ชายได้โชคอย่างลึกลับ เพราะเป็นแฟนคลับนิยายผี บทที่ 6 : เล่ห์ดั่งร้อยกรรมนำพา วนว่ายเวราหาพ้นภัย (2)

ชายได้โชคอย่างลึกลับ เพราะเป็นแฟนคลับนิยายผี บทที่ 6 : เล่ห์ดั่งร้อยกรรมนำพา วนว่ายเวราหาพ้นภัย (2)

โดย : วันชนะ

Loading

เว็บไซต์อ่านเอา ภูมิใจเสนอ “ชายได้โชคอย่างลึกลับ เพราะเป็นแฟนคลับนิยายผี” นวนิยายรางวัลชนะเลิศจากโครงการอ่านเอาก้าวแรก รุ่นที่ 5 ผลงานโดย วันชนะ ทองคำเภา กับเรื่องราวของความตายที่มีเบื้องหลังลึกลับซับซ้อน และวรรณกรรมผีของเหม เวชกร เรื่องรวทั้งหมดสัมพันธ์กันได้อย่างไร พบคำตอบได้ในนวนิยายเรื่องนี้

เย็นนั้น ตอนที่อัสดงโทร.หาพ่อและแม่ที่บ้าน อาจารย์หนุ่มใหญ่อดไม่ได้ที่จะระบายเรื่องราวชวนอัดอั้นต่างๆ ที่เขาได้เจอมาตลอดทั้งสัปดาห์ “น้องอัส” ของพ่อและแม่ร่ายยาวตั้งแต่เรื่องของคุณแม่ลัดดา (เล่าเรื่องคุณทอฟ้าแบบกลางๆ ไม่ลงลึกถึงความรู้สึกแปลกๆ) ไปจนถึงความรู้สึกสำนึกผิดถึงคุณสุขสันติ

พ่อผู้ฟังเงียบๆ มาตลอด เรียกชื่อเล่นหนุ่มใหญ่ด้วยเสียงอ่อนโยน “อัส”

“ครับพ่อ”

“สงสัยว่าคืนนี้ อัสจะต้องไปคลายเครียดบ้างแล้วละลูก ไปแบบที่พ่อเคยพาไปน่ะ อันนี้พ่อไม่ได้ล้อนะ แต่พ่อว่ามันน่าจะช่วยได้”

“แต่ว่ามันมืดแล้วนะครับพ่อ พรุ่งนี้ผมก็มีสอน”

“ของแบบนี้ใครเขาไปกลางวันกันล่ะลูก ไปตอนเนี้ยมันถูกแล้ว มันคือการไปเที่ยวกลางคืนไงครับน้องอัส ไปเถอะ เราอายุขนาดนี้แล้วไม่มีใครมาว่าหรอก”

“จะไม่ดูเหลวไหลไปเหรอพ่อ ไม่ใช่ละครซะหน่อย ที่จะไปทำแบบนั้นแล้วความทุกข์จะหายไปน่ะครับ แล้วที่จริง ถ้าเป็นในละครหรือในวรรณกรรมเนี่ย ไปเที่ยวกลางคืนตอนที่กำลังสับสนนี่จะทำให้ยิ่งเจอเรื่องไม่ดีนะครับ”

“หยุดก่อนลูก! อย่าเพิ่งมาเลกเชอร์พ่อตอนนี้ ถือว่าเชื่อพ่อสักครั้ง พ่อรับรองว่าที่ที่อัสจะไปไม่มีอันตรายอะไรขนาดนั้นแน่นอน”

“แต่มันน่าอายนะครับ ผมก็ไม่ได้ไปมาตั้งนานแล้ว”

“ไปเถอะลูก แม่เห็นด้วยกับพ่อนะ” เสียงแม่แทรกเข้ามาอย่างขรึมๆ

 

ในที่สุด จากการคะยั้นคะยอของพ่อ รวมทั้งการสนับสนุนแข็งขันของแม่ อัสดงก็อาบน้ำใหม่ แต่งตัวฉูดฉาดกว่าที่เคย ด้วยเสื้อเชิ้ตฮาวายสีสด กับกางเกงค่อนข้างพอดีตัว จอดรถหน้าตึกเล็กๆ ชั้นเดียวที่ประดับไฟราวสีเหลืองสว่างไสว มีพนักงานในชุดเสื้อเชิ้ตดำ กางเกงดำ คอยต้อนรับ อาจารย์หนุ่มใหญ่ถอนใจ แล้วเดินดุ่มเข้าไปข้างในอย่างคุ้นเคย

เมื่อประตูเปิดออก ภายในสถานที่นั้นยังคงตกแต่งแบบเดียวกับที่หนุ่มใหญ่เคยมาคราวก่อน การตกแต่งโดยรวมเป็นแบบย้อนยุค บาร์ทำด้วยไม้ขัดเงา มีขวดเครื่องดื่มเรียงรายอยู่ด้านหลัง ฉากเป็นลวดลายเรขาคณิตสลับสีส้ม แดง น้ำตาล และเขียวเข้ม มีตู้เพลงที่กำลังบรรเลงเพลงเสียงค่อนข้างดังตั้งอยู่มุมหนึ่ง โต๊ะสำหรับแขกของร้านที่เรียงรายไปรอบห้องเป็นเก้าอี้บุหนังสีแดงเลือดหมู และข้างๆ กล่องใส่ทิชชูสีชมพู ก็มีกระทั่งแจกันที่ปักดอกกุหลาบประดิษฐ์จนล้นวางอยู่ตามโต๊ะ

ตอนที่อัสดงนั่งลงตรงโต๊ะว่างแล้วหยิบเมนูอาหารและเครื่องดื่มปกบุหนังขึ้นมาเปิด พิธีกรบนเวทีก็เริ่มประกาศขึ้นมาพอดี

“สวัสดีคุณพ่อคุณแม่คุณน้าคุณอาทุกท่านนะครับ ยินดีต้อนรับกลับมาเยือนร้าน ‘อาศรมเพลงเก่า’ กันอีกวันนะครับ ขอบคุณที่มาร่วมสังสรรค์ สำเริงสำราญกับบรรยากาศย้อนอดีตย้อนวัย ที่หนุ่มสาวเท้าไฟแบบคุณพ่อคุณแม่หลงรัก หวังว่าค่ำคืนนี้จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่และคุณพี่ๆ เพลิดเพลินนะคร้าบ”

พิธีกรหนุ่มกระดกลิ้นมากเกินจำเป็นสำหรับทุกคำที่มีเสียง ร และ ล ควบกล้ำ ซึ่งทำให้ฟังดูสนุกเกินไปสักหน่อยสำหรับบรรยากาศร้านเพลงลูกกรุง

แขกในร้านพากันปรบมือ (แขกทุกคนล้วนมีอายุมากกว่าอัสดงเกิน 1 ทศวรรษ) พร้อมกับที่ดีเจเปิดดนตรีอินโทรเพลง “สุขกันเถอะเรา” ของสุนทราภรณ์จากลำโพงที่แผดเสียงแหลม คุณลุงคุณป้าบางโต๊ะเริ่มขยับตัวยืนขึ้นและเต้นไปตามจังหวะเพลงเบาๆ

พิธีกรหนุ่มคนเดิมประกาศต่อด้วยน้ำเสียงคึกคัก

“แล้วอย่าลืมนะครับ ดีเจจะชูป้ายชื่อนักร้องขึ้นมาก่อน ทีละสองชื่อพร้อมมีเลขกำกับ คุณพ่อคุณแม่ที่สนใจจะร้องเพลงของนักร้องตามป้าย จะต้องถือดอกกุหลาบที่มีหมายเลขโต๊ะผูกไว้มาใส่ตะกร้าลำดับ 1 กับ 2 ที่วางไว้หน้าเวทีตรงนี้ แล้วดีเจจะจับฉลากเชิญมาร้องเพลงของนักร้องที่ท่านเลือกไว้ ตามคิวนะครับ” เขาอธิบายต่อด้วยเสียงลึกลับตื่นเต้น “ผมเขียนชื่อนักร้องไว้ตัวใหญ่ๆ ไม่ต้องใส่แว่นก็มองเห็นนะครับ แต่ถ้าคุณพ่อคุณแม่ท่านใดไม่อยากเดิน ก็สามารถเรียกน้องบ๋อยของเราให้ถือดอกกุหลาบมาวางได้เลยครับ แต่ขอให้มั่นใจว่าใส่ถูกตะกร้าถูกลำดับนะครับ เพราะถ้าใส่ผิดตัวเลข เลือกนักร้องผิดคน แล้วเกิดจับฉลากได้ขึ้นมา คุณพ่อคุณแม่จะต้องรับผิดชอบร้องเพลงตามนั้น”

พอถึงตรงนี้ พิธีกรหนุ่มก็ยักคิ้วด้วยลีลาเจ้าเล่ห์ แล้วบอกว่า

“ถ้าคุณพ่อขอชรินทร์ นันทนาครไว้ แต่ฉลากออกที่แม่ผ่องศรี วรนุช ผมก็ต้องขอฟังเสียงรถด่วนขบวนสุดท้ายจากคุณพ่อด้วยนะคร้าบ”

แขกในร้านหัวเราะครืนและปรบมือเสียงดัง อัสดงเริ่มรู้สึกคึกคักขึ้นมาจริงๆ อาจารย์หนุ่มใหญ่หันไปบอกพนักงานเสิร์ฟที่ยืนรอ

“ผมเอาน้ำโคล่าแบบไม่มีน้ำตาลแก้วเดียวก่อนครับ แล้วเดี๋ยวค่อยสั่งอย่างอื่นเพิ่มนะ ผมจะรอดูป้าย เดี๋ยวคิวที่สองรอบแรกต้องเป็นธานินทร์ อินทรเทพแน่ๆ ผมกลัวจะเอาดอกกุหลาบไปจองไม่ทัน”

 



Don`t copy text!