ขมิ้นกับปูน : มัลฟอย

ขมิ้นกับปูน : มัลฟอย

โดย : นกอัญชันหางดำ

Loading

กลั่นเกลาเล่าเพลิน โดย นกอัญชันหางดำ คอลัมน์ที่ได้แรงบันดาลใจจากโลกวรรณกรรมที่มีตัวละครมากมายโลดแล่นอยู่ในใจนักอ่าน และมีเรื่องราวให้กล่าวถึงได้เสมอ คอลัมน์นี้จึงขอชวนทุกท่านมาเพลิดเพลินกับการรีวิวตัวละคร ทั้งตัวเอก ตัวร้าย และตัวประกอบ ในมุมมองเชิงเปรียบเทียบกับโลกปัจจุบัน พร้อมสอดแทรกข้อชวนคิดไว้เบาๆ

ในบรรดาผู้คนที่ต้องมาพบเจอและติดต่อสัมพันธ์กัน ต่อให้คิดว่าเราอยู่ของเราดี ๆ ใช้ชีวิตตามปกติ ไม่ได้หาเรื่องใครก่อนเลย แต่คงมีบ้างที่ต้องเกี่ยวข้องกับใครสักคนที่เป็นเหมือน เดรโก มัลฟอย คนที่เหมือนโกรธเกลียดกันมาแต่ชาติปางไหน พบหน้ากันทีไรก็มีเรื่องให้ปะทะกันได้ตลอด ที่จริงอาจเป็นเรื่องของกรรมในปัจจุบันด้วยก็ได้ ไม่ใช่กรรมเก่าเพียงอย่างเดียวหรอกที่ทำให้คนเราได้พบหน้าแล้วเกิดมีเรื่องกัน

แฮร์รี่กับมัลฟอยมีเรื่องทะเลาะขัดแย้งกันหลายครั้ง ร้ายแรงขึ้นเรื่อย ๆ ตามจำนวนปีที่อยู่ด้วยกันและตามความเลวร้ายของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยที่ผลัดกันแพ้ชนะ การเติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่ต่างกัน การยึดมั่นในหลักการที่ตรงข้ามกัน และการอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องแข่งขันกันตลอดเวลา ทำให้เป็นไปได้ยากที่ทั้งคู่จะคบหาเป็นเพื่อนกันได้สนิทใจ อย่าว่าแต่ทำตัวปกติต่อกันเลย จะคุยกันดี ๆ ยังแทบไม่ไหว และเป็นเรื่องที่ยากจะบอกได้ว่าใครเริ่มหาเรื่องก่อน ที่จริงจะมองว่าเป็นแค่คนที่คุยกันแล้วไม่คลิก เห็นนิสัยแล้วไม่อยากสนิทด้วย เรียกว่าจริตไม่ตรงกันก็คงได้ (ยังสงสัยเหมือนกันว่าคนที่มีนิสัยใจคอเห็นแก่ตัวขี้อิจฉาชอบทำท่าวางโตรังแกคนอื่นจะมีจริตนิสัยที่เข้ากันกับคนประเภทไหนได้บ้าง)

การได้พบกับมัลฟอยครั้งแรกตอนไปซื้อเครื่องแบบนักเรียนที่ร้านมาดามมัลกิ้น ช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ที่ได้สนทนากันไม่ใช่ประสบการณ์ที่ดีนักสำหรับแฮร์รี่ ชวนให้รู้สึกอึดอัดใจ ไม่น่าคบหา ทั้งคำพูดคำจาที่เอาแต่ใจตัวเองและดูหมิ่นคนอื่น ล้วนแต่ทำให้นึกถึงดัดลีย์ลูกพี่ลูกน้องที่ชอบหาเรื่องรังแกแฮร์รี่มาตั้งแต่เด็ก ยิ่งเหตุการณ์บนรถไฟตอนไปฮอกวอตส์ครั้งแรกที่มัลฟอยและพวกเป็นฝ่ายเข้ามาอวดเบ่งและดูถูกรอน วีสลีย์ที่กำลังคุยอยู่กับแฮร์รี่และมีโอกาสได้เอื้อเฟื้อกันแม้เพียงเล็กน้อยแต่ให้ความรู้สึกดีมาก เพราะก่อนนี้แฮร์รี่ไม่เคยมีคนที่เรียกว่าเพื่อนได้เลยสักคน ดังนั้นจึงยิ่งตอกย้ำให้แฮร์รี่รู้สึกว่าคิดถูกแล้วที่เลือกจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับมัลฟอย

แต่สำหรับมัลฟอยก็คงคิดว่าแฮร์รี่เป็นฝ่ายที่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับเขาก่อน อุตส่าห์มาเสนอไมตรีให้ถึงที่กลับโดนปฏิเสธ ถึงมัลฟอยเองจะคิดใช้แฮร์รี่ที่เป็นคนมีชื่อเสียงในโลกผู้วิเศษมาเป็นพวกพ้องเพียงเพื่อเสริมบารมีตัวเองก็ตาม แต่มันก็เสียหน้ามาก ๆ ที่ถูกปฏิเสธต่อหน้าคนอื่น ในมุมของคนแบบมัลฟอยย่อมเห็นว่าเป็นความผิดของแฮร์รี่ฝ่ายเดียวที่ไม่ยอมรับในตัวเขา ไม่ได้ย้อนดูว่าตัวเองมีข้อเสียแบบไหนที่ทำให้คนอื่นหลีกหนี (อาจจะสั่งสมนิสัยมาว่าถ้ามัวแต่โทษตัวเองแล้วเมื่อไหร่จะได้โทษคนอื่นกัน)

ช่วงแรก ๆ แฮร์รี่อาจจะไม่ใช่เป้าหมายโดยตรงให้มัลฟอยมาหาเรื่องเพราะทั้งความสามารถและฐานะทางบ้านก็สูสีกัน ไม่เหมือนรอนกับเฮอร์ไมโอนี่ที่โดนหนักมาตั้งแต่ต้น การที่คนชอบข่มคนอื่นบางครั้งไม่ใช่เพราะคนนั้นด้อยกว่า แต่อาจเพราะอิจฉาอยากมีอยากเป็นเหมือนคน ๆ นั้นก็เป็นได้ แต่ตัวเองกลับไม่ดีไม่เก่งพอที่จะทำได้ด้วยตัวเอง สิทธิพิเศษต่าง ๆ ที่มัลฟอยได้รับมาจากบารมีของพ่อและใช้เงินซื้อ ซึ่งลึกลงในใจแล้วมันจะทำให้รู้สึกดีหรือภาคภูมิใจในตัวเองได้จริงหรือ มัลฟอยข่มรอนบ่อย ๆ เรื่องฐานะที่ไม่ร่ำรวยเพราะเป็นเรื่องที่เขามีเหนือกว่า แต่ใครจะรู้ว่าลึก ๆ แล้วอาจจะเพราะอิจฉารอนหรือเปล่าที่มีแฮร์รี่ผู้โด่งดังมาเป็นเพื่อนรักและพี่น้องอีกหลายคนคอยรักใคร่ห่วงใยปกป้องกันและกัน ในขณะที่เขาเองหาคนที่จริงใจด้วยแบบนั้นได้ยาก ส่วนเฮอร์ไมโอนี่นั้นมัลฟอยไม่มีอะไรไปเทียบได้เลย เรียนเก่งกว่าในทุกวิชาจนเป็นที่หนึ่งของชั้น ทั้งที่ไม่มีพื้นฐานเติบโตมาในโลกผู้วิเศษอย่างคนอื่น จนมัลฟอยเองก็เคยถูกพ่อตำหนิในเรื่องนี้ด้วย และยังมีเรื่องที่เฮอร์ไมโอนี่พูดตอบโต้จนแทงใจดำมัลฟอยได้ก็หลายหน อย่างเช่นเรื่องการใช้เงินซื้อตำแหน่ง โดย “บริจาค” อุปกรณ์กีฬาเพื่อให้ได้ทางลัดเข้าทีมควิดดิชประจำบ้านสลิธีรินตอนปีสอง สิ่งเดียวที่มัลฟอยจะนึกสรรหามาข่มได้ก็คือเรื่องที่เฮอร์ไมโอนี่เป็นลูกมักเกิ้ล ไม่ได้มาจากตระกูลเก่าแก่ แต่ว่า แล้วไงล่ะใครแคร์ เพื่อนส่วนใหญ่ไม่เห็นเป็นเรื่องสำคัญด้วยซ้ำ ถ้าจะมีบางคนไม่ชอบเฮอร์ไมโอนี่ก็คงเพราะรำคาญความเจ้ากี้เจ้าการของเจ้าตัวเองมากกว่า ไม่เกี่ยวกับสายเลือด

จุดเปลี่ยนสำคัญของมัลฟอยคงเป็นช่วงที่พ่อติดคุก และมัลฟอยถูกจอมมารใช้เป็นเครื่องมือทั้งเพื่อมุ่งร้ายต่อดัมเบิลดอร์และเพื่อลงโทษพ่อของมัลฟอยที่ทำงานไม่สำเร็จ เมื่อไม่มีบารมีพ่อคุ้มหัวแล้วก็ได้รับรู้ว่าโลกที่แท้จริงเป็นเช่นไร บอกลาสิทธิพิเศษต่าง ๆ ที่เคยมีไปได้เลยในวันที่ครอบครัวหมดอำนาจวาสนา และถึงแม้จะยังพอมีลูกน้องอยู่รายรอบเหมือนเดิม แต่ก็ไม่มี “เพื่อน” สักคนที่จะวางใจปรึกษาหารือปรับทุกข์กันได้ ถึงขนาดต้องไปร้องไห้กับวิญญาณในห้องน้ำนี่คงอัดอั้นมากเลยทีเดียว แต่กระนั้นก็ยังเลือกเส้นทางเดิมที่ไปสมทบคลุกคลีกับพวกนอกกฎหมายอย่างผู้เสพความตายและมนุษย์หมาป่าตัวร้าย แทนที่จะกลับตัวกลับใจมาอยู่ข้างที่ถูกต้อง กลับเลือกที่จะลงมือทำผิดอย่างต่อเนื่องโดยไม่สนใจว่าจะมีคนที่ต้องมาบาดเจ็บเสียหายระหว่างทางอีกกี่คน อย่างไรก็ตามบทสนทนาสุดท้ายกับดัมเบิลดอร์อาจทำให้มัลฟอยเกิดรู้ผิดชอบชั่วดีขึ้นบ้างก็เป็นได้ ถึงจะเล็กน้อยแต่ก็นับว่าเป็นสัญญาณที่ดีที่ได้เห็นว่ามัลฟอยยังมีโอกาสสำนึกผิดได้อยู่ คนบางคนอาจะเคยทำเรื่องเลวร้ายโดยเจตนา แต่หากสำนึกผิดได้จริง ๆ และพร้อมปรับปรุงตัว ก็ควรมีโอกาสได้แก้ตัว

การที่แฮร์รี่ได้ช่วยชีวิตมัลฟอยและพวกถึงสองครั้งระหว่างศึกสุดท้ายที่ฮอกวอตส์ถือเป็นโอกาสอันดีที่ทั้งคู่จะเริ่มต้นปล่อยวางและเลิกแล้วต่อกันเสียที ซึ่งการที่มัลฟอยยังมีชีวิตอยู่ก็เป็นเหตุผลเดียวที่พ่อแม่ของเขาได้ช่วยแฮร์รี่ในทางอ้อมด้วยเหมือนกัน แฮร์รี่จึงมีโอกาสตบตาจอมมารจนสำเร็จและได้กลับเข้าสู่สมรภูมิฮอตวอตส์เพื่อต่อสู้จนสามารถเอาชนะได้ตามเป้าหมาย

ในชีวิตจริงไม่รู้ว่าการยอมเสี่ยงช่วยคนที่มีเรื่องขัดแย้งกันมาโดยตลอดจะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีเหมือนในหนังสือหรือไม่ แต่อย่างน้อยหากทำให้มีศัตรูน้อยลงหนึ่งคน ไม่ต้องถึงกับว่ากลายมาเป็นมิตรกันได้ แค่นั้นก็คงคุ้มแล้วที่จะทำ เพราะชีวิตหนึ่งเกิดมาแล้วไม่ควรต้องแบกความเกลียดชังไว้กับตัวจนตาย หากปล่อยวางได้ก็จะเป็นคุณกับตัวเอง

 

Don`t copy text!