โหงลำโขง บทที่ 1 : วิชาดาบอาทมาฏ (3)

โหงลำโขง บทที่ 1 : วิชาดาบอาทมาฏ (3)

โดย : ทศพล

Loading

โหงลำโขง โดย ทศพล เรื่องราวของจำปาและจำปีฝาแฝดที่งดงาม อ่อนหวาน เป็นที่รักใคร่ของทุกคนแต่สิ่งที่เห็นจะใช่ความจริงหรือเปล่า มีเพียงคนใกล้ชิดเท่านั้นที่จะสัมผัสและรับรู้ได้ โดยเฉพาะเมื่อเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงในสายน้ำโขง มีเพียงคนเดียวที่รอดชีวิต เธอคนนั้นคือใครกันแน่ นวนิยายคุณภาพที่อ่านเอานำมาให้คุณอ่านใน anowl.co

https://www.groovebooks.com/blog/นิยายใหม่จาก-groove-next-anowl-ลูกองุ่น-เปิดให้สั่งจอง-25-มี-ค-67/62

แม่เฒ่าต้วนยืนดูหลานชายด้วยความปลื้มปีติจนแทบจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ การได้เห็นหลานชายที่เลี้ยงดูมากับมือมีความสามารถเชี่ยวชาญการต่อสู้เช่นนี้ ทำให้แม่เฒ่าอดคิดไม่ได้ว่าถ้าพ่อกับแม่ของคูนยังมีชีวิตอยู่ คงจะภาคภูมิใจในตัวลูกชายคนนี้ไม่น้อยไปกว่าตนเองแน่นอน

“แม่เฒ่าขอรับ ไปชมพระอาทิตย์ขึ้นกันเถอะขอรับ”

คูนตะโกนชวนแม่เฒ่าพร้อมส่งรอยยิ้มให้ เขารีบวิ่งเข้ามาประคองแขนซ้ายแม่เฒ่าต้วนก่อนเดินไปชมพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้าที่มีหมอกจางๆ ปกคลุมพื้นที่ป่าแห่งนี้

“แสงของพระอาทิตย์ในมื้อนี้ เป็นสัญญาณของคำมั่นสัญญาที่เจ้าต้องทำ มันถึงเวลาแล้วที่เจ้าต้องล้างแค้นเพื่อพ่อกับแม่ของเจ้าเสียที”

พอนึกถึงเรื่องราวการเสียชีวิตของพ่อกับแม่คูนทีไร แม่เฒ่าต้วนก็รู้สึกเจ็บปวดในเบื้องลึกของความทรงจำทุกที “เจ้าจงเฮ็ดให้มันได้รู้สึกถึงความสูญเสียบ้าง ให้มันได้ชดใช้กรรมนี้อย่างหนัก”

“ได้ขอรับ หลานสิบ่เฮ็ดให้แม่เฒ่าผิดหวัง”

“แต่กรรมที่มันต้องได้รับ คือการมีลมหายใจอยู่อย่างตายทั้งเป็น”

“ได้ขอรับ” คูนนั้นพร้อมทำตามความต้องการของแม่เฒ่าต้วนทุกอย่าง

ไม่ว่าจะเป็นการฝึกฝนวิชาการต่อสู้ทุกแขนง รวมถึงล่ำเรียนวิชาอาคมทางด้านมืดตั้งแต่ยังเด็ก ล้วนแล้วมีจุดประสงค์เดียวเท่านั้น คือ เพื่อล้างแค้นคนที่ฆ่าพ่อกับแม่ของเขานั่นเอง

กว่าที่แม่เฒ่าจะปลูกความแค้นนี้เข้าไปฝังรากลึกในจิตใจของคูนได้ ต้องใช้เวลาอยู่นานหลายปี ในการเข้าถึงความรู้สึกของการสูญเสียทุกสิ่งที่เคยเป็น จากการถูกทำลายลงอย่างเลือดเย็นโดยฆาตกรที่สร้างภาพว่าตนเป็นคนดี

…เหตุการณ์ก่อนเมื่อ 15 ปีที่แล้ว

เช้าอันแสนสดใส หมู่สัตว์ป่าต่างออกหากินตามประสา ทุกวันที่พระอาทิตย์โผล่ขึ้นจากท้องฟ้า แม่เฒ่าต้วนมักจะเดินออกไปสูดอากาศรับแสงยามเช้าที่ริมขอบหน้าผา ทุกอย่างดูเป็นปกติตามประสาคนแก่ที่ต้องมาอาศัยหลบซ่อนผู้คนเพื่อความปลอดภัย

“แม่เฒ่า อยู่ไส แม่เฒ่า เจ้าอยู่ไส” น้ำเสียงของแม่หญิงดังขึ้นจากด้านในของป่า มันเป็นเสียงที่ปนความหอบเหนื่อย ฟังแล้วคล้ายกับคนกำลังวิ่งหนีอะไรบางอย่างมาและต้องการความช่วยเหลือ

แม่เฒ่าต้วนจำเสียงนี้ได้ดี สีหน้าและท่าทางบ่งบอกว่าไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ ก่อนรีบเดินด้วยไม้เท้าเข้าไปในป่าอย่างเร็วที่สุด ไม่นานนักก็เห็นแม่หญิงคนหนึ่งกำลังวิ่งพร้อมกับอุ้มลูกทารกน้อยไว้ในอ้อมอก เหงื่อไหลอาบหน้า ผมเผ้ากระเซอะกระเซิง แถมผ้าซิ่นยังเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดที่ไหลอาบท่วมตัว

“แม่ใหญ่จูม” แม่เฒ่าต้วนอุทานขึ้นด้วยความตกใจก่อนรีบเดินเข้าไปหา “เกิดอะไรขึ้น”

“ช่วยพาเด็กนี้หนีไปทีแม่เฒ่า” แม่จูมรีบยื่นทารกน้อยที่ร้องดังลั่นให้แม่เฒ่าอย่างกระหืดกระหอบ

แม่เฒ่าต้วนรับทารกนั้นมาอุ้มไว้ก่อนใช้มนตร์สะกดให้เด็กคนนี้หยุดร้องไห้ ภายในใจแม่เฒ่าล้วนมีคำถามมากมายที่ต้องการคำตอบ ทุกอย่างช่างเกิดขึ้นรวดเร็วจนไม่ทันตั้งตัว

“รีบไปเถอะจ้ะ รีบหนีไปให้เร็ว ข่อยฝากลูกนำเด้อแม่” สองมือของแม่จูมพยายามผลักตัวแม่เฒ่าให้รีบพาลูกของตนวิ่งหนีไป เพราะดูจากสภาพตัวเองแล้วคงวิ่งต่อไปไม่ไหวแน่ๆ แรงที่มีก็จวนจะหมดลงทุกที ขืนยังฝืนวิ่งต่อไป คงได้ตายกันหมดทั้งแม่ทั้งลูกแน่

แม่เฒ่าต้วนเห็นเช่นนี้ก็รู้สึกสลดใจ จากนั้นแม่เฒ่าก็จำใจทำตามคำขอร้องของแม่จูม ขณะที่กึ่งเดินและกึ่งวิ่งอยู่นั้น แม่เฒ่าก็หันหลังกลับไปมองแม่จูมที่กำลังนอนนิ่งอยู่บนพื้น ราวกับคนกำลังนอนรอความตายเข้ามาเยือน

พอวิ่งไปได้ไกลสักระยะ เสียงของแม่จูมก็ดังขึ้นอย่างโหยหวนจากนั้นก็เงียบลง แม่เฒ่าต้วนรู้สึกใจคอไม่ดี จึงตัดสินใจวิ่งกลับไปตามเส้นทางเดิม แม่เฒ่าถึงกับทรุดตัวลงไปนั่งกับพื้นดินด้วยความเจ็บปวดไปทั้งดวงใจ เมื่อเห็นแม่จูมถูกดาบปักไปที่กลางหน้าอก นอนตายแน่นิ่งข้างๆ ศพของผู้เป็นสามี

แม่เฒ่าแอบซุ่มมองด้วยแววตาสะท้อนความเจ็บปวดออกมาอย่างเต็มเปี่ยม แม่เฒ่าเห็นพ่อชายคนหนึ่งกำลังดึงดาบออกมาจากร่างของศพทั้งสอง ก่อนพูดออกมาว่าเบาๆ ใต้ลำคอ “บักคำมั่น มึงฆ่าแม่ใหญ่จูมและพ่อใหญ่ตีบ สักวันกูสิแก้แค้นมึง”

หลังจากเหตุการณ์วันนั้นแม่เฒ่าต้วนก็ปะติดปะต่อเรื่องราวได้ว่าแม่จูมอุ้มลูกหนีมา โดยมีท้าวตีบวิ่งตามและคอยสกัดกั้นท้าวคำมั่นเอาไว้ระหว่างทาง ด้วยแรงกายอาจมีไม่มากพอ จึงได้พลาดถูกคมดาบของท้าวคำมั่นเข้าจนเสียชีวิต พอท้าวตีบเสียชีวิตลงไปแล้ว ผู้ที่มีสิทธิ์ขึ้นเป็นผู้นำชนเผ่าคนใหม่คนต่อไปก็คือ ‘ท้าวคำมั่น’

จากเหตุการณ์ในวันนั้น แม่เฒ่าจึงได้เลี้ยงดูทารกน้อยนี้ด้วยความรักและตั้งชื่อให้ใหม่ว่า ‘คูน’ ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา…

พอนึกภาพคนคนหนึ่งถูกดาบเสียบที่กลางหน้าอกทีไร สองกำปั้นของแม่เฒ่าต้วนยิ่งกำแน่นขึ้นจนสั่นด้วยความแค้น แม้อยากจะฆ่าฆาตกรนั่นอยู่ทุกคืนวัน แต่ก็ต้องการให้มันได้ลิ้มรสความเจ็บปวดทุกข์ทรมานจิตใจเหมือนกับที่ตนและหลานชายเผชิญเช่นกัน เช่นนั้นจึงมีเพียงทางเลือกเดียวที่จะทำให้คนชั่วได้รู้สึกถึงการรับกรรมนี้อย่างหนัก คือการทำให้มันมีลมหายใจอยู่อย่าง ‘ตายทั้งเป็น’



Don`t copy text!