เมฆพรางจันทร์ บทที่ 2 : ความสัมพันธ์ซับซ้อน
โดย : คุณหญิง ร่ำรวยมหาศาล
เมฆพรางจันทร์ นวนิยายโครงการช่องวันอ่านเอาปีที่ 2 โดย คุณหญิงร่ำรวยมหาศาล กับเรื่องราวของว่าที่เจ้าสาวที่วิญญาณหลุดออกจากร่างกับข้อแม้ที่หากอยากฟื้นคืนชีวิตต้องทำภารกิจให้กับยมฑูตหนุ่ม แต่เอ๊ะ! ทำไมอยู่ๆ หัวใจเธอถึงรู้สึกแปลกๆ กับเขานะ มาร่วมลุ้นกับภารกิจและหัวใจที่สั่นไหวของเธอในอ่านเอากับนวนิยายออนไลน์สนุกๆ เรื่องนี้
หลังจากลองชุดแต่งงานที่ร้านยอดชีวินเสร็จ มาสอาภาจึงเดินมาที่รถยนต์ตัวเอง ซึ่งจอดอยู่หลังร้านของชีวิน หญิงสาวพลิกข้อมือขึ้นดูเวลาบนนาฬิกาเรือนหรู แล้วพบว่ายังมีเวลาเหลือพอ ก่อนจะไปงานเลี้ยงรุ่นของมหาวิทยาลัย จึงตัดสินใจไปชวนภาณุรุจไปงานด้วยตัวเอง เพราะอีกไม่นานก็จะแต่งงานกันแล้ว จึงอยากจะควงว่าที่เจ้าบ่าวสุดหล่อไปอวดเพื่อนฝูงบ้าง ภาณุรุจทำงานเป็นหัวหน้าฝ่ายการตลาดในบริษัทแสงสยาม เบฟเวอเรจ ของคุณศศิน บิดาของเธอเอง
แสงสยาม เบฟฯ ของบิดามีหลากหลายผลิตภัณฑ์ และหลายแบรนด์ จัดจำหน่ายทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ สินค้าตัวหลักของธุรกิจกรุ๊ปแสงสยาม เบฟฯ คือเครื่องดื่มชูกำลังชื่อดังติดตลาดอย่าง ‘สตาร์ท อัพ’ กลุ่มเครื่องดื่มฟังก์ชันนอล ดริงก์ ยี่ห้อ ‘โซ บิวตี้’ และยังมีกลุ่มเครื่องดื่มจำพวกชาเขียวยี่ห้อ ‘โอฉะ’ อีก
นอกจากผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มแบรนด์ตัวเองแล้ว แสงสยาม เบฟฯ ยังรับจ้างผลิตสินค้าประเภทเครื่องดื่มแบบครบวงจร ซึ่งผลิตภัณฑ์อาหารเสริม เซเลนา วิงก์ ของเธอก็เช่นกัน
ทว่ามาสอาภาไม่ยอมให้สินค้าของเธอ เปิดตัวในกรุ๊ปของ แสงสยาม เบฟฯ เธอต้องการพิสูจน์ให้คนอื่นเห็นว่า บุตรสาวของคุณศศิน เก่งและมีความสามารถมากพอที่จะตั้งบริษัทของตัวเองได้โดยไม่ต้องพึ่งพาบารมีบิดา
โชคดีอย่างที่สุดของเธออีกอย่างคือ บิดามารดารักใคร่กลมเกลียว คุณศศินไม่มีบ้านเล็กบ้านน้อย เธอจึงไม่ต้องปวดหัวแย่งชิงสมบัติกับใคร และคงแบ่งกันอย่างเท่าเทียมกับ พสุธา ที่ถึงแม้จะเป็นพี่ชายบุญธรรม แต่พ่อกับแม่ของเธอก็เลี้ยงดูอุ้มชูเขามาตั้งแต่เด็ก ก่อนเธอเกิดมาด้วยซ้ำ
ภาณุรุจเป็นเพื่อนกับพสุธา มาสอาภาพบเขาในวันเปิดตัวเครื่องดื่ม ‘โซ บิวตี้’ ของบริษัทเมื่อสองปีที่แล้ว ตอนนั้นเธอเพิ่งเรียนจบมหาวิทยาลัย ยอมรับว่าถูกใจรูปร่างหน้าตาของภาณุรุจมาก และยิ่งรู้ว่าเขาเป็นเพื่อนกับพี่ชาย มาสอาภาจึงไม่รีรอเดินหน้าจีบเต็มที่
คิดเรื่องนี้ขึ้นมาแล้วก็ขำตัวเอง ไม่รู้เหมือนกันว่า ทำไมถึงได้ชอบ และหลงใหลได้ปลื้มเขามากขนาดนั้น และทุกคนก็เห็นดีเห็นงามด้วยว่าเธอกับเขาเหมาะสมกัน
ชีวิตเธอดีเลิศ สมบูรณ์แบบ รักก็รุ่ง งานก็พุ่งขนาดนี้ ยังจะมีเคราะห์กรรมอะไรได้อีก… เพราะความฝันเมื่อคืนเลยที่ทำให้วุ่นวายใจไม่หาย
“อ้าว… ยัยมาส มาทำอะไรที่บริษัทเหรอ”
เสียงพสุธาร้องทักขึ้น เมื่อเธอเดินออกจากลิฟต์มายังชั้นซึ่งเป็นห้องทำงานของผู้บริหาร มาสอาภาหันไปมองผู้ชายใส่แว่น รูปร่างสูงเพรียวในชุดสูทหรูตรงหน้าพร้อมกับรอยยิ้ม
“มาสมาหาพี่รุจค่ะพี่ดิน ว่าจะชวนพี่รุจไปงานเลี้ยงรุ่นมหาลัยของมาสด้วยกันสักหน่อย” คนเป็นน้องบอกเสียงใส ก่อนจะเดินเข้าไปคล้องแขนเขาอย่างประจบประแจง “แต่มาเจอพี่ดินก็ดีเลยนะคะ มาสกำลังอยากจะขอคำปรึกษาเรื่องผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ของมาสอยู่พอดี”
พสุธามองหน้าคนเป็นน้องสาว พร้อมกับบอกเสียงเรียบ “ไปคุยที่ห้องทำงานพี่กันเถอะ”
หัวข้อการสนทนากับพี่ชาย ถึงความต้องการเพิ่มผลิตภัณฑ์อาหารเสริมอีกหนึ่งตัว ได้รับการชื่นชม พร้อมกับคำตอบรับที่จะช่วยเหลือเรื่องการจัดการด้านต่างๆ ให้เธออย่างเรียบร้อย แค่นี้มาสอาภาก็เบาใจ
“ดีใจจังที่พี่ดินคิดเหมือนมาสว่า ควรจะเพิ่มสินค้าเกี่ยวกับสุขภาพอีกหนึ่งตัว”
“โพรเจคเราฟังดูดีเลยนะ คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลตัวเอง ไม่ได้กินอาหารที่ดี และพักผ่อนอย่างเพียงพอ พี่ว่าสินค้าตัวใหม่ของเราตอบโจทย์คนวัยทำงาน แล้วยังสอดคล้องกับ เซเลนา วิงก์ ตัวหลักของเราที่ช่วยเรื่องผิวพรรณด้วย ไปทำแผนมาได้เลย เดี๋ยวพี่ดูให้อีกที”
คนถูกชมยิ้มกว้าง ภาคภูมิใจในตัวเองจนปิดไม่มิด “ได้เลย มาสจะรีบไปจัดการ เพราะมาสคิดไว้แล้วว่าพี่ดินต้องโอเค และต้องออกมาดีมากด้วย”
“จ้า แม่คนเก่ง”
“ถ้าอย่างนั้นก็ตกลงตามนี้ มาสไปหาพี่รุจก่อนนะ”
ยังไม่ทันที่มาสอาภาจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ คนที่เธอกำลังจะไปหาเปิดประตูเข้ามาในห้องทำงานของพี่ชายพอดี
มาสอาภาหันไปมองผู้ชายตัวสูง รูปร่างดีในชุดสูทภูมิฐานอย่างชื่นชมออกนอกหน้า เขาดูดีทุกกระเบียดนิ้ว เป๊ะไปหมดทุกจุด ทั้งเสื้อผ้าหน้าผม ดวงตาคมสีดำสนิทของเขามีแววน่าค้นหาตลอดเวลา
“พี่รุจมาพอดีเลย” หญิงสาวร้องทักคนเข้ามาใหม่ ก่อนจะลุกไปเกาะแขนคู่หมั้นหนุ่ม “มาสกำลังจะไปหาพี่รุจพอดีเลยนะ”
ภาณุรุจมองพสุธาแล้วขยับปาก เหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง แต่แล้วริมฝีปากหยักได้รูปนั่นเลือกจะคลี่ยิ้มให้คู่หมั้นสาวแทน
“อืม… มาสมาหาพี่มีอะไรหรือเปล่า”
มาสอาภาไม่เคยสนใจท่าทีของใครเท่าไหร่นัก เธอรู้แค่เพียงว่าถ้าเธอรักใคร คนนั้นก็ต้องรักเธอตอบเช่นกัน ปฏิกิริยาผิดปกติเล็กน้อยของภาณุรุจ จึงไม่ทำให้มาสอาภารู้สึกสะกิดใจอะไร
“มาสจะมาชวนพี่รุจไปงานเลี้ยงรุ่นของมหาวิทยาลัยด้วยกันค่ะ”
คนถูกชวนเลิกคิ้ว “พี่ไม่ได้เรียนที่นั่น”
“แต่พี่รุจกำลังจะแต่งงานกับเด็กที่นั่นไง” เจ้าหล่อนกระเง้ากระงอดใส่คนรักที่ดูเฉยชา… ไม่หรอก งานพี่รุจน่าจะเยอะ และหนักเอาการ เพราะได้ยินพ่อบอกว่า อยากจะเปิดแบรนด์เครื่องดื่มกลุ่มฟังก์ชันนอล ดริงก์ สำหรับผู้ชายโดยตรงอีกหนึ่งยี่ห้อ เพราะฉะนั้น ฝ่ายการตลาดคงต้องรวบรวมข้อมูลกันหนักน่าดู
“แกก็ไปเป็นเพื่อนยัยมาสหน่อยแล้วกันรุจ คงไม่ได้กลับดึกอะไรหรอก” พสุธาคงจะทนรำคาญเธอไม่ไหว “ยัยมาสมันจะได้ไปสักที ฉันจะได้ทำงาน”
“โห ! พี่ดิน มาสน่ารำคาญขนาดนั้นเชียวเหรอ… นี่มาสเอง มาสไง น้องสาวพี่ไงคะพี่ชาย” คนเป็นน้องเลยหันไปโจมตีพี่ชายที่นั่งหัวเราะในลำคอกับท่าทางแยกเขี้ยวใส่ของเธอ
ภาณุรุจถอนหายใจ เหลือบตามองคนใส่แว่น ซึ่งเป็นเจ้าของห้องทำงานนี้พ่วงตำแหน่งว่าที่พี่เมียด้วยสายตาคล้ายไม่พอใจนิดหน่อย
“อืม… ไปก็ไป”
งานเลี้ยงรุ่นของมหาวิทยาลัยถูกจัดขึ้นที่ร้านอาหารบรรยากาศสบายๆ ร้านหนึ่ง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยมากนัก
มาสอาภาไม่ใช่คนเรียนเก่งอะไร แต่เธอก็เรียนจบจากมหาวิทยาลัยรัฐบาลชื่อดัง แม้จะเป็นหลักสูตรภาคพิเศษที่ต้องจ่ายค่าเทอมแพงกว่าปกติสามเท่าก็ตาม จำนวนคนในคณะบริหารการจัดการของเธอ รับเพียงห้าสิบคนต่อปีการศึกษา ทว่าเรียนไปเรียนมาก็เหลือกันอยู่แค่สี่สิบคนเท่านั้น
สี่สิบคน… กว่าจะรวมตัวกันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต่างคนต่างก็มีหน้าที่รับผิดชอบแตกต่างกันไป วันนี้จึงมีคนมาร่วมงาน น่าจะราวๆ ไม่ถึงยี่สิบคนดี
ซึ่งกลุ่มเพื่อนสนิทของมาสอาภา มาร่วมงานเลี้ยงรุ่นวันนี้ด้วย เธอจึงตัดสินใจไปชวนภาณุรุจมาเป็นเพื่อน
แหม… มีคู่หมั้น แต่ไม่ได้ควงมาอวดใคร… จะว่าไปก็อวดแค่ในโซเชียล มันไม่เหมือนอวดตัวจริงสักหน่อย
“ยัยมาส มาได้สักทีนะเธอ” เพื่อนสาวคนหนึ่งโบกไม้โบกมือร้องทัก
“อือ… รถติดนิดหน่อย” คนมาช้าบอกน้ำเสียงสบายๆ เพราะไม่ได้รีบร้อนอะไร มันเป็นความจงใจด้วยซ้ำที่มาช้าที่สุด เพื่อให้เด่นที่สุด ก่อนจะหันไปบอกคนมาด้วย “พี่รุจนั่งเลยค่ะ อ้อ… เพื่อนทุกคนคะ นี่พี่รุจ… ว่าที่เจ้าบ่าวของมาสเอง วันนี้มาสเอาการ์ดมาแจกด้วย ยังไงก็ไปงานแต่งมาสกันนะ”
“พี่รุจของเธอ ตัวจริงนี่หล่อมากเลยมาส ขาว ใส เชียว” เพื่อนคนหนึ่งเอ่ยขึ้น “ปกติเห็นแต่ในไอจีของเธอ”
“แน่นอน นี่ผู้ชายของมาสนะ ของที่มาสอาภาเลือกแล้ว ก็ต้องพรีเมียมสิจะเอาผู้ชายโลว์เกรดได้ยังไง” มาสอาภาเชิดหน้าขึ้นโดยอัตโนมัติยามเมื่อโอ่ด้วยความภูมิใจ โดยไม่ได้มองปฏิกิริยาของ ‘ของ’ ที่ตัวเองเลือกแล้วเลยสักนิด
เหล่าคนฟังทั้งหลายหน้าจืดเจื่อนไปตามๆ กัน แต่ก็เป็นปกติของเจ้าหล่อนอยู่แล้วที่จะพูดอะไรโดยไม่ได้คิดมาก หรือไม่ได้สนใจความรู้สึกของคนฟัง
“เราขอแสดงความยินดีกับมาสด้วยนะจ๊ะ” รจเรข… เพื่อนที่ชื่นชมมาสอาภามากกว่าใครเอ่ยขึ้นจากใจจริง นั่นเพราะอีกฝ่ายดีกับเธอ เหตุการณ์ประทับใจในตัวเพื่อนสาวคนนี้ที่สุดคือ ช่วงปีการศึกษาสุดท้าย บ้านของเธอมีปัญหา ทำให้ไม่สามารถจ่ายค่าเทอมได้ทัน มาสอาภาเห็นเธอนั่งร้องไห้จึงเข้ามาสอบถาม แล้วก็จัดการปัญหาให้เธอทุกอย่าง
หลังจากวันนั้น ไม่ว่าใครจะว่าอะไรมาสอาภา รจเรขไม่เคยร่วมด้วย แต่จะคอยแก้ต่างให้เพื่อนคนนี้เสมอ
“ขอบใจมากนะรจ… แล้วที่บ้านเป็นยังไงบ้างล่ะ” มาสอาภาเอ่ยถามอย่างห่วงใย ขณะที่เธอกำลังฟังรจเรขเล่าเรื่องราวให้ฟังอยู่นั้น ก็มีเพื่อนเข้ามาชวนคุย และแสดงความดีใจด้วยตลอด คนที่เจ้าหล่อนพามาด้วยก็นั่งถอนหายใจเบื่อๆ พร้อมกับยกนาฬิกาขึ้นมาดูเวลาบ่อยครั้ง และเมื่อเห็นท่าทางการพูดคุยกับคนโน้นคนนี้ของว่าที่เจ้าสาวจะยืดเยื้อ เขาจึงขอตัวไปคุยธุระด้านนอกสักครู่
มาสอาภาทำแค่พยักหน้าเบาๆ ก่อนจะกลับไปคุยกับเพื่อนต่อ
ภาณุรุจยืนมองกระถางต้นไม้บริเวณใกล้ลานจอดรถ เพื่อระงับความหงุดหงิดในใจ เขารู้ดี รู้อยู่เต็มอกว่า… ผู้หญิงคนนั้นมอบให้เขาได้ทุกอย่างที่ปรารถนา ไม่ว่าจะเป็นความก้าวหน้า ชื่อเสียง อาชีพ ฐานะ และหน้าตาทางสังคม
แต่การที่เจ้าหล่อนทำเหมือนเขาเป็นแค่กระเป๋าแบรนด์เนมเก๋ๆ สักใบ เอาไว้ถือมาอวดคนนั้น คนนี้ บางครั้งมันก็สุดจะทน !
‘ยัยมาสก็เป็นแบบนี้แหละรุจ ขี้เห่อแล้วก็ขี้เบื่อ คิดดูสิ พอได้กระเป๋าใหม่มาใบหนึ่ง ก็จะเห่อ เที่ยวหิ้วไปอวดคนโน้น อวดคนนี้ แต่ฉันเห็นเห่ออยู่ไม่นานนะ ก็เอาไปเก็บใส่ตู้แล้ว แถมไม่หยิบมาถืออีกด้วย ฉันได้แต่หวังว่ากับคน… คงไม่เหมือนกัน’
คำพูดของพสุธายังก้องในหู มือหนากำเข้าหากันแน่น ต้องอดทนอีกนานแค่ไหนกัน ความอึดอัดคับข้องเหล่านี้ จึงจะผ่อนคลายลง
มือหนาหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าเสื้อสูทด้านใน ต่อสายหาปลายทาง แล้วกรอกเสียงอ่อนหวานเจือด้วยความรักล้นปรี่ลงไป
“คืนนี้ผมไปหานะ… แต่อาจจะดึกสักหน่อย”
มาสอาภาเขม้นมองร่างสูงของคู่หมั้นหนุ่มกำลังเก็บโทรศัพท์ ดวงตากลมโตฉายแววงุนงง ระคนสงสัย
ดึกป่านนี้พี่รุจจะไปหาใครอีก
ไวเท่าความคิด ร่างบางเดินฉับๆ ไปหาเขาทันที
“พี่รุจคะ มาสเห็นพี่หายออกมานาน เป็นอะไรหรือเปล่าคะ” ถามพลางค้นหาร่องรอยความผิดปกติของคนตรงหน้าอย่างถ้วนถี่ แต่เมื่อไม่พบอะไรผิดปกติ หรืออาจจะเป็นเพราะเขาซ่อนมันไว้อย่างมิดชิด ซึ่งเธอก็ฉลาดพอที่จะไม่ซักไซ้ไล่เรียงให้ตัวเองไม่สบายใจ
คนรักอาจจะนอกใจ ตีตัวออกห่าง มาสอาภาได้ยินเสียงคำทำนายความฝันดังขึ้นข้างหู
“พี่ไม่ได้เป็นอะไร แค่รู้สึกคนเยอะแล้วมึน เลยออกมายืนสูดอากาศตรงนี้สักพัก”
“ถ้าอย่างนั้นกลับบ้านกันไหมคะ พี่รุจคงเหนื่อย” เธอบอกง่ายๆ แต่ในใจอดระแวงไม่ได้ ทว่าเลือกไม่แสดงออก “มาสขอเข้าไปบอกเพื่อนก่อนนะคะ”