พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 15.1 : ไม่ใช่นัมเก

พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 15.1 : ไม่ใช่นัมเก

โดย : พงศกร

Loading

พยับฟ้าพโยมดิน นวนิยายจากอ่านเอา โดย พงศกร เมื่อน้องชายฝาแฝดหายตัวไปอย่างลึกลับในหมู่บ้านกลางหุบเขาของภูฏาน เขาจำเป็นต้องทิ้งทุกอย่างเพื่อตามหาก่อนที่จะสายเกินไป เขาต้องยอมรับความช่วยเหลือจากนารีญาหญิงสาวที่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับเขาตั้งแต่แรกเจอพ่วงไปด้วย เธอคนนี้อาจเป็นคนเดียวที่ไขปริศนาต่างๆ และพาเขาไปพบกับน้องชายได้

“อาจารย์…” น้ำเสียงลิ่วลมประหลาดใจ ด้วยไม่คิดว่าอัญญาวีร์จะมาปรากฏตัวตรงนี้ได้ ไม่ใช่แค่อัญญาวีร์ แต่หลานสาวของเธอก็ตามมาด้วย “รีญา…”

“บอกลิ่วลมไปสิคะว่าคุณคือใคร”

อัญญาวีร์แค่นเสียง ไม่ได้สนใจลูกศิษย์ของเธอสักนิด

ลิ่วลมเห็นหลากหลายอารมณ์ปรากฏในดวงตาคู่ที่เคยสุขุม มันมีทั้งความรัก ความชัง ความเจ็บปวด ผิดหวัง สมหวัง ระคนอยู่ในนั้น

ชายผู้ปลอมตัวเป็นนัมเกถึงกับพูดอะไรไม่ออก เขาคงไม่คิดว่าอัญญาวีร์และหลานสาวจะเดินตามมาสมทบกับลิ่วลม ดวงตาคู่คมของเขาหันกลับไปมองทางรถที่จอดอยู่ ก่อนจะถอนใจออกมาเบาๆ เพราะเยติทั้งสามหายตัวกันไปหมดแล้ว

“ว่ายังไง” อัญญาวีร์ยังจ้องมองชายวัยกลางคนแน่วนิ่ง “หรือจะให้ฉันเป็นคนบอก”

“ผม…” ชายผู้นั้นอ้ำอึ้ง

“บอกกับทุกคนสิคะว่าคุณคือใคร” อัญญาวีร์เม้มริมฝีปากแน่น

“ตกลงมันเรื่องอะไรกันคะน้าอัญ หนูงงไปหมดแล้ว” นารีญาถาม เธอหันมองคนนั้นทีคนนี้ที “คุณลม…ผู้ชายคนนี้เป็นใคร เขาไม่ใช่นัมเก”

“เขาไม่ใช่นัมเก” อัญญาวีร์เน้นเสียงหนัก “เขาคือ…เชวัง ทินเลย์”

“เชวัง ทินเลย์” นารีญาทวนชื่อนั้นพร้อมกับนิ่วหน้า เพราะจำชื่อของคนรักเก่าของอัญญาวีร์ได้

“กลับเต็นท์ที่พักกันก่อน” นัมเกตัวปลอมหรือเชวัง ทินเลย์เอ่ยด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม ดวงตาคู่คมของเขามองแลเลยไปทางอื่น ไม่สบตากับอัญญาวีร์ “มีอะไรเรากลับไปคุยกันที่นั่น แถวนี้ไม่ปลอดภัย”

อัญญาวีร์และนารีญาไม่ได้เอ่ยถึงเยติ ตอนที่ทั้งสองมาถึง ‘เพื่อนของเชวัง’ กลับไปแล้ว ลิ่วลมไม่อยากให้ทั้งสองตื่นตระหนกจนเกินไป จึงไม่ได้เล่าเรื่องของมนุษย์หิมะให้ฟัง

เชวัง ทินเลย์เดินนำหน้า ตลอดทางที่เดินตามเขากลับไปยังเต็นท์ที่พัก ลิ่วลมสังเกตว่าอัญญาวีร์นิ่งเงียบจนผิดปกติ อาจารย์ของเขาไม่ชวนพูดคุยเหมือนอย่างเคย

“น้าของคุณโอเคหรือเปล่า” เขาปล่อยให้อัญญาวีร์เดินนำหน้าไปกับเชวัง ตัวเองเดินรั้งท้ายคู่กับนารีญา เมื่อได้จังหวะก็เลยกระซิบถามหญิงสาว

“น่าจะไม่” หญิงสาวส่ายหน้า และกระซิบตอบเขาว่า “เชวัง ทินเลย์คนนี้ น่าจะเป็นคนเดียวกับที่เคยคบน้าอัญอยู่พักหนึ่ง”

“จริงดิ” ลิ่วลมกะพริบตา

“ฮื่อ” นารีญาเล่าต่อ “ฉันไม่รู้รายละเอียดหรอกนะว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนนั้นฉันยังอยู่กับแม่ที่ต่างจังหวัด ตอนแม่เสียแล้วย้ายมาอยู่กับน้าอัญ นายเชวังอะไรนี่ก็กลับภูฏานไปเรียบร้อยแล้ว”

“คุณคิดว่าอาจารย์ยังมีเยื่อใยกับเขามะ” ลิ่วลมวิเคราะห์ “ถึงได้มาภูฏานกับผม”

“น้าอัญไม่เล่าเรื่องพวกนี้ให้ฉันฟังหรอก แต่ก็มีความเป็นไปได้” นารีญาตอบตรงๆ ตามนิสัย “เพราะเท่าที่รู้ เชวังอยู่ซัมเซ…ลึกๆ น้าอัญคงแอบหวังว่าจะได้เจอเขาอยู่เหมือนกันแหละ ฉันไม่ได้เล่าให้คุณฟัง…วันแรกที่เรามาถึง ที่อนุสรณ์สถาน น้าอัญเห็นผู้ชายคนหนึ่ง แล้วคิดว่าเป็นเชวังด้วยนะ…”

“งั้นก็คงเป็นเขานั่นละ เขาตามเรามาพักหนึ่งแล้ว” ลิ่วลมเล่าเรื่องราวโดยสรุปให้นารีญาฟัง พอเล่าจบทุกคนก็เดินกลับมาถึงเต็นท์พอดี

เยชิกับคินซานั่งรออยู่แล้ว พอได้ยินเสียงทุกคนกลับมา หัวหน้าไกด์ก็ผุดลุกขึ้น

“ผมบอกพวกคุณแล้วใช่ไหมว่าอย่าออกไปนอกบริเวณเต็นท์ ทำไมไม่ฟังกันบ้างเลย” น้ำเสียงของเยชิติดจะหงุดหงิด

“ไม่เป็นไรน่ะเยชิ ทุกคนปลอดภัยดี” เชวังโคลงศีรษะ และส่งยิ้มอ่อนโยนให้เยชิ “มีเพื่อนของผมอยู่แถวนี้…นยาลา เดียมไม่กล้ามาหรอก”

“ผมก็ลืมไปว่า…” เยชิผ่อนลมหายใจ “นยาลา เดียมเกรงกลัวเพื่อนของคุณ”

“ตกลงพวกเขาเคลื่อนย้ายต้นไม้ที่ขวางทางเสร็จเรียบร้อยแล้วนะ” เชวังว่า “เราจะไปกันต่อเลยไหม หรือจะรอให้ฟ้าสางก่อน”

“ตีสี่…” เยชิมองนาฬิกาข้อมือ “ที่จริงอีกไม่กี่ชั่วโมงก็เช้าแล้ว ถ้าจะไปกันต่อตอนนี้เลย พวกคุณไหวไหมครับ หรืออยากพักอีกสักหน่อย”

“ไปเลยค่ะ” อัญญาวีร์เอ่ยเป็นคำแรกหลังจากนิ่งมาตลอด เธอหันมาทางลูกศิษย์และหลานสาว ถามย้ำอีกครั้งว่า “ไหวใช่ไหม”

“ไม่มีปัญหาครับ” ลิ่วลมหมายความตามนั้นจริงๆ เจอเรื่องตื่นเต้นมาตลอดทั้งคืน ให้กลับเข้าไปนอนก็นอนไม่หลับแล้ว สู้ไปนอนต่อบนรถน่าจะดีกว่า

“งั้นเรารีบไปกันครับ” เยชิตัดสินใจ

เขาหันไปสั่งลูกหาบทั้งสามให้ช่วยกันเก็บเต็นท์ เตรียมตัวออกเดินทาง ลิ่วลมสังเกตว่าเยชิไม่กล้าสั่งเชวัง นอกจากไม่กล้าสั่งแล้ว ท่าทางของเขาออกจะเกรงใจด้วยซ้ำ

ใช้เวลาไม่เกินครึ่งชั่วโมง ลูกน้องของเยชิก็เก็บข้าวของเสร็จเรียบร้อย แล้วทุกคนก็เดินย้อนกลับไปที่รถซึ่งจอดทิ้งเอาไว้

จากนั้นคณะเดินทางก็เริ่มออกเดินทางต่อท่ามกลางความยะเยือกเย็นและละไอหมอกที่ลอยปกคลุมไปทั่วอาณาบริเวณ โดยมีจุดหมายอยู่ที่สถานีป่าไม้แห่งถัดไป…

 



Don`t copy text!