ชายได้โชคอย่างลึกลับ เพราะเป็นแฟนคลับนิยายผี บทที่ 16 : พิษเล่ห์เพทุบายวายวาง นวลนางบีบคั้นบรรลัย (1)

ชายได้โชคอย่างลึกลับ เพราะเป็นแฟนคลับนิยายผี บทที่ 16 : พิษเล่ห์เพทุบายวายวาง นวลนางบีบคั้นบรรลัย (1)

โดย : วันชนะ

Loading

เว็บไซต์อ่านเอา ภูมิใจเสนอ “ชายได้โชคอย่างลึกลับ เพราะเป็นแฟนคลับนิยายผี” นวนิยายรางวัลชนะเลิศจากโครงการอ่านเอาก้าวแรก รุ่นที่ 5 ผลงานโดย วันชนะ ทองคำเภา กับเรื่องราวของความตายที่มีเบื้องหลังลึกลับซับซ้อน และวรรณกรรมผีของเหม เวชกร เรื่องรวทั้งหมดสัมพันธ์กันได้อย่างไร พบคำตอบได้ในนวนิยายเรื่องนี้

รายการผีแม่ม่ายในวันนั้นจบลงแบบที่ทุกคนในออฟฟิศคุณทอฟ้าพอใจ เพราะว่าอัสดงได้ตอบคำถามต่างๆ อย่างจุใจ เป็นระบบ และมีลำดับขั้นตอน ด้วยความช่วยเหลือของผู้ช่วยอย่างวารี (ครูกับศิษย์ยังหลบตากันเป็นพักๆ) พอปิดรายการ ทีมงานก็ปรบมือโห่ร้อง บรรยากาศอบอุ่นจนทุกคนแทบจะวิ่งเข้ามากอดกันเป็นวงกลม และเปิดเพลงซาบซึ้งเป็นแบ็กกราวนด์

และเมื่อเกียรติรายงานยอดแชร์คลิปวิดีโอของรายการในยูทูบ คุณทอฟ้าถึงกับออกปากถามอัสดงอีกครั้ง ว่าไม่สนใจจะมาเป็นพิธีกรหลักของรายการอีกคนจริงหรือ ซึ่งอาจารย์หนุ่มใหญ่ก็ปฏิเสธยิ้มๆ

แม้ว่าหัวใจของเขาจะกำลังพองโตกับบทบาทของตัวเองในสื่อใหม่ แต่ในหัวของอัสดงกลับเห็นใบหน้าของบรรดาคนสำคัญของเขาเรียงรายมาตามลำดับอีกครั้ง

เขารู้ดีว่าได้พาตัวเองและคนรอบข้างมาเสี่ยงมากเกินไปแล้ว และเขาก็ยังมีเรื่องอื่นต้องจัดการอีกมาก อัสดงรีบลาทุกคนกลับแล้วเดินออกมาคนเดียว ในขณะที่นางพญาผีแม่ม่ายนัดแนะเหล่าบริวารให้เตรียมประชุมต่อด้วยเสียงที่กลับมาเครียด เมื่อเธอพูดถึงแผนขั้นต่อไปที่คิดว่ากลุ่มเหยื่อสมรจะทำ

 

และในสัปดาห์ต่อมา ที่มหาวิทยาลัยปราชญาลัย ดร.อัสดง สัตยาพิทักษ์ ก็ได้มานั่งฟังเสียงแอร์ที่เริ่มดังครืดคราด สูดกลิ่นเก่าในห้องทำงานที่คุ้นเคย สบตาหญิงสาวในโปสเตอร์ปกหนังสือผีของครูเหม และยิ้มให้คุณสุขสันติที่เข้ามาจัดการเอกสารเคลียร์คดีร้องเรียนต่างๆ ที่อาจารย์หนุ่มใหญ่ถูกใส่ร้าย รอยยิ้มขี้เล่นกับมุกตลกเล็กๆ น้อยๆ ของเด็กหนุ่มหายไปแล้ว แต่ความดุและความเครียดก็น้อยลงกว่าเก่ามาก

การจัดการกับส่วนที่วารีวางยาอาจารย์อัสดงไว้นั้นยากกว่า เพราะ “งาน” ที่เธอทำนั้นเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพจนเถียงไปทางอื่นได้ยาก จนอาจารย์หนุ่มใหญ่ยังอดล้อเลียนไม่ได้ ว่าความเป๊ะของวารีนั้นสุดท้ายก็กลับมามัดตัวเธอซะเอง แต่ดูท่าทางผู้ช่วยวิจัยสาวของเขาจะไม่ตลกไปด้วยสักเท่าไรนัก

ที่จริงแล้ว ช่วงนี้วารียังคงนั่งร้องไห้บ้าง หันมาขอโทษเขาซ้ำๆ บ้าง อยู่ตลอดเวลา ส่วนการทำงานและเขียนวิทยานิพนธ์นั้น นักศึกษาสาวกลับทำอย่างแข็งขันยิ่งกว่าเดิมเสียอีก ราวกับว่าเธอจะพยายามใช้คุณภาพงานและความทุ่มเททั้งหลายมาชดเชยความผิดที่เธอทำลงไป

และถ้าให้ยอมรับจริงๆ ก็เหมือนที่คนมักพูดกันว่า คนที่ไว้ใจทำร้ายกันนั้นมันเจ็บกว่า อัสดงเองก็ไม่รู้สึกว่าความสัมพันธ์ของเขากับลูกศิษย์จะกลับมาเหมือนเดิมได้เร็วนัก เขาเองก็ยังโมโหหรือเศร้าโดยไม่มีเหตุผลขึ้นมาเป็นพักๆ เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ทั้งหมด จนต้องพยายามคุยกับตัวเองซ้ำๆ เพื่อทำความเข้าใจว่าตัวของเขาเองก็เป็นส่วนหนึ่งที่เริ่มต้นปัญหา และหวังว่าความกล้าหาญยอมรับข้อบกพร่องของตนเอง จะช่วยฟื้นฟูจิตใจของเขาด้วยเช่นกัน

ความคิดนี้ได้รับการสนับสนุนโดยบุคลากรทางการแพทย์อย่างนิชนันท์ ที่คุยโทรศัพท์กับเขาเมื่อวาน

“จริงพี่ เราต้องไม่โทษตัวเองเนี่ยก็ใช่ แต่ก็ต้องมองหาแผลในใจตัวเอง ยอมรับและรู้จักความอ่อนแอของตัวเราด้วยเหมือนกัน เวลาไปเจอคนทำอะไรเราอีก เราจะได้รู้ว่ามันต้องแก้ปัญหาตรงไหน และมันตอบสนองหรือป้องกันตัวเองทางไหนได้บ้าง อันเนี้ย คือความเข้มแข็งที่แท้จริง อย่ามาเอาอย่างหนู แบบหนูนี่น่าจะเรียกท้าตีท้าต่อยมากกว่าเข้มแข็งนะ จริงๆ แล้ว” คุณหมอสาวหัวเราะ

“คร้าบ คุณนักมวย”

“ค่า คุณกระสอบทราย”

แล้วสองเพื่อนรักวัยกลางคนก็หัวเราะกันไม่หยุดเหมือนเด็กๆ ก่อนจะค่อยๆ เงียบเสียงลง

 

พอเงียบกันไปสักพัก นิชนันท์ก็เปลี่ยนมาทำเสียงเครียด

“แต่เอาจริงๆ นะพี่อัส วารีเขาน่าสงสารมากเลยนะพี่ ในบรรดาคนที่ถูกกระทำมาเนี่ย เรื่องของวารีโหดสุดละที่หนูเคยฟังมา ยิ่งกว่าละครอีกพี่ หนูบอกเลย ทั้งพ่อตัวทั้งพ่อเลี้ยง ใช้ทั้งความรุนแรงทั้งคุกคามเขามาตลอด ดีที่เรียนหนังสือเก่งและฉลาดเอาตัวรอด เขาเลยเข้าหาอาจารย์ ขอทุนอะไรต่างๆ จนรอดตัวมาได้”

อาจารย์หนุ่มใหญ่ถอนใจ “นั่นน่ะสิ พี่ก็สงสัย แต่เขาทำตัวปกติมากเลยนะ เรียนเก่ง ทำงานเก่ง พูดจามั่นใจ ดูไม่ออกเลยว่าเจออะไรมาเยอะแยะขนาดนั้น ถ้าไม่มีเรื่องผีแม่ม่ายพี่คงไม่รู้เลย”

“เขาพยายามเข้มแข็งน่ะพี่ อยากทิ้งอดีตที่ไม่ดีไว้ เริ่มต้นชีวิตใหม่ในมหาวิทยาลัย พยายามลืมๆ ไป แต่พอมาเจอคุณทอฟ้า เจอขบวนการผีแม่ม่ายอะไรของเธอ มันเลยเหมือนไปทริกเกอร์เรื่องที่ติดค้างในใจขึ้นมา เกิดแรงบันดาลใจอยากทำอะไรสักอย่างเพื่อตอบโต้ผู้ชายที่ร้ายๆ เลยถลำตัวไปซะลึก” นิชนันท์ถอนใจบ้าง

“คุณทอฟ้าแกก็ทั้งฉลาดทั้งมีเสน่ห์ ชักจูงคนเก่งด้วยแหละนะ” อาจารย์หนุ่มใหญ่ลืมตัว หลุดปากพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแบบอาจารย์หนุ่มน้อย

คราวนี้นิชนันท์เสียงเครียด

“พี่อัส หนูถามจริงๆ ว่าพี่คิดอะไรกับคุณทอฟ้าเขาจริงๆ ใช่ไหม” คุณหมอคาดคั้นถามอาจารย์หนุ่มใหญ่เสียงดุ

“เฮ้ย พี่เปล่า! พี่ก็แค่พูดเรื่องจริงที่เจอมาแหละ คือเข้าใจว่าเขาน่ากลัว แต่เขาก็มีเสน่ห์จริงนะ แบบคนที่ลึกลับเข้าใจยากอะไรแบบนี้ไง” อัสดงละล่ำละลัก

“คือหนูไม่มีปัญหาเลยนะ ถ้าพี่จะมีความรักหรืออะไร วัยพี่ก็เหมาะสมจนจะเกินงามไปนานมากแล้ว” นิชนันท์อดล้อเลียนพี่ชายไม่ได้ “แต่มันมีเรื่องนึงพี่ ที่วารีเล่าให้หนูฟังตอนที่ไปบ้าน แล้วหนูหยุดนึกถึงไม่ได้เลย”

“เรื่องอะไร”

“คือตอนที่กลุ่มผีแม่ม่ายของเขาวางแผนจะดิสเครดิตพี่ แล้วสุดท้ายเลยใส่ร้ายพี่เรื่องลอกงานน่ะ ที่เขาปรึกษากันตอนแรก เขาจะไม่ใช้แผนนี้หรอกนะ แผนที่เขาคิดกันตอนแรก มันชั่วร้ายกว่านั้นมาก” เธอพูดเสียงจริงจัง “คือคุณทอฟ้าแกเรียกวารีไปคุยส่วนตัว พูดชม ยกยอวารีต่างๆ นานา จะให้เป็นวีรสตรีอะไรต่างๆ แล้วคุยจนเด็กมันผ่อนคลาย ให้เล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างเขากับพี่อัส คุณทอฟ้าแกสนใจเป็นพิเศษในแง่ว่า ทุกคนรู้ว่าวารีเป็นศิษย์รัก เป็นผู้ช่วยวิจัย คนทั้งมหาวิทยาลัยเห็นความสัมพันธ์อันนี้ แกเลย…พยายามโน้มน้าววารีให้ใส่ร้ายพี่ว่าพี่คุกคามทางเพศ ใช้อำนาจความเป็นอาจารย์ข่มเหงลูกศิษย์”

โทรศัพท์มือถือร่วงลงจากมืออาจารย์หนุ่มใหญ่ จนเขาร้องเฮ้ย! แล้วรีบตะครุบขึ้นมาคุยต่อ “เขาคิดขนาดนั้นเลยเหรอ”

“ใช่พี่! ผู้หญิงคนนี้เขาอันตรายกว่าที่พี่คิดเยอะมาก แล้วคือ มันจะมัดตัวพี่มากๆ เพราะว่าพี่กับวารีต้องทำงานวิจัยด้วยกันหลังเลิกเรียนมืดๆ อยู่ในห้องด้วยกันสองคนตลอด เจ้าหน้าที่หรือ รปภ.เขาก็เห็นอยู่ตลอดเวลาใช่มั้ยล่ะ ถ้านักศึกษาร้องเรียนเรื่องพวกนี้ขึ้นมา ไม่ว่าจะจริงหรือไม่จริง มันจะหลุดยากมากๆ พี่” นิชนันท์ถอนใจ “ที่พี่รอดจากการใส่ร้ายขนาดนั้นมาได้ แถมยังย้อนไปขู่เขาต่างๆ นานา ได้อีกนี่ เป็นเรื่องแปลกมาก และไม่น่าไว้ใจเลยว่าเขาจะทำอะไรได้อีกในอนาคต วารีเองแกบอกว่า ถึงตอนที่รู้แผนแบบนั้น ก็อยากจะออกจากผีแม่ม่ายแล้ว แต่กลัวจนไม่รู้จะพูดยังไง ได้แต่ต่อรองว่าทำอย่างอื่นที่ไม่ถึงกับทำลายอนาคตพี่แทนได้มั้ย”

อัสดงตัวชา นิ่งไปพักใหญ่ จนนิชนันท์ต้องเรียก เมื่อเขาตอบว่ายังอยู่ดี คุณหมอสาวจึงพูดต่อ

“พี่ก็หาทางให้อภัยเขา ให้อภัยตัวเองได้ก็ดีนะพี่ เด็กคนนี้เก่งมาก ควรจะได้มีชีวิตที่ดีๆ ต่อ”

“พี่เข้าใจ พี่เห็นด้วยมากๆ เลยว่ะนิช นี่พี่ก็ต้องยอมเฉือนเนื้อตัวเอง รับผิดหลายเรื่อง ว่าตัวเองเลินเล่อเอง เพื่อให้มหาลัยไม่เอาผิดเขา แต่พี่ก็เต็มใจแหละนะ”

และเมื่อคุยกับนิชนันท์อีกสองสามคำ อัสดงก็ขอวางหู ลาไปนอน ซึ่งเมื่อขึ้นไปบนเตียง ปิดไฟแล้ว อาจารย์หนุ่มใหญ่ก็หลับไม่ลงไปอีกหลายชั่วโมง

 



Don`t copy text!