บ่วงพราย บทที่ 5 : ฟรีเดย์

บ่วงพราย บทที่ 5 : ฟรีเดย์

โดย : ทอม สิริ

Loading

บ่วงพราย เมื่อเจ้าของโฮมสเตย์ถูกพบเป็นศพเหลือครึ่งตัวลอยมาเกยหาด ใครๆ พากันลือกันว่าเธอกลายเป็นพรายทะเลกลับมาเพราะหวงห่วงสามีจอมเจ้าชู้ และที่กลางทะเลลึก…พรายทะเลมาปรากฏตัวให้ลลนาเห็น ขณะที่มาวินไม่เคยเชื่อว่าพรายมีจริง จนได้เห็นมันกับตา “บ่วงพราย” โดย ทอม สิริ นิยายออนไลน์ ที่ อ่านเอา อยากให้คูณได้ อ่านออนไลน์ ได้ลงจนจบบริบูรณ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทางผู้เขียนใจดีมอบ 5 บทแรกไว้ให้อ่านกันที่อ่านเอาและหากติดใจอยากอ่านต่อคุณผู้อ่านสามารถติดต่อสั่งซื้อโดยตรงได้ที่ Facebook ของนักเขียน  Facebook : Tom Siri

……………………………………………………………….

-5-

 

ลลนาตื่นแต่เช้า เพราะเสียงของช่างไฟกองถ่ายที่ตะโกนคุยกันตั้งแต่ตีห้า และเม้าซึ่งนอนตั้งแต่หัวค่ำจนอิ่มแปล้ก็ไม่ยอมให้เธอนอนต่อ สองสาวจึงลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัว เมื่อออกมาจากห้องก็เห็นมาวินนั่งอยู่ที่ห้องรับแขกด้านนอก เขาอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้วด้วย

“พี่มา ตื่นนานแล้วเหรอ” เม้าทักพี่ชาย

“ไปจ็อกกิ้งมาแล้วด้วย อาบน้ำเสร็จเลยมานั่งรอพวกเราออกไปหาอะไรกินกัน”

“หืม…อยากรู้จัง กับข้าวกองถ่ายวันนี้มีอะไรกิน” ลลนาถูมือไปมา เธอเองก็รู้สึกหิวขึ้นมาแล้วเหมือนกัน

“หลับดีไหม” คำถามบอกความห่วงใย แต่มาวินถามลอยๆ ไม่ได้เจาะจงว่าถามใคร เขาเปิดประตูบ้าน แล้วนั่งใส่รองเท้าอยู่ที่โต๊ะหินด้านหน้า

“ฮู้ย…ฉันฝันทั้งคืนเลย อะไรก็ไม่รู้เยอะแยะ” เม้ายกมือวนๆ ไปรอบหัวตัวเอง แล้วหันไปทางเพื่อน “แต่ตื่นมาลืมหมด สงสัยจะแปลกที่หรือไม่ก็กินเยอะไป แกล่ะนอนหลับไหมวะ”

“ฉันหลับรวดเดียวถึงเช้าเลย ไม่ฝันเลยสักนิด สดชื่นดีมาก” ลลนาตอบพลางเพ่งมองออกไปนอกบ้าน แล้วเดินมาหยิบรองเท้า “เฮ้ย มีรถตู้มาจอดที่บ้านคุณปริญญ์ว่ะ”

“ไหน” เม้าเดินตามมาสมทบ มองไปยังบ้านหลังที่อยู่ตรงข้ามกับบ้านของกลุ่มครีเอทีฟ ซึ่งเยื้องๆ กับบ้านพักของพวกเธอ

“น่าจะเป็นลูกค้าดำน้ำมั้ง เห็นมีฝรั่งด้วย” มาวินเดินไปปิดประตูบ้านแล้วล็อกกุญแจ “ไปๆ หาอะไรกินกันดีกว่า หิวกาแฟแล้ว” เขาออกเดินนำหน้า ไม่ได้สนใจกิจกรรมของบ้านตรงข้ามอีก เธอและเม้าจึงเดินตามไป

ซื้อหนังสือที่ www.naiin.com ไม่ว่าเล่มใดก็ตาม

ทุกยอดการสั่งซื้อจะมีส่วนแบ่งกลับมาเพื่อสนับสนุนเว็บไซต์อ่านเอา

ชุมชนแห่งการอ่านของพวกเรา : )

เต็นท์อาหารเป็นผ้าใบขนาดใหญ่ กางอยู่ตรงที่โล่งกลางลานซึ่งนั่งรอบกองไฟกันเมื่อคืน ด้านในตั้งวางชุดเก้าอี้สนามพลาสติกไว้สามสี่ชุด ทีมครีเอทีฟนั่งกันอยู่ที่โต๊ะครบทุกคน ดูจากถ้วยกาแฟและจานอาหารว่างเปล่าบนโต๊ะ ก็รู้ว่าพวกเขาอิ่มกันแล้ว

“อรุณสวัสดิ์ค้าบบบบ…” ลลนาร้องตะโกนทักทายพี่ๆ

“หิวมาละสิ เดินไปดูที่โต๊ะกับข้าวเลย อยากกินอะไรก็บอกแม่ครัวให้เขาตักมา” พิมรักยิ้มให้พลางชี้ไปที่โต๊ะยาวตัวหนึ่งด้านในของเต็นท์ที่มีหม้ออาหารใบใหญ่สองสามใบ ด้านข้างเป็นโต๊ะตัวเล็กกว่าวางเครื่องดื่มร้อนๆ อย่างชา กาแฟ ขนมเค้ก และปาท่องโก๋

สองสาวและหนึ่งหนุ่มจึงเบนเข็มไปที่โต๊ะอาหาร มาวินเดินไปที่โต๊ะกาแฟ ปล่อยให้สองสาวตื่นตาตื่นใจกับกับข้าวกองถ่ายและชี้ชวนกันสั่งอาหาร

“เช้านี้มีไข่เจียวปู ปลากะพงทอดน้ำปลา กับต้มยำกุ้งค่ะ” แม่ครัวเปิดหม้อให้สองสาวดูทีละใบ “ต้มยำกุ้งนี่คุณต้องไปปรุงรสแซ่บเองนะคะ คุณอภิภูสั่งให้ทำรสชาติแบบฝรั่งกินได้ เพราะมีแขกของคุณปริญญ์มารับประทานด้วยค่ะ” แม่ครัวอธิบายอย่างอารมณ์ดี

“มิน่าล่ะคะ เช้านี้มีแต่เมนูรสอ่อนๆ” เม้ายิ้มกับแม่ครัว

“แต่หนูว่าดูทรงแล้ว ต้องอร่อยทุกอย่างแน่นอนค่ะ” ลลนายิ้มจนตาหยี

หน้าตาอาหารน่ากินมาก ในหม้ออะลูมิเนียมใบใหญ่นั้นมีไข่เจียวปูตัดเป็นแผ่นหนาๆ ขนาดหนึ่งคนกิน เช่นเดียวกับปลากะพงทอดเหลืองกรอบที่สับเป็นชิ้นใหญ่ๆ ข้างๆ หม้อยังมีชามน้ำปลามะนาวพริกขี้หนูซอยบางเฉียบวางไว้ให้ตักกันเอาเอง ที่เป็นไฮไลต์ก็คือหม้อต้มยำกุ้งน้ำใส ที่พอเปิดฝาหม้อขึ้นมาก็เห็นควันฉุย ส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลาย ต้มยำกำลังอุ่นร้อนอยู่บนเตาชวนกิน ด้านข้างมีชามต้มยำวางเรียงเป็นตั้งสูงมีถ้วยเครื่องปรุงรสพร้อมสรรพ ทั้งน้ำปลา มะนาวหั่นชิ้น และพริกขี้หนูสวนบุบให้แตก

“คุณป้าขา หนูจะไปของานครีเอทีฟพี่ภูทำก็เพราะอยากกินข้าวกองถ่ายของคุณป้าไปตลอดชีวิตนี่ละค่ะ” หญิงสาวประจบเมื่อรับจานใส่ข้าวสวยร้อนกรุ่นมาจากแม่ครัว ทำเอาแม่ครัวหัวเราะร่วนด้วยความถูกอกถูกใจ

ลลนาไม่ได้พูดเกินจริงเลยสักนิด เธอตั้งใจว่าเรียนจบมาจะหางานทำเป็นครีเอทีฟบริษัทโฆษณาเหมือนอย่างบุษบันนั่นละ ถึงได้ขอมาดูการถ่ายทำภาพยนตร์โฆษณาในครั้งนี้ เพราะอยากเห็นบรรยากาศการทำงาน อยากรู้ว่าเขาถ่ายทำกันอย่างไร เธออยากรู้ไปหมดเสียทุกขั้นตอน ถ้าสามารถติดตามไปนั่งดูพวกเขาขายงานลูกค้าด้วยได้ เธอคงขอตามติดไปด้วยแล้ว

ลลนา เม้า และมาวินช่วยกันยกอาหารมาตั้งวางที่โต๊ะซึ่งพี่ๆ นั่งกันอยู่ พวกเธอจัดการกับอาหารตรงหน้าอย่างเอร็ดอร่อย จนพักหนึ่งนั่นละถึงได้สังเกตเห็นว่าบรรยากาศมันเงียบๆ

อภิภูและบุษบันกำลังมองไปยังพิมรักที่ยืนโทรศัพท์อยู่ห่างออกไปเล็กน้อย ที่นี่บางจุดก็อับสัญญาณโทรศัพท์ บางครั้งจึงต้องเดินหาคลื่นสัญญาณกัน หลังจากวางสายพิมรักก็เดินกลับมาที่เต็นท์อาหาร หัวคิ้วของเธอขมวดมุ่น มีความกังวลอย่างเห็นได้ชัด

“พี่ภูคะ ทางลูกค้าโทร.มาบอกว่าครีมซันบล็อกตัวที่จะใช้ถ่ายทำวันนี้มาไม่ทันค่ะ จะส่งให้ได้วันพรุ่งนี้” หญิงสาวนั่งลงพิงหลังไปกับพนักเก้าอี้

“อ้าว เราก็เสียค่าใช้จ่ายฟรีสิวันนี้ ทั้งคิวไฟคิวกล้องและทีมงาน” อภิภูเกาท้ายทอยอย่างหงุดหงิด หน้าบอกชัดว่าไม่โอเค

“พิมคุยเรื่องนั้นแล้วค่ะ ทางลูกค้าจะออกค่าใช้จ่ายส่วนที่ต้องเสียเวลานี่เอง เพราะเป็นความผิดของทางเขา” พิมรักรีบอธิบายประเด็นที่ทำให้อภิภูกังวล

“อ้าว ถ้าอย่างนั้นวันนี้พวกเราก็ฟรีเดย์สิคะ” บุษบันเป็นคนพูดกลั้วหัวเราะ บรรยากาศดีขึ้นทันตาเห็นเมื่อเงินค่าใช้จ่ายไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป

“ใช่ ได้หยุดพักหนึ่งวัน สบายไปเลย ฮ่าๆ” อภิภูหัวเราะออก “เดี๋ยวจะไปบอกผู้กำกับว่าวันนี้พักสบายๆ หนึ่งวัน เพราะสินค้ามาไม่ทัน ดีนะที่นางแบบถ่ายเสร็จกลับไปแล้วตั้งแต่เมื่อวาน ไม่อย่างนั้นลูกค้าจะเจอค่าคิวนางแบบอีกวันละอ่วมไปเลย”

“เย้ๆ ฟรีเดย์ เล่นน้ำทะเลกัน” สาวๆ ในโต๊ะชูมือขึ้นแปะกัน

“ฟรีเดย์อะไรกันหรือครับ” เสียงทุ้มใหญ่ดังขึ้น เมื่อมองไปก็เห็นปริญญ์เดินมากับหญิงสาวหน้าตาดีวัยยี่สิบกว่าคนหนึ่ง ดูลักษณะแล้วน่าจะเป็นคนไทย และมีชาวต่างชาติอีกกลุ่มเดินตามกันมา ส่วนใหญ่อายุประมาณหกสิบถึงเจ็ดสิบปีกันแล้ว เป็นชายชราสี่คน หญิงชราอีกสองคน

“อ๋อ สินค้าที่จะถ่ายวันนี้มาไม่ทันครับ พวกเราเลยได้พักกองกันหนึ่งวันเต็ม” อภิภูบอกกับปริญญ์ ขณะเดินไปยกเอากากาแฟร้อนมารินใส่แก้วของเขา และตั้งมันไว้ที่โต๊ะทั้งกาเผื่อจะมีใครละเลียดกาแฟกันต่อ ดูเหมือนไม่มีอะไรต้องรีบร้อนแล้วสำหรับวันนี้

“อ้าว อย่างนี้ก็ดีเลยสิครับ” ปริญญ์เดินไปหยิบแก้วกาแฟแล้วมานั่งลงที่โต๊ะของอภิภู เขารินกาแฟให้ตัวเอง ในขณะที่หญิงสาวที่เดินมาด้วยกันแยกไปจัดการดูแลให้ชาวต่างชาติสูงอายุนั่งโต๊ะและช่วยแม่ครัวเสิร์ฟอาหาร

“สบายละครับ วันนี้ได้นอนหาดหลังยาวไปหนึ่งวัน” อภิภูเหยียดตัวไปกับเก้าอี้อย่างสบายอารมณ์

“ไปเที่ยวดำน้ำกับพวกผมไหมครับ” ปริญญ์เอ่ยปากชวน

“ฮ้า ดำน้ำหรือคะ น่าสนใจมากเลย” พิมรักขยับตัวอย่างตื่นเต้น มองไปทางอภิภูเหมือนจะขอความเห็น

“ฟังดูเข้าท่าเหมือนกันนะ ไปดำน้ำดูปะการังกัน ว่าแต่ถ้าพวกเราไป จะรบกวนคุณปริญญ์หรือเปล่าครับ เห็นมีแขกต่างชาติไปด้วยตั้งหลายคน” อภิภูมองไปทางโต๊ะของชาวต่างชาติและหญิงสาวชาวไทยที่มาด้วยกัน พวกเขากำลังกินอาหารเช้าแบบไทยๆ อย่างเอร็ดอร่อย

ลลนาและพวกของเธอก็หูผึ่งเหมือนกัน แต่ตอนนี้ได้แต่มองคนโน้นทีคนนี้ที รอผลสรุป เพราะถ้าไปกันหมดก็ตั้งหกคน ที่นั่งในเรือจะพอหรือเปล่า

แต่เหมือนปริญญ์จะเดาใจถูก เขาเลยรีบบอก “ไปนะครับ วันนี้ผมจ้างเรือของนายพงษ์น้องชายป้าพวง เป็นเรือลำใหญ่ทีเดียว” พูดแล้วเขาก็หันมาทางกลุ่มของลลนา “เชิญน้องๆ ด้วยนะครับ ไปดำน้ำกันหลายๆ คน บรรยากาศจะได้คึกคัก ไปกันหมดนี่ได้สบาย ยังเหลือที่ว่างอีกเยอะเลย”

“หูย ขอบคุณมากเลยค่ะ” เม้าดีใจจนออกนอกหน้า การได้เก็บภาพดำน้ำดูปะการังเป็นอะไรที่ไม่ได้อยู่ในแผน แต่ถ้าได้ไป จะเป็นคลิปที่เรียกยอดคนดูได้มาก

ส่วนลลนานั้นก็อยากไปเช่นกัน เพียงแต่เธอสงวนท่าทีไม่ได้ดีใจจนออกนอกหน้าเหมือนเพื่อน ตอบไม่ได้เหมือนกันว่าทำไมถึงเกิดจะขี้อายขึ้นมา อาจเป็นเพราะดวงตาสีน้ำตาลอ่อนคู่นั้นที่มองมาสบตากับเธอละมัง มันทำให้เธอรู้สึกร้อนผ่าวที่ใบหน้า ลลนาไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อน

“เป็นอันว่าตกลงนะครับ เดี๋ยวผมจะได้ให้คนขนอุปกรณ์ดำน้ำไปเพิ่ม” ปริญญ์หันไปทางหญิงสาวที่โต๊ะชาวต่างชาติแล้วพูดกับเธอ “คุณศิ เดี๋ยวเพื่อนๆ ของผมจะไปดำน้ำด้วยนะครับ”

“โอเคเลยค่ะ ไปหลายๆ คนสนุกดี ถ้าช่วยศิชวนตายายพวกนี้คุยด้วย จะขอบพระคุณมากเลยค่ะ” หญิงสาวคนนั้นตอบกลับมาด้วยรอยยิ้มเป็นกันเอง แล้วเดินมาที่โต๊ะของพวกครีเอทีฟ

“อ้อ ผมยังไม่ได้แนะนำเลย นี่คุณศิวพร ไกด์นำเที่ยวของกรุ๊ปทัวร์คณะนี้ครับ” ปริญญ์เอ่ยแนะนำง่ายๆ

แต่ที่ทำให้ลลนาเห็นแล้วเบือนหน้าออกไปมองทางอื่น ก็เพราะมือแข็งแรงของปริญญ์เอื้อมไปโอบเอวของไกด์สาวอย่างคนที่สนิทสนมคุ้นเคย เม้าเองก็คงจะเห็นเช่นเดียวกัน เม้าเลยหันมาสบตากับเธอเหมือนจะบอกว่า แกเห็นอย่างที่ฉันเห็นหรือเปล่า แต่ลลนาก็ไม่ได้แสดงให้เพื่อนรู้ว่าเธอรู้สึกยังไงกับเรื่องนี้ เพราะถ้ามีโอกาสเม้าจะต้องพูดเรื่องความเจ้าชู้ของปริญญ์อีกแน่ๆ และคราวนี้เธอเองก็เริ่มรู้สึกเหมือนกันว่าครูสอนดำน้ำคนนี้เป็นคนเจ้าชู้จริงๆ อย่างที่มีเสียงเล่าลือ

ไม่รู้สินะ…ลลนาคิดว่าท่าทางโอบเอวกันอย่างนั้น ผู้ร่วมงานหรือเพื่อนคงไม่ทำกัน นอกเสียจากเป็นอะไรที่มากกว่า ซึ่งเธอจะไปรู้ความสัมพันธ์ของพวกเขาได้อย่างไรกัน

“ศิครับ นี่พี่ๆ ครีเอทีฟโฆษณา” ปริญญ์แนะนำพี่ๆ กลุ่มครีเอทีฟทีละคน

แต่ละคนต่างทักทายกัน รวมทั้งลลนาและพวกของเธอก็ถูกแนะนำว่าเป็นสมาชิกในกลุ่มครีเอทีฟไปด้วย จากนั้นหัวข้อในการคุยกันระหว่างรอปริญญ์จัดชุดดำน้ำเพิ่มเติมและตระเตรียมเรือ ก็คือเรื่องการดำน้ำชมปะการังใต้ท้องทะเลที่น่าตื่นเต้น


บ่วงพราย_ปก

บ่วงพราย เมื่อเจ้าของโฮมสเตย์ถูกพบเป็นศพเหลือครึ่งตัวลอยมาเกยหาด ใครๆ พากันลือกันว่าเธอกลายเป็นพรายทะเลกลับมาเพราะหวงห่วงสามีจอมเจ้าชู้ และที่กลางทะเลลึก…พรายทะเลมาปรากฏตัวให้ลลนาเห็น ขณะที่มาวินไม่เคยเชื่อว่าพรายมีจริง จนได้เห็นมันกับตา “บ่วงพราย” โดย ทอม สิริ นิยายออนไลน์ ที่ อ่านเอา อยากให้คูณได้ อ่านออนไลน์ ได้ลงจนจบบริบูรณ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทางผู้เขียนใจดีมอบ 5 บทแรกไว้ให้อ่านกันที่อ่านเอาและหากติดใจอยากอ่านต่อคุณผู้อ่านสามารถติดต่อสั่งซื้อโดยตรงได้ที่ Facebook ของนักเขียน  Facebook : Tom Siri

——————————————

 



Don`t copy text!