พยับฟ้าโพยมดิน : บทนำ

พยับฟ้าโพยมดิน : บทนำ

โดย : พงศกร

Loading

พยับฟ้าโพยมดิน นวนิยายจากอ่านเอา โดย พงศกร เมื่อน้องชายฝาแฝดหายตัวไปอย่างลึกลับในหมู่บ้านกลางหุบเขาของภูฏาน เขาจำเป็นต้องทิ้งทุกอย่างเพื่อตามหาก่อนที่จะสายเกินไป เขาต้องยอมรับความช่วยเหลือจากนารีญาหญิงสาวที่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับเขาตั้งแต่แรกเจอพ่วงไปด้วย เธอคนนี้อาจเป็นคนเดียวที่ไขปริศนาต่างๆ และพาเขาไปพบกับน้องชายได้

 

สายลมเบื้องบนหมุนแรงจนร่างผอมบางกลิ้งหลุนๆ ไปบนผืนหญ้า ท้องฟ้ามืดคลุ้ม ก้อนเมฆดำทะมึนปลิวกระจัดกระจาย ไกลออกไปแลเห็นสายฟ้าฟาดลงมาเป็นระยะ

ไม่ใช่พายุธรรมดาที่เกิดจากธรรมชาติ หากเป็นแรงลมที่เกิดจากกระพือพัดของเงาทะมึนที่บินโฉบไปโฉบมาเหนือศีรษะ

ต้นไม้น้อยใหญ่หุบเขาโอนเอนไปมา ราวจะถอนรากโคน

หุบเขาที่เคยสงบสุข กลับกลายเป็นสมรภูมิสู้รบระหว่างมนุษย์และธรรมชาติ…

“หนีไป…หนีไป”

เด็กชายพยายามยึดกิ่งไม้ที่อยู่ใกล้ตัวจนแน่น หากไม่อาจทานพละกำลังของกระแสลมได้ มือสองข้างถูกหนามเกี่ยวจนเกิดบาดแผลเลือดไหลซิบ แต่กระนั้นเขาก็ยังไม่ยอมแพ้ แผดเสียงตะโกนแข่งกันเสียงพายุ

“หนีไป…พาลูกของเจ้าหนีไป”

ตุ้บ…โครม

หูของเด็กชายอื้อไปในทันทีที่มือหนาๆ ของชายร่างสูงล่ำสันตบลงมาที่ใบหน้าของเขาสุดแรง

“ไอ้เด็กบ้า ไล่มันไปทำไม เรียกมันกลับมาเดี๋ยวนี้”

“ไม่…หนีไป หนีไป” เขายังตะโกนจนสุดเสียง เมื่อเห็นเงาขนาดใหญ่ยังบินวนเวียนไม่ห่าง

“กรรรรรร…”

เสียงของมันโหยหวน ปีกข้างหนึ่งโอบลูกน้อยเอาไว้ราวจะปกป้อง

“หนี…ไป” เด็กชายตะโกนสุดเสียง

ชายต่างชาติอีกคนจ้องหน้าชายคนแรก ทั้งสองพยักหน้าให้กัน ก่อนที่ชายคนแรกจะกระชากร่างผอมบางของเด็กชายให้ลุกขึ้น ใช้ปืนในมือยิงขึ้นฟ้า ก่อนจะจ่อมันมาที่ศีรษะของเด็กชาย

สิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ที่กำลังบินวนเวียนอยู่เหนือศีรษะของเขา เหมือนจะชะงักไปในทันทีนั้น นัยน์ตาใสกระจ่างของมันเปล่งประกายวับ เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเด็กชายทั้งหมด

ชายต่างชาติทั้งสองส่งเสียงหัวเราะกร้าว แผนการของพวกเขาได้ผล…มันเป็นห่วงเด็กคนนี้…

ชายอีกคนหนึ่งยกอาวุธสงครามขนาดใหญ่ขึ้นประทับหัวไหล่ เล็งเป้าไปที่ร่างบนฟ้าครึ้มทะมึน

“หนีไป ไม่ต้องห่วงฉัน” เด็กชายตะโกนสุดเสียง ด้วยรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในนาทีถัดไป เขากัดมือของฝรั่งคนนั้นจุดสุดแรง รู้สึกได้ถึงเลือดที่พุ่งทะลัก

“โอ๊ย” ชายต่างชาติท่าทางเหี้ยมโหดส่งเสียงร้อง ก่อนจะใช้ด้ามปืนตบเข้าที่ใบหน้าของเด็กชายอีกครั้ง “มึงนี่มันร้ายนักนะ…กว่ากูจะล่อมันมาได้ ผิดแผนก็เพราะมึงนี่ละ”

“เอาไง” อีกคนว่า สายตายังเล็งไปที่ร่างบนผืนฟ้า

“จับเป็นไม่ได้ก็จับตาย” น้ำเสียงของชายที่ขยุ้มคอเด็กชายตวาด

“แต่…” อีกคนลังเล “ราคาจับตายมันต่างจากจับเป็นหลายเท่านะอังเดร”

“มึงคิดว่าจับเป็นแล้วจะเอาออกนอกประเทศไปได้หรือไง” น้ำเสียงเริ่มหมดความอดทน “ฤทธิ์เดชมันมากขนาดนี้ พวกเราตายไปกี่คนแล้ว”

“อืม” เริ่มเห็นด้วย

“ก่อนอื่น…ยิงไอ้เด็กคนนี้ทิ้งก่อน มันเห็นเราแล้ว ยังไงก็ปล่อยไปไม่ได้” ฝรั่งที่ชื่ออังเดรแค่นเสียงพร้อมกับเหนี่ยวไกปืนในมือ

แกร๊ก!

ทว่าก่อนที่มันจะได้ลั่นไกฝังกระสุนใส่เด็กชายดังที่ตั้งใจไว้ วัตถุขนาดใหญ่จากท้องฟ้าก็พุ่งดิ่งลงมาที่กลุ่มชายฉกรรจ์พวกนั้น ลมหายใจของมันปะทะกับอากาศเย็นรอบด้านเกิดเป็นควันสีขาวขุ่น

“กรรรรร…”

เสียงคำรามในลำคอ ดวงตาแดงจัด ร่างนั้นพุ่งชนชายที่มีปืนในมือจะกระเด็นไป

เปรี้ยง…

เสียงปืนลั่นดังสะท้อนก้องกลับไปกลับมา หากไม่ใช่เพราะร่างนั้นพุ่งชนฝรั่งที่จับเขาอยู่ กระสุนปืนคงจะพุ่งทะลุศีรษะไปแล้ว

เปรี้ยง ตูมมมมม…

พร้อมกับที่อังเดรกระเด็นไปฟาดกับแท่งหินใกล้ๆ เพื่อนของเขาก็กดปุ่มยิงอาวุธสงครามที่แบกไว้บนไหล่ เป้าหมายคือสิ่งมีชีวิตที่พุ่งลงมาช่วยเด็กชาย

“แสกกกกกกกก กรรรรรรรร…”

“เดมา…”

เด็กชายกรีดร้อง เมื่อเห็นร่างนั้นเสียหลักพุ่งลงไปในดงไม้ใกล้ๆ ฝรั่งคนเดิมแบกอาวุธบนหลัง เดินไปยังพุ่มไม้ที่กำลังสั่นไหว ลูกน้อยของสิ่งมีชีวิตนั้นบินวนเวียนอยู่ไม่ห่าง และส่งเสียงร้องโหยหวน

“จับตายตัวแม่…จับเป็นตัวลูก” อังเดรร้องสั่ง เขาเจ็บหลังจนลุกไม่ขึ้น ไม่คิดว่ามันจะร้ายกาจกว่าที่คิด

“ไป…” เด็กชายตะโกนสุดเสียง “ไป…เดมา…ไป”

ชายคนที่มีอาวุธแบกอยู่บนหลังหันมาทางเขาเหมือนนึกได้ มันเปลี่ยนทิศทางย่างสามขุมมาหาเด็กชาย สัตว์ตัวนั้น ห่วงเด็กคนนี้…

มันเล็งอาวุธหนักบนหลังใส่เด็กชาย เตรียมพร้อมสังหาร

เสียงร้องดังแจ๊ก…เมื่อสิ่งมีชีวิตที่บาดเจ็บรวบรวมกำลังครั้งสุดท้าย จู่โจมใส่ฝรั่งร่างสูงคนนั้น ปีกที่โดนยิงจนห้อยร่องแร่งกวาดชายฉกรรจ์จนเสียหลัก ก่อนจะโอบร่างนั้นพุ่งดิ่งลงไปในหุบเหวลึกตรงหน้า

เปรี้ยง…

ตูม…

เสียงอาวุธสงครามที่ชายผู้นั้นแบกเอาไว้ ดังสะท้อนก้องไปทั่วทั้งผืนป่า เด็กชายตะเกียกตะกายไปจนถึงขอบเหว

“เดมา…เดมา…”

เขากรีดเสียงร้องด้วยใจแหลกสลาย

พยายามเพ่งมองหากมองไม่เห็นสิ่งใด

นอกจากความมืดมิดของจิตใจมนุษย์ ที่มืดสนิทยิ่งกว่ารัตติกาลใดๆ

 



Don`t copy text!