‘เล่ห์พันธาภรณ์‘ นิยายที่ ‘ประดับยศ’ เขียนจบลงได้เพราะโครงการอ่านเอาก้าวแรก!

เป็นอีกคนที่การันตีว่าในวันที่หมดไฟในการเขียน การมาเข้าคลาส เติมประสบการณ์ และเอเนอร์จี้ดีๆ กับโครงการอ่านเอาก้าวแรก สามารถจุดไฟในการเขียนให้ลุกโชนขึ้นมาอีกครั้งได้ และในที่สุด ประดับยศ หรือ มิ้ม-วรรณนิศา บุญชู ก็ได้สร้างสรรค์ผลงานเรื่อง เล่ห์พันธาภรณ์ เป็นของขวัญและกำลังใจให้กับตัวเองหลังจากเข้าคลาส ทั้งยังทำให้มีแรงใจในการสร้างงานชิ้นต่อๆ ไปอีกด้วย

“เหตุผลที่ตัดสินใจสมัครเข้าร่วมโครงการ อย่างแรกเลยเพราะสนใจในตัววิทยากรค่ะ เป็นแฟนคลับนิยายของวิทยากรทุกท่าน เลยทำให้เกิดแรงบันดาลใจว่าอยากเขียนนิยายให้เก่งบ้าง ซึ่งพอได้เข้าคลาสก็ได้เรียนรู้เทคนิคการเขียนโดยเฉพาะการเขียนให้จบ และเนื้อหาในโครงการละเอียดมาก มีตั้งแต่การฝึกคิดพล็อต การวางโครงเรื่อง การลงมือเขียน ฯลฯ ประทับใจที่สุดคือพี่ๆ วิทยากรช่วยดูพล็อตและให้คำแนะนำให้ด้วยค่ะ”

เรียกว่าการเข้าคลาสนี้สร้างความมั่นใจในงานเขียนให้เธอได้มาก รวมถึงบรรยากาศการเรียนการสอนที่อบอุ่นยิ่งผลักดันให้มีแรงใจในการเขียนมากขึ้น

“ก่อนหน้านี้มิ้มหมดไฟในการเขียนงานไปแล้ว แต่พอได้เข้าคลาสได้รับกำลังใจดีๆ และที่สำคัญคือการได้ลงมือเขียนจนจบโดยมีพี่ๆ คอยส่งกำลังใจและเดดไลน์ ก็ทำให้มีพลังเขียนไฟลุกเลยค่ะ

“สำหรับผลงานเรื่อง เล่ห์พันธาภรณ์ ประดับยศได้เล่าถึงแรงบันดาลใจในการเขียนเรื่อง ให้ฟังว่า “มิ้มอ่านหนังสือแนวไพรัชนิยายเยอะมากค่ะ เลยอยากเขียนเจ้าชายในฝันของตัวเอง อยากให้ตัวละครตัวเองมีชุดสวยๆ ใส่ และอยากให้สะท้อนมุมมองถึงเรื่องความรับผิดชอบต่อตนเองและผู้อื่นขึ้นมาบ้าง แต่ก็เขียนๆ ลบๆ ทิ้งค้างไว้ไม่เคยจบเลย จนได้เข้าคลาสและได้เล่าพล็อตที่ตัวเองอยากเขียนแนวนี้ให้พี่ๆ วิทยากรฟัง ซึ่งพี่ๆ ได้ให้กำลังใจเรามากๆ ส่งพลังบวกให้เต็มที่ สนับสนุนให้เขียน และบอกว่ารออ่าน ทำให้มิ้มมีกำลังใจและมีความมั่นใจที่จะเขียนเรื่องนี้ จากตอนแรกที่ไม่เคยคิดว่าจะเขียนเรื่องนี้จบเลย ก็กลับมาเขียนจบได้เพราะคลาสอ่านเอาเลยค่ะ”

แม้ เล่ห์พันธาภรณ์ จะเป็นผลงานเรื่องที่ 4 ของประดับยศ แต่ผลงานก่อนหน้าเป็นแนวพีเรียดไทย ดังนั้นผลงานเรื่องนี้จึงถือได้ว่าเป็นแนวไพรัชนิยายเรื่องแรกของเธอ

“เล่ห์พันธาภรณ์ เป็นเรื่องราวของมิรามาลินทร์ หญิงสาวคนหนึ่งที่ชาติกำเนิดถูกปิดบังและถูกเลี้ยงดูมาโดยนักบวชในวิหารเทพ ทำหน้าที่ดูแลปกป้องวิหารและน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ แต่เมื่อมีข่าวลือว่าภายใต้วิหารมีเหมืองเพชร มิรามาลินทร์จึงถูกใส่ร้ายและไล่ล่า ต้องหนีเอาชีวิตรอดจากบ้านเกิดเพื่อตามหาบุคคลในคำทำนายที่จะมาช่วยปกป้องวิหารไม่ให้ถูกทำลายไปเพราะความโลภของมนุษย์

“เธอหนีตายข้ามชายแดนจนกระทั่งได้พบแสงแห่งความหวังจากเจ้าชายตุลธรธิบดี จอมพลนักรบแห่งประเทศศิขราชที่แม้การเจอกันครั้งแรกจะเป็นปฏิปักษ์ แต่สุดท้ายแล้วเขาคือคนที่เคียงข้างในวันที่เธอสูญสิ้นทุกอย่าง และพากลับไปปกป้องสิ่งสำคัญในฐานะพระชายาปติ ที่ไม่ว่าใครก็ไม่อาจแตะต้องเธอได้ แม้แต่ราชินีชโลธรที่เคยหมายเอาชีวิต

“ความสนุกของผลงานชิ้นนี้คือได้เห็นการต่อสู้ของมนุษย์ที่ยอมทำเรื่องทุกวิถีทางเพื่อตัวเอง ความโลภ อำนาจ และเพื่อปกป้องคนที่รักค่ะ ทุกคนมีวิธีของตัวเองและสู้อย่างสุดกำลัง คนอ่านจะได้ลุ้นไปกับภารกิจต่างๆ ของตัวเอกที่ต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดพร้อมกับฉากแอคชั่นที่น่าตื่นเต้น ซึ่งความยากในเรื่องนี้สำหรับมิ้มคือคำราชาศัพท์ รวมทั้งการจินตนาการพื้นที่ภูมิประเทศต่างๆ ที่แม้จะเป็นเมืองสมมติแต่ก็ต้องให้สมจริง ทำให้เราต้องไปศึกษาภูมิประเทศต่างๆ วัฒนธรรมประเพณี วิถีชีวิตของคนในพื้นที่แถบหิมาลัยหลายๆ ที่ด้วย

“สำหรับเรื่องที่มิ้มอยากส่งต่อไปถึงคนอ่านผ่านนิยายเรื่องนี้คือทุกอย่างเป็นไปได้ถ้าลงมือทำ เรื่องนี้ตัวเอกเป็นเทวกุมารี เปรียบเสมือนกึ่งสมมติเทพ ซึ่งสุดท้ายแล้วเทพหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่สามารถบันดาลทุกสิ่งให้เราได้เท่ากับที่ลงมือทำด้วยตัวเอง

“ตอนเขียนมิ้มรบกับตัวเองทุกวัน ทั้งขู่ทั้งปลอบเพื่อให้ตัวเองกล้าก้าวข้ามเซฟโซนและเขียนเรื่องนี้ให้จบ ซึ่งพอจบแล้วคือโล่งมาก ภูมิใจมากที่เอาชนะตัวเองได้ค่ะ”

ใครที่อยากติดตามผลงานของเธอ สามารถติดตามได้ที่ Facebook , Youtube และ TikTok ชื่อช่องว่า mimpradapyod / น้ำมิ้มประดับยศ นักเขียน นะคะ