บุษบาลุยไฟ ตอนที่ 66 : ฉุดกลางน้ำ

บุษบาลุยไฟ ตอนที่ 66 : ฉุดกลางน้ำ

โดย : ปราณประมูล

Loading

บุษบาลุยไฟ โดย ปราณประมูล เรื่องราวของ ลำจวน หญิงสาวผู้ต่อสู้กับค่านิยมทางสังคมในยุค ร.3 เธอลุกขึ้นทำสิ่งที่คนในห่วงเวลานั้นไม่ทำกัน หนทางจึงไม่ได้ราบรื่น หากเต็มไปด้วยอุปสรรคและถ้าไม่ใช่เพราะแรงรักแรงใจที่หนุ่มจีนคนนั้น คงยากที่บุษบาดอกนี้จะไปสู่จุดหมาย ‘บุษบาลุยไฟ’ นวนิยายเรื่องเยี่ยมที่อ่านเอานำมาให้อ่านออนไลน์

เรือของบ้านนายโรงสุ่น พายพุ่งปราดตัดแม่น้ำ ข้ามฟากมาถึงฝั่งธน แล้วเลี้ยวขวาเลียบริมฝั่งขึ้นไปสุดแรงฝีพาย

ฝีพายสองนาย หัวเรือกับท้ายเรือนั้น คือทาสที่ลำจวนคุ้นเคยกันมาแต่เล็กแต่น้อย เป็นชายฉกรรจ์แข็งแรง

เนตรนั่งด้านหัวเรือ หันหน้าข้างหลังเพื่อมองจ้องลำจวนที่นั่งกลางลำไม่ให้คลาดสายตา นพนั่งปิดหลังประกบ  ไม่ให้ไกลเกินมือคว้า

เนตรมองลำจวนที่แต่งเป็นชายหัวจรดเท้า สายตาชังน้ำหน้า

“ ดูสารรูปเข้า แต่งเป็นชายเช่นนี้เอง อยู่กันแค่ข้ามฟากแค่นี้ จึงหามีใครเฉลียวใจ ”

ลำจวนมองเนตร แววตาแค้น

“ พ่อไม่สบายจริงรือหลอกลวง? ”

“ เพราะเจ้าคนเดียวนังตัวดี ถ้าพ่อตายลงในครานี้ พี่จะไม่ให้อภัยเจ้าเลย ”

นพพูดจบก็หัวเราะสาใจ

ลำจวนหันไป ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน

“ ถ้าไม่เกรงว่าพี่จะไปลามปามหยาบหยามคุณพุ่มเธอ  ฉันไม่มาดอก ”

 

ปากคลองบางกอกน้อย มีเรือเข้าออกติดตลาดเช้าแน่นหนาจอแจ ลำจวนชะเง้อมองไปในคลองหาช่องทางที่เรือจะพายแทรกเข้าไป ใจอยากพบหน้าพ่อเร็วๆให้รู้แน่ว่าเป็นเช่นไร

ทว่าคนเรือกลับพายเลยผ่านปากคลองไป ไม่มีทีท่าว่าจะเลี้ยวเข้าบ้าน

“ เอ๊ะ..”

ลำจวนมองฝีพายหัวเรือ เห็นด้านหลังที่ออกแรงจ้วงจ้ำเต็มข้อ แล้วหันมองฝีพายด้านหลัง ที่หันหน้ามาหา  ทว่าก้มหน้าหลบตาเธอ

“ เร็ว..เร็วอีก! ”

เนตรตะโกนเร่ง

“ ทำไมไม่เลี้ยวเข้าคลอง? ”

ลำจวนกำสองกราบเรือแน่น มือเกร็ง

“ เข้าสิ ทำไมจะไม่เข้า..แต่จะไปเข้าคลองบางยี่ขัน ”

นพลากเสียงเอื่อย

“ แล้วพ่อล่ะ ”

เนตรแสยะ

“ พ่อ..รออยู่ที่แพท่านเจ้าคุณ ”

ลำจวนแทบตะโกน

“ ไม่! ”

 

เรือพ้นจากปากคลองบางกอกน้อยแล้วแล่นเลียบฝั่งเร็วรวดมุ่งสู่คลองบางยี่ขัน น้ำกำลังขึ้น เอ่อนิ่ง เปี่ยมฝั่ง คนเรือไม่ต้องออกแรงสู้กระแสน้ำมากนัก

เรือมาถึงปากคลองขนมจีนแล้วยังมุ่งหน้าต่อไปไม่หยุด

ลำจวนมองทางหนีทีไล่ สอดส่ายสายตาหาลู่ทางไปรอบๆ

พลัน ดวงตาของหญิงสาววาววับ เรือเล็กจากแพคุณพุ่ม มีนายหมายพายตามมาอย่างสุขุม ปะปนแนบเนียนเรื่อยๆมาเรียงๆกับเรืออื่นที่สัญจรไปมาเต็ม

ลำจวนใจชื้นขึ้น ท่าทีจึงสงบลง

นพผิดสังเกต รีบยื่นมือมาคว้าจับคอเสื้อด้านหลังของน้องสาวหมับ

“อย่าคิดโดดน้ำหนีอีก นางตัวดี  พวกข้าถึงกับเผาศพผู้ใดไม่รู้ไปแทนตัวเจ้า พ่อเสียใจแทบล้มประดาตาย ท่านเจ้าคุณน้ำตาตก อกพัง เจ้ามันสมควรจักต้องกลับไปชดใช้ให้สาสม ”

ลำจวนดิ้นรน พยายามจะปลดมือพี่ชายคนรอง

แต่พี่ชายคนโต รีบคว้าแขนเธอไว้อีกเปลาะ

“ อยู่นิ่งๆ นังนกปรอด ”

เนตรคำราม

ลำจวนตั้งสติ สงบอาการลง หันหน้าไปทำทีว่าสะบัดสะบิ้งเพราะถูกยึดกุม ทว่าที่แท้ลอบมองนายหมาย ที่ยังมุ่งมั่นตามมาห่างๆไม่ละลด

 

“ พายเร็วกว่านี้ไม่ได้หรือไร ไอ้โง่ ไอ้ทาส ”

นพแผดเสียงทรงอำนาจ

คนเรือเร่งพายจ้ำ

เห็นได้ว่าเรือบ้านนายสุ่นกำลังเร่งปาดแซงเรืออื่นที่ชะลอออกันเต็มเมื่อเข้าใกล้ปากคลอง รั้งรอหลบหลีกให้กัน เพื่อจะเข้าบ้าง ออกบ้าง ข้างหน้า ข้างหลัง เสียงคนค้าคนขายทักทายกันจ้อกแจ้ก

ลำจวนนิ่ง คิดหนัก ว่าจะร้องขอผู้คนเหล่านี้ให้ช่วยอย่างไรดี

ทันใด เรือลำเปรียวของพวกคนจีนกลุ่มหนึ่งพุ่งปราดจากกลางแม่น้ำ ฝ่าเรืออื่นๆ จู่โจมเข้ามาเทียบข้างเรือบ้านลำจวน ทำเอาบรรดาคนเรือลำอื่นๆคัดท้ายหลบกันเป็นทาง

ลำจวนตกใจ หันไป แล้วอ้าปากค้าง

ชายฉกรรจ์จีนผมเปียสี่คน แต่งกายอย่างคนงานตามท่าเทียบเรือ สวมหมวกเจ๊กบังหน้า มีผ้าปิดปาก ลักษณะคือการปล้นชิง

เนตร  นพ เหล่าฝีพายตกใจจนตั้งตัวไม่ติด

โจรตัวหัวหน้าร่างสูงใหญ่ลุกยืนมั่นคงไม่เสียสมดุลแม้เรือโคลงเคลงหนัก ยื่นมือตรงมาที่ลำจวน

“ มา!”

เสียงดังหนักแน่นออกมาจากใต้ผ้าดำปิดหน้าช่วงล่าง

“ ไอ้ฮุน! ”

เนตรอุทาน ปล่อยแขนลำจวนเพื่อชักดาบฟันไปที่มือนั้น ทว่ามีพายเล่มหนึ่งยื่นมาขวางรับคมดาบเนตรไว้ได้

เจ้าของพายคือจีนที่ทำหน้าที่ฝีพายเรือโจรนั่นเอง

หัวหน้าโจรก้าวหลบการต่อสู้ติดพันของพายกับดาบ  ยื่นมือมารอ เร่งเร้าลำจวนอีก

หญิงสาวขยับลุก แต่นพกระตุกดึงคอเสื้อด้านหลังกระชากจนเธอล้มลงก้นกระแทก หน้าหงาย

จีนอีกคน ที่อยู่ตำแหน่งในเรือเสมอนพ ยื่นพายมาฟาดมือนพ

“ อ๊าก ไอ้พวกยี่เฮียซาเฮีย มึง บังอาจ ”

นพเจ็บ แต่ไม่ปล่อยลำจวน กลับกระชากเอาร่างลำจวนมาขวางทางตีของพายเล่มนั้น จนผู้ตีชงัก ไม่อาจตีต่อได้

คนท้ายเรือจีนเงื้อพาย เข้าโจมตีด้านหลังนพ

แต่นพรู้แกว คว้าคอเสื้อด้านหนังลำจวนแน่น พลิกหันเอาร่างน้องสาวมาเป็นเกราะกำบังทันควัน

“ เอาซี้ๆ มึงตีมา ตีมา! ”

ฮุนลังเล หาจังหวะ

ทันใด นพชักดาบมา จ่อคอลำจวน

“ มึงเข้ามา มึงจะได้ศพอีนี่ไป ”

ดวงตาเรียวใต้คิ้วเข้มเฉียง วาบประกายกล้า ส่งคำถามมา ว่ากล้าหรือไม่

ดวงตาคมวาวของหญิงสาว มองตอบรับอย่างมุ่งมั่น เด็ดเดี่ยว ปราศจากความกลัวใดๆ

ฮุนมองนำสายตาไปที่ข้อศอกนพ

ลำจวนเข้าใจทันที ก้มลง มองเล็งที่ข้อศอกพี่ชาย

“ มึงเข้ามาซี้ เข้ามา..”

นพร้องท้าทายฮุน ย่ามใจ

พลัน ลำจวนใช้นิ้วจิ้มกดเร็วและแรง ตรงจุดศูนย์รวมเส้นประสาทที่ข้อศอกนพ

“ อ๊า! ”

นิ้วมือทั้งห้าที่กำด้ามดาบของนพเหมือนถูกกดปุ่มให้ง้างอ้าออกผึง

ดาบร่วง หลุดมือ ตกเคร้งลงบนพื้นเรือ

ลำจวนง้างศอก ถองเต็มแรงไปข้างหลังเข้าตำแหน่งลิ้นปี่นพ นพทรุดลง

“ โอ๊ก ”

ลำจวนโดด จะไป

อีกมือนพยังกำคอเสื้อด้านหลังลำจวนอยู่ ออกแรงกระชาก

“ อย่าหวังเลย อีน้องชั่ว ”

ลำจวนล้มหงายลงทับตัวนพ

ไม่มีใครคาดคิด  ว่าหญิงสาวจะตัดสินใจดึงกระชากเสื้อผ่าหน้าติดกระดุมเรียงเรียบร้อยเพื่อสวมเข้าเขตวังขาดกระจาย กระดุมเม็ดกระเด็นกระดอน เสื้อแบบผู้ชายเปิดออก เผยร่างกายท่อนบน ที่มีเพียงผ้าแถบรัดอกข้างในกระชับแน่นหนา

ร่างเล็กเปรียวลื่นตัวออกจากแขนเสื้อบุรุษ กลายเป็นสตรีที่นุ่งโจงกระเบนคาดผ้าแถบปิดทรวงอก กระโดดข้ามกราบเรือ เข้าไปในอ้อมแขนฮุน ทิ้งเสื้อเปล่าๆไว้ในเงื้อมมือพี่ชาย ดุจดังจักจั่นลอกคราบ

ฮุนโอบรอบรวบตัวลำจวนเข้ามาอยู่ในเรือโจรเรียบร้อย

สามสหายจีนจากอู่ต่อเรือบางคอแหลมช่วยกันถีบกราบเรือบ้านนายสุ่นจนเกือบพลิกไปอีกข้าง

จากนั้นเอาพายค้ำ ดันเรือของเนตรกับนพออกไป เกิดแรงส่งผลักเรือตัวเองถอยออกมา แล้วพายหนีไปอย่างรวดเร็ว

“ ตาม!  เร็วสิโว้ย ไอ้พัน!! ไอ้ทาสโง่!  งุ่มง่ามอยู่ได้ เร็วๆ”

ทาสฝีพายคนที่แก่กว่า เงื้อพายสุดล้า แล้วอยู่ๆ ปล่อยพายหลุดมือ ลงน้ำไป จ๋อม!

“ มึงทำอะไร ไอ้พัน! ”

นพตะโกน คว้าพายใต้ที่นั่ง มาฟาดหลังกำยำนั้นทรุดล้มลง พายต่อเองสุดกำลัง

เนตรก็คว้าพายอีกอันที่ท้องเรือ มาพายช่วยฝีพายที่เหลือคนเดียวลำพังท้ายเรืออีกแรง

เรือพวกจีนอู่ต่อเรือพายข้ามตัดแม่น้ำ เพื่อตีวงย้อนกลับไปทางทิศที่มุ่งสู่ปากน้ำ ด้วยความเร็วไม่ธรรมดา

นพ  เนตร กับทาสหนุ่ม ช่วยกันจ้ำร้อนรนคนละทีสองทีไม่เป็นจังหวะ

แต่แล้วก็โดนเรือนายหมาย พุ่งมา ขวางลำไว้อย่างไม่กลัวล่ม

บ่าวแพคุณพุ่มมองมา ท้าทาย

“ อะไรวะนี่ หลีก ถอยไปเว้ย! ”

เนตรแทบคลั่ง

ไม่รู้บังเอิญหรือไม่ เรือพ่อค้าแม่ขายคนจีนที่ลอยลำกันอยู่ในบริเวณนั้นไม่น้อย มีอันต้องปาดเข้ามาเกะกะกีดขวางล้อมเรือเนตรกับนพไว้ทุกทิศทุกทาง

นายหมายเหลียวหันไป  เห็นเรือฮุน พายไปไกลลิบแล้ว

 

นอบกับจำปากำลังช่วยกันเตรียมเครื่องอาบน้ำ เสื้อผ้าสำหรับผลัดให้นายสุ่นสำหรับเช้านี้ ตระหนกตกใจไปตามกัน เมื่อเนตรและนพเดินตึงตัง หัวซุน ส่งเสียงโหวกเหวกโวยวายขึ้นบ้านมา

“ ฉันกับนพพยายามป้องกันอย่างเต็มที่แล้วแต่หาสู้พวกมันได้ไม่ มันมีกันเป็นสิบ แล้วหวดฟาดฉันอย่างไม่ยั้ง  ดูเถิด มือฉันแทบหัก จักเขียนรูปได้อีกต่อไปหรือไม่ก็ไม่รู้ ”

เนตรคร่ำครวญ

“  โจรร้ายที่ไหนมันทำพ่อเนตรรือ ”

จำปาวิ่งมาดูอาการที่เนตรลูบคลำมือไปมา

นพตะโกนเล่านิทาน

“ ไอ้พวกจีนค้าฝิ่น!!  โถ..ลำจวน..น้องรักของพี่  น้องรักดี หนีไปอยู่กับสตรีผู้ดีมีวิชาเพื่อเรียนหนังสือ กำลังจักเข้าวังถวายตัวแท้ๆเทียว แต่แล้ว อ้ายจีนฮุนก็หาเกรงหน้าอินทร์หน้าพรหมไม่ ทำการบังอาจ ปล้นเอาตัวน้องของพี่ไปย่ำยี พี่ผิดเอง ที่สู้พวกไอ้โจรฮุนมิได้ พี่ผิดเอง ”

นายสุ่นนุ่งผ้าขาวม้าไหมลอยชาย ยืนล้างหน้าด้วยขันลงหิน ข้างตุ่มน้ำที่ชานเรือน ทำขันหลุดมือ ยืนพิงตุ่มไว้ ไม่ให้ล้มลงไป ด้วยหน้ามืดจะเป็นลม

 

บนเรือนเจ้าคุณอินทรา นวลยืนหาทางหนีทีไล่อยู่ พอนพก้าวขึ้นมาก็รีบออกมาขวาง

“ กลับไปก่อน พี่นพ อย่าเข้าไป..”

“ อันใดของมึง อีนวล ”

นพหน้าเผือด

“ มีคนมาบอกท่านแล้ว! ”

นวลพยายามดึงนพให้หนีลงเรือนไปเสีย

“ บอกว่ากระไร? ”

นพสะบัดตัวออก  ย่องไปโผล่ดูที่ประตูห้องหนังสือ

ท่านเจ้าคุณอินทราพร้อมหน้าหัวหมื่นคนสนิททั้งสาม โชค เดช และรวยครบ  ที่นั่งราบรายงานกันอยู่กับพื้นภายในห้อง

พอนพเยี่ยมหน้ามา สามนครบาลก็หันมามอง สายตาทุกคู่ชิงชังรังเกียจไม่ปิดบัง

นพหน้าซีด ขยับถอย

นวลตามมา ลากตัวนพสุดแรง กระซิบละล่ำละลัก

“ พี่นพ  รีบหนีไป  มิเช่นนั้น..”

แต่ไม่ทันเสียแล้ว

เจ้าคุณหันมาเห็นนพ พลันลุกพรวดขึ้น

โชค เดช รวยรีบแหวกทางออกให้เจ้าคุณเดินผ่านออกไปสะดวกๆ

นพรีบคุกเข่าลง ปากคอสั่น

“ คุณพุ่มกำลังจะเอามันเข้าวังขอรับ กระผมจึงต้องรีบชิงตัวมาก่อน กระผมไม่มีทางอื่นเพราะถ้ามันไปเป็นคุณข้างใน มันก็จะหลุดลอยไปตลอดกาล ”

“ แล้วตอนนี้มันไม่หลุดลอยจากกูไปแล้วรือ ไอ้เขลา หากน้องมึงเข้าวังไปเป็นคุณข้างใน กูยังมีคนของกูในนั้น ที่จะช่วยกันตะล่อมให้มันกราบบังคมทูลลาออกมา แต่นี่ เพราะมึง ที่โง่แต่เสือกขยัน ทำในสิ่งที่กูมิได้สั่ง ”

เจ้าคุณง้างแขนขึ้นสุดล้า

นวลหวีด วิ่งไป เอาตัวกันนพไว้ พนมมือ

“ ท่านเจ้าคุณ อิฉันขอ..”

เจ้าคุณยั้งมือไว้ ถอนใจ ระงับโทสะเมื่อจับบ่าเมียให้หลีกทาง ตามองพี่เมียอย่างเหยียดหยาม

“ กูกำลังหาทาง..ที่จะหาผู้หลักผู้ใหญ่เข้าไปเป็นสื่อเจรจากับท่านเจ้าคุณราชมนตรีบิดาคุณพุ่มอย่างละมุนละม่อม แต่มึง ไอ้นพ มึงทำลายทุกอย่างลงหมด ”

เจ้าคุณพยายามสงบสติอารมณ์อยู่นาน ก่อนหันมาบอกนวลเสียงต่ำเบา

“ อีนวล มึงไปเลย มึงกะพี่มึง ไปให้พ้นบ้านกู ”

“ อิฉันผิดอันใด? ”

นวลน้ำตาปริ่ม

“ เมื่อเห็นหน้ามึง..กูย่อมนึกถึงนางลำจวนแลความอัปยศที่มันทำแก่กูครั้งแล้วครั้งเล่า ”

หนูแดงวิ่งมาพอดี มีปุกวิ่งตามจับ

“ คุณหนูแดงๆ  มานี่ค่ะ อย่าเข้าไป ”

เจ้าคุณเข้ามาอุ้มแดง ยิ้มอ่อนโยน

“ มามะๆๆ หนูแดงมานี่ อยู่กับพ่อ นะลูกนะ ”

นางทัดและพวกเมียๆบ่าวโผล่มาดูสลอน

“ มาค่ะ ส่งคุณหนูแดงมาให้บ่าว ”

เจ้าคุณส่งลูกให้นางทัด

“ เอาลูกฉันมา ”

“ อ้ายหนูแดงลูกกู ”

ทัดรีบอุ้มลูกคนเดียวของนวลที่ร้องไห้จ้า พาหนีไปอีกทาง

นวลผวาตามทันที แต่เจ้าคุณก้าวมาขวาง

“ กลับบ้านพ่อมึงไปให้หมด ไปให้พ้นหน้าพ้นตากู ก่อนที่กูจะลุแก่โทษะ กระทำเลวทรามออกไป ”

นวลทรุดลง ร้องไห้สะอึกสะอื้นราวจะขาดใจลง

ขณะที่นพหดหู่ห่อเหี่ยวไปทั้งตัว และเมื่อเขามองไป ก็เห็นรอยยิ้มสมน้ำหน้าจากเหล่าหัวหมื่นนครบาลทุกคน

 

เรือเพรียวเร็วและแรงสี่ฝีพายที่แข็งขัน พาคนบนเรือห้าชีวิตเร้นลึกเข้ามาในคลองสาขาเล็กๆในคลองวัดไทร ท่ามกลางดงต้นจากสองฟากฝั่งที่แผ่ก้านโค้งครอบคลุมลำน้ำเหมือนหลังคา อัตราความเร็วของเรือจึงลดลง ทว่าแรงพายจ้ำยังพร้อมเพรียงสม่ำเสมอ เรือพุ่งตรงไปเรื่อยๆในคลองที่เงียบและเปลี่ยว

ไห่ ซาน แช ไม่มีผ้าผูกปิดหน้าอย่างโจรแล้ว สวมเสื้อผ้า หมวกกุ้ยเล้ยครบ เยี่ยงคนงานอู่ธรรมดา ไม่แปลกตาสำหรับชาวบ้านชาวสวนละแวกนั้น แต่ฮุนไร้เสื้อ ไร้หมวก เพราะได้ถอดเสื้อให้ลำจวนสวมปิดบังร่างกาย ใส่หมวกหลุบปีกปิดพรางใบหน้างามสะอาด เสื้อคนงานนั้นโคร่งหลวม ยาวเกือบถึงเข่าบนร่างหญิงสาว

เมื่อพ้นจากป่าต้นจากที่ปากคลองสู่ละแวกสวนผลไม้ มีเนินตลิ่งปกคลุมด้วยพงหญ้า เรือจึงชะลอเข้าเทียบ หยุดพัก

แช ไห่ ซาน และฮุน ที่พายเรืออย่างสุดกำลังไม่หยุดมาตลอดทาง หอบถี่ราวกับหม้อน้ำเดือด แต่ละคนเหงื่อท่วมอาบร่าง

มีแต่เสียงหอบหายใจของคน เสียงร้องของนกบนต้นไม้ และกลิ่นสาปเหงื่อของเหล่าชายจีน

ลำจวนเผยหมวกขึ้นพ้นหน้า ดวงตาที่หันมามองฮุนยังแตกตื่นสับสน

ฮุนพยักหน้าเป็นเชิงชวนให้ไปกันเถิด ยื่นมือมาดึงมือลำจวน พากระโดดจากเรือขึ้นบนฝั่ง

ฮุนสวมรองเท้า แต่ลำจวนรองเท้าหลุดหายไปตั้งแต่โดดข้ามเรือมาแล้ว

“ พวกลื้อพายเรือออกปากคลองย้อนกลับไปที่อู่เรือได้แล้ว จากนี่ไม่กี่มากน้อยก็ถึงบางคอแหลม กลับไปเข้างานทันเวลาเช่นทุกวัน  ผู้คนจะได้รู้เห็นเป็นพยานว่าพวกลื้อมิได้ขาดงาน ”

ฮุนสั่ง

“ แต่ในคลองย่อยนี้ห่างจากตลาดใดๆไม่มีคนจีนอยู่ ขืนเข้าไป ลื้อก็จักเป็นที่จับจ้อง ”

ไห่กังวล

“ แล้วถ้านครบาลมาลาดตระเวนปะเข้า ”

แชห่วง

“ เลยบางโคล่มาแล้ว แถวนี้ห่างไกลปืนเที่ยงไม่น้อย มีคนที่ไม่ใช่พวกไทยทำสวนทำไร่อยู่กันหลายกลุ่ม นครบาลไม่น่าจะมาใส่ใจ น่าจะพอแฝงตัวได้ดอก ท่าไม่ดี อั๊วะค่อยหาทางข้ามไปซุ่มที่ปากลัดโน่น ”

“ แล้วอั๊วะจะไปตามหาลื้อได้ที่ไหน? ”

ซานถาม

“ ไม่ต้อง อย่ารู้เสียเลยดีกว่าจักได้พ้นภัย ไม่ต้องมาพลอยฟ้าพลอยฝนไปกับอั๊วะด้วย ฝากกลับไปดูแลกงด้วย บอกพวกที่อู่สำเภาวัดกัลยาฯ ไปคอยแวดล้อมกงไว้ อย่าให้ผู้ใดมารังแก ”

ลำจวนมองฮุน หน้าเสีย สำนึกว่าตนคือต้นเหตุแห่งปัญหาอีกมากนัก ที่จะตามมา

“ ไป รีบไป ”

ฮุนผลักหัวเรือ ที่เพื่อนตายทั้งสามนั่งลังเลกันอยู่

“ เกี้ยหล่อเป่งอ้าน ”

แชบอกเป็นภาษาฮกเกี้ยน อวยพรให้เดินทางปลอดภัย

“ เกี้ยหล่อเป่งอ้านๆ ”

เพื่อนๆพากันอวยพร

“ กำเสี่ย ”

ฮุนก้มหัวให้

“ กำเสี่ยๆ ”

ลำจวนพูดตาม

สามหนุ่มผมเปียยิ้มให้ลำจวนอย่างยอมรับเป็นพวก เมื่อพายวกกลับเรือออกไปก็ไม่วายเหลียวมองกลับมาด้วยความห่วงใย

 

เมื่อหมื่นเดช หมื่นโชค หมื่นรวยพาพลตระเวนนครบาลบุกเข้ามาเดินกร่างในอู่ต่อเรือบางคอแหลม เที่ยวซักไซ้คนงาน เดินค้นหา เข้าออกมุมนั้นซอกนี้ แช ไห่ ซาน กำลังโหนแขวนตัวด้วยเชือกห้อยลงมาจากกราบเรือกำปั่นใหญ่  ทาสีรองพื้นชั้นแรกด้านข้างภายนอกลำเรืออยู่

เมเนเจอร์เชื้อสายอินเดีย ตอบคำถามของนครบาลอย่างมั่นใจ

“ คนงานที่นี่ไม่มีใครไปสมคบพวกจีนค้าฝิ่นเด็ดขาด คนในสังกัดท่านเจ้าคุณดิศ ใครไปคบหาพวกตั้วเหี่ย จักต้องรับโทษอย่างร้ายแรง”

โชค  เดช รวย และนครบาลลูกน้อง  แหงนดู แช ไห่ ซานที่กำลังทำงาน แล้วเดินผ่านไป หามองออกไม่ ว่าใครเป็นใคร สำหรับคนไทยส่วนมาก คนงานจีนที่ตาตี่  โกนหัว ไว้เปีย แต่งชุดสีมอซอ ก็ดูเหมือนๆกันไปหมด

ที่ระเบียงชั้นลอย เมเนเจอร์ไล่เลียงอธิบายให้คุณพระนครบาลท่านหนึ่งฟัง

“ เป็นความจริงที่นายฮุนเคยทำงานที่นี่  แต่เขาไม่เคยผูกปี้อยู่ในสังกัดคนงานอู่เรือของท่านเจ้าพระยาพระคลัง ล่าสุดเขาเพียงมาช่วยทำกระทงลอยพระประทีปเมื่อวันก่อนขึ้นสิบห้าค่ำ เราก็ให้อัฐเป็นค่าแรงไป นอกจากนี้แล้ว ทางเราก็ไม่ทราบอะไรทั้งนั้น ”

 

และเมื่อคุณพระนครบาลไปขอพบท่านเจ้าสัวโตถึงบ้านหลังวัดกัลยาณมิตร พระยาราชสุภาวดี ผู้ว่าการกรมพระสุรัสวดีกลาง ที่อยู่ระหว่างเกณฑ์ทัพไปเสียมราฐเพื่อบูรณะกำแพงเมืองใหม่ ท่านก็อุตส่าห์สละเวลาพักผ่อนอันน้อยนิด มาตอบคำถาม

“ ช่างสำเภาในสังกัดของฉัน..คงไม่มีใครไปฝักใฝ่กับพวกตั้วเหี่ยได้ ส่วนอ้ายฮุน..ผูกปี้อยู่ในสังกัดอู่สำเภานี้เพราะกงของมันเป็นช่างเก่าแก่ แลมันก็ช่วยกงของมันทำงานมาแต่เด็ก มันออกไปหัดเป็นช่างเขียนเสียหลายปีแล้ว บัดนี้มันได้เป็นถึงช่างหลวง รับใช้ท่านเจ้าคุณสุรเสนาเขียนวัดบางยี่เรือ เรื่องค้าฝิ่นฉันรับรองได้ว่ามันไม่เอาด้วยแน่ ทว่าการกระทำใดๆในเรื่องชู้สาวของมัน ฉันไม่อาจจะรับรู้ได้ ”

คุณพระถึงกับทรุดนั่งลง พนมมือกลางอก

“ ต้องขออภัยท่านเจ้าคุณราชสุภาวดีอย่างสูงขอรับ  เอกสารระบุว่ามันผูกปี้เป็นคนงานในสังกัดท่าน  จึงต้องขออนุญาตมาเรียนถามเท่านั้น เช่นนี้ กระผมคงไม่รบกวน ”

พวกนครบาลกราบลา กำลังจะกลับ ปะเหมาะเคราะห์ร้ายของกง ประคองตะกร้าส้มสำหรับ

ไหว้เจ้า สวนเข้ามาพอดี

“ นั่น! กงไอ้ฮุน! ”

หมื่นเดชเอะอะขึ้น หมื่นรวย ลืมเกรงใจผู้ใหญ่ ปราดเข้าดึงตัวชายชรามา ทำส้มสูกลูกไม้หล่นระเนระนาด

“ อะไรกันๆ! ”

กงตกใจ

“ ไอ้ฮุนอยู่ไหน?”

หมื่นรวยเค้น

“ ก็ไปเขียนรูปแต่เช้ามืดทุกวัน ไปตามที่วัดซี ทำไม มันไปต่อยตีกับผู้ใดอีกรือ แล้วมารบกวนท่านเจ้าสัวโตได้อย่างไร  นี่ของไหว้ของท่าน ลื้อทำกระจัดกระจายเสียหายหมดแล้ว รู้ไหม ไอ้พวกบ้า! ”

ท่านเจ้าคุณมองคนเก่าคนแก่ที่ซื่อสัตย์ต่อท่านเสมอมา อย่างเวทนาปรานี

“ อาฮุนมันไปพาเจ้าสาวเขาหนี ลื้อรู้กันกับมันรือไม่? ”

“ หา ท่านเจ้าสัวว่ากระไรหนา? ”

กงไม่เชื่อหู

“ อาฮุนของลื้อ..พาผู้หญิงของท่านเจ้าคุณอินทราหนีไปแล้ว เมื่อเช้านี้เอง มันไม่ได้ไปเขียนรูป แต่มันไปฉุดผู้หญิง.. ”

ท่านเอ่ยอย่างอนาถใจ

กงเข่าอ่อน เซทรุด บรรดามิตรสหายจีนบริวารท่านเจ้าสัวเข้ามารุมล้อมดูแลประคับประคอง ต่างเสียอกเสียใจไปกับชายสูงวัยอย่างยิ่ง



Don`t copy text!