เครมบูเล หวานอมขมรัก : บทนำ

เครมบูเล หวานอมขมรัก : บทนำ

โดย : คุนนภา

Loading

เครมบูเล หวานอมขมรัก นวนิยายโดย คุนนภา หนึ่งในผู้เข้าประกวดจากโครงการช่องวันอ่านเอาครั้งที่ 2 เมื่อรสชาติความรักประหนึ่งรสชาติเครมบูเลที่ทั้งขมและหวาน เหมือนความรักที่มีอุปสรรคดั่งไฟที่เผาไหม้ หากทนร้อนได้ก็จะได้รสชาติความรักที่กลมกล่อมยิ่งขึ้น แต่ณมินจะทนได้ไหม เมื่อเธอคือหน้าใหม่ในวงการความรักที่มีสองหนุ่มมาให้เลือก

ในชีวิตของอรชุมา ไม่เคยคิดเลยสักนิดว่าตนเองต้องมาทำอะไรแบบนี้…

การสะกดรอยตามสามีที่อ้างว่ามีงานที่ต่างจังหวัด งานลมๆ แล้งๆ แบบที่เธอนิยามไว้ งานที่…อะไรนะ…ต้องออกไปตามหาแรงบันดาลใจ

…ไหนเธอจะต้องแต่งตัวอำพราง ยืมรถคนอื่นมาใช้เพื่อให้ไม่เป็นที่สังเกตของสามี ไหนจะต้องซุ่มส่องเป็นถ้ำมอง แบกกล้องถ่ายรูปซูมยาวเป็นปาปารัสซี่ แล้วยังใช้สมองผูกเรื่องเดาทางพฤติกรรมของคนคบชู้…นี่ไม่ใช่วิสัยของอรชุมาเลยสักนิด  แต่ที่ต้องทำทั้งหมดนี้ก็เพื่อจับให้ได้ ‘คาหนังคาเขา’ ไม่รู้ที่มาหรอกนะ เขาของใคร หนังของอะไร รู้แต่เพียงว่า อรชุมาต้องได้หลักฐานชนิดที่ว่า เธอสามารถเรียกร้องค่าเลี้ยงดูจากการหย่าได้อย่างเต็มเหนี่ยว มากขนาดไหนน่ะเหรอ อย่างน้อยๆ ก็ต้องให้ใกล้เคียงกับถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่หนึ่งนั่นล่ะ

อรชุมาคิดอย่างนี้ ทั้งๆ ที่คาร์ซีทที่อยู่เบาะหลังนั้น มีร่างไร้เดียงสาหลับปุ๋ยอยู่ทั้งคน โดยไม่รู้อิโหน่อิเหน่ มารดาอุ้มขึ้นจากเตียง บอกแค่ว่าจะพาไปนั่งรถเล่น ไปซื้อโดนัทกินรอบดึก แม่หนูน้อยก็มิได้โยเยกระโดดขึ้นรถมานั่งรออย่างเรียบร้อย พลอยเป็นพลซุ่มไปกับมารดา จนเลยเวลานอนไปนานโข จึงได้หลับพล็อยไปอย่างอ่อนเพลียตามประสาเด็กวัยอนุบาล

อรชุมาทำเช่นนี้มาเดือนนึงแล้ว คอยทำสิ่งที่เรียกว่าสะกดรอยตาม  ไม่รู้เหมือนกันว่าตนเองไปได้ทักษะแบบนี้จากที่ไหน ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะจำมาจากในหนัง โดยที่ในแต่ละครั้ง จะมีเพื่อนร่วมทางคือบุตรสาววัยสี่ขวบ กับรถยนต์ไม่ซ้ำคันของเพื่อนๆ ที่พอจะขอหยิบยืมมาได้  ครั้งนี้ถึงคิวของแก้มกุ้ง เพื่อนสนิทสมัยเรียนมหาวิทยาลัย แก้มกุ้งอาสาเป็นพลขับให้กับเพื่อนเหตุผลข้อหนึ่งเพราะเป็นห่วงเพื่อนจะขาดสติทำจนเกินเลยกว่าการได้หลักฐาน ส่วนอีกเหตุผลก็เพราะแอบหวงรถป้ายแดงของตัวเอง

“ห่างๆ หน่อยกุ้ง อย่าตามประชิดขนาดนั้น เดี๋ยวจะรู้ตัวว่ากำลังถูกตาม” อรชุมาออกคำสั่ง ฝ่ายเพื่อนขานรับด้วยการชะลอคันเร่ง ปล่อยรถไหลไปเองก่อน จนห่างจากคันหน้าพอสมควร

เพียงไม่นานรถยนต์ที่ถูกสะกดรอยตาม ก็ตบไฟเลี้ยวซ้ายเข้าไปยังนิวาสถานอาคารสูงสุดหรูหราใจกลางกรุงแห่งหนึ่ง

อรชุมาเดาไว้ในใจไม่มีผิด! หมดสมัยพากันเข้าม่านรูดแล้ว กินกันตามเซฟเฮ้าส์นี่แหละสะดวกสะอาดปลอดภัยดี แต่ภูมินทร์ก็ชะล่าใจไปที่เลือกมาที่นี่คืนนี้

“เอายังไงต่อว่ะจูน ตามเข้าไปเลยมั้ย แล้วรปภ.จะให้เข้าหรือเปล่า” แก้มกุ้งถามอย่างตื่นเต้น ไม่คิดมาก่อนว่า ฉากใหญ่ขนาดนี้จะมีเจ้าหล่อนเป็นพยานรู้เห็น

“แกขับเข้าไปเลยกุ้ง ที่นี่คอนโดของที่บ้านภูมินทร์ เรามีกุญแจ แล้วก็รู้จักรปภ.เห็นหน้าปั้บเค้าก็จำได้”

“อะโห ผัวแกนี่มันถึงฆาตจริงๆ เลยว่ะ ทำไมกล้าพาสาวมาขึ้นห้องที่นี่ อย่างนี้มันเหยียบจมูกกันชัดๆ”

“ทีนี้แกเข้าใจแล้วใช่มั้ย ทำไมเราต้องตามล้างตามเช็ดให้จบในแม็ตซ์นี้ ขับเข้าไปเลยกุ้ง แต่ไม่ต้องรีบ เดี๋ยวเราแยกไปจอดด้านข้าง เรารู้แล้วว่าพวกเขาจะไปที่ไหนต่อ”

อรชุมาบอกให้เพื่อนจอดและรออยู่ในรถ จะได้เฝ้าลูกสาวที่กำลังหลับปุ๋ย ใบหน้าไร้เดียงสาน่าเอ็นดูทำปากหมุบหมับเหมือนกำลังกินอะไรอร่อยอยู่ในฝัน

“ใจเย็นๆ ไว้นะจูน แกบอกว่าแค่จะถ่ายรูปเป็นหลักฐาน แกอย่าของขึ้นทำอะไรที่มันจะเป็นเรื่องฉาวโฉ่นะ คิดถึงลูกแกเข้าไว้นะแก  เสร็จแล้วกริ้งมาเดี๋ยวจะโฉบไปรับตรงประตูใหญ่”

อรชุมาพยักหน้ารับปากเพื่อนทั้งสองเรื่องที่สั่งเสีย  จุดนัดพบและแน่นอนการทำอะไรรุนแรงบุ่มบ่ามจนกลายเป็นข่าวซุบซิบ  ทุกอย่างควรจัดการอย่างเงียบๆ  อย่าให้เป็นเรื่องราวใหญ่โตเพราะจะเข้าทางทีมแช่งที่เคยคัดค้านไว้ก่อนที่ทั้งคู่จะแต่งงานกัน

สมัยเมื่อภูมินทร์เข้ามาจีบ ใครๆ ก็เตือนถึงความเจ้าคารม หวั่นไหวง่าย ไม่นับความหล่อและรวยพ่วงมาอีกต่างหาก อรชุมาอาจจะต้องมีวันน้ำตาเช็ดหัวเข่า… จริงอย่างคำทำนาย เรื่องนิสัยขี้อ่อนไหวของสามี แต่ผิดถนัดเรื่องน้ำตาเช็ดหัวเข่า…อรชุมาไม่ยอมให้ตัวเองเสียใจเปล่าๆ แน่นอน เงินสิค่ะ ที่ต้องออกโรงเล่นแรงเบอร์นี้ก็เพราะเห็นแก่บุตรสาวนั่นแหละ ไหนๆ ก็ต้องกลายเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว เธอต้องเปลี่ยนความผิดหวังเสียใจให้เป็นเงิน ชีวิตที่เสียไปต้องคุ้ม เงินจะเยียวยาทุกสิ่ง

รถเป้าหมายเข้าช่องใกล้กับทางเข้าประตูด้านหลังอาคาร พร้อมกับที่แก้มกุ้งดับเครื่องยนต์ในมุมที่ตากล้องจะแอบถ่ายได้พอดี

ฝ่ายชายเปิดประตูก้าวลงมาจากรถก่อน แล้วกุลีกุจอมาเปิดให้ฝ่ายหญิงที่นั่งอยู่อีกฝั่ง  อรชุมากดชัตเตอร์บันทึกหลักฐานอย่างรัวๆ ทั้งๆ ที่มือสั่นอกลั่นแทบจะระเบิดอยู่แล้ว ยิ่งได้เห็นร่างมึนเมาของฝ่ายหญิงพยายามก่ายตะกายแผงอกของสามี นั่นมันน่าเข้าไปแหกอกเสียจริงๆ  แต่อรชุมาก็ข่มใจไว้ก่อน ขอให้ได้ภาพในมุมชัดๆ ถนัดถนี่แบบนี้อีกสักหน่อยเถอะ

ฝ่ายถูกตามยังไม่รู้ตัวเลยสักนิด ยังคงเดินประคองไหล่กันมาจนเทียบทางเข้าประตูด้านหลัง ดึกสงัดยามนี้ ลูกบ้านต้องใช้คีย์การ์ดแสดงตัวเข้ามาเอง  ภูมินทร์ใช้มือข้างหนึ่งล้วงหามันจากกระเป๋าเงิน แต่ก็มีคีย์การ์ดของลูกบ้านคนอื่นแตะสัมผัสตัดหน้าเขา พอสัญญานปลดล็อกดังปิ๊บ ภูมินทร์เอ่ยปากขอบคุณทั้งที่แขนข้างหนึ่งสอดรวบร่างแอ่นนั้นไม่ให้โงนเงนไปมา

“ไม่เป็นไรเลยมินทร์ จูนก็ขอบคุณมินทร์เหมือนกัน ที่ทำให้เรื่องมันง่ายดี”

ทั้งสุ้มเสียง และหมวกแก๊บที่ถอดออกปลดปล่อยผมสยายตรงยาวและใบหน้าแดงกล่ำแสดงดีกรีความโกรธขั้นสุด ภูมินทร์ก็ใจหายวาบราวกับกำลังสบตากับพญามัจจุราช

“จูน ชิบหายแล้ว”

ภูมินทร์ปล่อยหลักฐานหลุดมือ ร่างสาวอ้อนแอ้นร่วงลงไปกองกับพื้น

“มะ…ไม่ใช่อย่างที่จูนคิดนะ คือ…นี่เป็น…เอ่อ คือคุณสุ่ย เป็นศิลปินมาจากเชียงไฮ้ เผอิญว่าเธอเมาจำโรงแรมตัวเองไม่ได้ มินทร์เลยพามาเปิดห้องให้นอนค้างไปก่อน ส่งเสร็จแล้ว มินทร์ก็จะกลับบ้านนะจูนนะ เชื่อมินทร์เถอะ”

“เชื่อให้โง่เหรอ แล้วไหนที่บอกว่าไปสมุย แล้วนี่มาโผล่อะไรแถวนี้ มินทร์คงคิดว่าจูนนี่โง่มาก พูดอะไรก็ต้องเชื่อใช่มั้ย”

อรชุมาพูดจบก็พยายามคุมสติ และจะเดินหนี บัดนี้เธอได้ครบแล้วทั้งหลักฐาน และประจักษ์พยานคือตัวเธอเอง ป่วยการที่จะอยู่ตรงนั้นให้เขาเห็นว่าเขื่อนน้ำตาของเธอกำลังจะแตกทะลัก

“จูนฟังก่อนนะ…เรื่องสมุย…คือ เอ่อ มินทร์เพิ่งกลับมาวันนี้ แล้วไปเจอคุณสุ่ย กับเพื่อนๆ ศิลปิน เราดริ้งกันนิดหน่อย ก่อนเข้าบ้านน่ะ จูน..ว๊า มินทร์จะอธิบายยังไงดีจูนถึงจะเชื่อเนี่ย”

“ไม่ต้องอธิบายจูนหรอก เสียเวลา มีอะไรไปคุยกับทนาย แล้วถ้ายังคุยไม่รู้เรื่อง ก็ไปคุยกันในศาลโน่น”

 

ไม่ถึงหนึ่งเดือนการหย่าร้างก็เป็นอันเสร็จสิ้น โดยไม่ได้มีการฟ้องร้องใดๆ ภูมินทร์เซ็นใบหย่าและมอบทรัพย์สินเป็นเงินสดหลายสิบล้านตามที่อดีตภรรยาร้องขอแต่โดยดี รวมทั้งมอบสิทธิ์การเลี้ยงดูบุตรสาวให้อยู่ในการปกครองของแม่  อื่นใดที่เป็นค่าใช้จ่ายรายเดือน ภูมินทร์เสนอตัวมอบให้เองอย่างเต็มใจ ในฐานะพ่อ

แต่ก็ยากกว่าที่คิด ชีวิตของอรชุมา มิได้ตัดใจลืมเขาลงได้ง่ายๆ ความทรงจำชนิดฝังลึกแบบที่โอโม่ก็ขจัดไม่ออก ทำให้แม่หม้ายหมาดๆ ลาออกจากงานประจำ เดินถลาลงขวดสุรา ใช้ชีวิตไร้แก่นสารอยู่เป็นเดือน เป็นที่ระอาต่อเพื่อนฝูงยิ่งนัก

“จูน ไปต่อที่บ้านกูดีกว่า เกรงใจเฮียแกว่ะ”

แม้จะสนิทสนมกับเฮียชัยเจ้าของร้าน แต่อรชุมาจะนั่งเลื้อยรากงอกอยู่ที่นี่ทั้งคืนไม่ได้ เพราะนี่มันเลยเวลาร้านเหล้าปิดมาร่วมสองชั่วโมงแล้ว ต่อให้ใช้โควต้าหม้ายป้ายแดง  ก็ไม่ใช่ธุระอะไรของเฮียชัยที่ต้องเปิดร้านโต้รุ่งเสี่ยงตำรวจมายึดใบอนุญาต

“แอน มึงหยุดเลย เฮียเค้าเข้าใจกู เข้าใจหัวอกกู ใช่มั้ยเฮีย เฮียเข้าใจจูนใช่ป่ะ”

อรชุมาหยิบใบสำคัญการหย่าที่หล่อนเพิ่งเคลือบพลาสติกอย่างดิบดี มันเปรียบเสมือนโฉนดที่ดินผืนใหม่ในชีวิต ตีหลักปักฐานชัดเจนว่า บัดนี้ ตนนั้นเป็นพลเมืองของนครหย่าร้างอย่างสมบูรณ์แล้ว

หมดสิ้นกันทีชีวิตคู่อันหวานชื่น รสหวานที่ล่อลวงด้วยความสุขชั่วคราว แต่ทิ้งบาดแผลในใจไว้อย่างไม่มีวันสมานได้ชั่วนิรันดร์

พอแล้วนะ ความรักอะไรนั่นน่ะ

“เนี่ย เฮียดูสิ จูนเพิ่งเลิกกับผัววันนี้เอง”

“วันนี้กะผีอะไร มึงเลิกกับเขามาเป็นเดือนแล้ว แล้วนี่เงินค่าเลี้ยงดูยังอยู่ครบดีใช่มั้ย อย่าบอกว่าเอาไปทิ้งลงขวดเหล้าหมด”

ก็นับเป็นข้อดีไปอย่างที่อรชุมาไม่ใช่คนใช้จ่ายเงินฟุ่มเฟือยกับข้าวของแพงๆ  ค่าเหล้าค่าเบียร์เอาเข้าจริงก็หมดไปไม่เท่าไหร่ เพราะนางเรียกหารจากเพื่อนๆ ที่มาร่วมรับฟังระบายทุกรอบไป

“อยู่ครบทุกบาททุกสตางค์เว้ย นั่นมันเป็นเงินของเจ้ามิน…เงินลูกสาวเรา…ว๊าทำไมต้องชื่อเหมือนกันด้วย เรียกทีไรมันอดเจ็บใจไม่ได้ สงสัยต้องเปลี่ยนชื่อลูกสาวแล้วล่ะ”

ภูมินทร์ตั้งชื่อบุตรสาวว่า ณมิน เขาบอกว่า อยากให้ชื่อนี้คือชื่อของคนสำคัญที่สุดในชีวิตของจูน เวลาบอกรักจะได้ไม่ต้องใช้ชื่อพร่ำเพรื่อ จูนรักมิน ก็หมายถึง มินทร์คนพ่อ และมินคนลูก

“ไอ้จูน ไปต่อที่บ้านกูดีกว่า เกรงใจเฮียแกว่ะ นั่น…ดูสิ”

เฮียชัยขึ้นไปเปลี่ยนนุ่งกางเกงบอลกับเสื้อกล้ามคอห่านตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ เกรงใจก็เกรงใจง่วงก็ง่วง ลูกค้าประจำก็หายาก แกก็เลยไม่กล้าไล่ตรงๆ

“ไม่ ยังไม่อยากกลับ อยากกินที่นี่ต่อไปเรื่อยๆ จนเช้าเลย”

“แล้วลูกสาวมึงล่ะ ป่านนี้จะเป็นยังไง แล้วนี่นะ มึงก็ทิ้งลูกไปฝากบ้านโน้นบ้านนี้ไปทั่ว ไหนมึงว่าจะดูแลกันและกันสองคนแม่ลูกไง มึงไม่สงสารลูกมึงหรือไงว่ะ ”

อรชุมาดึงสติตัวเองกลับมา

จริงสินะ! บทแม่เลี้ยงเดี่ยวที่เธอต้องรับบทบาทไปจนชั่วชีวิต บทถาวร ไม่ใช่บทเมีย ที่แปร๊บๆ ก็แต่งแล้วก็เลิก ไม่มีความมั่นคงถาวรใดๆ ในชีวิตคู่

ได้ผลทีเดียว พออ้างถึงบุตรสาวเพียงคนเดียว อรชุมาก็ยอมให้เพื่อนพากลับแต่โดยดี แถมยังให้คำสาบานต่อถังน้ำแข็งว่าจะเลิกดื่มหัวราน้ำแบบนี้ จะทำตัวเป็นแม่ที่ดี เป็นแบบอย่างให้กับลูก

แม่คนนี้จะสอนลูกให้เติบโตขึ้นอย่างมีคุณภาพ เราจะมีกันและกัน แม่จะรักและทนุถนอมลูกดั่งแก้วตาดวงใจ ทุกๆ ความสุขของลูกแม่จะเป็นคนสร้างมันขึ้นมาเอง แม่สัญญา ณมินลูกรัก

อรชุมาเปิดไฟจากมือถือส่องเข้าไปที่ใบหน้าของบุตรสาวที่กำลังหลับสนิท ขนตางอนเด้งขยับกระพริบไหวๆ เพราะเคืองแสง สองแก้มอวบอูมดันจนริมฝีปากเจ่อขึ้นเบียดอัดอย่างน่าเอ็นดู เด็กหญิงณมิน หลับไม่รู้อิโหน่อิเหน่ไปกับคำสัญญาของแม่ เลยสักนิด

โตขึ้นมา จะกลายเป็นคนยังไงกันนะ แม่หนูน้อยคนนี้ อยากรู้จังเลย

 



Don`t copy text!