Living The Writing Dream  เพราะอะไรพวกเขาจึงเล่าเรื่องนี้

Living The Writing Dream เพราะอะไรพวกเขาจึงเล่าเรื่องนี้

โดย : กิ่งสุรางค์ อนุภาษ

Loading

วันนี้อ่านเอาพาผู้อ่านทุกท่านมาร่วมรับรู้ว่า…เพราะอะไรพวกเขาจึงเล่าเรื่องนี้ผ่านนวนิยายชิ้นเยี่ยมในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ ๕๒ และงานสัปดาห์หนังสือนานาชาติครั้งที่ ๒๒ ปีนี้ ถ้าพร้อมแล้ว เรามาสำรวจนิยายของชาวอ่านเอาที่เสิร์ฟมาให้เชยชมผ่านงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติปีนี้กันเถอะ

https://www.groovebooks.com/blog/นิยายใหม่จาก-groove-next-anowl-ลูกองุ่น-เปิดให้สั่งจอง-25-มี-ค-67/62

งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ ๕๒ และงานสัปดาห์หนังสือนานาชาติครั้งที่ ๒๒ ปีนี้ บ้านอ่านเอาของเราก็แรงดีไม่มีแผ่วเช่นเคย เพราะขนทัพนวนิยายให้แฟนๆ นักอ่านได้อ่านกันแบบจุกๆ ส่วนจะมีเรื่องอะไร ของใคร ทำไมถึงอยากเล่าเรื่องนี้ เรามาอ่านความคิดของพวกเขากันเลยค่ะ

ครั้งนี้เลยอยากจะนำแรงบันดาลใจที่นักเขียนทั้งหลายของบ้านเรามาเล่าให้ได้อ่านกันว่าเพราะอะไรพวกเขาถึงเล่าเรื่องนี้ และมีเมสเสจอะไรที่อยากส่งถึงนักอ่านกันบ้าง

วาวพลอย โดย ปิยะพร ศักดิ์เกษม

ทุกคนล้วนมีค่าในตัวเอง แม้จะไม่ใช่เพชรน้ำหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าอัญมณีแบบอื่นๆ จะฉายแสงสวยงามออกมาไม่ได้ เรื่องนี้พี่เอียดได้เปรียบเทียบชีวิตของสองสาวบ้านเชิญอิสราชัย ก่องเพชร และเก็จไพลิน ไว้ได้อย่างลุ่มลึกและน่าสนใจ จนทำให้ต้องนำกลับมาพิมพ์ซ้ำอีกครั้ง

“แรงบันดาลใจในการเขียนวาวพลอยไม่ได้มีสิ่งใดมากระทบใจเป็นชิ้นเป็นอัน แค่อยากเขียนเรื่องสนุกๆ เบาสบายแต่ต้องมีสาระแง่คิดในการใช้ชีวิตแบบ ปิยะพร ศักดิ์เกษม และให้เป็นเรื่องที่สอดประสานกับ เรื่องน้ำเพชร ที่เขียนอยู่ในเวลาเดียวกันค่ะ 

“สำหรับเรื่องนี้ สิ่งที่พี่ต้องการจะบอกคือการยอมรับและรักผู้อื่นอย่างที่เขาเป็นนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญ การกดดันให้เขาพยายามเป็นสิ่งที่ตนเองไม่ได้เป็นพาไปสู่การโกหกและการโกหกคือหลุมที่ลึกที่สุดของปัญหา ความกล้าหาญซื่อตรงเท่านั้นที่จะทำให้เราเปล่งประกายวาววามงามล้ำค่าขึ้นมาได้ไม่ว่าจะเป็นเพชรหรือพลอยค่ะ”

 

แม่ครัวตัวตึง โดย กิ่งฉัตร

ถ้าคุณเป็นแฟน อลิน กับ ครูกุ๊ก จากสูตรเสน่หา เราไม่อยากให้พลาดเรื่องนี้

“แม่ครัวตัวตึง เป็นโครงการที่ทางอ่านเอาทำร่วมกับเพจข้าวพนมรุ้ง ฉะนั้นตอนที่เขียน โจทย์มาข้อเดียวคือต้องมีการพูดถึงเรื่องอาหารในเรื่องที่จะนำเสนอ ถ้าคนรู้จักพี่จะรู้ว่าพี่เป็นคนชอบกินมาก ฟังดูง่ายนะคะ เพราะโจทย์นี้น่าจะเข้า แต่จริงๆ แล้ว อาหารเนี่ยมีเยอะมาก ปัญหาตอนที่ลงมือเขียนก็คือถ้าเราจะเขียนแต่เมนูที่เราชอบคงไม่น่าจะใช่ เพราะคงไม่มีใครชอบแบบเดียวกับเราทั้งหมดหรอก เลยพยายามเกลี่ยให้กระจาย ซึ่งเมนูที่นำเสนอในเรื่องก็เป็นเมนูง่ายๆ ที่ทำเองที่บ้านได้ แล้วก็เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ สมัยใหม่ที่ไม่มีเวลาทำ เครื่องเคียงก็น้อย สามารถหาได้ง่ายๆ เปิดตู้มาก็อาจเป็นปลาทูน่ากระป๋อง สลัดครีม ฯลฯ

“ตอนแรกที่รับโจทย์มาคิดว่าจะต้องทำพระรามลงสรง (หัวเราะ) อะไรที่แสดงฝีมือหน่อย แต่พอคิดไปคิดมา คิดว่าน่าจะต้องทำง่ายที่สุด เหมาะสำหรับคนอ่านที่สุด ที่อ่านแล้วได้ประโยชน์ และข้อหนึ่งที่ได้คือ ช่วงที่ก่อนจะลงมือเขียน ผู้อาวุโสที่บ้านป่วย ต้องการอาหารที่เป็นไข่ขาวเป็นหลัก ต้องเสริมธาตุที่อยู่ในไข่ขาวอย่างเดียว วันละ 2-3 ฟอง กินแต่ไข่ขาวอย่างเดียวก็ค่อนข้างหนักของผู้มีอายุหรือผู้ป่วย เพราะว่าไข่จะมีกลิ่นคาวนิดนึง ฉะนั้นโชคดีที่มีพี่รู้จัก ซึ่งคุณแม่พี่เขาเป็นโรคไต เขาก็เลยให้ข้อมูลอาหารเกี่ยวกับการทำไข่ขาวมาหลายอย่าง เลยนำจุดนี้มาเป็นแรงบันดาลใจในการเขียนเรื่องแม่ครัวตัวตึงด้วยค่ะ

“พอพูดถึงแม่ครัวจะพูดถึงสูตรเสน่หา แล้วมีความรู้สึกว่ามีตัวละครที่เราสามารถนำมาใช้ได้ เลยดึงตัวลูกสาวของครูกุ๊กกับคุณนายอลินมาเป็นนางเอกในเรื่องนี้ เป็นการต่อยอดการทำครัวต่อไป

“นอกจากนี้รีพริ้นต์เรื่อง มีเพียงรัก ละครเล่ห์เสน่หา บ้านอัญชันเป็นงานรวมเรื่องสั้น ไม่แนะนำสำหรับคนสายหวานเท่าไหร่ แล้วก็มีเล่มเล็กเป็นเล่มพิเศษคือเรื่องหมูกระทะจะเยียวยาทุกสิ่ง เล่มเล็กนี่เป็นความคิดถึง แก๊งสืบสวน ก ข ค ของสาวน้อยเกวลิน แต่ทำออกมาเป็นเรื่องสั้นให้พอหายคิดถึง ส่วนรายละเอียดการซื้อจะเป็นอย่างไรก็ติดตามได้ที่ บูธ M02 ค่ะ”

 

เฌอ (Memoirs of the tree) โดย พงศกร

เปลี่ยนอารมณ์ความลึกลับ มาเป็นความซาบซึ้งประทับใจกันบ้าง กับผลงานเล่มล่าสุดของ พงศกร ‘เฌอ’(Memoris of the tree)

“เรื่องนี้เป็นแนวความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล เป็นเรื่องฟีลกู๊ด ซึ่งต้องบอกว่าไม่เคยเขียนมาก่อน แต่พอเขียนแล้วก็รู้สึกประทับใจกับงานมากๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของคนห้าคนที่มีชีวิตอยู่และผูกพันกับต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งในหมู่บ้านที่ตัวเองอยู่ แต่ต่อมาชีวิตก็นำพาให้แต่ละคนเดินทางไปตามเส้นทางชีวิตของตัวเอง แต่เมื่อจะเกิดเหตุอะไรกับต้นไม้ทั้งที่ทั้งห้าคนผูกพันก็ทำให้เขาต้องกลับมารวมตัวกัน

“เรื่องนี้เป็นการเล่าที่ตัดสลับไปมาระหว่างปัจจุบันกับอดีต เชื่อว่าคนอ่านอ่านแล้วจะระลึกถึงวัยเยาว์ของตัวเอง ระลึกถึงบางสิ่งบางอย่างที่เมื่อเราเติบโตขึ้นแล้วมันขาดหายไป เป็นงานที่คนเขียนเขียนแล้วมีความสุขกับมันมากและเชื่อว่าคนอ่านน่าจะชอบมากๆ ฝากติดตามด้วยครับ

“สำหรับเมสเสจที่ผมอยากบอกนักอ่านในเรื่องนี้คือความทรงจำเป็นสิ่งที่งดงาม บางเรื่องในอดีตจะช่วยเยียวยาเราในปัจจุบัน ในวันที่เรารู้สึกทุกข์ใจ รู้สึกแย่มากๆ เราลองนั่งนึกดู นึกย้อนไปในวัยเด็ก อะไรที่ทำให้เรามีความสุข อีกอย่างคือของบางอย่างที่อยู่กับเรามาตลอดจนเราไม่เคยเห็นค่ามันเลยจนกระทั่งวันหนึ่งที่จะสูญเสียไปถึงตระหนักว่านี่คือสิ่งที่มีค่ากับเรามากๆ นี่คือเมสเสจที่อยากสื่อผ่านนวนิยายเรื่องนี้ครับ“

มารวย โดย พงศกร

ทาสแมวทั้งหลายไม่ควรพลาด เพราะมารวย แมวแสนซนจะเข้ามานั่งในใจนักอ่านทันทีที่ได้หยิบเรื่องสั้นเล่มเล็กเรื่องนี้

“มารวยเป็นชื่อของแมวที่เขียนให้แฟนเพจพงศกรอันเก่าก่อนจะถูกแฮกอ่าน เป็นเรื่องสั้นที่ลงเป็นตอนๆ ไม่ได้ตั้งใจว่าจะเป็นเรื่องยาว จุดประสงค์คืออยากสร้างความบันเทิงให้แฟนเพจอ่าน เขียนไปเขียนมา ปรากฏว่าคนอ่านชอบ คนเขียนชอบ เลยตัดสินใจทำรวมเล่มออกมา แต่เนื่องจากเนื้อหาน้อยๆ เป็นเรื่องสั้นขนาดยาว หรือจะเรียกว่าเป็นเรื่องยาวขนาดสั้นก็ได้ เลยตัดสินใจทำเป็นเล่มเล็กของ กรู๊ฟ พับลิชชิ่ง ด้วยครับ

“ผมอยากส่งความสุขและรอยยิ้มให้กับคนอ่าน ซึ่งถ้าผู้อ่านรู้สึกอย่างนี้ด้วยก็ถือว่าเรื่องนั้นได้ทำหน้าที่ของมันแล้วครับ”

 

บางกอก ๒๔๑๘ วิกฤตการณ์รักร้ายของนายกระฎุมพี โดย ตฤณภัทร

ใครที่คิดถึง ‘ฮวง‘ พระรองจากเรื่อง พระนคร ๒๔๑๐ แม่สื่อตัวร้ายกับนายโปลิศ งานนี้คงได้หายคิดถึงกันแล้ว เพราะตฤณภัทร เล่าถึงพ่อหนุ่มผมเปียไว้ให้อ่านอย่างจุใจในนิยายเล่มล่าสุด พร้อมอวยยศให้เขาเขยิบขึ้นมาเป็นพระเอกอีกด้วย

“หนังสือใหม่ของตฤณภัทรยังยืนคอนเซ็ปต์เดิม ชื่อยาว ๘ เมตร (หัวเราะ) บางกอก ๒๔๑๘ วิกฤตการณ์รักร้ายของนายกระฎุมพี เรื่องนี้มีที่มาที่ไปจากตอนที่เขียนเรื่องพระนคร ๒๔๑๐ แม่สื่อตัวร้ายกับนายโปลิศ ที่มีคนคนหนึ่งอกหักจากนางเอกในเรื่องคือ ‘ฮวง‘ ซึ่งแม่ยกเยอะมาก และจะคอยถามถึงฮวงตลอด เลยคิดว่าถึงเวลาที่จะเขียนเรื่องของฮวงแล้ว ซึ่งนอกจากจะเล่าเรื่องในมุมต่างๆ ของฮวง ยังมีเรื่องความรักของเขากับนางเอกของเรื่องให้ได้ลุ้นกันอีกด้วย เรียกว่ากว่าจะรักกันได้นี่ไม่ง่ายเลยค่ะ

“นอกจากนี้ยังเป็นการตอบคำถามของเราด้วยว่า การที่พ่อแม่เขาเป็นคนจีนโพ้นทะเลจะทำให้ฮวงที่เกิดในแผ่นดินไทยรักแผ่นดินผืนนี้หรือไม่ แล้วใครที่อยากรู้ว่าโนรีจากพระนคร ๒๔๑๐ แม่สื่อตัวร้ายกับนายโปลิศ เป็นยังไง เหล่านี้มีมาให้ได้อ่านกันในเล่มนี้ทั้งหมดค่ะ“

 

กระบือสื่อรัก โดย พรรณสิริ

ผลงานชนะเลิศการประกวดจากโครงการช่องวันอ่านเอาปี 4 บอกเลยว่าใครชอบอ่านสไตล์สู้ชีวิตเป็นไม่ผิดหวัง เพราะทั้งการใช้ภาษาและเรื่องราวสอดคล้องลงตัวไปเสียหมด จนอยากให้แฟนๆ มีไว้ที่ชั้นหนังสือ

“แรงบันดาลใจในการเขียนกระบือสื่อรัก เกิดจากผู้เขียนจับพลัดจับผลูดูคลิปวิดีโอเกี่ยวกับควายไทย เห็นราคาแล้วถึงกับอึ้ง ราคาแพงไม่แพ้รถหรูหนึ่งคันหรือบ้านเดี่ยวหนึ่งหลัง ผนวกกับข่าวเด็กอาชีวะยกพวกตีกันบ่อยๆ ทำให้ถูกมองในแง่ลบ ซึ่งไม่ค่อยแฟร์สำหรับเด็กอาชีวะโดยรวมเท่าไหร่ เลยอยากเขียนพระเอกให้เป็นตัวแทนของเด็กอาชีวะน้ำดีสักคน ตัวละครอย่าง ‘ดินแดน’ เกษตรกรรุ่นใหม่ ผู้หลงใหลการเลี้ยงควายสวยงามจึงเป็นรูปเป็นร่างขึ้นในจินตนาการค่ะ

“สำหรับ ‘เอื้อมดาว’ ได้ต้นแบบความเป็นนักสู้ชีวิตจากลูกพี่ลูกน้องคนหนึ่งที่อุทิศชีวิตของตัวเองดูแลครอบครัว อยากให้พี่ได้รู้ว่าน้องสาวชื่นชมหัวจิตหัวใจอันแข็งแกร่ง เป็นกำลังใจให้เสมอ และอยากให้พี่นึกถึงความสุขของตัวเองด้วย

“ใครที่อ่านนิยายเรื่องนี้จะเห็นว่าดินแดนสวมเสื้อฮาวายแทบทุกวันไม่ต่างจากชุดยูนิฟอร์ม เพราะตั้งใจที่จะใช้ชีวิตให้สนุกสนานราวกับทุกวันเป็นวันสงกรานต์ ผู้เขียนอยากสื่อว่าเราเอาจริงเอาจังได้ แต่อย่าลืมสนุกไปกับสิ่งที่ทำด้วย ต่อให้มีอุปสรรค แต่การมองโลกในแง่บวกก็จะเป็นพลังให้เราก้าวผ่านไปได้ค่ะ

“ตัวละครทุกตัวย่อมไม่อาจมีชีวิตชีวาขึ้นมาได้ หากผู้เขียนไม่ได้รับโอกาสให้เข้าร่วมโครงการช่องวันอ่านเอา ปีที่ 4 ขอขอบคุณคณะกรรมการที่มะรุมมะตุ้มตบพล็อต และผลักดันให้ผู้เขียนแสดงศักยภาพที่มีออกมา จนกระทั่งนิยายเรื่องนี้ได้รับรางวัล ‘นิยายดีเด่น’ จากทางโครงการ นับเป็นสิ่งที่เกินความคาดหมายไปมาก ราวกับฝันไป

ท้ายสุดหวังว่า ‘กระบือสื่อรัก’ จะช่วยให้นักอ่านทุกท่านมีกำลังใจในการดำเนินชีวิต…อย่าลืมทำทุกวันให้เป็นวันสงกรานต์นะคะ”

ธามทศ ล่ากฎหลอน โดย ไข่เจียวหมูสับ

นักเขียนหนุ่มไฟแรงคนนี้ส่งนิยายแนวแอกชั่น ไซไฟ ลงสนาม ซึ่งถึงจะแหวกแนวแต่ก็ได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากแฟนๆ อ่านเอาเช่นกัน

“จุดเริ่มต้นของนิยายเรื่องธามทศ ล่ากฎหลอน มาจากการที่จู่ๆ ผมก็อยากจะรวบรวมความหลอนที่เจอมากับตัวถึงปัจจุบัน เช่น ชั้นใต้ดินของห้างสรรพสินค้าที่เคยไปร่วมงานด้วย ทั้งลิฟต์ของโรงเรียนสอนพิเศษ และอื่น ๆ อีกมาก แม้เป็นแค่ไอเดียเล่นๆ แต่พอรวมออกมาแล้วก็พบว่าเยอะอยู่เหมือนกัน และช่วงเวลานั้นตัวผมทำงานมาแล้วหลายสาย ก็ได้เจอกับความเห็นแก่ตัวและชั่วอย่างไม่น่าเชื่อของคนบางกลุ่ม จึงอยากนำประสบการณ์นั้นมาผสานกับเรื่องสยองเหนือธรรมชาติครับ ซึ่งสิ่งที่อยากจะสื่อในนิยายคือแนวคิดที่ว่า สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ คนชั่วที่ฉลาดแถมยังได้พลังเหนือธรรมชาติไปครองนั่นเองครับ”

 

ปางปอบ โดย ทศพล

ผลงานอีกชิ้นของ ทศพล ผู้เคยทำให้ โพงคำหอม นิยายแนวผีพีเรียดฉบับอีสาน เข้าไปนั่งในใจคุณผู้อ่านมาแล้ว ครั้งนี้ ทศพล ได้ส่งนิยายเรื่องปางปอบ มาให้แฟนๆ ได้อ่านกัน และเรื่องนี้ก็ยังคงส่งกลิ่นอายความลึกลับแบบอีสานมาให้คนอ่านได้ประทับใจกันอีกครั้ง

“แรงบันดาลใจนิยายเรื่อง ‘ปางปอบ’ มาจากชีวิตจริงของแม่หญิงคนหนึ่งในหมู่บ้าน จากคนธรรมดาที่เลี้ยงชีพด้วยความเรียบง่าย แต่กลับเป็นผีร้ายในสายตาของทุกคนไปอย่างคาดไม่ถึง จนไม่อาจแบกรับความผิดนี้ได้ เธอจึงตัดสินใจลุกขึ้นมาต่อสู้กับคำครหา แม้ว่าสงครามครั้งนี้จะใช้เวลายาวนาน แต่ความพยายามของเธอก็กลายมาเป็นแรงผลักดันให้ผมได้เรียบเรียงเขียนเรื่องนี้ขึ้นมา และถ่ายทอดออกมาถึงผู้อ่านอันเป็นที่รักได้อ่านกันครับ

“ฉะนั้น หากทุกปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตเรา ล้วนแล้วเป็นบุพกรรมที่มีต้นเหตุ และหากวันหนึ่งเราต้องตกอยู่ในชะตากรรมเช่นนั้น เราจะมีวิธีการรับมือและต่อสู้กันอย่างไร”

 

มหกรรมมนุษย์ โดย สีตลา สัตตสุวรรณ

10 ปีกับการเขียนงานชิ้นนี้ ในที่สุด มหกรรมมนุษย์ ผลงานชิ้นแรกของ สีตลา สัตตสุวรรณ ก็ได้อวดโฉมบนแผงหนังสือ พร้อมมงกุฎและสายสะพาย รางวัลชนะเลิศ จากโครงการอ่านเอา ก้าวแรก รุ่นที่ 3

“มหกรรมมนุษย์ มีต้นแบบมาจากชีวิตของคุณยายท่านหนึ่งที่ผมเคารพ ถ้ามีชีวิตอยู่ถึงปัจจุบันท่านก็คงอายุเกินหนึ่งร้อยปีแล้ว สังคมในสมัยท่านยังมีค่านิยมผู้ชายเป็นใหญ่และผู้หญิงเป็นเพียงช้างเท้าหลังของครอบครัว ด้วยความที่คุณยายเป็นผู้หญิงเก่ง สร้างเนื้อสร้างตัวจากไม่มีอะไรเลยจนมีทรัพย์สินมากมาย คุณยายจึงมีสิทธิ์เด็ดขาดในการตัดสินใจเหนือสามีคือคุณตา และเป็นประกาศิตที่ลูกหลานต้องรับฟังและปฏิบัติตาม ชีวิตคุณยายและผู้คนแวดล้อมน่าสนใจเกินกว่าจะให้จบลงไปพร้อมกับลมหายใจของท่านได้ ผมจึงได้ประกอบร่างตัวละครชมนาดขึ้นมา ใส่สีสัน สร้างตัวละครอื่นๆ เพิ่มเติม หยิบบางเสี้ยวชีวิตของคนที่รู้จักมาใส่ตามสมควรเพื่อดำเนินเรื่องได้ตั้งแต่ต้นจนจบ ด้วยหวังว่าจะเป็นนวนิยายเล่มหนึ่งที่เล่าถึงชีวิตมนุษย์คนหนึ่งได้อย่างเป็นสัจธรรม

“มนุษย์ถือกำเนิดขึ้นมาด้วยความต้องการอันเป็นปัจเจกบุคคล และมีความแตกต่างหลากหลายเป็นที่ตั้ง แม้เป็นพ่อแม่ พี่น้อง หรือบุคคลในครอบครัวเดียวกันก็ตาม การพยายามฝืนธรรมชาติของมนุษย์ อาจกระทำได้เพียงชั่วคราว แต่เมื่อต้องใช้ชีวิตทั้งชีวิตด้วยกัน ก็อดมิได้ที่จะแสดงความต้องการที่แท้จริงออกมา ผลสุดท้ายความคาดหวังที่ต้องการให้เป็นอย่างนั้นอย่างนี้ มักจบลงด้วยความเจ็บปวดและเกิดการสูญเสียในที่สุด

“ความรัก ความเข้าใจและการยอมรับความแตกต่างนั้นดูจะเป็นทางสายกลางที่สุดที่ตัวละครอย่างชมนาดพึงตระหนักได้ในตอนท้ายของเรื่อง”

 

บ่วงเวรา โดย สัมพันธ์ สุวรรณเลิศ

นิยายพีเรียดไปที่สมัยอยุธยาตอนต้น เข้มข้นกันตั้งแต่เปิดเรื่องที่นำพาผู้อ่านไปสู่ความแค้นของตัวละครที่พบฉากชีวิตแสนรันทดจนต้องทวงคืน ความสนุกและชงเข้มของ บ่วงเวรา นั้นทำให้ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่งจากโครงการ อ่านเอา ก้าวแรก รุ่นที่ 3 ใครอยากรู้ว่าสนุกแค่ไหน ต้องตามอ่านกันต่อในเล่ม

“ผมได้รับมอบหมายให้สอนในรายวิชาวรรณกรรมการแสดง ของหลักสูตรภาษาไทยและการสื่อสาร คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี เนื้อหาส่วนหนึ่งของรายวิชาคือนักศึกษาต้องสามารถเขียนบทละครสำหรับการแสดงได้ ในปีนั้นได้มอบหมายให้นักศึกษาเขียนบทละครเวที ปรากฏว่าบทละครที่นักศึกษาเขียนมีลักษณะเป็นบทละครโทรทัศน์เสียมากว่า จึงทำให้ทราบว่านักศึกษาไม่เข้าใจธรรมชาติและลักษณะของละครเวที

“การเรียนรู้ด้วยการลงมือทำจะทำให้นักศึกษาเข้าใจได้อย่างถ่องแท้ ผมจึงตัดสินใจร่วมมือกับนักศึกษาในรายวิชาผลิตละครเวทีขึ้น โดยผมสร้างพล็อตและเขียนบทขึ้นเอง

“ระหว่างที่สร้างพล็อตนั้นมีรายละเอียดที่อยากเขียนอยากใส่อยู่มาก แต่ด้วยข้อจำกัดของการเป็นละครเวที จึงจำเป็นต้องตัดรายละเอียดจำนวนมากออกไป เพราะต้องการให้บทละครมีความกะทัดรัด สามารถจัดแสดงได้จริง

“ต่อมาเมื่อผมเข้าร่วมโครงการอ่านเอาก้าวแรก รุ่นที่ 3 ผมไม่ลังเลเลยที่จะหยิบพล็อตเรื่องที่เคยวางไว้อย่างละเอียดและไม่สามารถนำมาเขียนบทละครได้ มาสานต่อเป็นนวนิยายเรื่อง ‘บ่วงเวรา’ นี้ และแน่นอนว่าบทละครเวทีกับนวนิยายย่อมมีวิธีการเล่าเรื่องที่ไม่เหมือนกัน และมีอรรถรสที่ต่างกันไป นี่คือที่มาของนวนิยายเรื่อง ‘บ่วงเวรา’ ครับ

“สิ่งที่ผมต้องการบอกคนอ่านในนิยายเรื่องนี้คือการให้อภัยไม่ได้ขึ้นอยู่กับผู้ให้อภัยแต่อย่างเดียว แต่ควรขึ้นอยู่กับทั้งสองฝ่ายคือทั้งผู้ให้อภัยและผู้รับการให้อภัยที่ต่างฝ่ายต่างตั้งใจจะยุติความขัดแย้งและเลิกแล้วต่อกันด้วยความจริงใจ เพราะถ้าผู้ถูกกระทำจะให้อภัยเพียงฝ่ายเดียว แต่ผู้ได้รับการอภัยยังหาเหตุกระทำที่มุ่งร้ายไม่รู้จบ การให้อภัยนั้นก็คงไม่สัมฤทธิ์ผล แต่ไม่ว่าจะอย่างไร การให้อภัยก็ย่อมส่งผลดีต่อผู้ให้อภัยเอง ด้วย เพราะเป็นการระงับเวรที่มีต่อกันให้สิ้นสุดลงที่ตัวเอง และที่สุดการให้อภัยนี้ย่อมนำความสุขสงบมาสู่ตัวผู้ที่รู้จักการให้อภัยเองครับ”

 

ลำนำพราย โดย เก็ตตะหวา

นวนิยายกลิ่นอายล้านนาที่คว้ารางวัลรองชนะเลิศ จากโครงการ อ่านเอาก้าวแรก รุ่นที่ 3 ทำให้คนอ่านอินไปกับเรื่องราวย้อนยุคสุดลึกลับที่เกิดขึ้น

“เรื่องนี้เป็นการเล่าย้อนไปเมื่อร้อยกว่าปีก่อน เรื่องราวลึกลับแฝงปริศนาอาฆาตดำเนินเรื่องควบคู่ไปกับความเจริญทางการแพทย์สมัยใหม่ โรงเรียนนางพยาบาลซึ่งก่อตั้งโดยคณะมิชชั่นนารีและการทำไม้สักในล้านนา ทุกส่วนล้วนเกี่ยวข้องกับเรื่องราวของนางพรายแสนสวย ดำเนินเรื่องจากหนองน้ำอาถรรพณ์ แล้ววนกลับมาจบที่หนองน้ำนั้นอีกครั้ง เพื่อจะพบว่าบางครั้งสิ่งที่คิด สิ่งที่แค้นอาจจะไม่ได้เป็นไปตามสิ่งที่เห็น การละทิ้งความแค้นต่อผู้อื่น อาจคือการปลดปล่อยตัวเองจากกับดักของหัวใจ ใจที่อาฆาตมาดร้ายไม่ยอมปล่อยวาง ไม่ว่าเป็นหรือตาย”

เอาเป็นว่าแต่ละเรื่องจะโดนใจคุณผู้อ่านแค่ไหน แนะนำว่าต้องลองมากันดู

Don`t copy text!