ซ่อนรัก บทที่ 5 : แต่งงาน

ซ่อนรัก บทที่ 5 : แต่งงาน

โดย : โสภี พรรณราย

Loading

ซ่อนรัก โดย โสภี พรรณราย เมื่อความรักพังทลาย ปารีสจึงออกเดินทางด้วยหวังว่าโลกกว้างจะช่วยเยียวยาหัวใจ แต่สิ่งที่เธอคิดและตัดสินใจอาจไม่เป็นอย่างที่คาด เมื่อหนุ่มหล่อเข้มคนนี้เข้ามาในชีวิต และความหลังของหล่อนกับเขาเป็นความรักที่ต้องเก็บซ่อนเอาไว้ในส่วนลึก นวนิยายออนไลน์ที่อ่านเอาอยากให้คุณได้อ่านออนไลน์

ปารีสพยายามทำตัวให้เหมือนนักท่องเที่ยว

หล่อนมาถึงเมืองเวนิสแล้ว และนั่งเรือสู่เกาะเวนิส

จองโรงแรมไว้และตั้งใจจะพักที่เวนิสคืนเดียว

หญิงสาวมาครั้งนี้เป็นครั้งที่สี่ ก็ยังรู้สึกตื่นตาตื่นใจกับสถาปัตยกรรมที่รุ่งเรืองในอดีต เมืองที่งดงามบนผืนน้ำ

ปารีสตั้งใจเดินเล่น แวะดื่มกาแฟ แวะทานอาหารตามทางเดิน

อยู่ๆก็เหงาจับใจ ขาดอะไรไปอย่าง

ขาด

ขาดจริงๆ…ขาด

ไม่นะ…ไม่จำเป็นเลย ชีวิตปารีสต้องเดินหน้าสิ สิ่งที่ผ่านมาแล้วทุกอย่างคืออดีต

หล่อนลงเรือกอนโดลา ชมวิวสองฟากทาง

และกับความคิดที่เกิดขึ้นกะทันหัน คำทำนายของยิปซี

เจอเนื้อคู่ เจอเนื้อคู่ ใครกันล่ะ และจะได้แต่งงานในยุโรป

วิศร์ !

รู้สึกว่า ‘เขา’ จะอยู่ในสมองหล่อนรวดเร็ว ไม่ทันคิดถึงใครอีกเลย

เป็นไปไม่ได้ ไม่ใช่ จากคำทำนาย เนื้อคู่พบกันมานานแล้ว ก็จริงนะ เพราะรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก

อุเทนไม่ใช่คนที่ตนจะคิดถึงแล้ว

วิศร์สินะ

แต่เธอเป็นฝ่ายหนีเขามาเอง หลบมาเมืองอื่นกะทันหัน

แล้วไงล่ะ

ปารีส…หล่อนจะจัดการกับชีวิตและความรู้สึกของตนอย่างไร

เมื่อคืน…เมาหรือ…จูบกับเขาด้วย

จูบที่ทำให้ใจเต้นแรง จูบที่มีความรู้สึก

เขากับเธอบังเอิญพบกันหลายครั้ง หลายครั้ง…หลายครั้งและจะพบกันอีกหรือไม่

คิดเล่นๆว่าถ้าพบกันอีก…ถ้า…พบกันอีกจึงจะเชื่อว่าเป็นเนื้อคู่

ใช่สินะ…คิดเล่นๆ พบกันอีกสักครั้ง บังเอิญไม่ใช่แล้ว เป็นบุพเพแน่ๆ

คิดเล่นๆ พบกันนะ แล้วปารีสจะเชื่อ เชื่อคำทำนาย

เรือสองลำแล่นผ่าน

เรือปารีสคนพายค่อยๆพาย อีกลำกำลังสวนมา และมาพบกัน มาขนานกัน คนบนเรือโบกมือให้กันและกัน ล้วนเป็นนักท่องเที่ยวที่พบกันและมีไมตรีต่อกัน

ถึงไม่รู้จักกันแต่ก็มีรอยยิ้มและมิตรไมตรี ถึงเป็นคนแปลกหน้าเพิ่งพบกันเห็นกันก็มีรอยยิ้มได้

ปารีสตกใจ เบิกตากว้าง

เรืออีกลำ…หนึ่งในนั้นที่มองมาสบตากัน

วิศร์ !

View of one of the canal of Venice by night with copy space

เขาก็กำลังมองมาและตะโกน

“คุณปารีส”

หญิงสาวตะลึง เขาจริงๆ เขาจริงๆ

ไม่มีทางพบกันอีก เป็นไปไม่ได้

เรือสองลำที่พายชมเมืองเวนิส เรือหล่อนกำลังกลับและเรือของวิศร์กำลังจะไป

สวนทาง เห็นกันชัดเจน

ปารีสตะโกนเรียกและโบกไม้โบกมือ

“คุณวิศร์…วิศร์คะ…คุณวิศร์”

“ปารีส…ปารีส..คุณจริงๆ” เด็กหญิงที่น่าสงสารในอดีต

ทั้งสองมองตากัน..มองกัน ต่างเหลียวมอง หันมองกันและกัน…เรือสองลำ…จน…จนลับสายตา

“เรา…เราจะได้เจอกันอีกไหมคะ” หล่อนตะโกน แต่เขาจะได้ยินหรือเปล่า

วิศร์ได้ยินและตอบในใจ

“แน่นอน เราต้องได้พบกัน พบกัน”

และเมื่อต่างขึ้นจากเรือกอนโดล่า ปารีสก็ไม่สนใจอะไรแล้ว เฝ้าถามว่า

เขากับเธอเป็นคู่กันหรือ เป็นเนื้อคู่กันหรือ

พบกันโดยบังเอิญอีกครั้งแล้ว

ขอ…อีกเพียงครั้งเดียว…ขอพิสูจน์อีกครั้ง ถ้าพบกันอีก จะเชื่อ…จะเชื่อ…จะเชื่อและจะเชื่อ

โลกนี้จะมีอะไรบังเอิญขนาดนี้

เนื้อคู่ของตน

พบกับวิศร์ ไม่น่าต้องใจเต้นแรง แต่เมื่อครู่บนเรือและเห็นชายหนุ่ม เรือคนละลำแท้ๆ กลับอยากกระโจนไปหาและใจเต้นแรง

จะพบกันอีกไหม

เวนิสจะว่ากว้างก็กว้าง จะว่าไม่กว้างก็ไม่

ร้านค้ามากมาย นักท่องเที่ยวหนาตา เดินไปมา ชมเมืองชมสินค้า ดื่มกาแฟ ลิ้มรสอาหาร ถ่ายรูป ร้องเพลง

ช่างรื่นเริงครึกครื้นนัก

ปารีสพยายามจะสงบสติอารมณ์ จะเนื้อคู่จริงหรือไม่หญิงสาวขอเดิมพันอีกครั้ง

เดินชมเมือง ใกล้จะค่ำแล้วแต่ผู้คนยังหนาตา

ไม่สนใจอะไร…ปล่อยวางสบายๆ

เดิมพันครั้งนี้…จะเป็นการพิสูจน์เรื่องที่ไม่อยากจะเชื่อ

ส่วนเขาล่ะ…

วิศร์ เมื่อขึ้นจากเรือ เขาเดินตามหาหญิงสาว

และเขาก็ขำตัวเอง ทำไมอยากพบหล่อนเหลือเกิน แทนจะเดินเล่นสบายๆ กลับเดินหามองไปทั่ว

ฝ่ายหญิงเดิมพันคำทำนาย เดินเล่นสบายๆ

ฝ่ายชายกลับทำตามความรู้สึกบางอย่าง เดินตามหาเป้าหมาย

ชะตา…ชะตา…ชีวิต

ชะตา…รัก…เริ่มต้นแล้ว กับความรู้สึกลึกๆกับการเดิมพันและรู้สึกแปลก

ท่ามกลางคนมากมาย ในลานกว้างหน้าสถาปัตยกรรมงดงาม

เมื่อมองตรงหน้า…เบื้องหน้า ห่างไปร่วมสิบเมตร

มอง…อย่างงุนงงในตอนแรก ขมวดคิ้วสงสัย ใช่หรือ

วิศร์เห็นหญิงสาว

ปารีสเห็นชายหนุ่ม ใช่สิ…ตกใจ ตกตะลึง แม้ใจส่วนลึกว่าไม่ได้พบกันหรอก แต่อีกใจเล็กๆมีหวังเล็กๆว่าจะพบ

แล้วต่างก็เดินมาหากัน เดิน…เดินมาจนใกล้…ใกล้

สบตากัน…และในวินาทีนั้นก็โผกอดกัน ทำตามความรู้สึกบางอย่าง กอดกัน…นานแสนนาน และเมื่อผละออกจากกันก็หัวเราะ

ใบหน้ายิ้มแย้ม แจ่มใส

“คุณหนีผมไม่พ้นหรอก”

“ไม่ได้หนีค่ะ ไม่ได้หนี”

“แต่คุณออกจากโรงแรมไม่บอกกล่าวสักคำ”

“ฉัน…ฉัน…”

ตอนนั้นสับสนและไม่อยากเชื่อในชะตาลิขิต

ตอนนี้หล่อนควรเชื่อแล้วใช่หรือไม่

ท้าทายและเดิมพันกับคำทำนายของยิปซีคนนั้น

“ผมไม่ให้คุณไปไหนอีกแล้ว”

“ค่ะ…ค่ะ…”

รัก ?

รักแรกพบ…ก็ไม่ใช่ ตั้งแต่ที่สนามบินยังเป็นคนแปลกหน้าแท้ๆ ว่าแปลกหน้าเลยก็ยังไม่ใช่อีก พบกันตอนเด็ก จะพูดว่าคืออะไรล่ะ

ปารีสกำลังเปิดใจ เปิดหัวใจ

ลืมอุเทน…และมีรักใหม่กับวิศร์

มองตาก็รู้ว่าใจตรงกัน จากที่เมื่อครู่เขากอดหล่อนแน่นขนาดนั้น และเมื่อคืนก็จูบดูดดื่ม

และแล้ว…คือความสุข สองหนุ่มสาวเดินเล่นชมเมือง แวะเข้าร้านค้าต่างๆ จนมาถึงบริเวณมหาวิหารหรู

อีกครั้งที่เห็นบ่าวสาวมาถ่ายรูปแต่งงานหน้ามหาวิหาร

แต่งงาน…

วิศร์สบตากับปารีส ทั้งสองคิดอะไร

และบังเอิญว่าคิดตรงกัน

ไม่ต้องพูดอะไรเลยสักคำในขณะนี้

วิศร์พาปารีสเข้าร้านอัญมณี และแยกกันเลือกครู่หนึ่งและพากันเดินกลับมาหน้าโบสถ์เซนต์มาร์ค งดงามด้วยสีทองประดับโมเสกส่องแสงแวววาว

“แต่งงานกันนะ” เป็นประโยคแรกตั้งแต่ซื้อแหวนและพูดเกือบพร้อมกัน ใจตรงกัน

“ถ้าคุณไม่ถือสาว่าต้องมีพิธีหรู มีชุดแต่งงาน มีงานเลี้ยงรับองเพื่อนๆ มีภาพถ่ายแต่งงาน ผมก็อยากแต่งงานแบบเรียบง่าย แค่แลกแหวนแต่งงานและอยู่ในสถานที่สวยงามเช่นนี้ก็พอแล้ว”

ปารีสพยักหน้า หากยังเงียบ แค่พยักหน้ารับ

วิศร์หยิบแหวนมาสวมให้หญิงสาว และหล่อนก็หยิบแหวนเรียบๆสำหรับบุรุษมาสวมให้เขา

เรียบง่ายแบบไม่คิดว่าจะเรียบง่ายเช่นนี้ แลกแหวนแต่งงาน

วิศร์พูดกับหล่อนว่า

“ถือว่าผมติดค้างคุณก็ได้ ติดไว้ก่อน ถ้าถึงเวลาเหมาะสม ผมจะถ่ายรูปแต่งงานกับคุณ ให้คุณสวมชุดแต่งงาน เป็นเจ้าสาวแสนสวย ผมสัญญา”

“ค่ะ ค่ะ”

“กลับเมืองไทยค่อยไปจดทะเบียนกันนะครับ”

“ฉันไม่คิดว่าทะเบียนสมรสใบเดียวจะเป็นเครื่องยืนยันความรักของพวกเราตลอดไป”

“อย่างไรก็ได้ครับ แต่ผมอยากให้คุณใช้นามสกุลผม”

“คุณต้องพิสูจน์ว่าคุณเป็นสามีที่ดี”

“ผมว่าผมใช่”

“ต้องให้คนอื่นพูดค่ะ ไม่ใช่พูดเองเออเอง”

“ผมจะพิสูจน์ให้คุณเห็น”

“พิสูจน์ว่ายิปซีคนนั้นแม่นจริง เนื้อคู่…คุณเป็นเนื้อคู่”

วิศร์เลิกคิ้ว

“อะไรครับ”

“เชื่อไหมคะ ฉันดูดวงกับยิปซีคนหนึ่งเมืองที่ใกล้กับวาติกัน เธอทักว่าฉันจะเจอเนื้อคู่ จะได้แต่งงานที่ยุโรป”

ทั้งสองนั่งดื่มกาแฟริมถนนและพูดคุยไปเรื่อยๆ ปล่อยตัวสบายๆกับบรรยากาศ และเหตุการณ์ต่างๆที่พาไป จนมาถึงจุดแลกแหวนแต่งงานกัน

“คุณอาจเป็นเนื้อคู่ผมตั้งแต่สิบกว่าปีที่แล้ว แต่ตอนนั้นเราแยกจากกันโดยไม่ทิ้งเบอร์โทรหรือที่อยู่ให้กันและกันเลย”

“ฉันเพิ่งเจ็ดขวบเอง”

“ผมสิบเอ็ด จริงๆผมโตพอจะรู้อะไรเป็นอะไร”

“ฉันงี่เง่ามากใช่ไหมคะ เอาแต่ร้องไห้”

“คุณร้องไห้บ่อยและเกือบตลอด”

“ฉันเป็นเด็กนี่นา”

“เชื่อไหม ผมยังฝันถึงเด็กหญิงคนนั้นเสมอ และไม่อยากจะเชื่อ ในที่สุดเธอก็เป็นภรรยาผม แลกแหวนกันที่เวนิส”

“คุณว่าเร็วไปไหมคะ มีแค่เราสองคน”

“สำหรับผมไม่ ผมว่าเราคงเป็นเนื้อคู่กันจริงๆ”

“ค่ะ…ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ฉันเดิมพันกับชะตาลิขิตแล้ว สุดท้ายก็เป็นคุณ…คุณคนเดียว โลกจะบังเอิญอะไรขนาดนี้”

“เป็นความบังเอิญที่ผมมีความสุข”

และในคืนนี้…

วิศร์ใช้สิทธิ์ในความเป็นสามี แม้จะแค่แลกแหวนแต่งงานเท่านั้น เขาก็ใช้สิทธิ์ความเป็นสามีตามต้องการ

ตามความรัก…

ตอนแรกปารีสขัดขืนเล็กน้อย แต่วิศร์ก็อ้างข้างหูว่า

“ถึงแค่แลกแหวน แต่ผมถือว่าเราแต่งงานกันแล้ว”

“แต่…”

“คุณเป็นเมียผม”

ใจเต้นแรงกับคำว่า ‘เมีย’

เขา…เขาเป็นสามีของเธอใช่ไหม…

จะใช่หรือไม่ก็ยอมแล้ว ยอมตามหัวใจและร่างกายที่ทนต่อการรุกเร้าของชายหนุ่มไม่ไหว

ลืม…ลืมทุกอย่าง

วิศร์ปรนเปรอด้วยหัวใจ ด้วยความรัก กอดจูบอย่างละมุนละไม อ่อนโยน เพลินพาให้หญิงสาวเตลิด ยากจะหยุดความรักความต้องการ

จะอย่างไรก็หยุดไม่ได้แล้ว ไม่มีทางหยุดได้เลย

เขาพาเธอลอยละลิ่วไปกับสายลม สายฝนและละอองแห่งหิมะขาวโพลน หนาวเย็นแต่บางขณะกลับเร่าร้อนอบอุ่น

ยิ่งกว่าจูบแรกเมื่อคืน

จูบนั้นว่าใจสั่นแล้ว แต่ค่ำคืนนี้ใจยิ่งสั่นกว่า สั่นระริก หวิวไหว

ถ้าการแต่งงานแลกแหวนลำพังเพียงสองคน จะถือว่าเป็นพิธีการที่สั้นมาก ง่ายมาก แต่ความสุขหลังแต่งงานต่างหากคือความจริง

การเข้าหอ…คือโรงแรมที่พัก

สักขีพยาน การแต่งงาน แลกแหวนก็คือหน้าวิหาร งดงามที่สุด

อย่าคิดมาก ปล่อยกายปล่อยใจ ตามแต่วิศร์จะพาไป ล่องลอยไปกับเขา สุดแต่จะพาไปไหน และก็สุขสม งดงาม ประกายระยิบระยับ

ไม่มีคำว่าเสียใจ มีแต่คำว่าเริ่มต้น

อดีตคืออดีต วิศร์จะเป็นอนาคต

วางชีวิตกับเขา ใช่นะ…ใช่ เดิมพันแล้วนี่ เดิมพัน คำทำนาย เดิมพัน ความบังเอิญ เดิมพันหัวใจ

ปารีสหลับอย่างมีความสุข เป็นคืนแรกในรอบหลายคืนที่หลับสนิทจริงๆ

 



Don`t copy text!