Authur The King

นั่งหน้าจอ คอลัมน์ที่ ปิยะพร  ศักดิ์เกษม เล่าถึงเรื่องราวที่ตรึงให้นั่งติดอยู่หน้าจอ ทั้งภาพยนตร์และภาพยนตร์ชุดทางโทรทัศน์ เล่าแบบไม่มียั้ง!! เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่กลัวการรู้เนื้อเรื่องล่วงหน้า นอกจากจะเขียนเล่าเรื่องแล้ว ยังเขียนเล่าความคิดความเห็นและความรู้สึกเมื่อได้ดู ดังนั้นผู้เขียนจะพาออกทะเลไปบ้างอย่างแน่นอน

ภาพยนตร์ปี ๒๐๒๔

ผู้กำกับ Simon Cellan Jones

ผู้แสดงนำ Mark Wahlberg, Simu Liu, Nathalie Emmanuel, Ali Suliman

ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างมาจากเรื่องจริงของนาย Mikael Lindnard นักแข่งขันกีฬาวิบาก เขาเขียนเป็นหนังสือออกมาจากประสบการณ์ตรงของเขาก่อนค่ะ หนังสือเล่มนั้นชื่อ Arthur The dog who cross the jungle to find a home ความที่มีเนื้อหาน่าสนใจไม่ว่าผู้อ่านจะเป็นคนรักสุนัขหรือไม่ก็ตาม ทำให้หนังสือเล่มนี้กลายเป็นภาพยนตร์ที่สนุก ลุ้น ตื่นเต้น น่ารัก ประทับใจ และมีแง่คิดน่าจดจำได้ในที่สุด

หนังเล่าเรื่องผ่านไมเคิล ซึ่งเป็นนักแข่งขันกีฬาวิบากที่ถือกันว่าโหดหินที่สุดในโลก กีฬานี้เรียกกันว่า Adventure Racing เขาไม่เคยชนะเลยตลอดเวลาการเข้าแข่ง 19 ปี โดยเฉพาะในการแข่งขันครั้งสุดท้ายเมื่อสามปีก่อนที่เขาในฐานะหัวหน้าทีมตัดสินใจผิด ซ้ำยังไม่ฟังเสียงทักท้วงของเพื่อน พาทั้งทีมพายเรือแคนูไปติดโคลน ทำให้ตัดสินใจเลิกแข่ง แต่งงาน แล้วกลับไปตั้งหลักทำงานที่เมืองเล็ก ๆ สงบและแสนสวยในโคโลราโด

แต่การไม่เคยชนะนั้นก็กลายเป็นหนามตำใจเขามาตลอด ยิ่งรูปภาพเขาติดแหง็กอยู่ในโคลนกลายเป็นภาพที่มีคนคลิกดูเป็นแสน ๆ ครั้งยิ่งเสียดแทงใจ รายการ “Adventure Racing World Series” ที่จะจัดขึ้นที่ สาธารณรัฐโดมินิกันปีนี้ น่าจะเป็นโอกาสสุดท้ายของเขาที่จะได้เข้าแข่งแล้ว การแข่งขันกำหนดระยะทาง 435 ไมล์ ใช้เวลา 10 วัน ต้องขี่จักรยาน วิ่งในป่า ปีนเขา และสุดท้ายพายเรือแคนู

ถ้าพลาดจากครั้งนี้ไป ด้วยอายุ การงานและภาระของชีวิต เขาคงไม่สามารถร่วมการแข่งขันได้อีก ไมเคิลจึงตัดสินใจเข้าร่วมการแข่งขันในที่สุด เขาดิ้นรนรวมทีมให้ครบสี่คนและเมื่อหาสปอนเซอร์ไม่ได้ก็ใช้เงินเก็บของครอบครัวเป็นทุน…จึงกลายเป็นความกดดันว่าต้องชนะให้ได้! ทั้งเพื่อถอนหนามในใจและเพื่อเงินรางวัล

หนังเปิดตัวไมเคิล และเปิดตัวสุนัขเร่ร่อน นาม “อาเธอร์” ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีชื่อไปพร้อมกัน โดยใช้วิธีฉายภาพชีวิตคนและหมาสลับกันไป อาเธอร์อยู่ที่เมืองเล็ก ๆ ในโดมินิกัน ถูกคนไล่ ถูกหมาใหญ่กว่ารังแก แต่ในที่สุด มันก็ได้พบกับไมเคิลที่แบ่งมีทบอลให้มันกินที่จุดพักจักรยาน แล้วมันก็ติดตามคณะ…มันช่วยให้หนึ่งในคณะรอดพ้นจากการตกผา และยังพาทั้งคณะไปทางลัดจนเข้าใกล้ชัยชนะ

แล้วก็ถึงจุดที่ต้องแยกจากกันริมแม่น้ำ…เจ้าหมาก็ไม่ยอมทิ้งคนที่มันยอมรับไปแล้ว ในเมื่อไม่ได้รับอนุญาตให้ลงเรือ มันก็โจนลงแม่น้ำ ว่ายน้ำตามเรือจนหมดแรงแล้วจมลง…ขณะนั้นผลการแข่งขันกำลังสูสี ทีมของไมเคิลพายนำคู่แข่งอยู่นิดหน่อย หากพายวกกลับไปช่วยหมาก็จะกลายเป็นฝ่ายตามหลังอย่างแน่นอน

เขาต้องตัดสินใจว่าระหว่างชัยชนะกับหมาเร่ร่อนตัวหนึ่งเขาจะเลือกทางไหน แล้วก็ยังมีเรื่องอาการป่วยกับการบาดเจ็บของอาเธอร์ที่สัตวแพทย์แนะนำว่า “ควรให้มันได้จากไปอย่างมีศักดิ์ศรี”

คนดูผู้ไม่ได้ศึกษามาก่อนล่วงหน้าว่าหนังจบดีหรือจบไม่ดี ดูถึงฉากหมาจมน้ำ กับฉากหมาป่วยหนักถึงกับเลิ่กลั่ก ต้องตัดสินใจอยู่หน้าจอเหมือนกันว่าจะดูต่อหรือจะเทดี…รับไม่ได้เด็ดขาดกับหนังที่หมา แมว ม้า ฯลฯ ต้องตายหรือบาดเจ็บ แต่ถ้าเป็นผู้ร้ายหรือแม้กระทั่งพระเอกนางเอก จะตายก็ได้ไม่เป็นไร

หนังจบดีค่ะ ดูแล้วปลาบปลื้มอิ่มใจเชียว ความผูกพันระหว่างไมเคิลกับอาร์เธอร์กลายเป็นไวรัล คนส่งเงินมามากมายและกลายเป็นต้นทุนของมูลนิธิช่วยหมาเร่ร่อนทั่วโลก

ผู้แสดงเป็นไมเคิล พระเอกและหัวหน้าทีม คือ พี่ Mark Wahlberg เราคุ้นหน้าคุ้นตาเขาดี เพราะเล่นหนังดังมาหลายเรื่องแล้วค่ะ

Nathalia Emmanuel แสดงเป็นหนึ่งในลูกทีมของไมเคิล เห็นเธอครั้งแรกจากการเป็นคู่คิดของแม่มังกรใน Game of Thrones ในเรื่องนี้เธอมาเป็นนักปีนเขาเปี่ยมพรสวรรค์ผู้มีบิดาเป็นอดีตนักปีนผู้ซึ่งรู้ดีว่าความสุขที่แท้จริงของนักปีนเขาอยู่ที่ไหน เขาจึงสนับสนุนกึ่งผลักดันเต็มที่ให้เธอมาเป็นหนึ่งในทีมของไมเคิล

Simu Liu พระเอกเรื่อง Shang-Chi ในจักรวาลมาร์เวล มาแสดงเป็นเพื่อนสนิทของไมเคิลที่พยายามทักท้วงไม่ให้เขาพายเรือไปติดโคลน แต่เมื่อไมเคิลไม่เชื่อเขาก็โพสต์รูปน่าอายของเพื่อนลงในอินเตอร์เน็ตด้วยความโมโห แต่สุดท้ายก็เป็นเขาเองและเครือข่ายแฟน ๆ ของคนดังอย่างเขานั่นแหละที่ทำให้ภาพการเดินทางของไมเคิลกับอาเธอร์กลายเป็นไวรัลไปตลอดการเดินทาง

Ali Suliman แสดงเป็นเพื่อนสนิทอีกคนในทีมของไมเคิล แม้ว่าจะร่างใหญ่ดูแข็งแกร่งที่สุดแต่กลับกลายเป็นว่าเขาเป็นจุดอ่อนที่สุดของทีมเพราะการบาดเจ็บเรื้อรังที่หัวเข่า

และสำคัญที่สุดคือ เจ้า Ukai สุนัขพันธุ์ผสม Australian Shepherd, Border Collie และ Bouvier des Flandres มันน่ารักและแสดงเก่งมากอย่างไม่น่าเชื่อ ใครที่ไม่เชื่อว่าหมาก็สามารถแสดงสีหน้าและแววตาถ่ายทอดอารมณ์ได้ ต้องไปดูเรื่องนี้ค่ะ