
เดือนหนึ่งของเราไม่เท่ากัน กับประเพณีสิบสองเดือนในเดือนเกี๋ยง
โดย : ต้องแต้ม
ซะป๊ะเรื่องเล่าหมู่เฮาคนเมือง คอลัมน์โดย ต้องแต้ม ชาวเชียงใหม่ ผู้หลงใหลในเรื่องราวของล้านนา เกิดในครอบครัวที่สืบสานงานวัฒนธรรมพื้นเมืองที่มีมาแต่โบราณ แต่ไปเติบโตในเมืองกรุง พอกลับมาอยู่บ้านถึงได้รู้ว่า “มีเรื่องเล่าดีๆ ของบ้านเราที่อยากเล่าให้ฟัง”
หากพูดถึงเดือนแรกหรือเดือนหนึ่งของปี ปัจจุบันนี้เราจะนับเดือนมกราคมเป็นเดือนแรก เดือนที่หนึ่งตามสากลนิยม แต่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าชาวล้านนาสมัยก่อน เริ่มนับเดือนไหนเป็นเดือนแรก หรือแม้แต่ชาวสยาม แรกๆ ก็ไม่ได้นับเดือนมกราเป็นเดือนหนึ่ง
ไม่ว่าชาวสยามหรือชาวล้านนาในสมัยก่อนล้วนเป็นเมืองเกษตรกรรม จะเน้นเรื่องดวงจันทร์ ดวงดาว ฝนฟ้าที่ตกลงมา ดังนั้นการนับเดือนจึงให้สอดคล้องกับการทำเกษตรกรรม ว่ากันว่าบทบาทของลมฝนที่พัดพามาทางภาคเหนือก่อน ชาวล้านนาจึงนับเดือนแรก หรือที่ชาวล้านนาเรียกกันว่าเดือนเกี๋ยง (เดือนเจียง คำเรียกของเดือนแรกของปีในแต่ละท้องที่ตั้งแต่สมัยโบราณ) ก่อนทางสยามหรือภาคกลางในปัจจุบันประมาณสองเดือน แม้ว่าการนับเดือนแรกของปีในปัจจุบันจะปรับให้ตรงกันตามปฏิทินสากล คือ เดือนมกราคมแล้วนั้น แต่จะพบเห็นคำเหล่านี้ในชีวิตประจำวันตามภูมิภาค หรือตามอาชีพต่างๆ ที่ต้องเกี่ยวข้องกับวัน เดือน ปี เห็นชัดๆ ก็คือการคำนวณเพื่อการทำปฏิทิน ไม่ว่าจะของภาคกลางหรือภาคเหนือ หรือการคำนวนเดือนในด้านโหราพยากรณ์ การกำหนดวันสำคัญทางศาสนาที่ยึดถือจันทรคติเป็นหลัก
เดือนอ้าย เป็นคำเรียกเดือนแรกของปีที่คนไทยสมัยก่อน จะเริ่มต้นนับที่เดือนธันวาคม ส่วนเดือนเกี๋ยง เป็นคำเรียกเดือนแรกของปีที่คนล้านนายึดถือมาเนิ่นนาน จะเริ่มต้นนับที่เดือนตุลาคม เร็วกว่าทางสยามสองเดือน เพราะทิศทางลมฝนจะพัดผ่านภาคเหนือเร็วกว่าภาคกลาง จึงทำการเพาะปลูกการเกษตรได้เร็วกว่า คนยุคก่อนๆ มักอิงกับลมฟ้าอากาศ ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาว ทำให้จึงเกิดประเพณีในแต่ละเดือนขึ้นมา
เดือนเกี๋ยงเหนือ (เดือน 1) หรือเดือนสิบเอ็ด ของภาคกลาง ตรงกับเดือนตุลาคม
เดือนยี่เหนือ (เดือน 2) หรือเดือนสิบสองของภาคกลาง ตรงกับเดือนพฤศจิกายน
เดือนสามเหนือ (เดือน 3) หรือเดือนอ้ายของภาคกลาง ตรงกับเดือนธันวาคม
เดือนสี่เหนือ (เดือน 4) หรือกับเดือนยี่ของภาคกลาง ตรงกับเดือนมกราคม
เดือนห้าเหนือ (เดือน 5) หรือกับเดือนสามของภาคกลาง ตรงกับเดือนกุมภาพันธ์
เดือนหกเหนือ (เดือน 6) หรือเดือนสี่ของภาคกลาง ตรงกับเดือนมีนาคม
เดือนเจ็ดเหนือ (เดือน 7) หรือเดือนห้าของภาคกลาง ตรงกับเดือนเมษายน
เดือนแปดเหนือ (เดือน 8) หรือเดือนหกของภาคกลาง ตรงกับเดือนพฤษภาคม
เดือนเก้าเหนือ (เดือน 9) หรือเดือนเจ็ดของภาคกลาง ตรงกับเดือนมิถุนายน
เดือนสิบเหนือ (เดือน 10) หรือเดือนแปดของภาคกลาง ตรงกับเดือนกรกฎาคม
เดือนสิบเอ็ดเหนือ (เดือน 11) หรือเดือนเก้าของภาคกลาง ตรงกับเดือนสิงหาคม
เดือนสิบสองเหนือ (เดือน 12) หรือเดือนสิบของภาคกลาง ตรงกับเดือนกันยายน
ซึ่งเป็นการนับเดือนตามการใช้ชีวิต หรือปรากฏการณ์ทางจันทรคติคนล้านนาสมัยก่อนจะยึดเป็นหลัก อันส่งผลโดยตรงต่อข้างขึ้นข้างแรม ลมฟ้าลมฝน อันเป็นปัจจัยหลักต่อการใช้ชีวิตประจำวัน
คนเราไม่เรียนก็ไม่รู้ ไม่รู้ก็ไม่ผิด แต่ถ้าเรียนรู้ก็เลยอยากเล่า ในสิ่งที่ฉันเคยไม่รู้มาก่อน ค่อยๆ เรียนรู้ ค่อยๆ เล่า ให้คนได้เข้าใจมากขึ้น ยิ่งเรียนรู้ ฉันว่ายิ่งสนุก ฉันก็คนหนึ่งล่ะที่ชอบเรียนรู้ การใช้ชีวิตในคนรุ่นเก่าเขาอยู่ได้อย่างไร เขาใช้ชีวิตกันยังไง แม้จะมีความเชื่อที่คนยุคปัจจุบันอาจจะไม่เชื่อ แต่มันก็เป็นวิถีชีวิตของคนโบราณในการใช้ชีวิตตามสภาพแวดล้อมที่เป็นอยู่ ซึ่งนับวันยิ่งเปลี่ยนแปลงไปเยอะมาก
ในแต่ละเดือนก็จะมีประเพณีเกิดขึ้นมา จึงเกิดประเพณีสิบสองเดือนของชาวล้านนาขึ้นมา ประเพณีหลายอย่างยังคงสืบต่อมาจนถึงปัจจุบัน และอีกหลายประเพณีที่ได้ยกเลิกเพราะความเปลี่ยนแปลงของวัฒนธรรม

ก่อนอื่นฉันขอเล่าถึงเรื่องราวของประเพณีต่างๆ เริ่มตั้งแต่ประเพณีเดือนเกี๋ยงเหนือ (เดือน 11 ใต้) หรือเดือนตุลาคมนั่นเอง
จะมีประเพณีสลากภัต ถวายภัตตาหารแด่พระภิกษุโดยให้จับสลากมีมาแต่ครั้งพุทธกาล ภาคอีสานจะเรียกว่า บุญข้าวสลาก หรือ บุญข้าวสาก ภาคเหนือบางพื้นที่เรียกกิ๋นก๋วยสลากบ้าง ตานก๋วยสลากบ้าง แต่ความหมายเหมือนกัน มักเริ่มประมาณเดือน 12 เหนือ ถึงเดือนเกี๋ยงเหนือ (เดือนกันยายน – ตุลาคม) วิธีทำบุญจะแตกต่างกันบ้างตามความนิยมในท้องถิ่น บ้านฉันเชียงใหม่น่าจะเรียกตานก๋วยสลาก เพราะคุ้นชินกับชื่อนี้มากที่สุด ตอนละอ่อนต่อนแต่นหมายถึงตอนยังเป็นเด็กน้อยเคยไปงานตานก๋วยสลากกับแม่ มีทั้งก๋วยเล็กและก๋วยใหญ่ (ก๋วย คือตะกร้าสานคล้ายๆ กระชุ ชะลอม) ขึ้นอยู่กับจำนวนของที่ใส่ในก๋วยนั้น เพื่อถวายให้พระสงฆ์อุทิศให้กับญาติที่ล่วงลับไปแล้ว ชาวบ้านมักพาลูกหลานไปทานก๋วยสลาก เพราะเชื่อว่ามีอานิสงส์มาก เจ้าของก๋วยสลากจะต้องทำเส้นสลากเป็นแผ่นยาวๆ เขียนไว้ว่าอุทิศให้ใคร พอชาวบ้านเอาก๋วยสลากไปวัดก็จะน้ำไปรวมกันยังลานหรือที่จัดไว้ เส้นสลากจะแบ่งปันให้กับพระสงฆ์สามเณรที่นิมนต์มาร่วมงาน นอกจากนั้น ยังมี ‘สลากโชค’ จะทำพิเศษกว่าธรรมดา มียอดเงินผูกติดไว้จะตกแต่งสวยงาม
ปัจจุบันตานก๋วยสลากเริ่มจัดกันน้อยลง มีเพียงบางวัดที่ยังคงมีหรือบางท้องที่ที่ยังรักษาอนุรักษ์ประเพณีนี้สืบไว้
ส่วนประเพณีอื่นๆ เช่นประเพณีตักบาตรเทโวโรหนะ ประเพณีออกพระวัสสา หรือประเพณีออกพรรษา ประเพณีทอดพระกฐิน ก็จะมีพิธีคล้ายๆ ภาคกลาง ในเดือนเกี๋ยงหรือเดือนตุลาคมนี้เช่นกัน
ประเพณีในเดือนอื่นๆ จะมาเล่าในครั้งต่อๆ ไปค่ะ ยังมีประเพณีหลายอย่างที่แตกต่างและมีเรื่องราวน่าสนใจ ล้านนาอยู่ในความปกครองของสยามมานาน และรวมเข้าเป็นภูมิภาคหนึ่งของประเทศไทยก็นาน แม้จะมีประเพณีมากมายที่รูปแบบงานเหมือนๆ กัน แต่ก็ยังคงมีประเพณีดั้งเดิมแต่โบราณที่ยังคงรักษาและปฏิบัติกันสืบมา
ขอขอบพระคุณข้อมูลดีๆ จากหนังสือ
- ประเพณีสิบสองเดือนล้านนาไทย ฉบับรวมเล่ม ของป้อครูมณี พยอมยงค์
- ประเพณีและพิธีกรรมในวรรณคดีไทย ของ ร.ศ.สมปราชญ์ อัมมะพันธ์
- หนังสือประเพณีไทย ภาคเหนือ ของ สงวน โชติสุขรัตน์
ได้รับความอนุเคราะห์ภาพถ่ายงานสลากภัตจากพระมหาสง่า ไชยวงศ์ (วัดผาลาด เชียงใหม่)
- READ ล้านนากับประเพณีสิบสองเดือนตามความเชื่อ
- READ เดือนหนึ่งของเราไม่เท่ากัน กับประเพณีสิบสองเดือนในเดือนเกี๋ยง
- READ เมื่อน้ำท่วมบ้านครั้งแรกในรอบร้อยปี
- READ วัดแวดบ้าน
- READ หาบเปี้ยดใส่ผักไปก๊าตี้กาดหลวง กาดเก๊าลำไย
- READ มาแอ่วเจียงใหม่กับเรื่องง่ายๆ ตี้ควรฮู้
- READ กี่ทศวรรษที่เดียวดายของประตูช้างม่อย
- READ มาละเหวย มาละวา คณะกลองยาวของเราก็มา
- READ ค่าวอะหยัง เจี้ยจะได ซอม่วนๆ เจ้า
- READ เสน่ห์ตั๋วเมือง
- READ ตุงเหมือนกันแต่ไม่เหมือนกัน
- READ เดือน 9 เหนือ กับพิธีกรรมไหว้ผีครู