ปล้นดวงใจมหาสมุทร บทที่ 3 : เจ้าชายปลาดาว

ปล้นดวงใจมหาสมุทร บทที่ 3 : เจ้าชายปลาดาว

โดย : อสิตา

Loading

ปล้นดวงใจมหาสมุทร โดย อสิตา เธอและเขาเป็นลูกคนละแม่ที่แค่เห็นหน้าก็แทบพุ่งเข้ากัดกันแต่อยู่ดีๆ ท่านทวดที่ไม่ใช่มนุษย์แต่หน้าตาเหมือนโพไซดอนก็มาบอกให้ตามล่าหาเนื้อคู่ให้เจอและทั้งคู่จะตายก่อนวันเกิดครบสามสิบ! ศึกแย่งสมบัติของเจ้าสมุทรก็ว่าหนักแล้ว ยังต้องวิ่งหนีจากความตายอีก เรื่องราวจะเป็นยังไง อ่านออนไลน์ได้ที่อ่านเอา

เขามองแผ่นกระดาษในมือซึ่งพรินต์ตัวใหญ่ๆ เป็นคำไม่กี่คำอย่างพึงพอใจ สอดมันผ่านเข้าไปใต้ประตูอย่างเงียบงันแล้วเดินกลับห้อง ข้อความบนนั้นไม่มีสาระ นางคงเดาเรื่องราวได้หมดแล้ว ก็แค่เยาะเย้ยเหยียบย่ำให้เสียหน้ากว่าเดิม

‘ชุดก่อนตกน้ำสวยกว่า’

แค่นึกก็ต้องแสยะปากนิดๆ สะใจ ใครก็รู้ว่าแม่นี่รักษามาดขนาดไหน ขนาดนังแมวที่เลี้ยงเอาไว้ยังเลือกแต่ขนสีอ่อน ลุคคุณหนูๆ เหมือนตัวเอง ตัวเก่าตายไปตัวใหม่มาแทนก็ยังเป็นโทนเดิมๆ  หึ แมวพวกนั้นกระแดะยิ่งกว่าอะไร…เหมือนเจ้าของ หยิ่ง อวดดี ไม่รับการสั่งสอน!

แปลก อยากจับตาอีกฝ่ายแต่ก็ทนเห็นหน้ากันทุกวันไม่ไหว ถึงขั้นต้องทำสัญญาสลับวันมาทำงาน อย่างไรก็ยังได้รู้ความเป็นไปในที่แห่งนี้บ้างแม้ไม่ต้องพบหน้า

วันนี้ ‘วันคู่’ เขาไม่จำเป็นต้องเข้างาน…

แต่เขาจะเปลี่ยนมันเป็นวันของตัวเองให้ดู

ความเป็นพี่น้องที่เข้ากันไม่ได้นี้ยิ่งกว่าน้ำกับน้ำมัน เจ้าหล่อนโปรดแมว เขารักหมา แต่หลายหน เขตแดนของเขามักถูกแมวตัวดีถือวิสาสะข้ามมาอึทิ้งไว้ มันคอยก่อกวน ปั่นหัว ยั่วให้ลูกชายเขาสติแตก เห่าหอนเสียงหลงทำลายความสงบ ลูกเขาจะข้ามไปราวีฝั่งนั้นบ้างนานๆ ครั้งก็ไม่เห็นเป็นไร

เปิดดูกระเป๋าสตางค์เย็บจากหนังกระเบนซึ่งถึงแก่กรรมตามอายุขัย ในนั้น จุดที่ควรจะเป็นรูปครอบครัวคือรูปคู่ของเขา กับ…หมาชิบะสีดำ คิ้วจุดขาว ช่วงปาก คาง หน้าอก และท้องของมันขาวผ่อง แถวๆ ขามีปนน้ำตาลจาง ง่ามก้นจนถึงใต้ม้วนหางก็ขาว สีหน้ามุ่งมั่นสดใส ตากลมดำขลับแวววาวอย่างกับเม็ดลำไย ดูคล้ายจะยิ้มในหน้าตลอด ด้านหลังภาพถ่ายซึ่งเคลือบแข็งไว้นั้นคือหมาตัวเดิมตอนเป็นลูกหมา อยู่ในชุดหมวดฮูดก๊อตซิลล่างับหัว น่ารักน่าถนอมราวกับเด็กอ่อน ยิ่งดู มือยิ่งสั่นสะท้านน้อยๆ ด้วยแรงอารมณ์ เขาซ่อนรูปปู่ไว้ลึกในซอกหลืบของกระเป๋า เวลานี้ยังทนดูไม่ไหว

ปู่เพิ่งตายไม่นาน เขาเหลือแต่หมาตัวนี้เป็นลูกชาย…

แต่มีอยู่อย่างที่ยังอภัยให้ลูกรักอย่างมันไม่ได้! หมาไม่รักดี คราวใดได้พุ่งทะลวงข้ามไปฝั่งต้องห้าม หรือบังเอิญเฉียดกันแถวแดนกลาง เป็นต้องเข้าพันแข้ง คลุกเคล้าคลอเคลียเลียแม่หอยมุก เวลาแบบนั้นนางทำเป็นร้องอี๋ สะดิ้งหลบท่านั้นท่านี้ หึ ไม่แน่ ลับหลังอาจจะแอบให้อาหารจนหมาใจง่ายยอมปันใจ นี่ก็เลยช่วยสงเคราะห์ปล่อยมันไปกวน อย่างน้อยๆ มีตัวช่วยเตะตัดขาจะได้ออกจากบ้านช้า

หวังแค่ให้ขนหมาดำๆ น้ำตาลๆ ติดไปบนเสื้อขาวให้เจ้าหล่อนเสียเวลาใช้ลูกกลิ้งขนแมวของที่ต้องมีทำความสะอาดและหงุดหงิดเล่น แต่ลูกชายดันทำงานยอดเยี่ยมได้ผลเหนือคาด ทำเอาแม่คนนั้นตกน้ำตกท่า ต้องคลานไปเปลี่ยนชุดนั่นเลยเชียว

คิดถึงฉากประทับใจเมื่อเช้าเขาก็เผลอยกมุมปากเกือบสองวินาที ก่อนรีบหุบฉับ แค่ยิ้มสมน้ำหน้า เฮอะ น่ารักก็แค่หนังหน้า…เพื่อนเขาเห็นเข้าถึงกับน้ำลายหกกันเป็นแถว

‘เฮ้ย พี่ชาย ขอดึงแก้มน้องสาวสักทีได้ไหมวะ น่าจะนุ่ม’

‘ถ้าไม่โดนงับมือขาด ก็น่าจะลมพิษหรือหิดขึ้นมือ’ เขายิ้มน้อยๆ ตาวาวโรจน์อย่างพญามาร สะใจกับท่าตะลึงเอามือทาบอกของเพื่อนชายอกสามศอก

เพราะคนมองมานึกว่าดี ยัยนั่นเลยยิ่งชอบสร้างภาพ ใครจะรู้ดีเท่าคนอย่างเขาที่ต้องมาผูกติดกับน้องสาวนิสัยไม่พึงประสงค์อย่างมุกอันดามัน แบ่งกันบริหารธุรกิจโรงแรมและอื่นๆ เพราะรับปากไว้กับปู่ ย่าตายลงไม่ถึงปีปู่ก็จากโลกนี้ตามไป…ไม่มีการแบ่งสินทรัพย์เพื่อให้บริหารง่ายขึ้นอะไรทั้งนั้น จริงแท้แน่นอนก็คือ ความเห็นจะต้องตกลงให้คล้อยตามไปในทางเดียวกันให้ได้ทุกครั้ง กับพี่น้องที่ไม่ถูกกันงานยิ่งเดินลำบาก

ความเป็นอริเริ่มมาตั้งแต่ยังอยู่ในท้องแม่ ช่วงเวลาเดียวกัน แต่อยู่คนละท้อง!

เขาโทษพ่อที่ดันเป็นคนหลายใจ ตอนนี้ยังต้องมาพยายามสามัคคี ภายใต้สายตาของประธานหมิงจอมกวนประสาท ซึ่งคงพร้อมจะดัดนิสัยฝั่งที่ไม่ยอมรักษาความสงบ

ฝ่ายนั้นเผินๆ คล้ายซื่อ ถึงกับบินตรงมาจากบ้านเกิด คล้อยตามแผนนัดคุยเดี่ยวของมุกอันดามัน แต่จะมาใสซื่อซ้ำซ้อนอีกกับเขา? ด้วยการทำเผลอคายเรื่องหลุดมาทางอีเมล ไม่น่าไว้ใจ แต่พอได้รู้เข้าเสียแล้วจะพลาดได้รึ จำเป็นต้องเสนอหน้ามามีเอี่ยวกับนัด เซอร์ไพรส์นี้น่าจะส่งผลให้ภายในใจน้องสาวจอมสร้างภาพปั่นป่วนคล้ายมรสุมเข้า

ปู่เพิ่งตายไม่กี่เดือน ตัวตนของไอ้หมอนี่ที่ได้รับอำนาจส่งต่อก็เริ่มโผล่ผุดมีสีสันขึ้นมาในชีวิตพวกเขา เป็นคนประหลาดที่ใครก็ไม่เคยได้พบตัวจริง ทั้งที่เคยเชิญหลายครั้งกลับบอกไม่ว่าง ได้คุยก็เพียงทางออนไลน์ คราวนี้ถึงกับยอมมาไทย ไม่รู้ว่าน้องสาวพูดท่าไหน หรือมันอาจมีจุดประสงค์อื่นของมันเอง

สัมผัสได้ว่าหมอนี่รู้ตื้นลึกหนาบางในบ้านเขาดีทุกอย่าง ไม่น่าเป็นคนใหม่ พูดให้ถูก…คงจะแฝงกายดูอยู่นานแล้ว เพลิงพระสมุทรเองไม่ไว้ใจมันแต่จำทนเล่นตามบท ต้องทำให้มันไว้ใจเขา หึ หุ้นเพียงเปอร์เซ็นต์เดียวนั่น ไม่ใช่ไม่กล้าแตกหัก…แต่พิลึกที่คนแข็งอย่างปู่ยอมเปิดทางให้ประธานคนนี้ น่าจะมีเหตุผลจำเป็นซ่อนอยู่ เขาเลยพยายามระงับความหงุดหงิด ต่อสู้ให้ได้มาซึ่งความจริง

ยกนี้ สังเวียนคือโต๊ะอาหารเที่ยงมื้ออร่อย

คงอร่อยเหาะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับน้องหอยสุดที่รัก…

 

ก่อนออกจากห้องส่วนตัวเขามีเวลาถมไป ช่วงสาย มุกอันดามัน แม่หอยกาบกำลังเหนื่อยแสดงละครต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง พี่ชายคนนี้จะเป็นฝ่ายทุ่มเทขึ้นไปยังห้องอาหารชั้นสิบแปดเพื่อตระเตรียมเวทีให้พร้อมเอง

เพลิงพระสมุทรละมือจากงาน เหลือบมองชิ้นงานศิลป์ซึ่งเป็นถาดโลหะวางประดับโต๊ะอยู่ชั่วนาตาปี เห็นผมเผ้าในเงาสะท้อนโด่เด่สองกระจุกจึงหยิบเจลออกมาตบมันลงให้เข้าที่ เขาไม่ใช่คนเนี้ยบเรียบร้อยอะไร หงุดหงิดด้วยซ้ำ ต้องทำก็เพราะไม่เช่นนั้นผมทั้งหัวจะจับปึกแหลมแข็งตั้งชี้ออกห้าทิศอย่างกับแฉกขาปลาดาว ครั้นจะโกนรึก็ไม่แนว ไม่ใช่แค่นั้น…มือตีนยังเหนียวหนึบเป็นพิเศษ ก็ไม่ถึงขนาดจิ้งจกหรือตุ๊กแก แต่เพียงพอจะทำให้ต้องลำบากใส่ถุงมือถุงเท้าไว้เกือบตลอด แสร้งทำเนียนเป็นคุณชายกลัวเชื้อโรค ทั้งที่จริงๆ ไม่ใกล้เคียง น้องสาวมักด่าเขาเป็นไอ้มนุษย์ไร้อารยะสมัยยังไม่รู้จักไฟ

ไม่ชอบที่ร่างกายตัวเองเป็นแบบนี้ ความแตกต่างรังแต่จะก่อปัญหา…แต่ยังไงก็เถอะ เขายังเป็นตัวที่เด่นและแข็งแกร่ง แถมยังมีความสามารถลับๆ ซ่อนอยู่อีก ส่วนมุกอันดามันคือหอยกาบเน่านิ่มไม่ได้น่าเกรงขาม นอกจากเปลือกปลอมคล้ายจะมีราคา เขาไม่มีทางพ่ายแพ้ มาเฟียสาว เจ้าม่งเจ้าแม่ไข่มุก ข่าวลืออะไรที่มาเข้าหูเขาไม่เคยสน เดี๋ยวพ่อจะรื้อศาลทิ้งไม่ให้เหลือแม้แต่ตอ

เก็บกระปุกเจลวางกลับลงที่ซ่อน ก่อนเอื้อมมือเข้าไปสุดก้นลิ้นชัก ตลับหนังดำขลับทรงยาวประทับโลโก้ปากกาแบรนด์แพงระยับ ทว่าเมื่อเปิดออก เข็มแหลมสีดำเงาวับเรียงเป็นตับ เข็มพิษ เขาเลือกหยิบออกมาเล่มหนึ่ง เสียบซ่อนไว้ในข้อมือเสื้อสูทซึ่งตัดเย็บจุดซ่อนอาวุธลับไว้โดยเฉพาะ

…สิ่งนี้จะช่วยเพิ่มรสชาติอาหารสำหรับใครบางคนได้ชะงัด

เขาลุกขึ้น กระชับสูทสีแดงเลือดเข้มจนเกือบดำให้กระชับร่าง เดินอาดๆ ขึ้นลิฟต์สู่ชั้นดังกล่าว เลขาฯ หญิงร่างผอมสูงเกล้ามวยตึงซึ่งรอพร้อมอยู่หน้าห้องก้าวตามเงียบๆ สตรีอาวุโสแต่งหน้าเข้ม ปากดำ เป็นเพศตรงข้ามเพียงคนเดียวที่เพลิงพระสมุทรเองยอมรับ ยอมให้อยู่ใกล้กาย

ที่ชั้นสิบแปด…ห้องอาหารอย่างหรูหราที่สุดเป็นที่เฉพาะของผู้บริหาร สืบมาล่วงหน้าน้องสาวต้องใช้มันแน่ เพื่อไม่ให้เหยื่อดิ้นหนีไปได้ เขายังส่งข้อความไปบอกประธานหมิงเป็นการส่วนตัวว่าจะมารอที่นี่ก่อน

เพดานสูง ผนังหินกรมท่าเข้มลึกเหมือนใต้สมุทร ประตูบานประกบแต่งด้วยโลหะทองอ่อนช้อย ดูคล้ายวังมังกรแม้ไม่ใช่ศิลปะแบบจีนหรือญี่ปุ่นอย่างใดเลย ชายร่างสูงใหญ่กว่าเขายืนประกบขวางบานประตู ทว่าทันทีที่เขาหยุดจับจ้อง ทั้งสองก็ผงะเด้งตัวไปยืนกุมเป้าอยู่ข้างๆ คนของมุกอันดามันไม่ขวาง…เพราะขวางไม่ได้ ใครเล่าจะอยากกระเด็นจากตึกหรูอย่างธาราสวรรค์ ในความหมายตรงตัวคือถูกชูตลอยละลิ่วลงไปจากตึกสูงปานนี้

ผู้เป็นเลขาฯ หยุดรอที่หน้าห้อง คอยสอดส่องสถานการณ์ให้ แน่นอน ต่อให้เป็นชายร่างยักษ์ก็ยังสู้สตรีเฮี้ยบผู้ควบตำแหน่งทั้งมือซ้ายและขวาของเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ…หน้ายังไม่แก่ แต่ชวนเกรงขามยิ่งกว่าย่า ยาย บวกย่าทวดรวมกัน เรียกว่ามีสีหน้าอย่างบรรพชนหญิงในตำนานเลยก็ว่าได้

ผ่านประตูเข้าไป ภายในห้องอาหารไม่เชิงว่าแต่งอย่างสากลหรือชาติไหนๆ มันเป็นแบบอย่างเฉพาะที่พวกเขาสร้างสรรค์ขึ้นมา กระจกแก้วลายน้ำโปร่งใส ร่องธารแคบไหลริน คล้ายส่วนลึกในใจยังเพรียกหาน้ำ ถิ่นเคยเนา ท้องทะเลแสนงามซึ่งวันนี้กำลังจะกลายเป็นทะเลเดือด

หรูหราที่สุดคือโต๊ะยาวกลางห้อง มีสายพานลำเลียงอาหารไหลเอื่อยๆ ออกมาจากอุโมงค์มืดตรงปลายโต๊ะ ทำให้ทุกครั้งคนกินไม่รู้เลยว่าอาหารหน้าตาวิจิตรพิสดารเช่นไรจะเผยโฉม ก่อนสายพานจะไหลช้าๆ ผ่านหน้าที่นั่งฝั่งละสิบลงไปยังอีกปลายโต๊ะ พวกเขาอาจหยิบยกจานชามซึ่งมีอาหารอย่างที่ต้องใจเอาไว้ หรือปล่อยให้มันไหลต่อไปลงลิฟต์ขนาดจิ๋วแล้ววนกลับขึ้นมาใหม่อีกครา ไม่ใช่สายพานอย่างซูชิหมุนหรอก ควรเรียกว่าสายธารกระจกแก้ว แถมข้างใต้โต๊ะสูงยังมีน้ำไหลรินๆ คลอบรรยากาศ เก้าอี้สูงสามารถปรับยกให้เท้าลอยพ้นน้ำ หรือหากผู้บริหารถึงขั้นจีบแขกผู้มาเยือน จะชวนกันเอาเท้าจุ่มน้ำก็ทำได้ ทั้งหรูหราลักซัวรี่และผ่อนคลายเป็นกันเองในขณะเดียวกัน

ที่นั่น ใครบางคนยืนรออยู่อย่างพร้อมจะเป็นกรรมการห้ามมวย วงเล็บ นัดชกของเขากับน้องสาว แต่เขารู้ว่ากรรมการเองก็ตั้งใจเล่นไม่ซื่อ เพลิงพระสมุทรเองจึงเตรียมตัวมาล้มมวยเต็มที่เหมือนกัน…

เป็นคนทำอาหารเสียเปล่า ไม่รู้จักเก็บงำสารรูปให้เรียบร้อย ผมเผ้าเหลือรับประทาน เชฟส่วนตัวของมุกอันดามันไม่ใช่เงือกที่ไหน สืบแล้วว่าเป็นมนุษย์ ผมเดร็ดล็อกส์สีทองรุงรังเป็นพิเศษ เขานิยามในใจ…เหมือนกองกิ้งกือสมสู่กัน หรือไม่ก็งู อาจนับว่าสมฉายาของมันเองก็เป็นได้

“เฮลโหล่ว กอร์กอน

เชฟยืนประสานมือไว้ข้างหลังเตรียมรับศึกอย่างไม่ไหวติง มันกลัวเขา แววตาสั่นไหวบ่งบอก ผิวขาวๆ ตกกระจึงซีดถอดสีลงไปอีกระดับ นั่นไง สองระดับ ก่อนกลั้นใจก้มศีรษะทำความเคารพในที่สุด น่าสมเพช เคยเห็นทำกรุ้มกริ่มตาเป็นมันกับน้องสาวเขาแม้ฝ่ายนั้นเรียกได้ว่าเป็นนายของตัวมันเอง แม่นั่นก็ไม่รู้ซื่อหรือเซ่อจนไม่รู้เรื่อง ไร้มารยาท…ไอ้หัวงู หัวปลาดาวยังดูดีกว่าเป็นกอง

ไม่ใกล้เคียงกับคำว่าหวงน้อง แค่รำคาญหูรำคาญตา! ผู้หญิงสร้างภาพแบบนั้น ตัวจริงน่าเกลียดน่าชัง ต่อให้เป็นชายชีกอแค่ไหนก็ยังชวนเวทนาเมื่อต้องเจอกับมุกอันดามัน

คงถูกซื้อตัวมาที่นี่ด้วยค่าตัวแพงลิบ แต่หมอนี่มันบ้า ระทวยแต่กับผู้หญิง ข่าวว่าถึงกับกระชากคอเสื้อนักรีวิวอาหารผู้ทำตัวรุ่มร่ามขวางตา แต่ข่าวลือเกี่ยวกับตัวเขาเหนือกว่า

เพลิงพระสมุทรมักถามคนที่มีเรื่องกับเขา ไม่ว่ามันจะเป็นใคร อยู่วงการไหน

‘ยังอยากมีที่ยืนในวงการอยู่ไหม ไม่สิ ต้องถามว่า…ที่ยืนในโลกนี้น่ะ อยากมีไหม’

จากสีหน้าเหมือนเคยฆ่าคนมานับไม่ถ้วนและเส้นสายของเขา

ทุกคนต้องยอม…เพราะกลัวถูกส่งไปมีที่ยืนในโลกหน้า

เรื่องนี้คงเป็นยาแรงช่วยให้มันสงบปากคำนิ่งกริบ เขาเลือกนั่งลงยังเก้าอี้ตำแหน่งกลางความยาวของโต๊ะ ตรงข้ามกับเชฟซึ่งยืนเกร็ง โต๊ะนี้ไม่มีหัวโต๊ะ นอกจากอุโมงค์สำหรับอาหารจะไหลออกมา ไหลลงอีกทาง วนกลับไปยังพื้นข้างใต้ซึ่งมีทีมผู้ช่วยเชฟ ตระเตรียมวางอาหารขึ้นลิฟต์สายธารตามคำสั่งของผู้อยู่เบื้องบน

ฝ่ายนั้นยิ้มมานิ่งๆ แม้เหงื่อเริ่มตก เขาเองก็นิ่ง มือประสานบนโต๊ะค่อยๆ ขยับเคาะนิ้วช้าๆ อย่างอารมณ์กรุ่นๆ ท่ามกลางความเงียบ แหวนทอง ตัวเรือนลวดลายลงยาของปู่กระทบกับพื้นโต๊ะหินสีเข้มเป็นจังหวะ กริ๊ก กริ๊ก กริ๊ก แหวนของท่านประธานสูงสุดรุ่นก่อนซึ่งหัวแหวนสลักตราประจำตระกูลวะวับ เป็นแบบเดียวกับสัญลักษณ์โรงแรม ปลาซาร์ดีน อืม…มัจฉาเลี้ยงมุก…ประดับสง่างามอยู่บนนิ้วก้อยของเขา

“ระหว่างรอน้องสาว ผมชอบของหวานๆ เรียกน้ำย่อย เอาแบบมีน้ำเชื่อม ช่วยสั่งขึ้นมากินเป็นเพื่อนกันสักเมนู กอร์กอน แรมซีย์ สโนว์…จูเนียร์” อันหลังไม่มี แต่เขานึกอยากต่อเติมตบท้าย

เชฟยอมนั่งลงตรงข้าม ลากเก้าอี้ให้เยื้องไปจากเขาเล็กน้อย ไม่กล้าปะทะรังสีตรงๆ เพลิงพระสมุทรก็ยอมเลิกจ้องหน้าอย่างไม่ถือสา…

ของหวานในแก้วใสเชิงเตี้ยไหลขึ้นมาเงียบเชียบ เหมือนกันสองถ้วย ถึงกอร์กอนก่อนฝ่ายนั้นจึงฉวยไว้เองหนึ่ง ปล่อยให้ที่เหลือไหลมาเข้ามือเขา เร็วและแนบเนียนจนมองไม่ทันหรือมันก็คงไม่กล้ามอง เพลิงพระสมุทรขยับแขนอยู่เหนือแก้วของตัวเอง ก่อนเอ่ยเรียบๆ

“เปลี่ยนกันดีกว่า ลิ้นจี่ลูกนั้นน่าอร่อย เคยได้ยินไหม อาหารของคนอื่นมักดูน่ากินกว่าของเราเสมอ”

อีกฝ่ายพยักหน้า รีบลนลุกขึ้นเปลี่ยนให้ เห็นได้ชัดว่ามือมันสั่นน้อยๆ ก่อนลุกลนกลับลงนั่ง จ้วงเอาของหวานเข้าปากคล้ายระงับความตื่นเต้นพลุ่งพล่านในใจ

เพียงเท่านี้ เวทีก็จะเป็นของเขา…

 

เที่ยงตรง ประตูเปิดผาง ที่ก้าวนำไม่ใช่เจ้าของสถานที่หรือเลดี้เฟิร์ส ไม่ใช่มุกอันดามัน แต่เป็นประธานหมิงในชุดสีสดแสบทะเล่อทะล่าเข้ามาก่อน เดามาดได้ไม่ยากแม้เคยพบหน้าเพียงทางวิดีโอคอลล์

“ไอ๊หย่าาา วังมังกือ…หลูหลาๆๆ”

เพลิงพระสมุทรยอมลงทุนลุกขึ้นต้อนรับ ชายสวมแว่นที่เพิ่งมาที่นี่ครั้งแรกโพล่งเอะอะ หัวเราะร่วนชูมือขึ้นตบฉาดอย่างชอบใจ ไม่เท่านั้นยังหมุนตัวชมห้องไปรอบๆ ราวกับเด็กๆ เสื้อคลุมยาวปักเลื่อมหลากสีสะท้อนรับแสงกระทบไหวระริกจากธารน้ำ พร่าพราย ประธานหมิงหน้าเสี้ยม ฟันแหลม ตัวจริงผิวคล้ำกว่าที่คาดไว้ ดูเหมือนชายผู้นี้พอจะพูดไทยได้มากขึ้น จากเมื่อแรกเจรจาภาษาจีนกับเขาตลอด อังกฤษก็พูดไม่ได้

แย่หน่อย เขาดันเผลอให้น้องสาวซึ่งตนประมาททำแต้มนำไป แต่เวลานี้จะไม่ยอมเสียเชิง

“หลางชายยยย”

เพลิงพระสมุทรหน้าตึงเมื่อถูกกอดรัดฟัดเหวี่ยง หรี่ตามองหอยกาบอ้าปากกว้างเห็นลิ้นไก่ หัวเราะไร้เสียงอยู่ข้างหลังโดยไอ้ประธานไม่เห็น

นังน้องคนนี้ลับหลังคนนอกจะไม่คิดรักษากิริยาแม้แต่นิด ไม่รู้ย่าสอนมายังไง

ทุกคนนั่งลงยังตำแหน่งเหมาะสม เขาและน้องตัวร้ายนั่งฝั่งเดียวกันเพราะไม่อยากเห็นหน้า แขกนั่งฝั่งตรงข้ามเพื่อให้มองหน้าพวกเขาได้ถนัด ประธานหมิงคุยจ้อด้วยภาษาไทยงูๆ ปลาๆ

ตามปากคำแหล่งข่าวลับๆ ในอดีต หลายปีมาแล้ว เห็นว่าคนคนนี้มาไทยเกือบทุกปี สงสัยมีเมียทิ้งไว้แต่ยังพูดไทยได้ไม่ค่อยดีจนแล้วจนรอด มันน่าบ้องแทนเมียเสียเหลือเกิน

…แต่นี่จะเป็นข้อได้เปรียบของเขา

เพลิงพระสมุทรชิงเอ่ยแทรกอย่างเอื้ออารีเป็นคำจีนซึ่งตนถนัด นัยว่าจะช่วยให้ฝ่ายนั้นสั่งอาหารได้สะดวกขึ้น แถมด้วยหยอดยาพิษ นี่คือข้อได้เปรียบ…เขาเจรจาภาษาจีนได้คล่อง อย่างน้อยๆ ก็ระดับมหา’ลัย ขณะที่น้องสาวยังอ้อแอ้คลานอยู่แถวๆ เตรียมอนุบาล ปกติเขาพูดทุกภาษาเท่าที่จำเป็น แต่นาทีนี้แม้แต่ล่ามเองก็คงพูดไม่ทันด้วยซ้ำ

“ภาษาจีนบ้างก็ได้ เรากันเองครับ ไม่เสียมารยาทหรอก…วางใจได้ ผมไม่เคยมีความลับกับน้อง เดี๋ยวถึงบ้านค่อยเล่าให้เขาฟังว่าเราคุยอะไรกัน สนทนาธุรกิจเมื่อเช้าพอไหวไหมครับประธาน”

อันที่จริงคือประธานแทบไม่เคยสนว่าต้องมีมารยาทกับใครเลย เผด็จการสมชื่อเลยว่ะครับ ประธานเหมา เอ๊ย หมิง เขาเองก็ไม่สนมารยาท ถ้ากับน้องสาวละก็นะ…

“เออ ค่อยยังชั่วหน่อย เจ็กว่าก็พอได้ แต่ยังมีจุดอ่อนอยู่บ้าง”

“นอกจากต้องใช้ล่ามช่วย หัวใจธุรกิจน้องก็ยังไม่ค่อยแข็งแรงครับ ถึงเป็นสินค้าผู้หญิงๆ แต่ตอนนี้โลกเราเปิดกว้าง คราวหลังไว้ผมเข้าร่วมด้วย ส่วนไหนขาดจะได้ช่วยเหลือกัน”

O.K. very good”

“ไม่โอเคค่ะ! ไทยพลีสสสส” คนอดรนทนไม่ได้เสียงเขียว

เพลิงพระสมุทรแยกเขี้ยวชอบใจ ก่อนต้องชะงักกึก

“อาคุงหลางสาวไข่มุก อีว่า…ชื่อเล่งซาหมัยเด็กของอาเพิงคือ เจ้าชายปาลาว เจ็กขอเลียก”

“ไม่ได้ครับ!” เขาเอ่ยเฉียบขาด ขอเป็นเพิงหมาแหงนแบบนี้ต่อไปยังดีกว่า

ชื่อเล่นนั่น เจ้าชายปลาดาว มีแต่ปู่เท่านั้นที่เขายอมให้เรียก นอกนั้นอย่าหวัง

เชฟกอร์กอนที่ยืนรออยู่ต้นทางน้ำไหล หรือเรียกให้ถูกว่าต้นทางอุโมงค์ลำเลียงอาหารถูมือถูไม้ กระชากมีดออกมาถือมั่นข้างละเล่ม เตรียมเฉือนเตรียมเสิร์ฟอาหารซึ่งน่าจะเป็นจานเนื้อซึ่งน้องสาวเขาโปรด ทว่า

ปู้ดดดด

แม้แต่ประธานหมิงยังต้องหุบปาก…ทิ้งช่วงให้บรรยากาศสงัด แต่กลิ่นราวกับไข่เน่านั้นไม่ยอมสงบตามไปด้วย

ปริ๊ดดดดดดด

“แค่กๆๆ” มุกอันดามันไอโขลก คล้ายช่วยกลบเกลื่อนให้คนของตัวเอง

ประธานหันมองเชฟ บีบจมูกอย่างชิงชังรังเกียจ ไม่มีพลาด เข็มพิษของเขาทำงานแล้ว มันคือเข็มหอยเม่นชนิดพิเศษที่คนทั่วไปไม่รู้จัก เพียงหักให้ละลายกับน้ำเชื่อม คนกินเข้าไปจะระบบทางเดินทวารล้มเหลวท้องเดินรุนแรงภายในไม่กี่นาที เพลิงพระสมุทรหยักยิ้มสาแก่ใจ นาทีนี้ไม่มีใครช่วยไอ้กอร์กอนหัวงูได้ นอกจากหมอ กับพยาบาล…

แปร่ดดดดดดดดดดดด

คราวนี้บ่งบอกว่าแถมเนื้อ

“ออก ไป ซะ”

เป็นมุกอันดามันที่ก้มหน้าข่มอารมณ์ ตัดใจชิงขับไล่เชฟส่วนตัวก่อนจะขายหน้าไปกว่านี้ เพลิงพระสมุทรคลึงคางเหลี่ยมของตัวเองเล่น นึกครึ้มสมปรารถนา

กอร์กอน แรมซีย์ สโนว์ โวยวายขอโอกาสไม่หยุดปาก อาละวาดแกว่งมีดสองมือจนถูกบอดี้การ์ดคู่ยักษ์ของน้องสาวช่วยกันลากคอออกไป…บรรยากาศตกอยู่ในความเงียบงัน สเปรย์ดับกลิ่นถูกนำมาฉีดพ่นไปรอบๆ ประธานหมิงสำลักคร่อกๆ เป็นน้ำหูน้ำตา

“ขอโทษแทนเชฟของน้องสาวด้วยนะครับ ท่านประธาน ไม่สิ อาเจ็ก” ไม่ยอมน้อยหน้า วันนี้แหละ เขาจะเล่นแบบทุ่มศักดิ์ศรีทิ้งไปหมดตัวชั่วคราว “เชฟใหญ่ที่นี่ไม่ได้มีคนเดียว ได้ข่าวว่าอาม้าของอาเจ็กมีเชื้อญี่ปุ่น อาหารมื้อนี้ต้องถูกปากแน่นอน” โดยยังอยู่ในท่านั่ง เขาหันไปโค้งน้อยๆ ให้คนของตนที่ลอบเข้ามาจากทางหนีไฟ และแอบใช้ครัวญี่ปุ่นเตรียมอาหารอยู่อีกส่วนแต่แรก “…คอนนิจิวะ สวัสดีมื้อเที่ยง ช่วยทำให้ซากุระบานแถวนี้ที มิยาซากิ มุซาโมโตะ…ซัง”

 



Don`t copy text!