หนึ่งในหล้า บทที่ 4 : ดวงสมพงศ์

หนึ่งในหล้า บทที่ 4 : ดวงสมพงศ์

โดย : กฤษณา อโศกสิน

Loading

หนึ่งในหล้า นวนิยายชุดโหราศาสตร์ของ กฤษณา อโศกสิน เล่าถึง ‘ยุคทอง’ ชายหนุ่มผู้มีดาวพฤหัสเป็นดาวสำคัญที่มีอิทธิพลโน้มนำชีวิตของเขาจนได้พบกับหญิงสาวนาม ‘ปรางสี’ จุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์เกิดขึ้นเพราะความตั้งใจหรืออิทธิพลของดวงดาว และเขาจะเลือกเดินบนเส้นทางใด นวนิยายออนไลน์ที่อ่านเอาอยากให้คุณได้อ่านออนไลน์

เครื่องบินออกจากดอนเมือง 13.10 น. ถึงสนามบินจังหวัดกระบี่ภายใน 1 ชั่วโมง 15 นาที

ดร.นภากาศเป็นผู้มารับยุคทองและลุงป้าของเขาด้วยตนเอง โดยชูผ้าเช็ดหน้าผืนโตสีน้ำเงินเข้มขึ้นสะบัดพอให้อีกฝ่ายแลเห็น ครั้นเห็นแล้วต่างก็ลากกระเป๋าค้างคืนเล็กๆเดินเข้าไปแสดงตัว

“สวัสดีครับอาจารย์” ชายหนุ่มพนมมือไหว้ขณะเบี่ยงกายมาแนะนำ “นี่คุณลุงอินทรีที่อาจารย์ไว้ใจ กรุณาส่งดวงไปให้ดูไงฮะ…ผมเลยชวนทั้งคุณลุงคุณป้ามาด้วยกัน คือท่านก็ไม่เคยมากระบี่เลยครับ”

“ผมเองก็เพิ่งมาเหมือนกันฮะคุณลุง” อีกฝ่ายยื่นมือออกมาหมายใจจะช่วยอัจฉราลากกระเป๋า แต่เธอก็เบี่ยงกายนิดหนึ่งพร้อมปฏิเสธอย่างเกรงใจ ชายหนุ่มวัยสามสิบแปดจึงเดินนำออกไปยังลานจอด พลางบอกยุคทอง “ขอเรียกตัวเองว่าพี่แล้วกันนะ คุณ…นี่พี่ก็เลยจองห้องให้เรียบร้อยแล้วตามที่คุณยุคทองอยากได้ เดี่ยวหนึ่ง คู่หนึ่ง…อยู่ในเมืองเลยละครับ แล้วนี่ก็มารถโรงแรม…แต่พี่พักอยู่บ้านญาติฮะ…ไม่ไกลกันเท่าไหร่”

ดร.นภากาศพูดพลางช่วยกดบานประตูเลื่อนให้ยุคทองและตัวเขานั่งด้านใน อินทรีและอัจฉรานั่งตรงกลาง คนขับยกกระเป๋าทุกใบใส่ท้ายแล้วจึงเดินมาเลื่อนประตูให้ปิด พารถออกจากที่

“ตกลงญาติพี่ที่ว่ามาเยี่ยมนี่ป่วยหรือเปล่าฮะ ผมก็ลืมถาม”

“ไม่ป่วยครับ แต่อายุเก้าสิบห้าแล้ว เป็นพี่ชายคุณปู่ผม” ดร.นภากาศเล่าเรื่อยๆ

อินทรีนึกแค่ในใจว่า ชายผู้นี้สมเป็นคนราศีสิงห์ดังที่เขาวาดภาพไว้…ไม่ห่างไกลจากภาพที่วาดสักเท่าไร

นั่นก็คือ เรือนร่างสูงใหญ่งามสง่า ไม่อ้วนไม่ผอม ผิวค่อนข้างขาว หน้าผากกว้าง ท่าทางผึ่งผายบ่งบอก…ข้าไม่ยอมลงใคร…เพราะข้ามีดี

“คุณปู่ผมน่ะเสียไปหลายปีแล้วครับ”

“ท่านเป็นคนที่นี่หรือฮะ”

“ไม่ได้เป็นหรอกครับ…เพียงแต่เพื่อนชวนมาเปิดร้าน…คือ…” อีกฝ่ายได้แต่หัวเราะๆคล้ายเอ็นดูความคิดแบบหนุ่มเจ้าสำราญของบรรพบุรุษ “คือคุณปู่ใหญ่นี่ท่านชอบผจญภัยไงฮะ…ชอบสะสมของเก่าพวกลูกปัดของปักษ์ใต้ที่ค้นพบกันมากมายสมัยหนึ่งน่ะฮะ…แล้วยังมีเหรียญ มีพดด้วง มีธนบัตรเก่า…อะไรพรรค์นั้นอีกครับ…เดี๋ยวพี่จะพาไปแวะที่ร้านท่าน…เย็นนี้ก็มีอาหารเย็นอร่อยๆไว้พาคุณยุคกับคุณลุงคุณป้าไปรับประทาน…”

“พี่สาวผมว่าจะมาด้วยก็เปลี่ยนใจกะทันหัน” ชายหนุ่มอ่อนวัยก็เลยบอกกล่าวเชิงหาเรื่องเล่าขานสนทนา “แต่ก็ดีเหมือนกันที่จะได้ไม่กวนพี่มากไป”

“โอย…ไม่กวนเลยครับ…ไม่กวนเลย…เดี๋ยวถึงบ้านคุณปู่แล้ว จะมีญาติพาไปเที่ยวด้วยนะฮะ” ผู้สูงวัยกว่าเพียบพร้อมด้วยอัชฌาสัยของนักบริหารมือดี บรรยายความอย่างผู้มีหน้าที่ต้อนรับไม่ตกหล่น “ผมก็กะกับญาติไว้แล้วว่าจะพาคุณลุงคุณป้ากับคุณยุคไปเที่ยวเกาะกลางกับเกาะห้อง…คงได้แค่สองแห่งเท่านั้นละฮะ…เพราะมากันช่วงสั้นมาก…ถ้าติดใจ…วันหลังมาใหม่ดีกว่า…มาอยู่สักอาทิตย์นึง…จะได้ไปถึงเกาะพีพี ทั้งพีพีเล พีพีดอน อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี สระมรกต…เพลินครับ…เพลินมาก ทำงานหนักๆมา พอมาถึงนี่ จะได้เหมือนยกภูเขาออกจากอกได้ห้าหกวัน”

อีกฝ่ายบรรยายอยู่ด้านหลังผู้อาวุโสด้วยน้ำเสียงมีกังวาน รวมทั้งมีอารมณ์อันน่าคบหา

ชวนใจให้ทั้งอินทรีและอัจฉราไม่รู้สึกว่าตนเองเป็นส่วนเกินหรือเป็นแขกแปลกหน้า

พร้อมกันนั้น ก็ดีใจด้วยกับหลานชายที่จะได้นักบริหารไปป้อนงานของบริษัทอีกรายหนึ่ง

หากก็คิดถึง ‘ตัวเลข’ ที่ใช้แทนดวงดาวในดวงชะตาของชายผู้นี้ไปด้วยพร้อมกัน

ทันใดนั้น ดร.นภากาศก็เอ่ยขึ้นเหมือนเตรียมคำถามไว้ล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว

“ได้ทราบจากน้องยุคว่าคุณลุงเป็นโหรเก่งใช่ไหมครับ”

ผู้อาวุโสก็เลยหัวเราะแกมเขินหน่อยๆ

“ผมแค่ชอบเรียนชอบรู้น่ะฮะ…พอเรียนแล้วรู้แล้วก็เลยลองทำนายทายทักดู ก็เท่านั้น ไม่ได้เป็นโหรเป็นหาญอะไรอย่างว่าหรอกอาจารย์”

“ผมคงต้องขอเวลาคุยกับคุณลุงนานๆแล้วละฮะ” อีกฝ่ายเกริ่นไว้คล้ายบอกให้รู้ตัวล่วงหน้า “กลับกรุงเทพฯคราวนี้ บ้านคุณลุงคงต้องเพิ่มแขกพิเศษอีกสักหนึ่ง ไม่ทราบว่าคุณลุงจะยอมให้ผมเข้าไปรบกวนสักนิดหน่อยไหมฮะ”

“ไปเลยคุณ ไม่ต้องเกรงใจอะไรเลย” อินทรีลงน้ำหนักถ้อยคำตามความรู้สึกที่บัดนี้ตกผลึกเร็วไว ทันทีทันใดที่พบตัวจริงเสียงจริง ประกอบกับ ‘ดวง’ ของชายผู้นี้ที่เพิ่งจดลงในสมุดใหม่ๆหมาดๆ ทั้งมาดจริงมาดตัวเลขต่างยืนยันคุณภาพเอนกอนันต์ของบุรุษนี้ “ยินดีต้อนรับทุกเมื่อ”

“ขอบพระคุณคุณลุงครับ” เขาพนมมือพลางยื่นมาระหว่างบ่าของผู้สูงวัย “คุณป้าด้วยฮะ”

“ค่ำนี้ เราคงมีเวลาคุยกันเรื่องธุรกิจนะพี่” ยุคทองเอ่ยขึ้น

“อ๋อ…สบายเลยฮะน้อง…แต่ผมก็ไม่รับรองนะครับว่า คุณปู่ผมจะไม่เชิญรับประทานอาหารที่บ้านท่าน แล้วชวนคุยเรื่องลูกปัดหรือไม่ก็สมบัติโบราณของภาคใต้น่ะฮะ”

คราวนี้ชายหนุ่มก็เลยนิ่งคิด

“ถ้างั้น เราเข้าโรงแรมแล้ว ขอเวลานอกนั่งคุยกันก่อนไปบ้านคุณปู่ก็น่าจะดีกว่านะฮะ”

ดร.นภากาศก็เลยตามใจ

รถเลี้ยวเข้าสู่หน้าโรงแรมกว้างใหญ่โอ่อ่าเมื่อไรแทบจะไม่รู้ตัว

จนกระทั่ง ต่างก็ก้าวลงไป คนขับยกกระเป๋าลงไปวางกองไว้ให้พนักงานมารับต่อ พาไปสู่เคาน์เตอร์ลงทะเบียน

ยุคทองก็เลยเชิญผู้อาวุโสนั่งรอที่เก้าอี้หมู่รับแขก ปล่อยให้ชายหนุ่มทั้งคู่เดินไปจัดการเรื่องห้องพัก จนกระทั่งจบสิ้น เดินกลับมา ก้าวขึ้นนั่งรถกอล์ฟพาไปยังตึกไม่สูงนักที่ปลูกเรียงรายท่ามกลางหมู่ไม้ยืนต้นและไม้ดอกไม้กอ

 

ชายหนุ่มจึงชวนนภากาศและญาติทั้งคู่เข้ามาที่ห้องของเขา เชิญให้นั่งตามสบายเพื่อจะนำร่องการท่องเที่ยวเชิงวิชาการกลายๆในครั้งนี้

ห้องจัดไว้อย่างมีระดับสมเป็นโรงแรมห้าดาว เมื่อเปิดประตูเลื่อนออกไป แล้วยกเก้าอี้สองตัวบนระเบียงเข้ามาวาง ก็ได้ครบสี่ที่นั่งพอที่จะคุยกันได้ยาวตามสบาย

“คือ ผมอยากเรียนถามคุณลุงเกี่ยวกับดวงตัวเองมากพอดูอยู่เหมือนกันครับ” ดร.นภากาศเป็นฝ่ายเริ่มขึ้นก่อนเห็นได้ชัดว่าเจ้าตัวก็ร้อนใจ “คือผมก็ยังมีอีกสามสี่บริษัทที่เขามาติดต่อไว้ บวกกับเราติดต่อไป แต่ก็ยังตกลงใจไม่ได้น่ะฮะ พอน้องยุคโทร.มา เสนอให้อีกสองบริษัท ก็ยิ่งเลือกไม่ถูก…แต่ก็บอกไว้เลยว่า ผมถูกชะตากับน้องยุคทองมาก อยากไปทางนี้”

“ก็ไปเลยซีฮะ” อินทรีสนับสนุนทันใดโดยไม่รู้สึกว่าเข้าข้างญาติ “ผมยังบอกยุคเขาเลยว่า…ดวงที่อาจารย์ส่งไปให้ผมผูกนั่นน่ะ ทำไมถึงสมพงศ์กับหลานชายผมขนาดนั้นก็ไม่ทราบ…”

“สมพงศ์คืออะไรฮะ คุณลุง”

“ก็คือสมควรกัน คู่ควรกัน ร่วมมือด้วยกันได้ดีไงครับ” ผู้สูงวัยชี้แจง ขณะที่ยุคทองลุกขึ้นไปชงชากาแฟมาวางตรงหน้าคนทั้งสาม แกะคุ้กกี้ในห่อใส่จานมาให้รองท้องยามบ่ายเพื่อคนทั้งคู่จะได้ใช้เวลาที่มีอยู่เล็กน้อยก่อนตามกันไปที่บ้านปู่ พูดคุยกันเรื่องดวงดาวอันเชื่อมโยงไปถึงการงานและการอื่นๆของอีกฝ่ายให้รู้แจ้งเห็นจริงไปพลางๆ

“อ้อ…ครับ…มิน่า…พอตาพบตากับน้องยุคปั๊บ ผมชอบทันทีเลย” ด็อกเตอร์หนุ่มใหญ่บอกกล่าวตรงไปตรงมา “ไม่เหมือนบางคน พอเห็นปุ๊บก็เกลียดขี้หน้าติดหมัด”

ทั้งลุงป้าและหลานจึงต่างก็พร้อมใจกันขบขันคำของเขา

อินทรีก็เลยพยักพเยิดยิ้มๆ ขณะจิบกาแฟ อัจฉราหยิบคุ้กกี้ใส่ปากเคี้ยวพอเพลินๆ ฟังคนทั้งสองโต้ตอบกัน

นึกไม่ถึงเลยว่า โหราศาสตร์ของสามีจะสามารถรับใช้เลยมาถึงการเลือกคนเข้าทำงาน การเลือกบริษัทที่จะเข้าไปทำ

นึกเพียงแค่การเลือกคู่ว่าดวงของทั้งหญิงและชายจะสมพงศ์กันเพียงไรเท่านั้น หากแต่งงานอยู่กินกันสืบไปจะอยู่ยืดหรือไม่ กี่รายต่อกี่รายที่ต่างก็มุ่งมาหาอินทรี เห็นถามแต่เรื่องทำนองนี้กันทุกคน

เพิ่งมีรายนี้เท่านั้นที่มาเรื่องงาน

แต่ที่ไหนได้…ยังไม่ทันจะนึกอันใดต่อไป เขาก็เอ่ยขึ้นอีก

“เอ้อ…ว่าแต่ว่า…คุณลุงครับ…ถ้าผมจะถามเรื่องอื่น คุณลุงพอจะตอบให้ผมทราบได้มั่งไหมฮะ”

“เรื่องอะไรล่ะคุณ” อินทรีย้อนถาม หากก็นึกรู้…จึงมียิ้มอยู่ในหน้า

“ก็…เอ้อ…ก็เรื่อง…อือ…ผมเองก็ยังไม่สู้จะแน่ใจเหมือนกันว่าควรจะเดินหน้าหรือถอยหลังก่อนดี”

ยุคทองฟังพลางก็พอจะเดาได้ว่าอีกฝ่ายหมายถึงใคร

แต่ลุงของเขารอคำถามนี้อยู่ก่อนแล้วจึงไม่แปลกใจ

ชายหน้าตาท่าทางดี อัธยาศัยใจคอดีที่แลเห็นตรงหน้า ก็เช่นกันกับผู้คนทั่วไปทั้งชายหญิงในโลกหล้า นั่นก็คือความ ‘สมบูรณ์แบบ’ ที่ใคร่ได้ใคร่มีจนครบทุกด้าน ทั้งการงาน การเงิน ความรัก ครอบครัว บุตรธิดา ตลอดจนมิตรสหายชายหญิงถ้วนหน้านั้น ถึงอย่างไรก็มิอาจหามาประดับชีวิตได้ครบถ้วน

“ถอยหลังไว้ก่อนดีกว่านะผมว่า” ผู้อาวุโสตอบสนองทันใด

“คุณลุงคงเห็นจุดอ่อนบางอย่างในดวงผมเข้าให้แล้วมังฮะ…” อีกฝ่ายดักคอ…เพราะถึงอย่างไรก็ล่วงรู้…ผู้เข้าถึงตัวเลขจนผู้คนเรียกเขาว่าโหร…ย่อมต้องแลเห็นความเป็นไปในชีวิตที่เจ้าของดวงเคยผจญมา…อย่างชัดเจน

“เห็นแล้วฮะ…” อินทรีตอบรับทันใด “เพราะเมื่อคืน ผมก็เอาปฏิทินย้อนหลังห้าปีมาเช็กดวงอาจารย์ไว้แล้วเหมือนกัน…เช็คตั้งแต่พ.ศ.57 เลยละ”

“พ.ศ.59 ดาวร้ายมาทับลัคน์อาจารย์”

“เป็นปีที่ผมหย่า” อีกฝ่ายกะพริบตาถี่เมื่อย้อนคำนึงถึงความหลัง “ก่อนหน้านั้น เขาไม่ยอมนอนกับผมมาสองปี…คิดแล้วก็ยังนึกไม่ออกว่า…มัน…มันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตผม…คิดไม่ออก”

“อาจารย์เป็นคนรักงาน ทำแต่งาน…งานรุ่งมาก…งานเป็น ‘องค์เกณฑ์’ หมายถึงจะเจริญก้าวหน้าไปไม่หยุดยั้ง”

ยุคทองหดหู่ใจทันใดที่ได้ฟัง ได้เห็นแววนัยน์ตาที่นาทีนั้นส่งอาการชอกช้ำเลยไปถึงกำสรดอย่างลึกซึ้งของบุรุษผู้มีบุคลิกตรึงความศรัทธาได้ทันทีที่พบหน้า…ไม่น่าเลยที่ผู้มีความพิเศษอย่างเขา จะไร้สิ้นซึ่งความยินดีจากสตรีหนึ่งจนมาถึงซึ่งหย่าร้าง

“คุณทำงานมากไป…ไร้เดียงสาเรื่องเพศ” อินทรีบอกเหตุผลง่ายๆที่อีกฝ่ายชะงักไป

พลันผิวหน้ากลับแดงจัด พอๆกับอีกหนึ่งชายหนุ่มซึ่งเป็นผู้ฟัง

ราวกับคุณลุงใช้ชั่วโมงอันมีค่าสั่งสอนให้ทั้งคู่ได้เข้าใจ

“ผู้หญิงบางคนหรือหลายคนต้องการรสชาติชีวิตที่ไม่ใช่แค่มีงานทำมีเงินใช้…” อินทรีกล่าวต่อ อย่างน้อยเขาก็หัวสมัยใหม่ รวมทั้งผ่านคำถามจากหญิงชายทั้งผู้ใหญ่เด็กมามากมายเพียงพอ “เขาต้องการการหล่อเลี้ยงยิ่งกว่านั้น”

อินทรีลงเสียงอย่างไม่ลังเล ด้วยว่าผ่าน ‘ดวง’ ทั้งหญิงชาย รวมทั้งปัญหาชีวิตมาแล้วนับไม่ถ้วน

“คุณลุงเป็นผู้ใหญ่ที่ทันสมัยมากที่สุดเท่าที่ผมเคยพบมาเลยนะครับ” ในที่สุด ด็อกเตอร์หนุ่มก็พึมพำออกมา “คุณลุงชำแหละผู้หญิงในอดีตของผมยังกับเคยรู้จัก”



Don`t copy text!