พรายผูกรัก : บทนำ

พรายผูกรัก : บทนำ

โดย : กมลภัทร

พรายผูกรัก โดย กมลภัทร นวนิยายออนไลน์ ที่เรื่องเล่าถึง ‘ปริตา’ หญิงสาวที่ถูกวิญญาณเมื่อครั้งอดีตติดตามเธอไปทุกที่โดยไม่รู้ว่าวิญญาณตนนั้นมาดีหรือร้าย แถมยังพาเธอให้พบกับชายหนุ่มผู้ทำให้หัวใจของเธอหวั่นไหว นิยายสนุกๆ น่าติดตามเรื่องนี้ มีให้อ่านที่อ่านเอาที่เดียว

****************************

– บทนำ –

สนับสนุนอ่านเอาด้วยการสั่งซื้อหนังสือ “ในสวนอักษร” คลิกที่นี่

ลำแสงสีขาวนวลกวาดไปตามกลุ่มเรือนไม้หลังเล็กดูเก่าคร่ำคร่าใกล้ผุพังที่ซุกซ่อนอยู่หลังแนวไม้รกร้างไม่ไกลจากเรือนไทยหลังใหญ่ที่อยู่ภายในเขตรั้วเดียวกัน ชายหนุ่มวัยราวยี่สิบกว่าปีสองคนเดินผละจากเพื่อนทีมงานรายการโทรทัศน์ที่กำลังรอเวลาถ่ายทำอยู่ที่เรือนไม้หลังใหญ่ คนที่เดินตามหลังดูมีสีหน้าหวั่นเกรงกับสิ่งที่ทำส่วนผู้ที่ถือกระบอกไฟฉายนำหน้านั้นดูตื่นเต้นกับสิ่งที่ได้เห็นตรงหน้า แววตานั้นเหมือนเด็กน้อยที่กำลังอยากรู้อยากเห็น

“มันต้องแบบนี้สิวะ ท้าผีหลอกทั้งที ขนทีมงานไปอยู่เต็มเรือนใหญ่ ไม่เห็นได้บรรยากาศเลย”

“มึงก็กล้าเกินไปหรือเปล่าวะไอ้บอม คนอื่นเขาก็มาทำงานกันไม่มีใครคิดจะทำอะไรแผลงๆ เหมือนมึงเลยสักคน”

“ทำรายการผีมาตั้งหลายปี มึงจะปอดแหกกับเรื่องแค่นี้เนี่ยนะไอ้อาร์ม”

“มันเหมือนกันเสียที่ไหนเล่า เวลาถ่ายทำรายการทีมงานเยอะแยะ ไฟสว่างโร่ แต่มึงเล่นแอบมาทำอะไรคนเดียว”

“พูดอย่างกับมึงไม่ใช่คน” คนชื่อบอมส่ายหัว มองสำรวจกลุ่มเรือนตรงหน้าแล้วเอ่ยต่อ “กูว่าตรงนี้น่าจะเป็นเรือนของพวกทาส สภาพดูเก่ากว่าเรือนใหญ่เยอะเลย คงไม่มีใครคิดจะซ่อม กูอยากรู้ว่ะ ว่าข้างในเรือนมันเหมือนในละครหรือเปล่า”

“จะดีเหรอวะ”

“ถ้ามึงไม่อยากเข้าไปก็รอตรงนี้ หรือไม่ก็กลับไปก่อนเลย”

“ให้กูรอมึงตรงนี้ ไม่ก็เดินกลับไปคนเดียวเนี่ยนะ” คนชื่ออาร์มเกาะแขนเพื่อนร่วมงานแน่น “ไม่เอาโว้ย…มาด้วยกันก็เข้าไปด้วยกันนี่แหละ”

เสียงพื้นไม้ลั่นเอี๊ยดทุกย่างก้าวที่ชายทั้งสองเหยียบลงบนพื้นเรือนเก่า ยิ่งกระตุ้นแรงบีบบนต้นแขนของบอม

“จะบีบอะไรนักหนา แขนกูช้ำหมดแล้วนะไอ้อาร์ม”

“ก็กูกลัวนี่…นี่ถ้าไม่ติดตังค์มึงไว้แล้วมึงบังคับให้กูมาเป็นเพื่อน จ้างให้กูก็ไม่มาเหยียบหรอกที่แบบนี้น่ะ น่ากลัวฉิบหาย”

แสงไฟฉายในมือบอมกวาดไปทั่วภายในเรือนขนาดเล็กหลังจากที่เปิดประตูเผยให้เห็นสภาพภายในที่รกร้าง เต็มไปด้วยฝุ่นและหยากไย่

“ไม่โดนผีหลอกตาย ก็คงจะสำลักฝุ่นตายแน่เลยว่ะ…ฝุ่นเยอะฉิบ” คนใจเสาะกว่าบ่นอุบ “พอได้ยังวะไอ้บอม เดี๋ยวเขาเรียกหาแล้วไม่เจอ จะโดนกันทั้งคู่นะโว้ย!”

“กูดูเวลาอยู่ มึงอย่าปอดแหกหน่อยเลย”

บอมสะบัดแขนอย่างรำคาญใจที่ถูกเกาะไม่ปล่อย คนที่เกาะแขนเพื่อนเอาไว้แน่นไม่ทันตั้งตัวเลยเซถลาไป ล้มก้นกระแทกกับแคร่ไม้ไผ่ น้ำหนักของชายหนุ่มที่ล้มลงไปทับผนวกกับความเก่าคร่ำคร่าของมันทำให้แคร่ไม้ไผ่นั้นพังลงทันที

“โอ๊ย!”

คนที่เห็นเพื่อนล้มก้นจ้ำเบ้าหัวเราะร่วน

“ขำอะไรของมึงวะ ไอ้บอม…กูเจ็บนะโว้ย ช่วยดึงกูลุกขึ้นหน่อยสิวะ”

“ของมันเก่าแล้วมึงกระโดดลงไปนอนแบบนั้นมันก็พังสิ” คนที่ถือกระบอกไฟฉายอยู่ส่องไฟลงบนแคร่ที่ตอนนี้พังครืนลงไป “มีของอะไรอยู่ใต้นี้ก็ไม่รู้ด้วยว่ะ กูได้ยินเสียงเหมือนของแตก”

“อะไรจะแตกก็ช่างหัวมันก่อนได้ไหม ดึงกูขึ้นที”

“โอเคๆ”

อาร์มยึดแขนเพื่อนและพยายามพยุงตัวขึ้นมาแรงดึง สูดปากเพราะรู้สึกได้ถึงความแสบผิวหนังบริเวณท่อนแขน

“ได้เลือดแน่เลย แสบฉิบ…มึงสนุกพอหรือยังวะ รีบพากูไปทำแผลเลย ถ้ากูเป็นบาดทะยักตาย กูจะเป็นผีมาหักคอมึงคนแรก”

“กลัวตายละ เป็นคนมึงปอดแหกขนาดนี้ ตายเป็นผีกูว่ามึงยังกลัวตัวเองเลยว่ะไอ้อาร์ม”

“กูไม่เล่นนะเว้ย แสบจะตายอยู่แล้วเนี่ย”

“เออๆ พอก็ได้วะ มึงนี่ทำเอากูหมดสนุกเลย ยังหัวค่ำอยู่แท้ๆ กลัวห่าอะไรไม่เข้าเรื่อง”

สองหนุ่มทีมงานรายการโทรทัศน์เดินผละออกไปจากเรือนก่อนจึงไม่ทันได้เห็นว่าเริ่มมีแสงเรืองส่องลอดออกมาจากช่องว่างของแคร่ไม้ไผ่ที่แตกพังลงกับพื้น แสงนั้นฉายวูบวาบไปมาอยู่ครู่หนึ่งก่อนร่างหนึ่งจะปรากฏขึ้นเหนือแคร่

นางทาสสาววัยราวยี่สิบปีฟุบหมอบอยู่บนแคร่ไม้ก่อนจะค่อยเงยหน้าขึ้นมองไปรอบตัว เห็นสภาพของเรือนแล้วดวงตาคู่นั้นก็เบิกกว้างอย่างตื่นตระหนก

เพียงครู่นางก็ลุกขึ้นเดินออกจากเรือน มองไปรอบกลุ่มเรือนไม้เก่าผุพังด้วยอาการประหลาดใจ ครั้นเมื่อสายตาคู่นั้นกวาดไปถึงเรือนใหญ่ซึ่งยังคงสภาพดีในแบบที่เคยคุ้นตานางทาสผู้นั้นก็รีบเดินรี่ไปยังทิศทางนั้นทันที

ผู้คนมากหน้าหลายตาเดินไปมาอยู่บนเรือนใหญ่ ต่างแต่งกายแบบที่นางอุ่นไม่เคยเห็นมาก่อน นอกจากตัวเรือนไม้แล้วทุกอย่างดูแปลกตาไปหมด เสาเหล็กหลายต้นถูกจัดวางเอาไว้โดยรอบปลายเสามีกล่องที่ส่องแสงสว่างจ้า มีสายระโยงระยางอยู่เกลื่อนพื้นเรือน ที่มุมหนึ่งนางเห็นชายหญิงนั่งมองกล่องสี่เหลี่ยมที่มีภาพของสิ่งที่เกิดขึ้นภายในเรือนปรากฏอยู่

กลุ่มชายหญิงที่กระจายตัวกันอยู่ทั่วเรือนนั้น บางคนถืออะไรบางอย่างแนบกับหูแล้วพูดอะไรอยู่คนเดียว บางคนก็ถือมันแล้วใช้นิ้วกดรัวลงไป บ้างก็เพียงมองดูแล้วหัวเราะคิกคัก กล่องสี่เหลี่ยมบางที่มีแสงและเสียงออกมาในมือคนเหล่านั้นเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่นางอุ่นไม่คุ้นเคย

“คนพวกนี้มาทำอะไรที่นี่…นี่มันผ่านมานานเท่าใดกันนี่”

คำถามนั้นไม่มีใครให้คำตอบ หรือจะว่าไปแล้ว ไม่มีใครในที่นั้นได้ยินสิ่งที่นางพูดเลยแม้แต่คนเดียว

 



Don`t copy text!