ปราการแสงจันทร์ : แขดรุณ

ปราการแสงจันทร์ : แขดรุณ

โดย : ภัสรสา

Loading

ปราการแสงจันทร์ โดย ภัสรสา เมื่อนิชฌานที่เปรียบเหมือนต้นไม้ใต้เงาจันทร์ที่ไม่เคยรู้ว่าโลกในยามกลางวันเป็นอย่างไรต้องมาใช้ชีวิตร่วมกับจิลลาที่ดุจว่าวตัวน้อยที่เรียนรู้การลอยตัวท่ามกลางแรงลมทุกรูปแบบ ทั้งคู่จะอยู่ด้วยกันไปได้ตลอดชีวิตจริงหรือ โดยเฉพาะเมื่อนิชฌานเป็นคนฆ่าจิลลาด้วยมือตัวเอง นิยายออนไลน์ที่อ่านได้ในอ่านเอา

****************************

สนับสนุนอ่านเอาด้วยการสั่งซื้อหนังสือ “ในสวนอักษร” คลิกที่นี่

แขดรุณลืมตาตื่น ยกนาฬิกาอัจฉริยะที่ข้อมือขึ้นมาดูเห็นเป็นเวลาหกโมงครึ่ง หลังนอนนิ่งๆ อีกครู่ให้ร่างกายปรับตัวก็ลุกจากเตียงอวดเรือนร่างเปลือยเปล่ากับอากาศรอบตัว เดินไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนชั้นที่วางห่างออกไป เปิดดูบันทึกการนอนของตัวเอง พบว่าหลับครบแปดชั่วโมง และหลับลึกเกือบสามชั่วโมงก็ยิ้มอย่างพึงใจ ก่อนหันไปอีกทางเมื่อประตูห้องน้ำเปิดออก เห็นว่าคนที่ออกมาใส่เสื้อผ้าเป็นชุดพร้อมวิ่งแล้ว “จะไปวิ่งแล้วเหรอ”

“ใช่”

นิชฌานตอบแค่นั้น… แล้วเขาก็เดินมุ่งตรงไปยังห้องแต่งตัวของตนซึ่งอยู่อีกฟากของห้อง แขดรุณเริ่มขยับตัวอบอุ่นร่างกาย ไม่มีท่าทีขัดเขินกับการไม่สวมใส่เสื้อผ้าของตน แน่ใจว่าอีกฝ่ายไม่มองหรือถึงมองเธอก็ไม่สนอยู่ดี เขาเป็นสามีเธอนี่ บอกเสียงเรียบ “กางเสื่อให้ก่อนสิ”

บอกไปแล้วก็กลับมาเตรียมร่างกายตัวเองให้พร้อมสำหรับการออกกำลังกายต่อ หันไปอีกทีเสื่อโยคะก็กางเรียบร้อยแล้วในมุมที่ทำไว้สำหรับออกกำลังกาย ส่วนคนกางก็เดินออกจากห้องไปแล้ว ก่อนจะเริ่มโยคะยามเช้าแขดรุณเดินไปยังแท็บเล็ตราคาแพงที่อยู่อีกทางก่อน เปิดอัลบั้มเสื้อผ้าของตนขึ้นมา เลือกไปที่สูทกางเกง เลือกอัลบั้มย่อยเป็นยี่ห้อที่ต้องการใส่ พอได้ชุดที่พอใจแล้วจึงส่งภาพนั้นไปให้ผู้ดูแลเครื่องแต่งกายเพื่อให้จัดเตรียมชุดให้ ไม่กลัวว่าคนดูแลจะหยิบผิดด้วยเสื้อผ้าเธอมีนับพันชุด เพราะที่รูปจะมีรหัสบอกไว้ คนดูแลสามารถใช้รหัสนั้นหาชุดได้โดยง่าย เลือกเสื้อผ้าได้แล้วจึงเป็นคิวของรองเท้าและกระเป๋า ซึ่งมีรหัสติดไว้เช่นกัน แน่ใจว่าพอเธอออกกำลังกายเสร็จ เข้าไปอาบน้ำ ออกมาทุกอย่างต้องพร้อมสรรพ… ลองไม่พร้อมสิ ครั้งที่หนึ่งพอให้อภัย ครั้งที่สองคงต้องแนะนำให้หางานใหม่

แขดรุณไปยืนบนเสื่อ สำรวจรูปร่างตัวเองหน้ากระจกบานใหญ่ เห็นว่ามันยังสวยงามไม่มีที่ติสมกับที่ทุ่มเทดูแลอย่างดีจึงยิ้มอีกครั้งแล้วเริ่มต้นออกกำลังกาย หนึ่งชั่วโมงผ่านไปการเล่นโยคะยามเช้าของเธอก็จบลง อาบน้ำเสร็จเรียบร้อยออกมาก็เป็นอย่างที่คิด คือทั้งเสื้อผ้า กระเป๋าวางอยู่แล้วในมุมที่จัดไว้ แน่ใจว่าถ้าเดินออกจากห้องตอนนี้ รองเท้าก็จะวางพร้อมอยู่ในจุดใส่รองเท้าหน้าประตู พอดีกับที่นิชฌานเข้าห้องมา จึงเอ่ยถาม “ทำไมวันนี้มาเร็ว”

เพราะปกติเขาต้องมาตอนเธอลงไปกินข้าวแล้ว…

นิชฌานส่ายหน้า “แค่ขึ้นมาเอาผ้าเช็ดเหงื่อ ลืมหยิบไป กำลังจะไปชกมวยต่อ”

“กับพี่ตุลเหรอ”

“ใช่”

“สิบโมงแคลร์มีสัมภาษณ์”

“จำได้”

“เธอไปเจอแคลร์ที่กาเซโบแล้วกัน”

นิชฌานพยักหน้ารับ เดินไปหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กสำหรับซับเหงื่อแล้วเตรียมจะเดินออกจากห้อง แต่นึกออกก่อนจึงหันมาถามคนที่กำลังใช้งานเครื่องทาครีม “อยากให้แต่งตัวยังไง”

แขดรุณนิ่งไปนิด สีหน้าสายตาครุ่นคิด ก่อนได้คำตอบในที่สุด “ชุดนี้ก็ได้ วันนี้เน้นเพื่อน ไม่ได้เน้นเธอ แคลร์อยากให้ดูเหมือนเธอแค่มาเฝ้าแคลร์เฉยๆ”

“โอเค”

แขดรุณไม่ได้มองหน้านิชฌานแล้วตอนเขาตอบรับ หันมาจัดการตัวเองต่อ กระทั่งประทินผิวเรียบร้อยแล้ว จึงขยับตัวไปกดเครื่องมือสื่อสารภายใน ส่งเสียงถาม “แดนนี่มาหรือยัง”

“มาแล้วค่ะคุณแคลร์”

“ให้ขึ้นมาที่ห้องเลย” บอกแล้วเดินไปนอนบนโซฟาที่มีไว้เพื่อใช้นอนตอนช่างแต่งหน้าให้โดยเฉพาะ พอแดนนี่ ช่างแต่งหน้าคู่บุญมาถึงแขดรุณก็ดูเวลา เห็นว่าเป็นเวลาแปดโมงครึ่งจึงบอก “ขอไม่เกินหนึ่งชั่วโมงนะแดนนี่ แคลร์มีนัดตอนสิบโมง”

แดนนี่ส่งเสียงตอบรับ เริ่มลงมือทำงานและเสร็จในเวลาที่แขดรุณกำหนดไว้พอดิบพอดี แขดรุณพินิจใบหน้าตน พอเห็นว่าตรงตามที่กำหนดไว้ว่าอยากได้การแต่งหน้าเหมือนไม่แต่ง เน้นทำให้ผิวเธอดูสวยเป็นธรรมชาติ จึงพยักหน้าเป็นเชิงบอกว่าทุกอย่างเรียบร้อยแล้วกับแดนนี่

แดนนี่เองจึงถามเพื่อความแน่ใจ “ให้แก้ตรงไหนไหมคะ”

แขดรุณส่ายหน้า รับตลับบางๆ มาจากแดนนี่ รู้ว่าเป็นลิปสติกที่ใช้วันนี้ ปกติถ้าเป็นลิปสติกสีเดียวแดนนี่จะให้เธอทั้งแท่ง ถ้าครั้งไหนให้ตลับบางแบบนี้แปลว่าเป็นลิปที่ต้องผสมสี หญิงสาวรอจนแดนนี่ออกจากห้องไปแล้วจึงใส่เสื้อผ้า พร้อมออกจากห้องตอนก่อนเวลานัดสิบห้านาที ทว่าทุกอย่างต้องหยุดชะงักเมื่อมือถือส่งเสียงดังขึ้น พอเห็นว่าผู้ติดต่อเป็นคนที่ตนส่งไปทำงานในประเทศที่เวลาเร็วกว่าไทยสามชั่วโมง แขดรุณจึงตัดสินใจรับสายตั้งใจว่าจะคุยให้เสร็จในสิบห้านาที ส่งเสียงบอก “คุยได้ไม่เกินสิบนาที ความคืบหน้าเป็นยังไง”

“โพรเจ็กต์ออฟฟิศบิลดิ้งไม่มีปัญหาค่ะ ทางโลคัลบอกว่าอีกไม่เกินเดือนทุกอย่างน่าจะเรียบร้อย”

แขดรุณขัดเสียงเบา “แคลร์ไม่ชอบคำว่าน่าจะ”

“ค่ะ อีกไม่เกินเดือนทุกอย่างเรียบร้อยแน่นอนค่ะ”

“ทั้งสามตึกเลยหรือเปล่า”

“ค่ะ ทั้งสามตึกเลย ถ้าการซื้อขายเรียบร้อย โลคัลบอกว่าจะรีบทำแบบรีโนเวตส่งให้คุณแคลร์ดูค่ะ”

“แคลร์ขอแบบภายในสองเดือนนับจากวันนี้” บอกไปแล้วปลายสายไม่ตอบกลับมาทันที แขดรุณจึงถามไป “ไม่ได้เหรอ”

คราวนี้คนถูกถามตอบกลับทันที “ได้ค่ะได้ จะแจ้งทางโลคัลให้นะคะ”

จบประโยคนั้น เครื่องมือสื่อสารภายในก็มีเสียงดังบอกกล่าว

‘นักข่าวมาแล้วค่ะคุณแคลร์’

แขดรุณจึงบอกคนที่ตนคุยโทรศัพท์อยู่ด้วย “รอก่อน” จากนั้นหันไปสื่อสารกับคนส่งข่าว “แคลร์คุยงานอยู่ พาเขาไปที่กาเซโบ ฝากขอโทษให้ด้วย”

ทางนั้นตอบรับแล้ว แขดรุณจึงหันมาคุยงานต่อ “แล้วโพรเจ็กต์อะพาร์ตเมนต์ริมอ่าวล่ะ”

“ยังเจรจาอยู่ค่ะ บริษัทโลคัลที่คุณแคลร์เลือกมา จู่ๆ ก็ขอเวลาตัดสินใจว่าจะร่วมทุนกับเราดีไหม”

แขดรุณหน้าตึง ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ตอนเธอบินไปเจรจาทางนั้นก็ดูไม่มีปัญหาใดน่ะหรือ “เขาบอกหรือเปล่าว่ามีปัญหาอะไร”

“ไม่ได้บอกเลยค่ะ บอกแค่ขอเวลาตัดสินใจ”

“แล้วให้ทางนั้นตัดสินใจนานแค่ไหน” ถามไปแล้วอีกฝ่ายเงียบไป จึงถามไปอีกพร้อมรอยยิ้มน้อยๆ บนใบหน้า น้ำเสียงเยือกเย็น “ถ้าเขาให้คำตอบปีหน้าเราจะทำอะไรระหว่างรอเป็นการฆ่าเวลาดี”

มีเสียงตอบกลับมาแทบจะทันที “เดี๋ยวจะรีบขอคำตอบภายในสามวันนะคะ”

“ต้องได้พรุ่งนี้ แคลร์อยากให้โครงการนี้เริ่มเร็วที่สุด เงินบาทกำลังแข็งค่า อย่าทำให้ทีจีแอลมีค่าเสียโอกาสที่คิดเป็นตัวเงินได้จริงๆ”

“ได้ค่ะ”

“แคลร์มีอีกสองบริษัทที่สำรองไว้ เดี๋ยวจะส่งคอนแท็กต์ไปให้ ถ้าทางนั้นมีปัญหาก็ไม่ต้องคุยต่อ เปลี่ยนบริษัทไปเลย”

“ได้ค่ะ”

“มีอะไรอีกไหม”

“ไม่มีแล้วค่ะ”

แขดรุณจึงวางสาย เปิดหาข้อมูลของบริษัทอสังหาริมทรัพย์เพื่อส่งไปให้คนทำงานซึ่งหาค่อนข้างยากเพราะข้อมูลน่าจะเก็บไว้นานเกินสามเดือนแล้ว มีเสียงเคาะประตูก่อนมันจะถูกเปิดออกทำให้เดาได้ว่าเป็นนิชฌาน เพราะหากเป็นคนอื่นจะรอเธอส่งเสียงอนุญาต คำบอกของเขายืนยันว่าเธอเดาถูก

“คนสัมภาษณ์อยู่ที่กาเซโบแล้ว”

“รู้แล้ว… โพรเจ็กต์อะพาร์ตเมนต์ที่ออสเตรเลียมีปัญหา ไม่รู้บริษัททางนั้นคิดอะไรถึงยังไม่ยอมร่วมลงทุนกับเรา”

“อาจจะเช็กโพรไฟล์ทีจีแอลอยู่”

แขดรุณส่ายหน้า บอกน้ำเสียงเหนื่อยหน่าย “แคลร์ให้ไปหมดแล้วตั้งแต่ตอนบินไปคุยที่นั่น น่าจะมีแหล่งเงินทุนใหม่ที่มีเงื่อนไขดีกว่าเรา”

“อ้อ…” นิชฌานตอบรับเท่านั้น ไม่ได้เข้าใจใจความเท่าไรนัก ได้ยินแขดรุณพึมพำว่า ‘เจอแล้ว’ แล้วกดหน้าจอมือถือตัวเองอยู่อีกครู่ ฝ่ายนั้นก็หันมาทางเขา เอ่ยถาม

“เธอเจอกับคนสัมภาษณ์แล้วเหรอ”

“ใช่ ผมไปที่กาเซโบตามที่คุณบอก”

แขดรุณนิ่งคิด ครู่หนึ่งก็บอก “งั้นเธออาบน้ำแต่งตัวใหม่ก่อน แล้วค่อยตามไป”

นิชฌานพยักหน้า ถามอีกรอบ “ให้แต่งตัวยังไง”

“สบายๆ บอกแล้วว่าวันนี้ไม่ได้เน้นเธอ”

“โอเค”

“เอาเบรกฟาสต์ไปให้แคลร์ด้วยนะ”

บอกแล้วเดินออกจากห้อง ไม่รอฟังคำตอบรับ เพราะอย่างไรนิชฌานก็ต้องทำตามนั้นอยู่ดี พอลงมาข้างล่างก็เจอภาพที่คิดไว้ว่าจะเจอ คือปู่ของตนนั่งอยู่บนโซฟากลางห้องโถง อ่านแท็บเล็ตจอใหญ่ในมือ หญิงสาวเดินเข้าไปกอดคอปู่จากด้านหลัง เอ่ยถาม “ปู่กินข้าวเช้าแล้วใช่ไหมคะ”

ทิวายิ้มก่อนหันไปตอบหลานรักของตน “กินแล้ว แคลร์ล่ะ เห็นว่าวันนี้มีสัมภาษณ์ กี่โมงนะ”

“สิบโมงค่ะ”

ทิวายกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู “จะกินทันเหรอ”

“ไม่เป็นไรค่ะ คนสัมภาษณ์มาแล้วด้วย แคลร์จะไปเจอเขาก่อน เดี๋ยวชาร์ลยกอาหารเช้าตามไปให้ค่ะ”

ทิวาหน้านิ่วพอรู้ว่านิชฌานจะเป็นคนทำเรื่องนั้น “ไม่ต้องกวนชาร์ลหรอก ให้เด็กยกไปให้ก็ได้”

แขดรุณเลยทำหน้ากระเง้ากระงอด “แหม หลานชายที่รักของคุณปู่จะเอาใจแคลร์บ้างไม่ได้เลยหรือไงคะ”

ทิวาจึงไม่พูดอะไรอีก ได้แต่ยิ้มและพยักหน้ารับ แขดรุณจึงหอมแก้มปู่ตนฟอดใหญ่ ก่อนบอก “ถ้าตอนเที่ยงปู่ยังอยู่บ้าน กินข้าวเที่ยงกับแคลร์นะคะ มีเพื่อนๆ แคลร์อีกสามคน แล้วก็คนที่มาสัมภาษณ์​แคลร์ค่ะ”

หากทิวากลับส่ายหน้า “ไม่ได้สิ ปู่มีประชุมบอร์ด อีกสักพักก็ต้องออกจากบ้านแล้ว ไว้มื้อเย็นไหม สั่งของโปรดจากโรงแรมที่แคลร์ชอบเลย เดี๋ยวปู่เป็นเจ้าภาพเอง”

แขดรุณหน้าบาน พยักหน้าด้วยท่าทีราวกับตนยังเป็นเด็กห้าขวบให้คนเป็นปู่ยิ้มอย่างเอ็นดู แล้วเอ่ยขอตัว “ขอให้ประชุมราบรื่นนะคะ แคลร์ไปก่อนค่ะ”

ปู่ส่งเสียงตอบรับแล้ว แขดรุณจึงเดินไปยังจุดใส่รองเท้า เห็นรองเท้าคู่ที่ตนระบุไว้วางรออยู่แล้วก็ยิ้มอย่างพึงใจ สวมใส่เรียบร้อยจึงเดินไปยังจุดนัดพบ เมื่อได้ระยะพอจะเห็นคนที่อยู่ในกาเซโบก็เดินช้าลงเพื่อพินิจพิเคราะห์คนที่ตนตั้งใจเรียกมาทำงานนี้… จิลลา

แขดรุณไม่เคยทำอะไรโดยไร้จุดมุ่งหมาย เธอชัดเจนตลอดว่าทำอะไรเพื่ออะไร ดังนั้นการเลือกจิลลามาในครั้งนี้ ไม่ใช่เพื่อบทสัมภาษณ์ในวาระครบรอบหกสิบปีทีจีแอลเรียลเอสเตตเพียงอย่างเดียวแน่นอน!

 



Don`t copy text!