคนจากสวนมะพร้าวเอามาให้นั่นแหละ เราเลี้ยงมันด้วยกล้วยน้ำว้าสุกและผลไม้ตามที่มีในบ้าน เหตุเพราะมันมาเมื่อโตแล้วจึงโชคดีไปที่ไม่ต้องเลี้ยงมันแบบให้นมแพะเป็นลูกเล็ก เจ้ายุ่งอยู่กับฉันและที่บ้านประมาณปีสองปี ก็หายไป จำไม่ได้แน่ว่ามันตายเพราะแมวกัดหรือหายตัวไปเฉยๆ แต่นั่นเป็นประสบการณ์ที่มีกระรอกเป็นเพื่อนเล่น ไต่ไปมาอยู่บนตัวและซนเป็นลิงให้คอยไล่จับ
นานพอสมควรกว่าที่ฉันหายคิดถึงมัน เพราะมีสัตว์เลี้ยงอื่นให้สนใจและการเลี้ยงกระรอกในครั้งนั้นทำให้ไม่คิดจะเลี้ยงเจ้าตัวจ้อยนี้อีกเลย รู้สึกว่ามันบอบบางและต้องการการดูแลที่ใส่ใจเป็นพิเศษกว่าหมาและแมวในบางครั้ง
กระรอกกับต้นไม้ในสวน เป็นภาพเพลินตา พวกมันดูร่าเริงและมีอิสระที่จะไปที่ไหนก็ได้ บางครั้งก็ส่งเสียงร้องดังอย่างกับโดนใครรังแก พอออกไปดูกลับยืนเกาะต้นไม้กินละมุดเฉยๆ หากไม่มีผลไม้สุกให้กินละก็ ไม่แปลกใจเลยที่จะมีมะนาวหรือมะปรางดิบแหว่งเหลือครึ่งลูกหล่นอยู่เกลื่อนโคนต้น มันกินได้เกือบทุกอย่างจริงๆ มะพร้าวที่เปลือกและกะลาหนายังโดนมันเจาะกินเนื้อเหลือแต่ลูกเปล่ากลวงโบ๋หล่นใส่ตรงหน้าเกือบโดนหัวก็มีบ่อยๆ
ยามสายในวันหนึ่ง แมววัยรุ่นชื่อสีทองของที่บ้านเกิดมีเรื่องกับแมวอาวุโสกว่า มันถูกไล่หนีขึ้นไปอยู่บนตันละมุดข้างกำแพง ที่มีทั้งกระรอกกับนกกางเขน นกเอี้ยง และนกอีแพรดบินไปมาให้มันส่อง กลายเป็นที่สิงสถิตของมันทั้งวันความกลัวว่าจะโดนพี่เหลือมงาบเอาตอนกลางคืน ฉันถึงกับยกบันไดมาปีนขึ้นไปรับมันตอนโพล้เพล้
แมวสีสุวรรณทำแบบนี้เกือบทุกวันในสัปดาห์นั้น เวลามันกลัวพี่ตบก็จะหนีขึ้นต้นละมุด และเป็นฉันที่ปืนไปรับมัน ขึ้นไปฉันก็แอบมองกระรอกวิ่งข้ามไปมาบนหลังคาและกิ่งละมุด แล้ววันพลาดก็มาถึง มือเอื้อมไปคว้าแมวทั้งที่บันไดที่กำลังปืนอยู่โยกเยก กระรอกตัวหนึ่งกระโดดข้ามหัวทั้งแมวและฉัน สายตาที่หันไปมองมันทำให้เผลอก้าวข้ามบันไดขั้นสุดท้ายร่วงตุ้บ! ลงโคนต้น ขาพลิกกันกระแทกพื้น
ชั่วแวบ! ที่ลุกขึ้นมาอย่างกระโผกกระเผกได้นั้น ลืมไปหมดแล้วว่ามาทำอะไรตรงนี้ เพราะเจ็บขาและก้น!