แอน-สิเรียม กับ ‘แม่เลี้ยง’ ผลงานล่าสุดที่ทั้งดรามาจัดจ้านและซับซ้อนลึกซึ้ง

แอน-สิเรียม กับ ‘แม่เลี้ยง’ ผลงานล่าสุดที่ทั้งดรามาจัดจ้านและซับซ้อนลึกซึ้ง

โดย : กิ่งสุรางค์ อนุภาษ

Loading

เป็นอีกหนึ่งนักแสดงมากความสามารถที่พิสูจน์ความเจ๋งของตัวเองมาแล้วแทบจะทุกบทบาท สำหรับแอน-สิเรียม ภักดีดำรงฤทธิ์ ซึ่งล่าสุดเธอได้เข้ามาสวมบทบาทเป็น ‘พลอยแสง’ คุณแม่ (เลี้ยง) สาวสุดสตรองในละครเรื่อง แม่เลี้ยง ผลงานล่าสุดของบ้าน ‘ทีวีซีน’ ที่สร้างจากบทประพันธ์เรื่อง มายากาเหว่า ของ ‘ณรัญชน์’ ซึ่งคุณแอนบอกกับเราเลยว่า ทั้งเข้ม ทั้งจัดเต็มกับผลงานเรื่องนี้ไม่แพ้เรื่องผ่านๆ มา

“ละครเรื่องนี้จะเล่าถึงกิเลสมนุษย์ และความลึกในจิตใจของแต่ละคน  ในฐานะนักแสดงเองรู้สึกว่า เวลาที่ได้เล่นอะไรแบบนี้ มันให้ความรู้สึกสนุกและท้าทายในแบบหนึ่ง และยังให้อะไรกับคนดูด้วยค่ะ” นางเอกสาวดาวค้างฟ้ากล่าวกับเราด้วยน้ำเสียงเปื้อนยิ้ม

“ในเรื่องนี้แอนรับบทเป็นพลอยแสงค่ะ พอได้อ่านบทของเรื่อง แอนรู้สึกว่าสนุกมาก เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้จริงในชีวิตคน ซึ่งแอนชอบเล่นละครแนวชีวิตอยู่แล้ว เลยสนุกไปกับการทำงานในบทบาทนี้มาก

“ในมุมมองของแอน แอนมองว่าพลอยแสงเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้องต่อสู้กับตัวเองและต่อสู้กับคนอื่นๆ ด้วย แต่เธอก็เป็นผู้หญิงเก่ง ทั้งในเรื่องหน้าที่การงานและชีวิตส่วนตัว เลยทำให้ก้าวผ่านสารพัดปัญหาได้

“ที่สำคัญพลอยแสงเป็นคนที่ยอมรับความจริงค่ะ แม้จะต้องรับมือกับเรื่องราวที่ซับซ้อนแต่ก็ไม่ยอมแพ้ ในขณะเดียวกันก็ต้องรักษาภาพลักษณ์ของตัวเองไว้ด้วย

“สิ่งที่แอนชอบในตัวพลอยแสงคือเป็นคนไม่ยอมแพ้นี่แหละ เพราะไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พลอยแสงก็จะสู้ไปจนถึงที่สุดและยอมรับผลลัพธ์ของมัน ไม่ว่าจะออกมาเป็นทางดีหรือไม่ดีก็ตาม หรือแม้กระทั่งช่วงเวลาที่พลอยแสงล้มเหลว ผิดหวังเธอก็ยอมรับความเป็นไปที่เกิดขึ้นได้ ส่วนเสน่ห์ของตัวละครตัวนี้คือเป็นตัวละครที่มีจิตใจเปิดกว้าง ตรงนี้แหละที่ทำให้คาแรคเตอร์ของเธอแข็งแกร่งขึ้น ทั้งยังสามารถบริหารจัดการความคิดและอารมณ์ของตัวเองได้ดี ซึ่งทำให้ตัวละครนี้ดูมีมิติมากขึ้นด้วยค่ะ”

นักแสดงสาวเล่าถึงซีนบางซีนในละครที่ทำให้เห็นน้ำเนื้อในจิตใจของตัวละครที่เธอรับเล่น

“อย่างในเรื่องจะมีฉากที่ ‘ดาว’ (แสดงโดย ลีน่า-ลลินา ชูเอ็ทท์) มาขอเรียกร้องสมบัติคืนไป แต่พลอยแสงไม่ให้ เพราะรู้ว่า ถ้าดาวได้รับไป ก็อาจถูกหลอกหรือถูกล้างผลาญจนหมด เธอมีเจตนาที่ดีและไม่ได้ต้องการครอบครองสมบัติ แต่เธอรู้ว่าการปล่อยไปแบบนั้น อาจทำให้เกิดปัญหามากขึ้น ตรงนี้ชี้ให้เห็นว่าไม่จำเป็นต้องคาดหวังให้ทุกคนเห็นด้วยกับเรา แต่ถ้าเราซื่อตรงและยืนหยัดในความถูกต้อง ทุกอย่างก็จะออกมาดีค่ะ

“หรือความห่วงใยและความรักที่พลอยแสงมีต่อลูกติดของสามี อย่าง ‘ดาว’ ก็ทัชใจแอนเหมือนกัน คือบางครั้งดาวก็พูดจาเจ็บแสบใส่เขา แต่พลอยแสงก็พยายามเข้าใจ อดทนรอเวลาและพยายามทำทุกอย่างเพื่อช่วยเหลือไม่ว่าดาวจะมองเธอยังไงก็ตาม ตรงนี้เป็นความรู้สึกของคนที่เป็นแม่ ซึ่งแอนเข้าใจตรงนี้ดี มีหลายซีนที่เราถ่ายทำ แล้วรู้สึกอินไปกับมัน รู้สึกซาบซึ้งกับอารมณ์ของตัวละครจริงๆ ค่ะ”

ด้วยความที่ตัวละครตัวนี้มีรายละเอียดและมิติค่อนข้างมาก ทำให้คุณแอนที่ถึงแม้จะรับบทดรามามาเยอะมากยังต้องทำการบ้านเพิ่ม

“แม้ว่าพลอยแสงจะเป็นตัวละครที่ไม่ต้องแสดงอารมณ์หวือหวา แต่กลับมีความซับซ้อนในอารมณ์ที่ต้องถ่ายทอดออกมาแบบละเอียดอ่อน ซึ่งเป็นสิ่งที่ท้าทายสำหรับแอนมากค่ะ เรียกว่าต้องมีชั้นเชิง และต้องสื่อสารให้คนดูเข้าใจความคิดของตัวละครไปพร้อมกัน นี่แหละค่ะที่เป็นความยากของบทพลอยแสง”

เรียกว่าเห็นเป็นละครดรามาแบบชงเข้มอย่างนี้ ใครจะคิดว่าเบื้องหลังกลับตรงกันข้าม โดยเฉพาะนักแสดงนำของเรื่องนี่แหละที่ใครๆ บอกว่า เธออารมณ์ดีมากๆ เลยทีเดียว

มากกว่าคำว่าฟาด คือรายละเอียดของตัวละครที่มีชีวิต!

“บอกตรงๆ เลยนะคะว่า สำหรับเรื่อง ‘แม่เลี้ยง’ แอนทำงานด้วยความสบายใจมาก เด็กๆ ทุกคนมีกิริยามารยาทที่ดี มีความตั้งใจกันทุกคนค่ะ ทุกคนแสดงกันเต็มที่ ทำให้ทุกอย่างราบรื่นมาก กองถ่ายมีบรรยากาศที่ดี ทุกอย่างดูสมูทไปหมด

“แม้ละครเรื่องนี้จะเน้นดรามา มีการสอดแทรกเรื่องราวที่มีมิติซับซ้อน ค่อนข้างเครียดนะคะ แต่บรรยากาศในกองถ่ายกลับตรงกันข้าม คือเวลาแอนทำงานถ้าเครียดมากเกินไปจะทำงานได้ไม่ดี เลยต้องรู้สึกโปร่งโล่งก่อนถึงจะทำงานได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นบรรยากาศในกองที่ดีก็จะช่วยให้แอนสามารถถ่ายทอดบทออกมาได้เป็นธรรมชาติมากขึ้น (มีคนบอกว่าคุณแอนเป็นหัวหน้าแก๊งเด็กในกองถ่ายด้วยจริงไหมคะ) จริงค่ะ (หัวเราะ) ก็ไม่ได้เป็นหัวหน้าแบบจริงจังอะไรหรอกค่ะ เพียงแต่ว่าเวลาทานข้าวหรือช่วงพัก แอนก็จะอยู่กับเด็กๆ ด้วย มันช่วยทำให้บรรยากาศในกองสนุกขึ้นดีค่ะ”

นอกจากคุยกันถึงบทบาทของตัวละคร รวมถึงเบื้องหลังกองถ่ายที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะแล้ว คุณแอนยังแชร์ให้ฟังต่อไปอีกว่า ละครสมัยใหม่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการแสดงของนักแสดงเพียงอย่างเดียว แต่มุมกล้องเองก็มีบทบาทสำคัญมากในการสื่อสารให้ผู้ชมเข้าใจอารมณ์ของตัวละครด้วย

“เพราะว่าภาพที่ผู้ชมเห็นมีแค่จอสี่เหลี่ยมเล็กๆ เท่านั้น ผู้กำกับจึงต้องเลือกมุมกล้องให้เหมาะสม เพื่อถ่ายทอดอารมณ์และความหมายที่ต้องการส่งไปยังผู้ชม แต่ละมุมกล้องจึงมีความหมายและส่งผลต่ออารมณ์ของคนดู ดังนั้นทำให้การทำงานในกองถ่ายเลยต้องช่วยกันทั้งหมด เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุดค่ะ ซึ่งแอนก็รู้สึกแฮปปี้มากที่ได้ร่วมงานกับทีมงานทุกท่านในเรื่องนี้ รวมถึงดีใจที่ได้กลับมาทำงานกับทีวีซีนอีกครั้งด้วย”

ก่อนจากกัน เราถามคุณแอนเล่นๆ ว่าถ้าไม่ได้รับบทพลอยแสงในเรื่องนี้ เธออยากแสดงเป็นใครในเรื่องแม่เลี้ยงอีกบ้าง

“แอนว่าบท ‘ดาว’ ก็น่าสนใจค่ะ เพราะตัวละครนี้มีจุดที่ต้องตัดสินใจผิดพลาดและถูกต้อง ซึ่งทำให้เกิดเรื่องราวที่เข้มข้น จากมุมมองของนักแสดงแล้วการเล่นบทแบบนี้สนุกดี เพราะเป็นตัวละครที่เต็มไปด้วยอารมณ์ มีจุดพีคตลอดเวลา เหมือนได้แสดงอารมณ์ที่เข้มข้นแบบเต็มที่

“ยังไงแอนก็ขอฝาก ละครเรื่อง ‘แม่เลี้ยง’ ไว้ด้วยนะคะ อยากให้ทุกคนติดตามและให้กำลังใจด้วย

“เพราะทีมงานทุกคนตั้งใจทำงานกันอย่างเต็มที่ เนื้อเรื่องเองก็โดนใจมาก โดยเฉพาะบทบาทของแม่เลี้ยงและลูกเลี้ยงทั้งสองคน ซึ่งรับรองว่าไม่ใช่แค่เรื่องของการปะทะกันแบบฟาดไปฟาดมาเท่านั้น แต่ยังมีมุมมองที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับดรามาชีวิต และการค้นหาความจริง รวมทั้งยังมีเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในเรื่องในเรื่องด้วยค่ะ ฝากติดตามกันด้วยนะคะ”

Don`t copy text!