สาปไอยรา บทที่ 9 : ทำความรู้จักกับเพื่อนตัวใหญ่

สาปไอยรา บทที่ 9 : ทำความรู้จักกับเพื่อนตัวใหญ่

โดย : ต้นไผ่กวนอิมสีทอง

Loading

สาปไอยรา เรื่องราวของ สัตวแพทย์หนุ่มผู้ต้องคำสาปได้ใช้วิชาความรู้ที่ร่ำเรียนมาช่วยเหลือรักษาสัตว์ โดยหวังว่าผลบุญจะลบล้างคำสาปไปได้บ้าง แต่เจ้ากรรมนายเวรก็ไม่ได้ใจดี เพราะต้องมีความรักที่จริงใจเท่านั้นถึงจะช่วยได้! นวนิยายน่าอ่านโดย ต้นไผ่กวนอิมสีทอง ที่อ่านเอานำมาให้ทุกท่านได้อ่านใน anowl.co และเพจอ่านเอา

ควาญปั้นมองภาพความวุ่นวายทางด้านบั้นท้ายของพังใบบัวด้วยความเอ็นดู เผลอหัวเราะออกมาเบาๆ อย่างขบขัน พลางคิดว่าไอยราช่างทำกับคุณครูคนสวยได้ แทนที่จะให้เธอยืนดูเฉยๆ กลับให้ร่วมกันสวนล้างก้นพังใบบัว แล้วแบบนี้สาวที่ไหนจะประทับใจล่ะครับ

หลายนาทีผ่านไป ไอยราจึงสามารถดึงอุจจาระออกมาได้ส่วนหนึ่ง สังเกตเห็นว่าอุจจาระที่ออกมานั้นมีแต่ชานอ้อยแห้งกรัง ทำให้แม่บัวสบายท้องขึ้นบ้าง ไอยรากับจารุมาสจึงหยุดพักพร้อมกับถอดเสื้อกันฝนออกจากตัว และเขาคอยเติมยาลดปวดให้เรื่อยๆ เพื่อให้แม่บัวสบายตัวที่สุด เมื่อเห็นอาการดีขึ้นแล้วก็ถอดน้ำเกลือออก แล้วก็ฉีดยากระตุ้นลำไส้อ่อนๆ ไว้ให้ตรงลำคอของพังใบบัว

“อาการของแม่บัวยังน่าเป็นห่วง คงต้องเฝ้ากันตลอดคืน”

ไอยราเอ่ยบอกกับทุกคน พลางอธิบายว่าทำไมอาการของพังใบบัวยังน่าเป็นห่วง เพราะที่ทำการสวนล้างก้นเอาอุจจาระแข็งๆ ออกมาได้แค่บางส่วนนั้น ยังคงมีอุจจาระตกค้างอยู่ในท้องอีกมาก ต้องทำการเอาออกมาให้หมด ถ้าหมักหมมไว้มากๆ จะทำให้เกิดการติดเชื้อได้ ขั้นตอนนี้ต้องทำพรุ่งนี้แล้วละ

“ตอนนี้เย็นแล้ว ผมต้องไปส่งครูมาสก่อน ฝากลุงปั้นดูอาการแม่บัวไปก่อนนะครับ เดี๋ยวผมรีบกลับมา”

ไอยราฝากฝังพังใบบัวไว้ให้ควาญปั้นดูแล

“ไม่ต้องเป็นห่วงครับหมอช้าง ลุงจะดูให้อย่างดี”

เมื่อควาญปั้นรับปากเขาก็สบายใจขึ้น และเขาก็เชื่อใจว่าควาญปั้นจะทำได้ตามที่พูด เพราะเป็นควาญอยู่ดูแลกันมาทั้งชีวิต

“ให้คนอื่นไปส่งก็ได้นะคะ มาสเกรงใจค่ะ”

จารุมาสเอ่ยบอก เพราะอาการของพังใบบัวยังน่าเป็นห่วง และเธอเห็นเขาดูเป็นห่วงมาก จึงเกรงใจที่เขาต้องทิ้งพังใบบัวไปส่งเธอในตอนนี้

“ไม่เป็นไรครับ โรงเรียนอยู่ใกล้ๆ แค่นี้เอง นะโมไปด้วยกัน”

เขาเป็นคนพาเธอมาที่นี่ ก็ต้องเป็นคนพากลับไปส่ง จะให้คนอื่นไปส่งเธอได้อย่างไร แล้วเอ่ยชวนเด็กชายขันติธรรมให้ไปด้วยกัน เพื่อกันข้อครหา

แล้วจารุมาสจะขัดอะไรได้ เลยต้องปล่อยเลยตามเลย อยากไปส่งเธอนักก็ตามใจ ดีเสียอีกจะได้มีคนช่วยขนของด้วย ไม่ต้องขนเองคนเดียวให้เหนื่อย

เมื่อไอยราพาจารุมาสมาส่งถึงบ้านพักครู ก็ช่วยเธอขนของที่ซื้อมาลงจากรถ พอดีกับที่ทางร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าและร้านมอเตอร์ไซค์เอาของมาส่ง เธอจึงมีคนช่วยขนของขึ้นบ้าน

ไอยรามองเต็นท์นอนที่กางแผ่อยู่กลางบ้านก็เข้าใจแล้วว่าทำไมหญิงสาวจึงซื้อของเยอะมากนัก เพราะเธอไม่ได้ขนอะไรมาเลย ตั้งใจมาซื้อหาเอาที่นี่หมด ชีวิตคนที่จากบ้านมาไกลต้องลำบากขนาดนี้เชียวเหรอ ผู้อำนวยการโรงเรียนเป็นคนเล่าให้เขาฟังเองวันที่ไปเลี้ยงอาหารกลางวันเด็กนักเรียน ว่าจารุมาสเป็นคนโคราช และสอบบรรจุได้มาลงสอนที่นี่ และสักวันหนึ่งเธอคงทำเรื่องย้ายกลับ

ชายหนุ่มตัดใจเดินลงจากบ้านพักครูโดยมีขันติธรรมและจารุมาสเดินตามมาส่งถึงที่รถ และเอ่ยขอบคุณเขาอย่างคนมีมารยาท ใบหน้ามีรอยยิ้มแต้มอย่างอารมณ์ดี

“ขอบคุณนะคะคุณช้างที่ให้มาสติดรถเข้าอำเภอ ทั้งยังช่วยขนของ”

“ผมต้องขอบคุณคุณเหมือนกันที่ช่วยและไม่รังเกียจแม่บัว”

ไอยรายิ้มตอบ การได้ทำความรู้จักเธอในหนึ่งวันที่ผ่านมา มันทำให้เขารู้สึกดีและประทับใจในตัวหญิงสาวมากขึ้นไปอีก เธอไม่ใช่คนหยิบโหย่ง เป็นคนง่ายๆ สบายๆ ด้วยซ้ำ แถมไม่รังเกียจสัตว์ที่เขารักเป็นชีวิตจิตใจอีกด้วย แต่ก็ไม่รู้ว่าเธอจะประทับใจในตัวเขาเหมือนที่เขาประทับในตัวเธอหรือเปล่านะ

“สบายมากค่ะ แต่พรุ่งนี้เช้ามาสขอไปดูแม่บัวอีกได้ไหมคะ”

เธออยากไปดูให้เห็นกับตาว่าพังใบบัวอาการปลอดภัย ถ้าไม่ได้รับรู้หรือไม่ได้เห็นเองเธอคงกระวนกระวายและเป็นกังวลแน่ๆ ไหนๆ เธอก็ร่วมอยู่ในเหตุการณ์รักษาพังใบบัวตั้งแต่เริ่มต้นแล้ว ก็ขอร่วมให้จบก็แล้วกัน ถ้าไม่ติดว่าเธอเป็นผู้หญิง คงขอนอนเฝ้าด้วยไปแล้ว

“ได้สิครับ งั้นเดี๋ยวตอนเช้าผมมารับ”

ไอยราตอบรับอย่างยินดี พลางเสนอตัวมารับหญิงสาวแต่กลับโดนปฏิเสธ

“ไม่ต้องค่ะ เดี๋ยวมาสขับเจ้านู่นไปเอง”

หญิงสาวชี้มือไปยังรถมอเตอร์ไซค์คันสีฟ้าที่จอดอยู่ใต้ถุนบ้านพักครู คันที่เธอเพิ่งไปถอยมาใหม่ให้เขาเห็น ไอยราจึงตามใจหญิงสาว เพราะระยะทางจากบ้านพักครูไปปางช้างขับรถไม่กี่นาทีก็ถึง เมื่อตกลงกันได้เรียบร้อยเขาก็เอ่ยลา

“เจอกันที่คอกแม่บัวครับ”

จารุมาสพยักหน้ารับเขินๆ ก่อนจะโบกมือลาลูกศิษย์ที่ขึ้นไปนั่งรอไอยราบนรถเรียบร้อยแล้ว เมื่อรถกระบะของเขาเคลื่อนตัวออกไป เธอก็หันหลังกลับขึ้นบ้านแล้วรีบจัดของต่างๆ เข้าที่ คืนนี้เธอจะมีที่นอนสบายๆ ให้เธอหลับนอนแล้ว

ตอนกลางคืนหญิงสาวนอนหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย เพราะไปตะลอนอยู่กับไอยรามาทั้งวัน รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกทีเป็นเวลาตีสอง บรรยากาศรอบบ้านเงียบสงบแต่เธอกลับได้ยินเสียงลมหายใจฟืดฟาดเบาๆ ของสัตว์ใหญ่ เธอจึงรีบลุกขึ้นจากที่นอนแล้วไปยืนมองหาต้นเสียงที่หน้าต่าง

เมื่อเห็นว่าเป็นช้างยืนอยู่ที่เดิมเหมือนเมื่อคืนวันก่อนตรงใต้ต้นพญาเสือโคร่งริมลำธาร จารุมาสจึงรีบไปหยิบกล้วยที่เธอซื้อเก็บไว้ ก่อนจะเดินลงจากบ้านพักเข้าไปหาช้างตัวนั้นอย่างกล้าๆ กลัวๆ เธอมีความรู้สึกว่าเป็นช้างตัวเดียวกันกับเมื่อคืนก่อน เพราะเธอจำงาขาวสองข้างที่งอนโค้งเท่ากันอย่างสวยงามได้

มันไม่ได้เดินหนี เธอจึงยื่นกล้วยออกไปสุดมือเป็นการเชื่อมสัมพันธ์ก่อน เมื่อเห็นช้างตัวนั้นยื่นงวงออกมารับแล้วเอาเข้าปากเคี้ยว หญิงสาวก็ยิ้มกว้างอย่างดีใจ

“เราเป็นเพื่อนกันแล้วนะ”

“…”

ช้างตัวนั้นแกว่งงวงตอบโต้

“จับมือหน่อย”

จารุมาสยื่นมือออกไปใกล้ๆ ช้างตัวนั้นก็ยื่นงวงออกมาสัมผัสมือของเธอเช่นกัน แล้วเธอก็คุยกับมันอยู่คนเดียว

“เราชื่อมาสนะ เจ้าล่ะชื่ออะไร”

“…”

“มาสเรียกเจ้าว่าพี่ช้างใหญ่ดีไหม เพราะพี่ตัวใหญ่กว่ามาสตั้งเยอะ ถ้าเห็นดีด้วยก็ยกงวงตอบหน่อย”

จารุมาสเห็นว่าช้างตัวนั้นยกงวงตามที่เธอบอกได้ก็ยิ้มกว้างอย่างดีใจและรู้สึกเอ็นดู ฉลาดแสนรู้ดีเหลือเกิน

“พี่ช้างใหญ่มาจากไหน”

“…”

หญิงสาวเห็นพี่ช้างใหญ่ชูงวงไปทางป่าฝั่งตรงข้ามลำธาร เธอก็เข้าใจได้ทันทีว่าพี่ช้างใหญ่เป็นช้างป่า

“ชอบมาเล่นน้ำแถวนี้เหรอ แล้วเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายเนี่ย”

“…”

“เอ้า มีเขินด้วย”

เธอหัวเราะคิกคักเมื่อเห็นพี่ช้างใหญ่ขยับตัวหลบตอนที่เธอจะเดินไปตรวจดูเพศทางด้านหลัง

“ไม่เห็นอวัยวะเพศก็พอรู้น่าว่าเป็นผู้ชายเพราะมีงา”

จารุมาสเอ่ยบอกพลางหัวเราะขำ แล้วหยุดแกล้งพี่ช้างใหญ่โดยกลับมายืนเผชิญหน้ากันเหมือนเดิม แต่พี่ช้างใหญ่คงจะอายมาก พยายามใช้งวงดันตัวเธอเบาๆ ให้เดินถอยหลัง

“จะให้มาสกลับไปนอนแล้วเหรอ”

พี่ช้างใหญ่ผงกหัวหงึกหงักพร้อมกับแกว่งงวงหลังจากเธอพูดจบ

“ก็ได้ๆ งั้นพี่ช้างใหญ่ก็ต้องกลับเข้าป่าไปนอนเหมือนกันนะ”

เธอออกคำสั่งด้วยความเป็นห่วง ทำไมก็ไม่รู้เธอถึงรู้สึกผูกพันกับพี่ช้างใหญ่จัง เมื่อเห็นมันแกว่งงวงตอบรับ เธอจึงเอ่ยลาและหันหลังกลับขึ้นบ้าน

“ฝันดีนะพี่ช้างใหญ่ แล้วมาหามาสอีกนะ”

หลังจากที่จารุมาสเดินกลับขึ้นบ้านพักไปแล้ว พี่ช้างใหญ่ก็ยังคงยืนอยู่เงียบๆ ตรงใต้ต้นพญาเสือโคร่งที่เดิม พอใกล้เวลาพระอาทิตย์จะขึ้นจากขอบฟ้า จึงได้รีบเดินทวนน้ำขึ้นไปทางปางช้างจันทร์ส่อง

 



Don`t copy text!