ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 21 : อาการป่วยของคุณหญิงสายหยุด

ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 21 : อาการป่วยของคุณหญิงสายหยุด

โดย : พงศกร

Loading

ดอกฟ้ายาใจ นวนิยายแนวยั่วล้อที่ พงศกร เขียนเอาไว้เมื่อหลายปีก่อน ได้รับความนิยมทั้งแบบรูปเล่มและนำไปเป็นละครโทรทัศน์ แต่หนังสือขาดหายไปนานและมีเสียงเรียกร้องให้นำกลับมาพิมพ์ใหม่เป็นจำนวนมาก สำนักพิมพ์กรู๊ฟพับลิชชิ่งจึงได้จัดพิมพ์ ‘ดอกฟ้ายาใจ’ อีกครั้ง เพื่อแทนคำขอบคุณแฟนๆ ที่ติดตามเว็บไซต์อ่านเอาและสำนักพิมพ์มาโดยตลอด

“อะไรนะคะหมอ…ผ่าตัดหัวใจเหรอคะ”

กรผกามารศรีฟังนายแพทย์หนุ่มแจ้งข่าวร้ายให้ได้ทราบแล้ว หล่อนนิ่งงันไป หล่อนจับมือของแม่นิ่มเอาไว้แน่น ใบหน้าของหญิงสาวซีดเผือดไม่มีสีเลือด

พี่เก่ง…ทอมใจดีแห่งสลัมที่หล่อนอพยพไปอยู่นั้น ขี่มอเตอร์ไซค์มาตามรถพยาบาลของโรงพยาบาลที่คุณหญิงสายหยุดรักษาตัวเป็นคนไข้ประจำ และรถพยาบาลของโรงพยาบาลแห่งนั้นก็มารับตัวคุณหญิงไปอย่างรวดเร็ว

พอมาถึง อาการของคุณหญิงก็เพียบหนัก เจ้าหน้าที่รีบเข็นร่างที่หมดสติของเธอเข้าไปในห้องฉุกเฉินทันที และหลังจากระดมกันช่วยชีวิตคุณหญิงสายหยุดพักใหญ่ หมอก็ออกมาแจ้งข่าวดีและข่าวร้ายให้กรผกามารศรีได้ทราบว่าสามารถช่วยชีวิตของคุณหญิงสายหยุดได้แล้ว แต่เธอจำเป็นจะต้องได้รับการผ่าตัดหัวใจโดยเร่งด่วน

“จำเป็นนะครับคุณ” นายแพทย์พยายามอธิบายให้หญิงสาวสวยตรงหน้าฟังด้วยสีหน้าท่าทางลำบากใจ “ก่อนหน้านี้คุณหญิงสายหยุดมีเส้นเลือดหัวใจตีบหลายเส้น พวกคุณก็รู้ดีอยู่ ผมห้ามแล้วว่าไม่ให้เครียดก็ไม่เชื่อ โชคดีนะครับที่มาเร็ว ถ้าช้าไปอีกสักห้าหรือสิบนาที คุณหญิงคงจะไม่รอด และตอนนี้เราไม่มีทางเลือกแล้วครับ หมอจำเป็นต้องทำการผ่าตัดหัวใจคุณหญิงโดยเร่งด่วน…เดี๋ยวนี้เลย”

“แล้วดิฉันจะต้องทำยังไงบ้างคะ” กรผกามารศรีถามอย่างจนปัญญา

“เซ็นชื่ออนุญาตให้ทำการผ่าตัดตรงนี้ค่ะ” นางพยาบาลยื่นเอกสารให้หญิงสาว พร้อมด้วยปากกา

“เราจะรีบทำการผ่าตัดคุณหญิงทันที” คุณหมอบอกกับบุตรสาวของคนไข้ “ค่าใช้จ่ายทั้งหมดน่าจะไม่เกินหนึ่งล้านบาท”

“หนึ่งล้านบาท” กรผกามารศรีร้องอุทานพร้อมกับแม่นิ่ม

“ยังไม่ได้รีบเก็บตอนนี้หรอกค่ะ คุณหญิงสายหยุดเป็นคนไข้ประจำของที่นี่” นางพยาบาลว่า “เอาไว้ตอนจะกลับบ้านก่อนค่อยชำระก็ได้”

“ตายจริง คุณหนูคะ เราจะไปหาเงินล้านบาทมาจากไหนได้ทัน” แม่นิ่มถามหญิงสาวด้วยสีหน้าท่าทางเป็นกังวล “ใช้บัตรทองไม่ได้หรือคะ เรามีบัตรทองนะคะ”

“ไม่ได้ค่ะคุณป้า” นางพยาบาลคนเดิมอธิบายด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “ที่นี่เป็นโรงพยาบาลเอกชน ไม่ได้รับบัตรทอง ถ้าคุณป้าใช้บัตรทองต้องไปโรงพยาบาลรัฐบาลและรอคิวผ่าตัดอีกประมาณสามเดือนค่ะ”

“ตกลงค่ะ คุณหมอผ่าตัดคุณแม่ของดิฉันได้เลย” กรผกามารศรีตัดสินใจ

“คุณหนูคะ แล้วเราจะเอาเงินที่ไหนมาให้เขา” แม่นิ่มท้วง

“เอาเถอะค่ะแม่นิ่ม” กรผกามารศรีหันมาทางแม่นม น้ำตาของเธอไหลรินอาบแก้ม “ชีวิตของคุณแม่มีคุณค่าเหนือสิ่งอื่นใด เงินทองเป็นของนอกกายไม่ตายเราก็หาใหม่ได้ กรผกายอมทุกอย่าง ขอเพียงแต่ให้คุณแม่หายดี ยังไงกรผกาก็จะต้องหาเงินหนึ่งล้านบาทมาให้ได้”

กรผกามารศรี แม่นิ่ม และเก่งนั่งรอคุณหญิงสายหยุดอยู่ที่หน้าห้องผ่าตัดด้วยความกระวนกระวายใจ ทุกคนต่างภาวนาเอาใจช่วย ขอให้การผ่าตัดประสบผลสำเร็จ ให้คุณหญิงสายหยุดหายเป็นปกติโดยเร็ว

การผ่าตัดหัวใจนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นหมอจึงใช้เวลาอยู่ในห้องผ่าตัดนานถึงเกือบสิบชั่วโมง หล่อนนั่งรอจนหลับแล้วหลับอีก แม้แม่นิ่มและพี่เก่งจะคะยั้นคะยอให้หญิงสาวไปพักผ่อนบ้าง หากกรผกามารศรียืนกรานว่าจะไม่ไปไหนจนกว่าการผ่าตัดจะสิ้นสุดลง

แล้วเมื่อเวลาล่วงไปถึงเช้าวันใหม่ ประตูห้องผ่าตัดก็เปิดออก และศัลยแพทย์ผ่าตัดหัวใจก็เดินออกมาด้วยสีหน้าเหน็ดเหนื่อย เขาเรียกเสียงอ่อนระโหยว่า

“ญาติคุณหญิงสายหยุดอยู่ที่ไหนครับ”

“ฉันค่ะ ฉันเป็นลูกสาวค่ะ”

กรผกามารศรีรีบลุกขึ้น ด้วยความที่หล่อนอดนอนนั่งเฝ้าอยู่หน้าห้องผ่าตัดมาทั้งคืน ร่างบอบบางของหญิงสาวจึงเซถลาเกือบจะล้มลงไปกองกับพื้น หากพี่เก่งและแม่นิ่มจะไม่ช่วยกันประคองไว้ทันท่วงที

“ผลการผ่าตัดเรียบร้อยดี”

คำพูดของหมอทำให้หัวใจของกรผกามารศรีชุ่มชื่นเป็นครั้งแรก หลังจากที่ผ่านเรื่องร้ายมาตลอดทั้งวัน

“คนไข้ต้องนอนพักฟื้นที่ห้องไอซียูอีกหลายวัน เมื่ออาการดีขึ้นแล้วถึงจะย้ายออกไปนอนข้างนอกได้ครับ ระหว่างนี้พวกคุณจะมาเยี่ยมได้ตามเวลาที่โรงพยาบาลอนุญาตเท่านั้น”

“ขอบคุณคุณหมอมากนะคะ” กรผกามารศรียิ้มให้กับหมออย่างอ่อนหวาน

“ขอบคุณคุณหมอค่ะ” แม่นิ่มขอบคุณนายแพทย์ที่ทำการผ่าตัดคุณหญิงสายหยุด ก่อนจะหันมาทางหญิงสาวแล้วบอกว่า “เรากลับบ้านไปพักผ่อนกันก่อนเถอะค่ะคุณหนู จวนจะเช้าแล้ว คุณหนูยังไม่ได้พักผ่อนเลยสักนิด”

ขณะเดินทางกลับบ้านหลังเก่าและผุพังนั้น กรผกามารศรีพยายามคิดหาหนทางอย่างหนักว่าจะหาเงินหนึ่งล้านบาทมาให้หมอได้อย่างไรภายในระยะเวลาไม่กี่วัน เธอเดินกลับไปกลับมาอยู่ภายในบ้านหลังแคบๆ นั้นอย่างจนปัญญา

จนกระทั่งหญิงสาวทรุดนั่งลงอย่างหมดแรงนั่นละ ถึงเพิ่งจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

“โอ จริงด้วยสิ”

กรผกามารศรีอุทานขึ้นด้วยความดีใจ เมื่อแสงแดดภายนอกส่องสะท้อนกับขวดสีเขียวเข้มของน้ำอัดลมยี่ห้อหนึ่ง เกิดเป็นประกายมากระทบดวงตาคู่งามของหญิงสาว

กรผกามารศรีเดินไปยังที่นอนของตนเอง แล้วหยิบเอาหมอนที่ใช้หนุนนอนทุกคืนขึ้นมาถือเอาไว้ ก่อนจะล้วงมือเข้าไปข้างในปลอกหมอนสีหวานแล้วหยิบเอาสร้อยคอมรกตออกมาเส้นหนึ่ง

หญิงสาวมองดูสร้อยมรกตประจำตระกูลด้วยความเสียดาย สร้อยเส้นนี้เป็นสมบัติเพียงชิ้นเดียวที่เธอมีเหลืออยู่ สร้อยคอมรกตประจำตระกูลที่เธอรักและหวงแหน

กรผกามารศรีจ้องมองดูสร้อยและมรกตเม็ดโตกว่าไข่ห่านที่ร้อยอยู่ตรงกลางด้วยความเสียดาย

“เฮ้อ” หญิงสาวถอนใจยาว ก่อนจะตัดสินใจขั้นเด็ดขาด

กรผกามารศรีชะโงกหน้าไปมองดูแม่นิ่ม เห็นว่ากำลังนอนพักผ่อนอยู่ หล่อนจึงแอบเอาสร้อยใส่ในถุงกระดาษ แล้วย่องออกจากบ้านไปพบกับพี่เก่งที่วินมอเตอร์ไซค์หน้าสลัม แล้วยื่นถุงให้กับทอมสาว พร้อมกับบอกว่า

“พี่เก่งคะ น้องมีเรื่องรบกวนพี่เก่งอีกแล้วละ”

“ไม่รบกวนอะไรเลยสักนิด ว่าไงฮะน้องผกา มีอะไรให้พี่เก่งรับใช้ บอกมาได้เลย สำหรับน้องผกาละก็ได้เสมอ” พี่เก่งส่งตาหวานให้กับหญิงสาวสวย

“พี่เก่งช่วยเอาไอ้ที่อยู่ในถุงนี้ไปขายให้กรผกาหน่อยสิคะ” หญิงสาวยื่นถุงกระดาษให้พี่เก่งด้วยความละอายแก่ใจ “ขอสักล้านหรือสองล้านก็พอ”

“แม่เจ้าโว้ย” ทอมสาวเห็นสร้อยมรกตขนาดบิ๊กเบิ้มในถุงกระดาษแล้ว อดจะร้องอุทานออกมาดังๆ มิได้

กรผกามารศรีรีบอุดปากพี่เก่งเอาไว้อย่างรวดเร็ว เพราะไม่อยากให้คนรู้ว่าในถุงกระดาษใบนั้นมีอะไรอยู่ข้างใน

 



Don`t copy text!