
ชายได้โชคอย่างลึกลับ เพราะเป็นแฟนคลับนิยายผี บทที่ 10 : ราบเป็นหน้ากลองท้องธานี เห็นทีย่อยยับอัประมาณ (3)
โดย : วันชนะ
เว็บไซต์อ่านเอา ภูมิใจเสนอ “ชายได้โชคอย่างลึกลับ เพราะเป็นแฟนคลับนิยายผี” นวนิยายรางวัลชนะเลิศจากโครงการอ่านเอาก้าวแรก รุ่นที่ 5 ผลงานโดย วันชนะ ทองคำเภา กับเรื่องราวของความตายที่มีเบื้องหลังลึกลับซับซ้อน และวรรณกรรมผีของเหม เวชกร เรื่องรวทั้งหมดสัมพันธ์กันได้อย่างไร พบคำตอบได้ในนวนิยายเรื่องนี้
ที่จริงแล้วอัสดงก็เห็นใจแบงค์อยู่ไม่น้อย เพราะว่าลูกกวาดเลือกที่จะปฏิเสธแบงค์ในระหว่างคาบเรียนวิชาพละ ซึ่งเพื่อนๆ ทุกคนในห้องมารวมตัวกันอยู่ในสนามบาส ตอนนั้น แบงค์เอาช่อดอกไม้มาให้ลูกกวาดพร้อมกับเสียงเพื่อนทั้งห้องเฮและกรี๊ดเป็นแบ็กกราวนด์ บรรยากาศอันน่าอายนั้นทำให้ลูกกวาดตะโกนออกมาเสียงดังอย่างลืมตัวว่า “ไม่เอาหรอก ขอบใจนะแบงค์ เราเป็นเพื่อนกันดีแล้ว” จากนั้นก็รีบหันมาชวนอัสดงว่า “ไปกันเถอะ อัส”
ประโยคสุดท้ายของลูกกวาดนั้นเอง ที่ทำให้แบงค์ผู้อับอายเลือกจะล็อกเป้า ใช้อัสดงเป็นเครื่องมือในการแก้แค้นและล้างอายตลอดทั้งเทอม
โชคไม่ดีที่แบงค์เป็น “เด็กเท่” ที่นักเรียนชายคนอื่นๆ นับถือ นักเรียนหญิง (และนักเรียนชายหลายคน) แอบชอบอยู่เงียบๆ (และไม่เงียบ) และแม้แต่ในกลุ่มเด็กเรียนเอง ก็มีหลายคนที่เวลาเผลอ ก็มองไปที่ร่างสูง ใบหน้าเกลี้ยงเกลา อ่อนเยาว์แต่ดูเกเรเล็กน้อยของแบงค์ ด้วยตาเป็นประกายเช่นกัน
และก็เป็นโชคไม่ดีมากขึ้นไปอีก ที่แบงค์ค่อนข้างจะหัวดีและมีศิลปะในการทำลายศัตรู จากการแกล้งที่ไม่ซับซ้อนในช่วงแรก เช่น ผิวปากแซว หรือด่าหยาบๆ ตอนช่วงเวลาพัก ก็ค่อยๆ พัฒนาเป็นการรวมตัวแกล้งกันเป็นกลุ่ม เช่น ชักชวนชวนแกมคะยั้นคะยอให้อัสดงนั่งที่โต๊ะของพวกตนเองเพื่อทำงานกลุ่มด้วยกันในวิชาสุขศึกษา อัสดงทนเซ้าซี้ไม่ไหวก็ยอมนั่งด้วย (แน่นอนว่าถ้าเป็นวิชาด้านภาษาหรือคณิตศาสตร์ นายอัสดงคงสู้เต็มที่ที่จะเกาะอยู่กับกลุ่มเด็กเรียนมากกว่า)
แล้วเมื่อเริ่มเรียน ทุกคนก็แกล้งเมินเขา ไม่พูดด้วย ทำเย็นชาใส่ทั้งกลุ่ม แต่กลับคุยเล่นกันเองข้ามหัวอัสดงไปมาอย่างเฮฮา แม้ว่าครูจะดุบ้างแบบไม่จริงจังนัก พวกเขาก็ทำทะเล้นขอโทษขอโพย และหันไปแซวครูแบบน่ารักๆ จนสุดท้ายครูก็ยิ้มและหัวเราะไปด้วย อัสดงที่นั่งอยู่ตรงนั้นก็เลยไม่มีทางเลือกอะไรนอกจากต้องทนไปจนจบคาบเรียน
บางวัน เพื่อนกลุ่มนี้ก็จะตั้งฉายาให้อัสดงว่าเป็นพวกหนอนที่เกาะดอกไม้ ไปไหนมาไหนกับคนสวยตลอด แล้วพอถึงช่วงพักกลางวันที่เพื่อนส่วนใหญ่มานั่งพักที่ห้องเรียน ทุกคนก็จะแกล้งหาเรื่องนินทา “หนอน” ด้วยความจริงบ้าง ไม่จริงบ้าง ต่อหน้าอัสดง และต่อหน้าเพื่อนในห้อง
“มึงว่าไอ้หนอนนี่มันเป็นตุ๊ดป่าววะ ถึงเอาแต่ไปไหนมาไหนกับผู้หญิง” เพื่อนคนที่หนึ่งว่า
“เฮ้ย! มึงก็เกินไป หนอนมันแค่อ่อนแอแหละ ร่างกายมันเหมือนผู้หญิง มันก็ต้องทำกิจกรรมผู้หญิงป่าววะ” อีกคนทำเหมือนปลอบ แล้วใส่มุกหักมุม หวังเรียกเสียงฮาจากเพื่อน
“แต่เราก็ใจร้ายกับมันเกินไปเปล่าว้า หนอนมันจะเสียใจนะเว้ยที่เรามาพูดถึงมันแบบนี้ เกิดมันไปฆ่าตัวตายล่ะ กูเตรียมชุดไปงานศพของมันไว้ละ ชุดอย่างเท่ อยากใส่มาก ขอให้ดวงวิญญาณของหนอนไปสู่สุคติเถิด สาธุ!” แบงค์รีบเสริมด้วยน้ำเสียงสะใจ
“พวกคุณก็พูดเกินไป อัส เอ๊ย หนอนรู้ว่าคุณพูดถึงเขา แล้วโกรธขึ้นมาทำไง” เพื่อนตัวเล็ก พูดจาสุภาพ ผู้ภาคภูมิใจเนื่องจากเพิ่งได้เข้าร่วมกลุ่มกับแบงค์มาสักพัก พยายามมีส่วนร่วมแบบไม่คมคายเท่าไรนัก
“โอ๊ยยย กลัวแล้วค้าบ หนอนเขาอันตรายมากด้วย เพราะเขาชอบอ่านหนังสือ ถ้าหนอนเขาเอาหนังสือมาฟาดผม ผมต้องหัวแตกตายแน่เลยค้าบ แบบนี้สินะค้าบ ที่เขาเรียก ‘หนอนหนังสือ’ ”
แบงค์ทำเสียงล้อเลียนดังลั่น ด้วยมุกที่ไม่ขำสักเท่าไรด้วยซ้ำ แต่ก็เรียกเสียงหัวเราะเอ็นดูจากเพื่อนเกือบทั้งห้อง ลูกกวาดหันมากระซิบเบาๆ ว่า “พวกนี้มันบ้า อย่าไปฟังเลย อัส” แต่เมื่อพูดจบก็ก้มหน้าซ่อนยิ้ม และหันไปสบตากับแบงค์แวบหนึ่ง
เด็กชายอัสดงเห็นหน้าเพื่อนสนิทในจังหวะนั้นก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป เขารีบลุกแล้วเดินหนีเสียงหัวเราะโห่ฮาของเพื่อน ตรงไปยังที่เงียบๆ ที่เดียวที่เขารู้จัก – ห้องสมุดโรงเรียน
ห้องสมุดที่โรงเรียนของเขานั้น ไม่ได้ใหญ่โตอะไรแบบห้องสมุดในมหาวิทยาลัยที่เขาจะได้เรียนต่อและทำงานในอีกหลายปีต่อมา แต่ว่าอัสดงก็พอใจในความเงียบ ความเป็น “เซฟเฮาส์” ที่เด็กเท่ เด็กเกเรทั้งหลายไม่ค่อยเข้ามา และมันก็มีซอกมุมที่ลึกเข้าไปด้านใน ซึ่งไม่ค่อยมีใครเข้าไปถึง เพราะเป็นที่เก็บหนังสือและตำราเก่าๆ จึงเป็นที่ที่เขาจะได้อยู่คนเดียวเวลาต้องการความสงบ เช่นวันนี้
อัสดงนั่งพิงชั้นหนังสือ ทั้งโมโหและเสียใจจนน้ำตาออกมาปริ่มๆ โลกที่เขาเติบโตมาไม่ได้ช่วยฝึกฝนให้เขาจัดการกับปัญหาอะไรแบบนี้สักเท่าไร เพราะที่ผ่านมาในวัยเด็ก หากใครทำท่าจะรังแก เขาก็จะมีผู้ใหญ่ปกป้อง คอยตัดสินคดี และมักให้เขาเป็นฝ่ายถูกเสมอ แต่การเป็น “ฝ่ายถูก” มาตลอดก็ไม่ได้มีความหมาย เพราะไม่ได้ช่วยให้เด็กชายเรียนรู้อะไรเลยเกี่ยวกับการอยู่ร่วมกับคนอื่นในสังคม
แวบหนึ่ง เขาก็คิดว่าตัวเขาเองอาจจะไม่ได้มีอะไรดีสักเท่าไรก็ได้ ถ้าสุดท้าย แม้แต่เพื่อนสนิทของเขาเอง ก็พร้อมจะมีความสุขกับการได้รุมรังแกเขาเสียเอง ความเป็นเพื่อนที่สำคัญนักหนาสำหรับวัยรุ่น สุดท้ายแล้วก็กลายเป็นของเล่นที่ใช้เชื่อมสัมพันธ์กับชายที่ตนเองแอบชอบอยู่ลึกๆ
คราวนี้เด็กชายอัสดงน้ำตาไหลออกมาจริงๆ เขารีบหยิบหนังสือเก่าๆ ที่ใกล้มือในตู้ข้างหน้ามาเปิดดูแล้วทำท่าก้มลงอ่านอย่างตั้งใจ ในใจตั้งใจว่าจะซ่อนใบหน้า กลัวว่าใครจะมาเห็นเขานั่งร้องไห้
และนั่นก็เป็นครั้งแรก ที่เด็กชายอัสดงได้อ่านรวมเรื่องสั้นผี ชุด ภูตผีปีศาจไทย ตอน ใครอยู่ในอากาศ ของเหม เวชกร
โลกในหนังสือของเหม นอกจากมีเรื่องผีที่หักมุมอย่างแยบยล ตัวละครมีชีวิตชีวาสมจริงแล้ว ก็ยังมีภาษาและบรรยากาศของความเป็นไทยในยุคโบราณที่เขาเกิดไม่ทัน แต่ก็มีความคุ้นเคยอย่างคาดไม่ถึงสำหรับเด็กหนุ่มที่โตขึ้นมาในชนบทภาคกลาง อัสดงอ่านอย่างเพลิดเพลินจนลืมความทุกข์ในใจชั่วขณะ
และเขาก็เลยใช้เวลาช่วงพักกลางวันที่ “มุมลับ” ของเขาคนเดียวอีกยาวนานจนเรียนจบจากโรงเรียนไป
แม้ว่าสุดท้ายเขาจะเลิกน้อยใจ และกลับไปคบกับกลุ่มเพื่อนเด็กเรียนได้เช่นเดิมก็ตาม เพราะทุกคนก็ปลอบเขาว่า มันเป็นเรื่องล้อกันเล่นที่แรงไปสักนิด ทุกคนไม่คิดว่าอัสดงจะคิดมาก
และไม่นานหลังจากนั้น แบงค์เองก็เพลาๆ จากการรังแกเขาไปบ้าง หลังจากมีข่าวลือว่า นิชนันท์ เพื่อนบ้านของอัสดง ได้ไป “เคลียร์” กับแบงค์และผองเพื่อน ส่วนการรุมรังแกอัสดงนั้นก็เลิกไปเลยในที่สุด เมื่อเด็กหนุ่มสุดเท่เปิดตัวคบเป็นแฟนกับลูกกวาดในเทอมต่อมา ทำให้ลูกกวาดค่อยๆ แยกตัวออกจากกลุ่มเด็กเรียนไปอยู่กับกลุ่มของแบงค์แทน ซึ่งอัสดงก็ยินดีกับเพื่อน (และกับตัวเอง) ด้วย
แต่แผลที่ถูกกระทำก็ไม่มีทางจะหายไปได้ง่ายๆ เด็กหนุ่มบอกตัวเองว่าเขายอมทำเหมือนลืมทุกอย่างเพื่อจะได้อยู่รอดในสังคมโรงเรียนต่อไป แต่ในใจแล้ว เพื่อนสนิทจริงๆ ในชีวิตของเขาในตอนนี้ก็มีเพียงเหล่าหนังสือเก่า โดยเฉพาะเรื่องผีและอาชญนิยายน่ากลัวที่เขาค้นพบที่มุมลับในห้องสมุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหักมุมเศร้าหดหู่เชิงจิตวิทยาอย่างงานของ อ.อุดากร หรือจะเป็นผีความยุติธรรมที่คอยมาแก้แค้น เอาชีวิตพวกคนร้ายและคนพาลในเรื่องสั้นของ อ.อรรถจินดา
แต่ที่จับใจเขามากที่สุด ก็คือเรื่องของบรรดาคนเศร้าที่ชีวิตไม่สมหวังแต่ก็มีความรักความสัมพันธ์กับภูตผีปีศาจนิสัยดีที่มาคอยปลอบใจ ในงานของเหม เวชกร ซึ่งเขาอ่านซ้ำแล้วซ้ำอีกจนจำเนื้อหาได้
ภาพอดีตในหัวดับไปกะทันหัน อาจารย์อัสดงเงยหน้าขึ้นเมื่อมีเสียงเรียกชื่อเบาๆ เขาเห็นคุณสุขสันติยืนอยู่ตรงข้ามกับโต๊ะทำงานที่เขานั่งอยู่ หนุ่มใหญ่รู้สึกว่าเขาต้องการเวลาส่วนตัวมากกว่าที่จะมาเคลียร์เรื่องการงานทั้งหลายตอนนี้ จึงอ้าปากจะบอกคุณสุขสันติ แต่ว่าเจ้าหน้าที่หนุ่มพูดออกมาไวกว่า
“อาจารย์ ไม่ต้องคิดอะไรเยอะครับ ตอนนี้อาจารย์ลาพักร้อนไปก่อนจะดีที่สุด” คุณสุขสันติพูดด้วยใบหน้าเรียบเฉยเหมือนเคย แต่มีน้ำเสียงอ่อนโยนขึ้นเล็กน้อย
“ถ้าไปสอน นักศึกษาส่วนใหญ่น่าจะเข้าใจอาจารย์ และไม่เชื่อข่าวลือ แต่ว่าก็จะต้องมีคนที่โกรธเคืองแสดงออกอะไรบ้าง เดี๋ยวเรื่องจะไปกันใหญ่” เขาว่า “จริงๆ แล้ว การถูกใส่ร้ายแบบนี้ไม่น่ากลัวหรอกครับ ข้อมูล วันที่ ลายเซ็น อะไรต่างๆ มันจะเอามายันกันได้ เพียงแต่อาจารย์คงต้องทนเครียดหน่อยเพราะว่าต้องโดนสอบวินัยตามขั้นตอนครับ”
อัสดงมองหน้าคุณสุขสันติอย่างนึกไม่ถึง ก่อนจะยิ้มอ่อนแรง แล้วพึมพำขอบคุณ คุณสุขสันตินั่งลงที่เก้าอี้ตรงข้ามอาจารย์หนุ่มใหญ่ และเลื่อนมือมาตบที่หลังมือของอัสดงสองสามที
“ผมจะจัดการพวกเอกสารกับหลักฐานต่างๆ เอาไว้ให้เป็นระบบ ถ้าอาจารย์พร้อมแล้วเรามาดูไปด้วยกัน แต่ตอนนี้ผมจะไปเอาใบลาพักร้อนมาให้อาจารย์เซ็นก่อน คราวนี้ขอให้ทำเป็นเอกสารกระดาษ ของจริง และยื่นด้วยตัวเองจะปลอดภัยกว่าอีเมลนะครับ”
แล้วคุณสุขสันติก็ยิ้ม
เป็นรอยยิ้มบนใบหน้าอ่อนเยาว์และประกายตาขี้เล่น ที่อัสดงไม่เคยเห็นจากเขามาก่อน
และวันนั้น ก็เป็นหนึ่งในไม่กี่ครั้งในชีวิตของอาจารย์หนุ่มใหญ่ ที่เขารู้สึกว่าตนเองมีเพื่อนในยามลำบาก นอกเหนือจากคนในครอบครัว อัสดงรู้สึกขึ้นมาอย่างผิดต่อสถานการณ์อึมครึมรอบตัว ว่าที่จริงแล้ว เขาก็โชคดีอยู่ไม่น้อย
- READ ชายได้โชคอย่างลึกลับ เพราะเป็นแฟนคลับนิยายผี บทที่ 11 : ขับรถญี่ปุ่นอย่างฝรั่ง ดุจนกกลับรังภูมิสถาน (2)
- READ ชายได้โชคอย่างลึกลับ เพราะเป็นแฟนคลับนิยายผี บทที่ 11 : ขับรถญี่ปุ่นอย่างฝรั่ง ดุจนกกลับรังภูมิสถาน (1)
- READ ชายได้โชคอย่างลึกลับ เพราะเป็นแฟนคลับนิยายผี บทที่ 10 : ราบเป็นหน้ากลองท้องธานี เห็นทีย่อยยับอัประมาณ (3)
- READ ชายได้โชคอย่างลึกลับ เพราะเป็นแฟนคลับนิยายผี บทที่ 10 : ราบเป็นหน้ากลองท้องธานี เห็นทีย่อยยับอัประมาณ (2)
- READ ชายได้โชคอย่างลึกลับ เพราะเป็นแฟนคลับนิยายผี บทที่ 10 : ราบเป็นหน้ากลองท้องธานี เห็นทีย่อยยับอัประมาณ (1)
- READ ชายได้โชคอย่างลึกลับ เพราะเป็นแฟนคลับนิยายผี บทที่ 9 : ถึงครายกทัพจับศึก ครื้นครึกไปทั่วบุรีศรี (2)
- READ ชายได้โชคอย่างลึกลับ เพราะเป็นแฟนคลับนิยายผี บทที่ 9 : ถึงครายกทัพจับศึก ครื้นครึกไปทั่วบุรีศรี (1)
- READ ชายได้โชคอย่างลึกลับ เพราะเป็นแฟนคลับนิยายผี บทที่ 8 : ธรณีเสียงสนั่นลั่นไป เหลือเชื่อหัวใจนารี (2)
- READ ชายได้โชคอย่างลึกลับ เพราะเป็นแฟนคลับนิยายผี บทที่ 8 : ธรณีเสียงสนั่นลั่นไป เหลือเชื่อหัวใจนารี (1)
- READ ชายได้โชคอย่างลึกลับ เพราะเป็นแฟนคลับนิยายผี บทที่ 7 : มาถึง ถ้ำลึกกึกก้องระเบิดใหญ่ (2)
- READ ชายได้โชคอย่างลึกลับ เพราะเป็นแฟนคลับนิยายผี บทที่ 7 : มาถึง ถ้ำลึกกึกก้องระเบิดใหญ่ (1)
- READ ชายได้โชคอย่างลึกลับ เพราะเป็นแฟนคลับนิยายผี บทที่ 6 : เล่ห์ดั่งร้อยกรรมนำพา วนว่ายเวราหาพ้นภัย (2)
- READ ชายได้โชคอย่างลึกลับ เพราะเป็นแฟนคลับนิยายผี บทที่ 6 : เล่ห์ดั่งร้อยกรรมนำพา วนว่ายเวราหาพ้นภัย (1)
- READ ชายได้โชคอย่างลึกลับ เพราะเป็นแฟนคลับนิยายผี บทที่ 5 : ชีวิตวันวานกาลเก่า เหมือนเงากรรมสั่งสังขาร์ (3)
- READ ชายได้โชคอย่างลึกลับ เพราะเป็นแฟนคลับนิยายผี บทที่ 5 : ชีวิตวันวานกาลเก่า เหมือนเงากรรมสั่งสังขาร์ (2)
- READ ชายได้โชคอย่างลึกลับ เพราะเป็นแฟนคลับนิยายผี บทที่ 5 : ชีวิตวันวานกาลเก่า เหมือนเงากรรมสั่งสังขาร์ (1)
- READ ชายได้โชคอย่างลึกลับ เพราะเป็นแฟนคลับนิยายผี บทที่ 4 : พิลาปรำพันโศกี ข้อนอกทุบตีดวงชาตา (3)
- READ ชายได้โชคอย่างลึกลับ เพราะเป็นแฟนคลับนิยายผี บทที่ 4 : พิลาปรำพันโศกี ข้อนอกทุบตีดวงชาตา (2)
- READ ชายได้โชคอย่างลึกลับ เพราะเป็นแฟนคลับนิยายผี บทที่ 4 : พิลาปรำพันโศกี ข้อนอกทุบตีดวงชาตา (1)
- READ ชายได้โชคอย่างลึกลับ เพราะเป็นแฟนคลับนิยายผี บทที่ 3 : ทราบความในสารการใหญ่ นึกห่วงดวงหทัยมารศรี (2)
- READ ชายได้โชคอย่างลึกลับ เพราะเป็นแฟนคลับนิยายผี บทที่ 3 : ทราบความในสารการใหญ่ นึกห่วงดวงหทัยมารศรี (1)
- READ ชายได้โชคอย่างลึกลับ เพราะเป็นแฟนคลับนิยายผี บทที่ 2 : ออฟฟิศมินิมัลทันกาล นงคราญเจรจาพาที
- READ ชายได้โชคอย่างลึกลับ เพราะเป็นแฟนคลับนิยายผี บทที่ 1 : บัดนั้น อาจารย์หนุ่มใหญ่เหิมใจหาญ
- READ ชายได้โชคอย่างลึกลับ เพราะเป็นแฟนคลับนิยายผี : บทนำ