ปราการแสงจันทร์ บทที่ 1 : อุบัติเหตุ

ปราการแสงจันทร์ บทที่ 1 : อุบัติเหตุ

โดย : ภัสรสา

Loading

ปราการแสงจันทร์ โดย ภัสรสา เมื่อนิชฌานที่เปรียบเหมือนต้นไม้ใต้เงาจันทร์ที่ไม่เคยรู้ว่าโลกในยามกลางวันเป็นอย่างไรต้องมาใช้ชีวิตร่วมกับจิลลาที่ดุจว่าวตัวน้อยที่เรียนรู้การลอยตัวท่ามกลางแรงลมทุกรูปแบบ ทั้งคู่จะอยู่ด้วยกันไปได้ตลอดชีวิตจริงหรือ โดยเฉพาะเมื่อนิชฌานเป็นคนฆ่าจิลลาด้วยมือตัวเอง นิยายออนไลน์ที่อ่านได้ในอ่านเอา

****************************

สนับสนุนอ่านเอาด้วยการสั่งซื้อหนังสือ “ในสวนอักษร” คลิกที่นี่

จิลลาดีใจที่วันนี้อากาศดีมาก ท้องฟ้าปลอดโปร่ง แสงแดดสดใส นอกจากรู้สึกปลอดภัยมากขึ้นที่ต้องอยู่บนเฮลิคอปเตอร์แล้วยังถ่ายภาพสวยอีกด้วย

“คุณแจ้วจะเบื่อหรือยัง ถ้าแคลร์จะบอกว่าโครงการนี้ก็มาจากชาร์ลอีกแหละค่ะ”

โครงการนี้ที่แขดรุณว่าคือโครงการเอกริฟ (AGRIV) แขดรุณบอกว่าย่อมาจาก Agriculture Village เป็นโครงการที่เน้นการอยู่อาศัยเพื่อทำเกษตร รายละเอียดลึกๆ เธอยังไม่รู้เพราะแขดรุณจะค่อยๆ เล่าระหว่างบินวนดูโครงการขนาดหกสิบไร่นี้ แต่นึกออกเลยว่าถ้านิชฌานอยู่ด้วยเขาจะพูดอย่างไร ตั้งแต่เมื่อวาน ทุกครั้งที่แขดรุณยกความดีความชอบให้ เขาจะบอกเสมอว่าถ้าไม่ใช่แขดรุณ ก็คงทำให้โครงการเหล่านั้นประสบความสำเร็จไม่ได้เหมือนกัน

ค่ะ อวยกันเองนั่นแหละ จิลลาคิดแบบนั้นขำๆ อยู่ในใจ รู้เลยว่าทำไมหลายๆ สำนักข่าวถึงชอบแซวแขดรุณว่าสามีทั้งรักทั้งหลง เขาแสดงออกชัดเจนขนาดนั้น นี่ถ้าเขาไม่กลัวความสูงก็คงนั่งอยู่ข้างๆ แขดรุณในตอนนี้ แต่พอมีข้อจำกัด นิชฌานจึงเลือกขับรถตามมาเพราะแขดรุณไม่ได้จะบินกลับกรุงเทพฯ เลย แต่ตั้งใจพาจิลลากินข้าวเที่ยงด้วยกัน

“ชาร์ลเป็นคนชอบปลูกต้นไม้มากค่ะ เขาวางแผนว่าพอเกษียณจะย้ายไปอยู่ต่างจังหวัด ทำไร่ทำนาทำสวนอะไรของเขานั่นแหละ แคลร์เลยฉุกคิดว่าต้องมีคนคิดแบบชาร์ลเยอะแน่ เลยลองร่างโครงการนี้คร่าวๆ ดู แล้วเรามีที่ดินตรงนี้ที่ยังไม่ได้พัฒนา ไม่ห่างกรุงเทพฯ มาก ต้นไม้ก็เยอะเรียกว่าเป็นป่าย่อมๆ เลย แคลร์ว่าเหมาะกับโครงการนี้ที่สุด”

จิลลาพยักหน้า เอ่ยถาม “ตอนเสนอบอร์ดคงผ่านฉลุยใช่ไหมคะ”

แขดรุณหัวเราะร่วน ก่อนบอก “ผ่าน แต่ไม่ฉลุยหรอกค่ะ แคลร์ต้องตอบคำถามเยอะมาก แต่โชคดีที่แคลร์มีเครดิตจากโครงการที่ผ่านๆ มา แล้วปู่ก็ค่อนข้างหนุนหลังแคลร์เรื่องนี้… กระซิบนะคะ ปู่หนุนแคลร์เต็มที่เพราะปู่รักชาร์ลค่ะ ปู่รู้ว่าแคลร์ทำโครงการนี้เพราะชาร์ล”

จิลลาคิดว่า… นี่เป็นจังหวะที่ดี “เท่าที่แจ้วทราบ คุณทิวาเลี้ยงดูคุณฌานมาตลอดเลยใช่ไหมคะ”

“ค่ะ ปู่ดูแลชาร์ลเต็มตัวตั้งแต่ชาร์ลสักเจ็ดขวบได้ แต่ปู่เห็นชาร์ลมาตั้งแต่เกิดค่ะ ช่วยเลี้ยงมาคู่กับแคลร์นี่แหละ ชาร์ลสนิทกับปู่มากกว่าพี่คริสที่เป็นหลานชายแท้ๆ ของปู่อีกค่ะ”

“แจ้วถามเกี่ยวกับความรักระหว่างคุณแคลร์กับคุณฌานได้ไหมคะ แจ้วอยากรู้ประเด็นเดียวค่ะ ไม่แน่ใจว่าจะทำให้คุณแคลร์ไม่พอใจไหม”

“ลองถามได้ค่ะ”

“แจ้วอยากรู้ว่าคุณแคลร์คิดยังไง เวลามีคนบอกว่าคุณฌานอยู่กับคุณแคลร์เพราะเงิน”

แขดรุณนิ่งไปนิดอย่างประหลาดใจที่จิลลาถามเรื่องนี้ ก่อนหัวเราะเสียงใส “ก็ตลกค่ะ คนมองเขาก็มองในมุมมองเขานะคะ เขาอาจจะคิดแต่เรื่องผลประโยชน์จนเคย”

เด็ด! ประโยคนี้จิลลาจะเขียนลงไปแน่ๆ เอาให้พวกชอบตัดสินคนอื่นหน้าม้านกันไป

“แคลร์ไม่โกรธนะคะ ไม่รู้จะคิดยังไงด้วย แต่แคลร์รู้ดีว่าชาร์ลไม่ได้อยู่กับแคลร์เพราะเงินค่ะ จริงๆ ชาร์ลเองก็ไม่ได้ตัวเปล่าแบบที่หลายๆ คนเข้าใจค่ะ พ่อเขาเป็นผู้บริหารของทีจีแอลคนหนึ่งเหมือนกัน เป็นคนที่ปู่ทาบทามให้มาทำงานด้วยกัน พ่อชาร์ลเป็นคนอังกฤษค่ะ ตอนอยู่อังกฤษก็มีรายได้ต่อปีหลายสิบล้าน การที่คนคนหนึ่งจะยอมย้ายที่อยู่มาทำงานต่างบ้านต่างเมือง คุณแจ้วคงไม่คิดว่าจะย้ายมาเพื่อรายได้ที่น้อยลงใช่ไหมล่ะคะ”

นั่นสินะ…

“จริงอยู่ว่าชาร์ลรวยน้อยกว่าแคลร์แน่ๆ แต่แล้วไงล่ะคะ เพราะตั้งแต่คบกันมาชาร์ลไม่เคยยุ่งกับทรัพย์สินของแคลร์เลยค่ะ เขาระวังเรื่องนี้มากจนแคลร์สงสาร พอมีคนว่าเขาหวังสมบัติแคลร์มากๆ เข้า ก็เหมือนมีปมเรื่องนี้ไปเลย”

มีปม… “ยังไงเหรอคะ”

“ก็เวลาแคลร์จะซื้ออะไรให้ก็ไม่อยากได้ ต้องโอกาสพิเศษอย่างวันเกิด คริสมาสต์ ปีใหม่อะไรแบบนี้ค่ะ ถึงจะยอมรับ”

จิลลามีสีหน้าเข้าใจ ไม่รู้จะเห็นใจใครมากกว่ากันระหว่างแขดรุณกับนิชฌานที่บางครั้งบางทีก็ต้องมารู้สึกแย่เพราะคนที่คอยแต่วิจารณ์คนอื่น

“ที่สำคัญ เราโตมาด้วยกัน เห็นกันมาตั้งแต่เด็กๆ ค่ะ แคลร์ไม่ได้เชื่อตัวเอง ไม่คิดว่าตัวเองดูคนเก่งนะคะ แคลร์เชื่อปู่ค่ะ ถ้าชาร์ลเป็นคนแย่ เป็นคนเห็นแก่เงินจริง แคลร์ไม่คิดว่าปู่จะรักชาร์ลหรอกค่ะ แถมรักมากด้วย”

จิลลาพยักหน้า ส่งยิ้มให้กำลังใจแขดรุณ บอกเพื่อขออนุญาต “แจ้วจะเขียนเรื่องนี้ลงในบทความบ้างได้ไหมคะ จะพยายามไม่ให้เกินสองพารากราฟค่ะ”

“ได้สิคะ ตามสบายเลยค่ะ”

“โดยเฉพาะประโยค… เขาอาจจะคิดแต่เรื่องผลประโยชน์จนเคย”

แขดรุณหรี่ตา มองหน้าจิลลาซึ่งหรี่ตาลงเช่นกัน… จ้องตากันอยู่ครู่หนึ่งแขดรุณก็บอก “แคลร์คิดถูกจริงๆ ค่ะที่เลือกคุณแจ้ว”

สองสาวประสานเสียงหัวเราะกันลั่นห้องโดยสารของเฮลิคอปเตอร์เลยทีเดียว

 

เอกริฟจะขายแต่ละยูนิตด้วยพื้นที่หลากหลาย ซึ่งแบ่งตามความเหมาะสมของพื้นที่ ด้วยโครงการเอกริฟจะคงสภาพเดิมของที่ดินเอาไว้ มีการถม ขุด ปรับเปลี่ยนพื้นที่น้อยที่สุดเท่าที่ทีจีแอลเคยทำโครงการมา พื้นที่ขายมากสุดคือสิบห้าไร่ น้อยสุดคือสี่ร้อยตารางวา แต่ละยูนิตจะถูกออกแบบอย่างดีให้เข้ากับรูปแบบพื้นที่ ส่วนใดเป็นที่พักอาศัย ส่วนใดเป็นแปลงเกษตร ในโครงการจะมีการใช้พลังงานทดแทนอย่างเช่นพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม แน่นอน มีการติดตั้งที่ชาร์จไฟสำหรับรถพลังงานไฟฟ้าให้ทุกยูนิตด้วย เอกริฟจะเป็นศูนย์กลางให้ในทุกๆ ด้าน ทั้งอุปกรณ์เครื่องมือและของใช้สิ้นเปลืองทางการเกษตร แรงงาน จนยาวไปถึงการสร้างตลาดให้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากเลยสำหรับทีจีแอล ธุรกิจซึ่งมีเครือข่ายพันธมิตรทั้งร้านอาหารและโรงแรม

แขดรุณกำลังอธิบายให้ฟังเกี่ยวกับระบบน้ำที่ทีจีแอลจะสร้างเพื่อให้รองรับการทำเกษตรได้ทั้งปี มีการปรึกษาพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญ ศึกษาสถิติน้ำฝน การปล่อยน้ำจากเขื่อนย้อนหลังไปสิบปี

“ถ้าโครงการนี้เวิร์ก แคลร์จะทำให้มันเป็นต้นแบบโครงการที่จะช่วยเหลือเกษตรกรในไทยค่ะ แคลร์จะพยายามทำให้เกษตรกรไทยมีทุกอย่างรองรับไม่ว่าจะอยู่เอกริฟหรือเปล่า”

จิลลาเห็นความมุ่งมั่นในแววตา ถามออกไปอย่างที่อยากรู้ “อะไรเป็นแรงบันดาลใจให้คุณแคลร์สนใจด้านเกษตร อยากช่วยเหลือเกษตรกรคะ แจ้วไม่คิดว่าจะเป็นเพราะคุณฌานอย่างเดียว”

แขดรุณพยักหน้า “ค่ะ จริงๆ แล้วแคลร์มีโครงการช่วยเหลือสนับสนุนเกษตรกรอยู่เรื่อยๆ นะคะ แค่ไม่ได้ออกข่าว แคลร์คิดว่าความมั่นคงทางอาหารเป็นเรื่องสำคัญมาก แต่ก็น่าเศร้าที่ต้นสายของเรื่องสำคัญไม่ได้รับการดูแลเท่าที่ควร ถ้าประโยคที่ว่าชาวนาคือกระดูกสันหลังของชาติยังเป็นความจริงอยู่ ตอนนี้เราก็คงเหมือนคนหลังค่อมน่าดูค่ะ”

อะไรสักอย่างในประโยคนั้นทำให้จิลลาสงสัยเรื่องหนึ่ง “คุณแคลร์นึกอยากเล่นการเมืองบ้างไหมคะ”

แขดรุณหัวเราะ “ไม่ค่ะ แคลร์ว่าแคลร์น่าจะพัฒนาหลายๆ อย่างให้ประเทศได้ดีกว่าถ้าไม่ยุ่งกับการเมือง”

จิลลากำลังจะถามต่อไปถึงนิชฌาน ว่าเขาเล่าอยากเล่นการเมืองบ้างไหม ทว่าบางอย่างทำให้เธอชะงัก… และวินาทีต่อมาก็กรีดร้องเสียงลั่นประสานไปกับเสียงของแขดรุณ

เมื่อหัวของเฮลิคอปเตอร์ดิ่งลง ตัวเครื่องหมุนคว้างอย่างไร้การควบคุม จิลลามองไปทางนักบิน อยากถามว่าเกิดอะไรขึ้นทว่าภาพที่เห็นทำให้ประหลาดใจ… ก่อนตาเธอจะหลับลงโดยอัตโนมัติเมื่อส่วนหางของเฮลิคอปเตอร์ฟาดเข้ากับอะไรสักอย่างที่จิลลาไม่รู้ทำให้เกิดแรงกระแทกจนสั่นสะเทือนไปหมด ตัวเธอโยนออกจากที่นั่งอย่างที่นึกเสียใจที่ไม่คาดเข็มขัดนิรภัยเพียงแค่อยากขยับตัวถ่ายรูปได้สะดวก จากนั้นก็เกิดแรงกระแทกต่อเนื่อง เกิดเสียงระเบิด เกิดความร้อนวาบ เกิดความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสจนจิลลาคิดว่าเธอควรตายได้แล้ว

ตายเสียที…

 



Don`t copy text!