อ่าน เขียน เรียนรู้ แบบไม่จำกัดกับอ่านเอา

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2018 กลุ่มคนรักการอ่านและการเขียนนิยาย 7 คน ที่เติบโตมาจากการอ่านนิตยสารที่ตีพิมพ์นิยายเป็นตอนๆ ได้รวมตัวกันเพื่อสรรสร้างพื้นที่เพื่อการเผยแพร่นิยายให้ทุกคนได้อ่านทางออนไลน์กันฟรีๆ กลายเป็นเว็บไซต์อ่านเอาที่ทุกคนกำลังเปิดอ่านกันอยู่นี้ 

แม้บรรยากาศของการอ่านนิยายที่ตีพิมพ์ลงในนิตยสารเป็นตอนๆ จะจางหายไปแล้วจากชั้นในร้านหนังสือในรอบหลายปีที่ผ่านมา แต่ความเชื่อมั่นว่าคนไทยกลุ่มหนึ่งที่ยังคงหลงใหลกับการดื่มด่ำโลกนิยาย จะทำให้การอ่านไม่หายไปไหน อ่านเอาจึงเกิดขึ้นด้วยเหตุผลนี้ สร้างพื้นที่ที่จะเผยแพร่นิยายของนักเขียนที่ทุกคนรัก และเปิดโอกาสให้นักเขียนรุ่นใหม่ได้มีช่องทางให้ตามฝันต่อไป

ในวาระครบรอบ 1 ปี ของอ่านเอา เราเชิญนักเขียนนวนิยายในดวงใจของทุกคนทั้ง 3 ท่าน ปิยะพร ศักดิ์เกษม พงศกร และกิ่งฉัตร มาร่วมนั่งพูดคุยถึงประสบการณ์ที่ได้รับจากการทำเว็บไซต์อ่านเอาตลอด 1 ปีเต็ม ซึ่งมีทั้งเรื่องสนุกสนาน เรื่องที่คาดไม่ถึง และการปรับตัววิธีการทำงานจากที่เป็นนักเขียนทำงานลำพัง สู่การเป็นบรรณาธิการออนไลน์ที่ต้องปะทะสังสรรค์กับผู้คนมากมาย เมื่อคำถามพาให้นักเขียนทั้งสามได้มองย้อนกลับไป ก็พลางที่จะอดขบขันกับเรื่องที่ได้เรียนรู้มาใส่กันและกันไม่ได้

หนี่งปีที่ผ่านมาของอ่านเอาเติบโตไปอย่างไรบ้าง

ปิยะพร ศักดิ์เกษม : อ่านเอาค่อยๆ พัฒนากลายเป็นชุมชนของนักอ่านและนักเขียนได้อย่างเต็มตัว เรามีนิยายที่ลงผ่านอ่านเอาประมาณ 30 เรื่องแล้ว และได้เปิดอบรมการเขียนให้นักเขียนไป 2 รุ่น ซึ่งรุ่นแรกก็มีผลงานลงเว็บไซต์แล้วเรียบร้อย

พงศกร : เราเปลี่ยนบทบาทจากนักเขียนมาเป็นทีมที่สร้างคอมมูนิตี้นี้ขึ้นมา ก็เห็นอุปสรรคและปัญหาหลายอย่าง ซึ่งหากเป็นสมัยก่อนที่เราเป็นนักเขียนอย่างเดียว เราไม่เคยเห็น แล้วก็ไม่เคยต้องมานั่งแก้ปัญหา แต่ในวันนี้พอเราเปลี่ยนบทบาทปุ๊บ เรามีหมวกอีกใบหนึ่งที่นอกเหนือจากการเขียนนวนิยายอย่างเดียว ก็ทำให้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ เยอะ เหนื่อยมาก แต่ก็จะพยายามทำให้เต็มที่ครับ

กิ่งฉัตร : หนึ่งปีที่ผ่านมาทำให้เราเห็นถึงความร่วมมือร่วมใจของนักเขียนที่เข้ามาร่วมมือกับเราโดยที่ไม่ได้หวังผลตอบแทนทุกคน เราเพียงแต่หวังว่าให้คนอ่านได้มีนวนิยาย บทความ สารคดีที่ดีอ่าน มันเลยเป็นความรู้สึกที่ดี น่าภาคภูมิใจว่า จริงๆ กลุ่มนักเขียนค่อนข้างสตรองนะคะ

ประสบการณ์ที่เรียนรู้จากการทำเว็บไซต์อ่านเอา

ปิยะพร ศักดิ์เกษม : สิ่งแรกที่รู้สึกเลย คือว่าเราต้องมองเป้าประสงค์ข้างหน้า และต้องยึดเป้าหมายนั้นไว้ให้แน่นอนและมั่นคง เพราะระหว่างทางที่เราจะเดินไปมันมีอุปสรรคเยอะมาก

แต่ก่อนเราทำงานเขียนนิยาย เรานั่งทำงานอยู่กับตัวเอง พอจบแล้วก็ส่งให้ บ.ก. แก้ไขอะไรนิดๆ หน่อยๆ เช่น ตัวสะกด หรือการจัดหน้ากระดาษ ก็เป็นเรื่องของเขา แต่การมานั่งทำเว็บไซต์ซึ่งเป็นนิตยสารออนไลน์ เราต้องรับผิดชอบงานหลายด้าน ต้องพบปะผู้คนมากมาย ต้องทำงานประสานกันเอง ตบตีกันเองบ้าง เป็นเรื่องที่หนักมาก แต่ก็ดีที่เราได้มีโอกาสทำงานตรงนี้

พงศกร : สิ่งที่ผมได้เรียนรู้คือ ผมรู้สึกว่าการอ่านยังอยู่ ตอนแรกเราก็กังวลเพราะนิตยสารพากันปิดตัว จะยังมีคนอ่านวรรณกรรมอยู่ไหม แต่พอเว็บไซต์อ่านเอาเปิดขึ้นมาแล้วมีฟีดแบ็กจากผู้อ่านหลายๆ กลุ่ม เรารู้สึกเลยว่าการอ่านยังอยู่นะ แต่เปลี่ยนรูปแบบไป คนที่เข้ามาอ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ตรงนี้เยอะขึ้น เพราะฉะนั้น ถ้าบอกว่าคนไม่อ่าน ผมรู้สึกว่าไม่จริง

ปิยะพร ศักดิ์เกษม : หลักฐานของการที่บอกว่าคนอ่านยังอ่านอยู่คือ หนึ่งปี 5 ล้านคลิก 5 ล้านวิว เพราะฉะนั้น นี่คือหลักฐานสำคัญที่บอกว่าการอ่านยังมีอยู่แน่นอน

กิ่งฉัตร : พี่ได้เรียนรู้ว่า คนเรานั้นมีลิมิตของตัวเอง บางครั้งเราอาจจะคิดว่าเราสามารถทำได้ทุกอย่าง แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ มันต้องอาศัยทีมเวิร์กเป็นหลัก อาศัยความร่วมมือทั้งจากคนอื่นและคนอ่าน การทำเว็บไซต์มีองค์ประกอบอื่นๆ มากมาย มีเรื่องที่ทำให้เซอร์ไพรส์มากเข้ามาอยู่เรื่อยๆ และทำให้รู้ว่าเรามีคนอ่านและนักเขียนที่รักและสนับสนุนเรามากแค่ไหน อันนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมาก และเป็นสิ่งที่รู้สึกว่าเป็นอะไรที่ดีในการก้าวเข้ามาทำอ่านเอา

พงศกร : อีกเรื่องหนึ่งคือ บรรณาธิการสำคัญมาก ต้องใช้ความสามารถมากๆ เราเคยทำงานกับอาจารย์สุภัทร สวัสดิรักษ์ คุณชาลี-ชุลิตา อารีย์พิพัฒน์กุล และบรรณาธิการเก่งๆ อีกหลายคน วันนั้นเรายังทำงานในบทบาทนักเขียน แต่วันนี้เราสามคนเราต้องมาทำงานในบทบาทนั้น แบ่งงานกันตามความถนัด รู้เลยว่ามันยากมาก แล้วบรรณาธิการที่เอ่ยชื่อมาทุกท่านนี่เขาเก่งมากนะที่สามารถ hold สิ่งรอบตัวทุกอย่างให้มันออกมาได้ตามตาราง สวยงามราบรื่น ไม่ง่ายเลย ถ้าย้อนกลับไปได้ วันนั้นอาจจะไม่ทำ (หัวเราะ)

นอกจากนี้ก็พบว่ายังมีนักเขียนเก่งๆ ที่รอเกิดอีกหลายคน อย่างนักเขียน 3 คนที่ได้รับรางวัลจากโครงการอ่านเอาก้าวแรก รุ่นที่หนึ่ง มี 2 คนที่เขียนนิยายเป็นเรื่องแรกของเขาในชีวิตเลยนะ ส่วนอีกคนหนึ่งเคยเขียนมาบ้างแล้ว เราอ่านแล้วรู้สึกว่านี่มันคือเพชรที่รอการเจียระไน ถ้าเราไม่มีโครงการนี้เด็ก 2 คนนี้เขาอาจจะไปเติบโตที่อื่น แต่ไม่มีพี่เลี้ยงคอยดูแล แล้วสิ่งที่เป็นผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดเลยคือ นวนิยายทั้ง 3 เรื่องได้รับเสียงตอบรับจากผู้อ่านที่ดีมาก มากกว่าที่เราคาดไว้ตั้งแต่แรกด้วยซ้ำ

ผลลัพธ์จาก Be the Victor by CIMB ที่เข้ามาสนับสนุนเว็บไซต์อ่านเอา

กิ่งฉัตร : โชคดีมากที่ทาง CIMB เห็นความสำคัญของอ่านเอา แล้วเข้ามาเป็นสปอนเซอร์ให้เรา เป็นสิ่งที่ทำให้เรามีแรง มีกำลังที่จะก้าวต่อไปได้ ช่วยให้วงการการอ่านหนังสือของบ้านเรามีอะไรที่น่าอ่าน น่าจับต้องได้ ต่ออายุของเราออกไป

ปิยะพร ศักดิ์เกษม : ส่วนตัวพี่อยากจะยกย่อง CIMB มากที่เห็นความสำคัญของศิลปวัฒนธรรมและการอ่านการเขียน ซึ่งในยุคนี้เราก็รู้กันอยู่ว่าการที่สินค้าสักตัวหนึ่งจะไปสนับสนุนอะไรสักอย่างต้องมีสิ่งที่ตอบแทนกลับมาและเป็นสิ่งที่จับต้องได้ ซึ่งสิ่งที่ CIMB ได้จากเราคือการที่เราสามารถไปสานต่อโครงการของเราได้ โครงการนั้นก็คือโครงการส่งเสริมและสนับสนุนนักเขียนและนักอ่าน เป็นสิ่งที่ไม่สามารถจับต้องเป็นตัวตนได้ แต่เป็นสิ่งที่มีคุณค่ามากในสังคมของเรา

วงการหนังสือในบ้านเรา เรามองออกเป็น 3 ส่วน ส่วนที่หนึ่ง คือเป็นรางวัลต่างๆ ที่เขาให้กันจากสถาบันนั้น สถาบันนี้ ก็เหมือนเป็นมงกุฎ ขณะที่การเรียน การสอน การสร้างนักเขียนรุ่นใหม่เป็นฐาน แต่ส่วนกลางมันหายไป สิ่งที่อ่านเอากำลังทำคือการสร้างส่วนกลาง สร้างเวที ที่พอผลิตส่วนฐานขึ้นมาแล้ว ก็มีพื้นที่แสดงงาน แล้วค่อยไปรับรางวัลข้างบน แล้วส่วนกลางนี้หาผู้สนับสนุนยากมาก เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่จับต้องยาก เมื่อ CIMB มาสนับสนุนตรงนี้ จึงทำให้เราสามารถสร้างงานส่วนกลางตรงนี้ออกไปได้ ทำให้เราคล่องตัวขึ้น

กิ่งฉัตร : การอ่านเป็นพื้นฐานที่สำคัญที่สุดของสังคม ถ้าไม่อ่านก็ไม่รู้หรอกว่าชีวิตเป็นยังไง โลกเป็นยังไง วิเคราะห์ยังไง อ่านข่าว อ่านหนังสือยังไงให้เข้าใจ มันเป็นสิ่งที่สำคัญ แต่ที่น่าประหลาดใจคือสังคมไทยมองข้ามการอ่านมาโดยตลอด เพราะฉะนั้น การที่มีองค์กรธุรกิจเข้ามาสนับสนุนตรงนี้ คุณไม่ได้แค่เข้ามาสนับสนุนนักเขียนหรือนักอ่าน แต่คุณเข้ามาสนับสนุนการอ่านซึ่งเป็นเรื่องพื้นฐานสำคัญที่จะต่อยอดให้สังคมเข้มแข็งและแข็งแกร่งมากขึ้น

สำหรับในปีนี้ เว็บไซต์อ่านเอาจะยังคงมีผลงานจากนักเขียนชื่อดังมากมายให้นักอ่านนิยายได้ติดตามกัน พร้อมพัฒนาบทความที่น่าสนใจหลากรสหลากสไตล์ ไม่ว่าจะเป็น อาหาร สุขภาพ การเดินทาง แนะนำหนังสือดีๆ หรือเทคนิคการเขียนจากนักเขียนนวนิยายที่เราคัดสรรมาแล้วเพื่อผู้อ่านทุกท่าน และเร็วๆ นี้ขอให้อดใจรอกับผลงานนวนิยายจากโครงการอ่านเอาก้าวแรก รุ่นที่สอง ซึ่งจะมีการพิจารณาและประกาศผลการตัดสินกันในช่วงปลายปีนี้

อ่านเอาขอขอบคุณทุกท่านที่ร่วมสนับสนุนและเป็นส่วนหนึ่งของคอมมูนิตี้แห่งนี้ และเราสัญญาว่าจะสร้างสรรค์นวนิยายดีๆ และกิจกรรมให้ร่วมสนุกอีกมากมายต่อไป