ชายได้โชคอย่างลึกลับ เพราะเป็นแฟนคลับนิยายผี : บทส่งท้าย

ชายได้โชคอย่างลึกลับ เพราะเป็นแฟนคลับนิยายผี : บทส่งท้าย

โดย : วันชนะ

Loading

เว็บไซต์อ่านเอา ภูมิใจเสนอ “ชายได้โชคอย่างลึกลับ เพราะเป็นแฟนคลับนิยายผี” นวนิยายรางวัลชนะเลิศจากโครงการอ่านเอาก้าวแรก รุ่นที่ 5 ผลงานโดย วันชนะ ทองคำเภา กับเรื่องราวของความตายที่มีเบื้องหลังลึกลับซับซ้อน และวรรณกรรมผีของเหม เวชกร เรื่องรวทั้งหมดสัมพันธ์กันได้อย่างไร พบคำตอบได้ในนวนิยายเรื่องนี้

เวลาที่นักศึกษาหรือเพื่อนร่วมงานมาเล่าเรื่องเกี่ยวกับพอดแคสต์ของ “ผีแม่ม่าย” หรือว่า “เหยื่อสมร” ให้เขาฟัง อัสดงจะแสดงออกชัดเจนทันทีว่าไม่สนใจ อาจารย์หนุ่มใหญ่มักจะตอบทุกคนด้วยน้ำเสียงปกติธรรมดาว่า “ผมไม่ค่อยได้ตามเลยครับ ไม่รู้เลยว่าเขาพูดอะไรกัน”

ซึ่งก็เป็นความจริง เขาไม่ได้ติดตามรายการพอดแคสต์ หรือคอมเมนต์ตามอินเทอร์เน็ตเหล่านั้นแล้ว

แต่เวลาที่เขาอยู่คนเดียวในออฟฟิศ อย่างเช่นวันนี้ เขาจะปิดประตูห้อง ล็อกเป็นอย่างดี แล้วหยิบลังที่หลังตู้ลงมาเปิด เป็นลังสีน้ำตาลที่เหมือนกับลังใส่กระดาษรีไซเคิลธรรมดาทั่วไปที่เห็นตามออฟฟิศต่างๆ

ในลังนั้นมีทั้งแฟ้มใส่กระดาษที่ถ่ายเอกสารและสแกนออกมาเป็นปึก กล่องเล็กๆ ใส่แฟลชไดรฟ์หลายอัน รูปภาพเก่าๆ ที่ถ่ายมาจากหนังสือพิมพ์ เป็นสิ่งของที่ดูเผินๆ แล้วเหมือนกับข้อมูลประกอบการวิจัยของอาจารย์สอนวรรณกรรมทั่วๆ ไป

ที่แปลกไปจากนั้นก็คือ ที่จริงแล้วมันเป็นข้อมูลเกี่ยวกับชีวิตของนางสาวทอฟ้า โชคโคจร!

 

อัสดงไม่ได้กลัวว่าคุณทอฟ้าหรือกลุ่มเคลื่อนไหวใดๆ จะมาหาเรื่อง ก่อกวน หรือทำร้ายเขามากเท่าไรแล้ว คนเหล่านั้นเองก็พากันเงียบไปจากชีวิตเขาสักพัก

แต่ความระแวดระวังภัยล่วงหน้า บวกกับความอยากรู้อยากเห็น และ…แผลในใจที่ยังทำให้เขาเจ็บอยู่เล็กน้อย ก็ทำให้หนุ่มใหญ่ตัดสินใจโทรศัพท์ไปหานาที รุ่นน้องที่เป็นสื่อมวลชน ให้ช่วยติดตาม หาข้อมูลส่งมาให้เขาเป็นระยะๆ เพื่อจะได้ทั้ง “เฝ้าระวัง” และ “ถอดบทเรียน” จากเหตุการณ์ตื่นเต้นที่เพิ่งจะผ่านเข้ามาในชีวิตเขา

น่าเสียดายที่ระบบการทำงานในออฟฟิศของเขาไม่ได้มินิมัลงดงามแบบในที่ทำงานของคุณทอฟ้า อาจารย์หนุ่มใหญ่จึงต้องควานหาของที่ต้องการในลังอยู่นาน เขานึกในใจว่า พอวารีเรียนจบและไปเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยต่างจังหวัด ความสะดวกสบายในการทำงานของเขาก็ยิ่งแย่ลง และคงจะเป็นแบบนี้ไปอีกนาน เพราะหลังจากวารีแล้ว อัสดงก็ยังไม่มีแผนจะรับผู้ช่วยวิจัยคนใหม่

ในที่สุดเขาก็เจอสิ่งที่ต้องการ เป็นซองกระดาษสีน้ำตาล ที่ประทับตราว่า “ลับ” อยู่ตรงหน้าซอง อาจารย์หนุ่มอดคิดไม่ได้ว่า การประทับตราแบบนี้ยิ่งเป็นการทำให้มั่นใจว่า ใครที่มาเจอซองนี้เข้า จะต้องเปิดดูแน่ๆ

อัสดงกลับมานั่งที่โต๊ะ ดึงสำเนาจดหมายค่อนข้างยาวฉบับหนึ่งออกมา เป็นจดหมายที่นาทีบอกว่า ลับสุดยอด และต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการที่จะไปหาเอกสารนี้มา

ที่จริงแล้ว ผู้รับที่จดหมายฉบับนี้จ่าหน้าถึง ก็ยังไม่เคยรู้ว่ามีจดหมายฉบับนี้อยู่

นักข่าวหนุ่มถึงกับทำเสียงแบบแก๊งมาเฟีย กระซิบอัสดงว่า “ผมจะไม่บอกพี่นะว่าผมได้มายังไง เพราะไม่งั้น ผมอาจต้องยิงพี่เพื่อปิดปากด้วย!”

อาจารย์หนุ่มใหญ่รู้สึกอึดอัดนิดหน่อยที่จะต้องมาลอบอ่านจดหมายของคนอื่นที่เจ้าตัวไม่ยินยอมให้อ่าน อีกทั้งยังน่าจะผิดกฎหมายด้วย แต่เมื่อถึงวินาทีที่กระดาษสามสี่แผ่นนี้อยู่ในมือ อัสดงก็ห้ามตัวเองไม่ทันอีกต่อไป เขาเผลออ่านออกเสียงช่วงต้นของจดหมายออกมาเบาๆ ขณะเดินไปนั่งอ่านที่โต๊ะ

 

เขียนที่บ้านของเรา

เพื่อให้ลูกอ่าน

ในวันที่พ่อไม่อยู่แล้ว

ลูกรัก

พ่อคงไม่ต้องบอกลูกแล้วว่า พ่อกับแม่สุขใจ ภาคภูมิใจในความสวยงาม และสง่างามที่ลูกรักของพ่อเติบโตขึ้นมาเป็นได้ในวันนี้ขนาดไหน ลูกและแม่ของลูกคือผู้หญิงที่ยังทำให้พ่อมีชีวิตอยู่ได้อย่างปกติสุขในทุกๆ วัน

หนุ่มใหญ่เคลิบเคลิ้มไปกับเรื่องราวในจดหมาย เหมือนกับทุกครั้งที่เขาได้อ่านเอกสารเก่าๆ แต่เมื่ออ่านมาถึงช่วงกลางของจดหมาย มือของอัสดงก็เย็นเฉียบในตอนที่ผู้เขียนจดหมาย ซึ่งแน่นอนว่าน่าจะคือคุณทศพล กำลังสารภาพว่าเขาได้ฆ่าคุณแม่ลัดดาด้วยมือของเขาเอง

ที่จริงแล้ว พ่อเองแหละลูก ที่เป็นคนฆ่าคุณลัดดา ฆ่าจริงๆ ไม่ใช่การฆ่าให้ตายทั้งเป็นแบบที่เธอชอบพูดเพื่อเปรียบเปรยต่อว่าพ่อเวลาโกรธ แล้วก็ไม่ใช่อย่างที่เธอชอบค่อนขอดพ่อว่า แค่พ่อเกิดมาเป็นผู้ชายในโลกแบบนี้ ก็เหมือนกับการฆ่าเธอทีละน้อยๆ อยู่แล้ว อะไรแบบนั้น พ่อหมายถึงว่า พ่อเป็นคนทำให้เธอตาย

ด้วยมือของพ่อเอง…

พ่อไม่รู้จะเริ่มเล่าให้ลูกฟังอย่างไร คงจะต้องเริ่มด้วยคำว่าพ่อขอโทษจากใจจริงของพ่อทุกอย่าง

ในชีวิตของลูกผู้ชายคนหนึ่งแบบพ่อ ไม่มีอะไรที่พ่อต้องการมากไปกว่าการสร้างครอบครัวที่ผาสุกกับเมียและลูกของพ่อ แต่แล้ว พ่อกลับเป็นคนที่สร้างแผลที่ไม่มีวันหายไว้ในใจของพวกเราทุกคน และขอโทษในความหยิ่งยโสของพ่อ ที่จะต้องบอกว่า พ่อเองน่าจะมีแผลฉกรรจ์ที่เจ็บปวดยิ่งกว่าใครทั้งหมด

ความหยิ่งยโสแบบผู้ชายของพ่อนี่เอง ที่ทำให้พ่อต้องอยู่กับมือระยำคู่นี้ มือที่ผลักผู้หญิงคนหนึ่งที่พ่อรักสุดหัวใจ ตกลงไปในน้ำเชี่ยว และจมหายไป ไม่ทันให้ใครช่วยชีวิตไว้ได้ทัน จนกระทั่งมาเจออีกทีตอนที่ลัดดาเขาเหลือแต่ร่างกายแล้ว

ผู้ชายอย่างพ่อ เวลาจะเลือกใครมาเป็นเมีย ไม่ว่าลัดดาหรือแม่ของลูก พ่อจะรู้สึกถึงความรับผิดชอบในอนาคต พ่อจะวาดวิมานในอากาศเอาไว้ว่าเราจะอยู่กันอย่างไรให้มีความสุข พ่อจะคิดถึงแต่ตัวเองตลอดเวลา ว่าพร้อมจะเหนื่อย พร้อมจะเสียสละ พร้อมจะทำอะไรลงไปบ้าง เพื่อให้วิมานของพ่อมันสวยสุดหัวใจ เหมือนกับเรือสำราญที่ลอยไปในมหาสมุทรแห่งความมั่นคงและสวยงามตลอดไป

แต่ความคิดแบบนี้เอง ที่ลัดดาเขาบอกพ่ออยู่บ่อยๆ ว่ามันทำให้พ่อคิดว่าลูกเมียคือสิ่งของ คือสมบัติของพ่อ คือสิ่งที่พ่อควรจะได้ครอบครอง ได้มอบความรักความไว้ใจได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ทั้งร่างกายและจิตใจ

พ่อเคยคิดว่าแม่ลัดดาของลูกเขาพลาดเหลือเกิน ที่เล่าเรื่องรักครั้งแรกของเขาให้พ่อฟัง มันทำให้พ่อหึงหวง และตัดใจไม่ได้อีกต่อไป ว่ารักที่บริสุทธิ์ของเขานั้นเคยมอบให้กับชายอื่น และเป็นชายที่ทอดทิ้งลัดดาไปในวันที่เธอเองก็ยังตัดใจไม่ได้

แต่วันนี้พ่อรู้แล้วว่า ที่ลัดดาพลาด ไม่ใช่พลาดที่มาเล่าเรื่องนี้ให้พ่อฟัง แต่เขาพลาดที่เลือกจะเปิดใจ เล่าความจริงให้ผู้ชายขี้ขลาดอย่างพ่อฟัง ทอฟ้า พ่อของลูกเป็นผู้ชายขี้ขลาด ที่คิดตลอดมาว่าตัวเองไม่มีทางจะทำดีได้มากพอ จะเป็นที่รักได้มากพอ เมื่อเทียบกับภาพฝันของผู้ชายคนแรกของลัดดา ที่ทิ้งเธอไป

ความอ่อนแอของพ่อ แสดงออกเป็นความก้าวร้าวที่ไม่มีปี่มีขลุ่ย ในวันและเวลาที่ครอบครัวของเราอยู่ด้วยกันอย่างปกติสุข ยิ่งเห็นน้ำตาของลัดดา พ่อก็กลับยิ่งโมโห ยิ่งต้องพยายามทำร้ายจิตใจเธอด้วยวิธีอะไรก็ได้เพื่อให้พ่อสะใจ เพื่อหวังจะลืมความอ่อนแอของตัวเองได้ ถ้าอ่านถึงตรงนี้แล้วลูกจะเกลียดพ่อ พ่อก็ไม่ว่า เพราะทุกวาจา ทุกการกระทำของพ่อ มันยังกรีดใจของพ่อจนเลือดไหลไม่หยุดมาจนถึงวันนี้ และจะยังเป็นอยู่จนถึงวันสุดท้ายของชีวิตพ่อ

วันที่เกิดเรื่อง พ่อไปเจอบันทึกประจำวันของเขา พ่อลืมความละอาย ลืมการให้เกียรติอะไรทั้งหมด พลิกอ่านทีละหน้าๆ แล้วก็เลยเจอบันทึกบางตอนที่เขาพูดเรื่องการอ่านเรื่องผี นิยายเรื่องวิญญาณไสยศาสตร์อะไรนั่นที่พ่อไม่ชอบ แต่นั่นไม่ใช่เรื่องใหญ่เท่ากับว่า ทุกครั้งที่ลัดดาเขาอ่านนิยายอะไรแบบนี้ เขาจะพูดเพ้อเหมือนคนเสียสติ ว่าเขาเจอผู้ชายคนหนึ่ง ที่มาให้เขาเห็นหน้าตลอดเวลา

ผู้ชาย ผู้ชาย ผู้ชายคนอื่นอีกแล้ว ถ้าไม่พูดถึงผู้ชาย บันทึกเหล่านี้ก็จะตัดพ้อผัว บอกว่าเขาเจ็บเหลือเกินที่พ่อทำให้เขากลัว เขาน้อยใจ ลูกรัก ในตอนที่ได้อ่าน พ่อคิดไม่ได้เลย ว่านั่นคือการร้องขอความช่วยเหลือ ความเข้าใจ การพูดคุยดีๆ จากพ่อ ในใจพ่อกลับมีแต่ความกลัว กลัวว่าในที่สุดเรื่องที่พ่อหวาดระแวงมาตลอดชีวิตมันก็เกิดขึ้นจริง กลัวว่าลัดดาจะทิ้งพ่อไป กลัวว่าที่จริงเฟื่องฟ้าก็รู้เห็นเป็นใจ กลัวจะถูกหักหลัง กลัวไปหมดเลยลูก

พ่อโวยวาย ต่อว่า ทะเลาะกับคุณลัดดาจนเหนื่อย อย่างที่ลูกเองคงจำได้ จนวันรุ่งขึ้นในเรือ พ่อแทบจะตัดใจได้เด็ดขาดแล้วว่าต้องพูดให้แตกหัก เลยพาคุณลัดดาเขาไปนั่งตรงท้ายเรือ แล้วพูดระบายความรู้สึกของพ่อออกมาตรงๆ ว่าพ่อกลัวมาตลอด พ่อเจ็บปวด และพ่อสงสัยมาตลอดว่าในใจเขาไม่ได้มีแต่พ่อ

คุณลัดดาเองเขาก็เจ็บปวด และสงสัยมาตลอดเช่นกันว่าพ่อคงจะหึงหวงเรื่องนี้ เขาบอกพ่อว่า เขาจะไม่โกหก เขายังนึกถึงผู้ชายคนนั้นอยู่ แน่นอนว่าเขาจะลืมรักเก่าไปไม่ได้ รักครั้งแรกมันฝังใจนัก แต่ว่าเขานับถือตัวเองพอที่จะเลือกอยู่กับพ่อ เลือกอยู่กับคนที่เขาแน่ใจตัวเองแล้วว่ารักที่สุด และอยากอยู่ด้วยไปจนตาย เขาไม่มีทางจะทำอะไรให้พ่อเสียใจ ไม่ว่าต่อหน้าหรือลับหลัง

กระทั่งเมื่อเขามีลูกให้ไม่ได้ แล้วแนะนำให้พ่อมีคุณเฟื่องฟ้า แม่ของลูก แล้วก็มีลูก เขาก็บอกว่าเขาไม่หวง ไม่ได้ลดความไว้ใจที่เขามีให้พ่อเลย เพราะเชื่อมั่นว่าเราเลือกแล้วที่จะสร้างครอบครัวด้วยกัน ทอฟ้า ลูกคงรู้แน่แก่ใจอยู่แล้ว แต่พ่ออยากย้ำกับลูกอีกครั้ง ว่าแม่ลัดดาของลูกเป็นผู้หญิงที่ฉ​ลาดเหลือเกิน ดีงามเหลือเกิน

พอลัดดาเขาเผชิญหน้ากับความจริง พูดตรงๆ และอธิบายแบบนั้น ใจพ่อที่มืดมัวไปหมด มันค่อยๆ คลี่คลาย สว่างไสว และโล่งใจ ใจพ่อตอนนั้นนึกอยู่แต่ว่า ต่อไปนี้ครอบครัวของเราคงเป็นปกติสุขตลอดไปเสียที

แล้วไอ้มือบาประยำของพ่อคู่นี้ มันก็ยื่นออกไปผลักคุณลัดดาแรงๆ เพื่อหยอกเธอ ด้วยความเคยชินที่เราชอบทำกันตลอดเวลาที่โกรธแล้วคืนดีกัน พอดีกับโชคชะตาห่าเหวเลวร้ายอะไรก็ไม่รู้ ที่คลื่นลูกโตๆ มันซัดมาพอดี มันพาลัดดาที่กำลังก้มหยิบกระเป๋าและโดนพ่อผลัก หายลงไปในน้ำเชี่ยวกรากนั้น จมลงไปพร้อมกับความสุข ความหวัง และชีวิตรักของพ่อ

ทอฟ้า วันนั้นชีวิตทั้งหมดของพ่อ…ของครอบครัวเรา มันก็จมลงไปด้วย

พ่อฆ่าคุณลัดดาเองลูก พ่อผิดเอง พ่อฆ่าเขา และทำร้ายจิตใจเขาวันก่อนเขาตาย พ่อควรจะกระโดดตามเขาลงไปตั้งแต่วันนั้นเลย แต่ผู้ชายขี้ขลาดไร้ค่าอย่างพ่อ จะทำอะไรแบบนั้นได้ นอกจากนั่งร้องไห้มองดูชีวิตทั้งชีวิตของพ่อจมตามเธอไป เรือสำราญแห่งความมั่นคงและสงบสุขที่พ่อฝัน มันชนหินโสโครกและจมลงต่อหน้า เป็นภาพที่พ่อจะฝันเห็นมันทุกคืนเมื่อพ่อหลับลงได้ยามดึกไปอีกหลายปี

ทอฟ้า พ่อเลือกเล่าเรื่องนี้ให้ลูกฟัง ไม่ว่าลูกจะอภัยให้พ่อหรือไม่ แต่พ่อเชื่อว่าลูกมีธรรมชาติของคนใจกว้าง เข้าใจผู้อื่น และรับฟัง แต่ถึงกระนั้น เรื่องร้ายแรงขนาดนี้อาจทำให้ลูกโกรธพ่อไปตลอดก็ได้ พ่อไม่มีอะไรจะแก้ตัวทั้งนั้น

ภาพความตายของผู้หญิงที่พ่อรักมากที่สุดในชีวิต ไม่ได้เป็นภาพเดียวที่คอยลงโทษพ่ออยู่ทุกวันหรอกลูก แต่ภาพความทุกข์ ความยากลำบากที่ลูกและคุณเฟื่องฟ้าต้องหัวใจแตกสลายไปด้วยกันทั้งบ้าน ก็เป็นอีกเรื่องที่คอยลงโทษหัวใจพ่อให้มอดไหม้เหมือนกับอยู่ในนรกตลอดมา จะเป็นหรือจะตาย มันไม่เคยต่างกันอีกเลยในความรู้สึกพ่อ

ความหวังเดียวที่พ่อมีอยู่ในใจก็คือ เมื่อลูกได้รู้แบบนี้แล้ว มันจะช่วยให้จิตใจของลูกสงบลงได้บ้าง และใช้ชีวิตต่อไปได้ด้วยหัวใจที่เป็นอิสระ ลูกจงทิ้งความทุกข์ ความผิดหวัง ความโกรธมาที่พ่อผู้เป็นฆาตกรทั้งหมด เพื่อให้ลูกใช้ชีวิตอันเป็นปกติสุขกับด้านอื่นๆ ที่เหลือในชีวิตลูก อย่าให้คืนวันอันงดงามของลูกต้องมาแปดเปื้อนด้วยความทรงจำเลวร้ายนี้อีก

เพราะแบบนี้แหละลูก พ่อเลยจำเป็นต้องเล่าความจริงให้ลูกฟัง เล่าในวันที่ลูกกำลังจะได้มีชีวิตใหม่ที่มีความสุข ขอให้จดหมายฉบับนี้ของพ่อ จงเป็นจุดเริ่มต้นที่ลูกจะผ่านพ้นเรื่องร้ายๆ ไปได้เสียที

พ่อขออวยพรให้ลูกทั้งสองคนรักกัน เข้าใจกันทุกประการ อย่าให้เกิดเรื่องร้ายใดๆ แผ้วพานแบบพ่อ เรือแห่งความรักของลูกจงสวยงาม กางใบและแล่นไปอย่างสง่างามอย่างที่มันควรจะเป็น

ลูกจงชมความงามของทะเลกับคนรักของลูกอย่างดูดดื่ม เพื่อเป็นรางวัลตอบแทนความดีที่ลูกของพ่อมีมาตลอด อย่าได้กลายเป็นคนขี้ขลาดจมทุกข์ ที่ไม่สามารถเยื้องกรายไปใกล้แม่น้ำ ทะเล หรือห้วยหนองคลองบึงใดๆ ในโลกนี้ได้อีกเลยอย่างพ่อ

 

พ่อทศพลของลูก

ท่ามกลางความเงียบที่มีแต่เสียงแอร์ครางหึ่ง ประตูห้องทำงานล็อกแน่นหนา อัสดงถือสำเนาจดหมายในมือแน่น รู้สึกถึงน้ำตาที่คลอแก้มโดยไม่รู้ตัว

ขณะที่อารมณ์รุนแรงจากจดหมายที่เพิ่งได้อ่านกำลังค่อยๆ สงบลง เขาก็ยอมรับกับตัวเองอย่างละอายนิดหน่อยว่า ตอนนี้เขากำลังหมกมุ่นกับเรื่องของครอบครัวโชคโคจรมากจนเกินพอดี และมันอาจจะนำอันตรายมาสู่ตัวเขาก็ได้

แต่ความจริงจากจดหมายของคุณทศพลก็พาเขามาถึงทางแยกที่ต้องตัดสินใจอีกครั้ง

หนุ่มใหญ่แน่ใจว่า ถึงจุดนี้คงเป็นหน้าที่ของเขา ที่จะต้องสื่อสารให้ ‘นางพญาผีแม่ม่าย’ ได้อ่านจดหมายจากคุณพ่อของเธอ ได้รู้ในสิ่งที่เธอควรจะรู้ และตัดสินใจกับชีวิตของเธอต่อไป…ถ้าหากว่าจดหมายที่เขาถืออยู่ในมือนั้นเป็นของจริง

เขาจะไม่เอ่ยถึงนาที แต่จะบอกเธอว่า เขาได้พบสำเนานี้โดยบังเอิญจากการทำวิจัย และหวังว่ามันจะเป็นข้ออ้างที่ดีพอ อย่างไรเสียเรื่องที่คุณทอฟ้ากำลังจะได้รู้ก็น่าจะใหญ่พอจนทำให้เธอไม่สนใจเรื่องที่มาของจดหมายนี้เท่าไรนัก

แม้จะรู้สึกเกร็งที่ต้องเปิดเผยว่าตัวเองเข้าไปยุ่งกับเรื่องส่วนตัวของคุณทอฟ้า และก็ยังคงลังเลว่าเขากำลังท้าทายอันตรายที่คราวนี้เขาเองอาจรับมือไม่ไหวหรือเปล่า แต่อัสดงก็อดยิ้มขึ้นมาแบบผิดกาลเทศะไม่ได้ ขณะที่เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อจะกดโทรออก

หนุ่มใหญ่พึมพำกับตัวเองว่า ถึงตาคุณบ้างแล้วละนะครับคุณทอฟ้า ที่จะเป็นคนได้รับโทรศัพท์เกี่ยวกับเอกสารลึกลับที่คุณคาดไม่ถึงว่ามันจะมีอยู่

 

– จบบริบูรณ์ –

 



Don`t copy text!