รักหนักแน่น บทที่ 2 : ไอ้หนุ่มผมยาว

รักหนักแน่น บทที่ 2 : ไอ้หนุ่มผมยาว

โดย : เอกวีย์

Loading

ความรักระหว่าง พร้อม – พิริยะภัทร์ ชายหนุ่มไม่หวือหวาแต่ดีพร้อม และ ใบเตย – บาจรีย์  เจ้าของสโลแกน ‘ทำบุญ สวยชาติหน้า ผ่านม อึ๋มชาตินี้’ จะหวานจนสำลักหรือจะหนักหน่วงขนาดไหน มาลุ้นไปพร้อมกันใน รักหนักแน่น โดย เอกวีย์ นิยายออนไลน์ แนวโรแมนติกคอมเมดี้ ที่อ่านเอา อยากให้คุณได้ อ่านออนไลน์

**********************

– 2 –

ความหลังอันแสนโหดร้าย…

‘แอบดูหนุ่มเหรอยายเตย’

‘ไอ้บ้าตอง มาเงียบๆ ตกใจหมด’

‘เออ ผู้ชายสะพายกล้องนี่ทำให้ดูดีขึ้น ๓๐% หน้าพี่เขาดูแนวดีอะ ผมไถข้าง มัดจุก โครตเท่’

‘มีลักยิ้มด้วยแก ดูเซอร์ แต่ก็เหมือนขี้อาย ยิ้มโคตรสวย คนอะไรยิ้มทั้งปากทั้งตา’

‘เฮ้ย ดูละเอียดจริงจัง ดังนะคนนี้ เป็นนักร้อง แกไม่รู้จักเหรอวงยูไฟว์ ที่มีห้าคน’

‘เออ ไม่รู้ ก็ฉันร้องเพลงทีไร ทุกคนก็บอกให้หยุดหอน เขามาทำอะไรที่โรงเรียนเราอะ’

‘เขาเป็นศิษย์เก่า อาสามาสอนชมรมถ่ายรูป’

‘ฉันจะลงเรียนถ่ายรูป’

‘เป็นเอามาก อย่างแกเนี่ยขนาดถ่ายหมายังไม่ติดหัว’

‘หมามันเดินหนีฉันนี่หว่า ว่าแต่พี่ลักยิ้มเขาอยู่คณะอะไรนะ’

‘เขาชื่อพร้อม เด็กวิดวะ’

‘ฉันจะเลือกวิดวะ’

‘เฮ้ย…เออเหมาะ ที่บ้านแกคงดีใจ’

‘แน่สิ ป่ะป๊าหม่าม้าลุงพี่ๆ ฉันคงปลื้ม…ไอ้ตอง ซวยแล้ว พี่ลักยิ้มเขาหันมาทางนี้ว่ะ’

สายตาที่สบประสานกันเข้าอย่างจังกับหนุ่มหล่อมาดเซอร์ทำให้สาวน้อยตัวโย่งหน้าหมวยสนิท เจ้าของดวงตายาวรีใต้แว่นหนานามบาจรีย์กระโดดดึ๋งออกจากหลังเสา โดยไม่ลืมที่จะลากเอาเพื่อนตัวป้อมออกมาด้วยกัน ขายาวๆ ที่รีบจ้ำอ้าวทำเอาเพื่อนสาวที่ซอยเท้าถี่ๆ ตามร้องลั่น

‘นางยีราฟ แกจะบ้าเหรออยู่ดีๆ ก็ทะเล่อทะล่าวิ่ง’

‘ฉันไม่อยากให้เขาเห็นฉันนี่’ ร่างสูงโวยวายแต่ไม่หยุดก้าว

‘ก็ถ้าแกทำเฉยๆ เขาคงไม่สังเกต นี่ฉันว่าเขาเห็นแกแน่ๆ เฮ้ย เขามองอยู่จริงๆ ด้วย’

‘โอ๊ย จริงเหรอ ฉันไม่กล้าหันไป แกหันกลับมา’ แขนยาวเรียวเอื้อมไปพลิกตัวเพื่อนสาวให้หันกลับหลังหัน แต่สายตาก็พลันเหลือบไปเห็นอะไรแวบๆ ลอยมากลางอากาศด้วยความเร็วสูง

‘ระวังครับ’ เสียงตะโกนดังลั่นจากคนตัวสูงสะพายกล้องที่ยืนมองอยู่ไกลๆ แต่ดูเหมือนจะไม่ทันท่วงที

‘เฮ้ย’

ตึง! โครม!

‘กรี๊ด ไอ้เตย’

ลูกบาสเกตบอลสีส้มเจ้ากรรมที่ลอยละลิ่วมาจากสนามทำองศาพอเหมาะตกลงกลางศีรษะของเด็กสาวตัวสูงที่อยู่ผิดที่ผิดเวลา แม้จะเป็นกีฬาโปรดและเจ้าตัวก็เป็นถึงกัปตันทีมบาสหญิง แต่เมื่อสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ไม่ทันระวังรีบก้าวหลบก็สะดุดกองกระเป๋าของรุ่นน้องที่กำลังฝึกซ้อมอยู่เต็มสนามกองสุมกันไว้

ภาพสาวน้อยตัวโย่งผมยาวเสียหลักล้มตึงหัวทิ่มลงไปแน่นิ่งใกล้กับฐานแป้นบาสเกตบอลจนแว่นตากระเด็นกระดอนห่างออกไปประมาณช่วงตัวทำให้ทุกคนทำอะไรไม่ถูก

‘ฉิบหายแล้ว โดนหัวใครไม่โดน ดันโดน บ.ต.หนึ่ง’ เสียงดังมาจากในสนามและทุกคนก็วิ่งกรูกันเข้ามามุงอย่างรวดเร็ว

‘ใบเตย…’ เพื่อนสาวตัวป้อมได้แต่ร้องเสียงหลงจ้องที่ศีรษะเพื่อน อย่างน้อยก็โล่งใจที่ไม่เห็นเลือดเลอะออกมาที่พื้นในเวลาที่กำลังงงๆ ทำอะไรไม่ถูก ใบหน้าหล่อของรุ่นพี่ที่รีบวิ่งหน้าตั้งเข้ามาเนื่องจากเห็นเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นทำให้ใบตองได้สติรีบถลาลงไปจัดสภาพเครื่องแต่งกายเพื่อนให้เรียบร้อยขึ้น

‘น้องเป็นอะไรมากรึเปล่าครับ’

เสียงที่บอกได้ว่าหล่อลากดินแม้จะยังไม่ได้เงยดู สัญชาตญาณทำให้คนที่นอนจุกหน้ามุดดินอยู่นั้นได้แต่พึมพำกับตัวเองด้วยความปวดหัวใจ

‘เวรแล้ว ขอให้ไม่ใช่ ขอให้ไม่ใช่…’

‘เจ็บมากเหรอแก’ ใบตองแทบน้ำตาร่วงเมื่อได้ยินเสียงเพื่อนพูดอะไรเบาๆ แต่จับใจความไม่ได้ ถึงกับรีบเอาหูไปจ่อฟัง แต่ประโยคที่เธอได้ยินจากปากคู่หูนั้น ผิดคาดไปพอสมควร

‘แก…ใช่พี่เขารึเปล่าวะ’

‘อะไรนะ อ๋อ กร๊าก เออสิ ตัวจริงเสียงจริง’

‘ฉันอยากตาย’ เจ้าตัวกัดฟันพูดก่อนทิ้งศีรษะแผ่ลงไปแนบพื้นอีกครั้งอย่างหมดท่า

‘โอ๊ยโล่ง แกคิดได้ขนาดนี้ สมองคงไม่กระเทือนมาก ค่อยหายห่วง’

น้ำเสียงร่าเริงด้วยความโล่งใจของเพื่อนสนิททำเอาคนที่ยังนอนอยากตีอกชกหัว ได้แต่ดึงเอากระเป๋าใบที่ใกล้ตัวที่สุดมาคลุมหัวปิดหน้า ทั้งที่จริงๆ แล้วอยากจะเขวี้ยงมันไปไกลๆ กระเป๋าเวรเอ๊ย!

‘เอ้าแยกย้าย ไปๆ ไม่ต้องมามุง แล้วเห็นอะไรก็ปิดปากให้สนิท’ เสียงใบตองบอกกับกลุ่มทีมบาสรุ่นน้องพร้อมทำท่ารูดซิปปิดปาก ก่อนจะหันไปทางรุ่นพี่หน้าหล่อ บอกด้วยเสียงหวานที่ฟังดูก็รู้ว่าพูดแทนคนที่ยังนอนพังพาบเงียบสนิทตอนนี้

‘ขอบคุณพี่พร้อมมากนะคะ เพื่อนหนูไม่เป็นอะไรแล้ว ไม่ได้สลบ มันแค่ยังจุกลุกไม่ขึ้นค่ะ’ อย่างน้อยทักษะการกีฬาที่มีอยู่ก็ช่วยให้สาวน้อยบาจรีย์ล้มได้ถูกท่าไม่เจ็บตัวมากนัก

‘ล้มลงไปแรงเหมือนกันนะครับ ยังไงภายใน ๔๘ ชั่วโมงนี้ ถ้าปวดหัว อาเจียน ตาพร่า แขนขาไม่มีแรง ควรไปหาหมอนะ หรือเดินไม่ไหว อยากไปห้องพยาบาลไหม พี่ช่วย’ ชายหนุ่มสีหน้ากังวลรีบอาสาอย่างมีน้ำใจ

ใบตองทำตาโต ก่อนรีบก้มลงมากระซิบกับเพื่อนอย่างตื่นเต้น

‘โอกาสมา ไปเปล่าแก’

ผิดคาด ไม่เพียงแต่ส่ายหน้าดิกปฏิเสธโดยไม่คิด เจ้าตัวไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมาขอบคุณคนรูปหล่อน้ำใจงามแม้แต่น้อย หัวที่ตอนนี้ซุกอยู่ในกองกระเป๋าเหลือแต่ตัวและแขนขาเก้งก้างโผล่มาเหมือนปลาดาวที่เหลือแค่สี่แฉกนั้น ดูน่ารันทดยิ่งกว่าตอนที่ล้มคงไปเสียอีก

‘ขอบคุณมากนะคะพี่ ถ้าอาการไม่ดี เดี๋ยวหนูค่อยพามันไปหาอาจารย์พยาบาลค่ะ’

‘ครับ ถ้าอย่างนั้นพี่ไปก่อน อย่าลืมแจ้งผู้ปกครองให้ดูอาการนะครับ’

‘ขอบคุณมากค่ะ เอ่อ พี่พร้อมคะ หนูเป็นแฟนวงยูไฟว์ ขอลายเซ็นพี่หน่อยได้มั้ยคะ’

‘ได้ครับ ให้เซ็นที่ไหนดี’

‘พี่รอแป๊บนะคะ’ สาวน้อยตัวป้อมรีบก้มไปรูดซิปกระเป๋าเป้ที่เกี่ยวติดอยู่ที่บ่าข้างหนึ่งของเพื่อนซึ่งนอนแบ็บอยู่กับพื้น แล้วคว้าลูกบาสลูกกลมพร้อมปากกาเคมีสีติดถาวรขึ้นมาส่งไปตรงหน้ารุ่นพี่หนุ่มหล่อราวกับเตรียมการไว้แล้ว

พร้อมก้มมองของที่ถูกส่งมาตรงหน้า พลางเหลือบตามองคนที่ยังนอนแน่นิ่งไม่ไหวติง ถ้าเมื่อครู่ไม่ได้เห็นเธองุบงิบกระซิบกระซาบจนเพื่อนหัวเราะลั่น เขาคงเป็นห่วงไม่น้อย ชายหนุ่มอมยิ้มก่อนเซ็นลายเซ็นลงบนลูกบาสเกตบอลยี่ห้อดัง

‘ขอบคุณมากค่ะพี่พร้อม’

‘ยินดีครับ’ ชายหนุ่มก้มมองคนที่นอนอยู่อีกครั้งก่อนเดินย้อนกลับไปทางเดิม

เสียงฝีท้าวที่ห่างออกไป ทำให้คนที่นอนกองอยู่กับพื้นค่อยๆ เอียงหน้าแล้วถามเบาๆ

‘พี่เขาไปแล้วเหรอ’

‘ไปแล้ว เอ้าลุกๆ’

‘แก…พี่เขาเห็น…รึเปล่า’ น้ำเสียงร้อนใจแต่คนฟังต้องกลับหัวเราะจนแทบจะทนไม่ไหว

‘เออ เต็มๆ’

‘แง้…’ เจ้าตัวยกมือสองข้างขึ้นมาปิดหน้า กลั้นเสียงกรีดร้องไว้ในลำคอ

‘มีกี่ตัววะ กางเกงในลายแองกรี้เบิร์ด ใส่แล้วชูตลูกแม่นเวอร์ของแก’

‘โอย…ฉันอยากจะบ้า อย่างนี้ใช่ไหมที่เรียก ลักกี้อินเกม อันลักกี้อินเลิฟ ฉันจะเอาหน้าที่ไหนไปเจอพี่เขาอีก’ เสียงคร่ำครวญล้มลงไปนั่งกองกับพื้น ตาลอย ปล่อยแขนลู่ลง ทำเอาเพื่อนรีบบอกอย่างเป็นห่วง

‘นี่แกแค่อายใช่ปะ ไม่ได้ป่วย พี่เขาบอกให้ดูอาการแก นี่ก็ตรงกับที่เขาบอกเลย มึน ซึม เพ้อ ตาพร่า แขนขาอ่อนแรง’

‘ยังไม่ตายเว้ย แค่โคตรเสียดาย หมดกันแผนตีสนิทที่วางไว้’

‘อ้าว แล้วแกไม่ลงเรียนถ่ายรูปแล้วเหรอ’

‘จะไปให้เขาเรียกฉันน้องแองกรี้เบิร์ดหรือไง เปลี่ยนแผนแล้ว ฉันต้องห่างๆ ให้เขาลืมหน้าก่อน เขาเห็นฉันแค่แวบๆ ไม่กี่วิ คงจำไม่ค่อยได้’ น้ำเสียงนั้นมุ่งมั่นมีความหวังเสียจนเพื่อนได้แต่พยักหน้า แม้คันปากอยากจะบอกว่าทั้งหน้าและท่าทางเป็นเอกลักษณ์ขนาดนี้ใครจะลืมลง

‘ยังโชคดีนะแว่นแกไม่แตก แถมลูกบอลไม่กระแทกเหล็กในปากแก อะ ของปลอบใจ ฉันให้พี่เขาเซ็นลูกบาสให้’

นิ้วเรียวยาวรีบคว้าเอาลูกกลมๆ มาพินิจพิจารณาก่อนดึงมากอดไว้กับตัวอย่างหวงแหน

‘เขาใจดีเนอะ วิ่งมาอย่างเร็ว ไม่หยิ่งเลย พี่ลักยิ้มชื่อพร้อมใช่ไหม น่ารักอะ พี่พร้อม น้องก็พร้อมเป็นแฟนพี่นะคะ’ เสียงหงุงหงิงปรับอารมณ์รวดเร็วเสียจนคนฟังส่ายหน้า รอยยิ้มกว้างโชว์เหล็กจัดฟันสีรุ้งที่พยายามดึงรั้งฟันหน้าที่ยื่นออกคล้ายแก้วหน้าม้านั้นทำให้เพื่อนสนิทอดประชดเบาๆ ไม่ได้

‘เออ ไว้งานแต่งงานแกกับพี่เขาก็เอาลูกบาสนี่มาโชว์ แล้วเล่าบนเวทีละกันว่าเจอกันยังไง’

‘ท้าเหรอ อย่าคิดว่าฉันไม่กล้า เตยพร้อมเดอะเวดดิ้ง ฝันที่เป็นจริงแน่นอน’

‘เออ ฉันจะรอดู’

 

สภาพตึกรามบ้านช่องสองข้างทางจากท่าอากาศยานบูดาเปสต์ตามเส้นทางของรถโดยสารประจำทางเข้าไปยังตัวเมืองที่ไปวนผ่านชุมชนต่างๆ แสดงให้เห็นถึงชีวิตความเป็นอยู่ไม่หรูหรานักของคนฮังการีบริเวณรอบนอกของเมืองหลวง บ้านเก่าๆ ตึกที่ดูโทรม เห็นได้ทั่วไปตามทาง ดูห่างไกลจากความรุ่งเรืองของฮังการีในอดีตที่ปรากฏตามภาพถ่ายประชาสัมพันธ์ที่เน้นสถาปัตยกรรมสวยงามอลังการ หลังจากขึ้นลงรถประจำทางและเปลี่ยนรถไฟไปสองสาย ทุกคนก็มาถึงที่พักซึ่งเป็นอพาร์ตเมนต์สองห้องนอน สองห้องน้ำ มีครัวเล็กๆ สะอาดสะอ้าน สบาย

“สาวๆ นอนห้องใหญ่ละกัน มีห้องน้ำในตัว เดี๋ยวพี่กับพร้อมนอนห้องเล็กเอง”

บาจรีย์ไม่ปฏิเสธข้อเสนอ แม้จะรู้สึกผิดเล็กน้อยกับคู่รักรุ่นพี่ แต่แน่นอนว่าเธอไม่เสียสละนอนอีกห้องคืนนี้แน่ แม้ว่าจะมีเตียงเดี่ยวสองเตียงคนละมุมห้องก็ตามที การแชร์ห้องกับเพื่อนเดินทางทั้งหญิงและชายระหว่างการท่องเที่ยวไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ แต่ต้องไม่ใช่คนพิเศษอย่างพี่ลักยิ้มของน้องเตย แค่ต้องมาอยู่ร่วมอพาร์ตเมนต์ แม้จะแยกห้องนอน สร้างความตื่นเต้นจนปั่นป่วนใจให้แก่เธอไม่น้อย ขืนนอนห้องเดียวกัน เกิดเธอละเมอไปปลุกปล้ำเขายามค่ำคืนละแย่เลย

แต่เตยก็พร้อมจะรับผิดชอบพี่นะคะ…

“พี่ๆ อยากพักกันรึเปล่าคะ เตยว่าจะไปเดินเล่นแถวนี้ จะเจอกันตอนกินข้าวเย็น หรือกลับมาเจอกันที่ห้องตอนค่ำเลยก็ได้ค่ะ” บาจรีย์รีบเสนอ เธอกำลังต้องการเวลาในการเรียกสติ และการที่มีหนุ่มในฝันอยู่ในรัศมีที่เธอไม่อาจห้ามสายตาให้จ้องมองไปที่เขานั้น ไม่ได้ช่วยอะไรกับสติที่กระเจิดกระเจิงแม้แต่น้อย แต่ความพยายามในการปลีกวิเวกของเธอดูจะไม่เป็นผล

“พี่ตวงไปด้วยค่า ไหนๆ มาแล้วต้องเที่ยวให้คุ้ม มีตั๋วรถขึ้นได้ไม่จำกัด ๒๔ ชั่วโมงทั้งที หนุ่มๆ ว่าไงกันคะ ไปขึ้นรถรางเลียบริมแม่น้ำดานูปกันดีกว่า” ตวงพรรีบบอก แน่นอนว่าติณไม่แย้งภรรยา และชายหนุ่มอีกคนก็ได้แต่อมยิ้ม

เธออยากจะเปลี่ยนชื่อเขาจาก พี่ลักยิ้ม เป็น พี่อมยิ้ม แทนเสียแล้วสิ แค่ยิ้มไม่สุดยังทำให้หวั่นไหวได้ขนาดนี้ คนอะไร!

พร้อมยืนมองวิวงดงามฝั่งบูดา ส่วนบาจรีย์ได้แต่เคลิ้มมองชายในฝันแทบไม่อยากละสายตา เพราะกลัวกะพริบตาแล้วเขาจะหายไป เธอทั้งหยิกทั้งจิกทั้งแอบทึ้งหัวตัวเองแล้ว สิ่งที่อยู่ตรงหน้านี้คือความจริง พร้อมยืนอยู่ตรงนี้จริงๆ ภาพในอดีตยามเธอเฝ้าแอบมองเขามาทับซ้อนกับภาพในปัจจุบัน ความรู้สึกเหมือนโลกหยุดหมุนนั้นกลับมาอีกครั้ง ณ ริมผั่งแม่น้ำดานูป

แม่น้ำสายหลักแห่งนี้แบ่งบูดาเปสต์ออกเป็นสองฝั่งคือ ‘บูดา’ ที่ตั้งอยู่ฝั่งตะวันตก และ ‘เปสต์’ ที่ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออก แต่เดิมทั้งสองฝั่งเป็นสองเมืองที่เป็นเอกเทศแยกออกจากกัน ก่อนจะถูกรวมเข้าเป็นเมืองหลวงของฮังการีในปี ๑๘๗๓ บูดาและเปสต์จึงเป็นสองฝั่งเมืองสองบุคลิกที่ให้ความรู้สึกที่แตกต่างแก่ผู้มาเยือน บูดาคือเนินเขาสูงสงบเงียบเป็นที่ตั้งของปราสาทราชวัง และเป็นที่อยู่ของคนร่ำรวยมาตั้งแต่สมัยอดีต ในขณะที่เปสต์เป็นที่ราบลุ่ม ประชากรหนาแน่น วิถีชีวิตเช่นคนสามัญ ปัจจุบันเป็นศูนย์กลางธุรกิจ เต็มไปร้านค้า ร้านอาหารผับบาร์มากมาย คำแนะนำจากหลายแหล่งบอกตรงกันว่า ถ้าอยากเห็นบูดาเปสต์ให้ครบหมดทุกมุม ให้แวะข้ามไปเที่ยวฝั่งบูดา แต่ให้เลือกที่พักฝั่งเปสต์

ชาวคณะของ  ‘ตวงพรทัวร์’ เคลื่อนขบวนจากที่พักซึ่งตั้งอยู่บนฝั่งเปสต์ ไม่ไกลจาก Nagyvásárcsarnok ซึ่งเป็นตลาดที่มีชื่อเสียงที่สุดตั้งอยู่ในตึกสวยโบราณกลางเมือง เพื่อไปขึ้นรถรางสาย ๒ ที่ติดอันดับรถรางสายที่สวยที่สุดอันดับ ๗ ของโลก และอันดับหนึ่งของยุโรป จัดโดยนิตยสารเนชันแนลจีโอกราฟฟิก (1)

“ตาตี๋อ้วน ดูสิ นี่ถ้าค่าตั๋วเมื่อกี้คือค่ารถจากสนามบิน เท่ากับว่าพวกเราได้ขึ้นรถรางสายที่วิวสวยที่สุดในยุโรปฟรีๆ เลยนะ” ตวงพรภูมิใจนักหนาทุกครั้งที่เธอสามารถประหยัดค่าใช้จ่าย และได้ของลดแลกแจกแถมฟรีมาครอง

ติณกลอกตามองบนก่อนทำท่ากระซิบที่ได้ยินไปเกือบถึงชานชาลาฝั่งตรงข้าม

“นี่ยายชั่งตวงวัดจ๋า หนูใบของเธอน่ะเขาชินกับความขี้อวดแฟนพันธุ์แท้ยอดประหยัดของเธอแล้ว แต่นายพร้อมเขาไม่เคย นี่วันแรก เกรงใจเขามั่ง เดี๋ยวตกใจเผ่นกระเจิงเธอเสียตัวหารค่าใช้จ่ายนะจะบอกให้”

ตวงพรสะบัดหน้าอย่างไม่ถูกหู หันขวับไปทางพร้อมที่ยืนกอดอกมองหญิงสาวอีกคนที่กำลังตั้งท่าเล็งกล้องถ่ายรถรางฝั่งตรงข้ามที่กำลังเคลื่อนขบวนออกจากชานชาลาไป

“ว่าไงคะน้องพร้อม เห็นด้วยกับตาตี๋อ้วนว่าพี่ตวงงกเกินเหตุเหรอคะ”

น้ำเสียงเอาเรื่องนั้นเรียกให้พร้อมหันกลับมามองอย่างงงๆ เพราะไม่ได้ตั้งใจฟังบทสนทนา ชายหนุ่มจึงยกมือขึ้นสองข้างเป็นเชิงยอมแพ้

“ยังไงนะครับ เอาเป็นว่าผมอยู่ฝ่ายพี่ตวงครับ” ชายหนุ่มฉลาดพอที่จะเอาตัวรอด เพราะขนาดติณยังยอมลงให้ภรรยาแทบทุกครั้ง เพราะฉะนั้นเขาไม่เสี่ยงเอาตัวเองไปอยู่ฝั่งตรงข้ามกับตวงพรผู้กุมเงินกองกลางและตั๋วเดินทางทุกใบเอาไว้

น้ำเสียงยอมแต่โดยดีไม่มีข้อโต้แย้งพร้อมรอยยิ้มเจื่อนนั้นเรียกเสียงหัวเราะลั่นจากตวงพร ก่อนถลาเข้าไปเกาะแขนล่ำของชายหนุ่มรุ่นน้อง

“พี่ตวงล้อเล่นค่ะ โถ ตกใจเหรอ ขวัญเอ๋ยขวัญมา”

หน้าตาของพร้อมเปลี่ยนจากงงเป็นอึ้งกับเสียงปลอบและต้นแขนที่ถูกเกาะกุม ติณต้องรีบเข้ามาช่วยกู้สถานการณ์ ดึงตวงพรออกมา

“พอเลยยายตวง วันแรกเดี๋ยวนายพร้อมหนีไปจริงๆ อ้าวแล้วนั่นหนูใบเตยจะกลั้นขำหน้าดำหน้าแดงไว้ทำไมครับ ปกติต้องเข้ามาร่วมวงเถิดเทิงแกล้งชาวบ้านกับยายพี่ตวงนี่นา เมื่อตะกี้พี่นึกว่าหนูจะกระโดดมาเกาะแขนอีกข้างของนายพร้อมซะอีก”

เสียงของติณทำให้สายตาทุกคู่จ้องมองไปที่บาจรีย์ที่ตอนนี้แอบไปเพิ่มสีสันใบหน้าโดยการกรีดอายไลเนอร์เสียคมกริบ เติมลิปสติกสีพีชดูสุขภาพดี ส่วนแก้มสีชมพูระเรื่อนั้นมีทั้งสีของบรัชออนและสีธรรมชาติที่เจ้าตัวรู้สึกเขินอายอย่างห้ามตัวเองไม่ได้

ต่อมเขินที่ปกติไม่เคยได้ใช้งาน จนเธอคิดว่ามันไม่มี อยู่ดีๆ ก็ถูกกระตุ้นวันละหลายรอบ การหลงใหลได้ปลื้มใครคนหนึ่งเป็นเวลานานแสนนาน แล้วอยู่ดีๆ มีโอกาสได้มาใกล้ชิดนั้นช่างน่าตื่นเต้นและน่าอึดอัดในคราวเดียวกัน แม้อยากไหลตามน้ำ เอาตัวไปใกล้ชิดหนุ่มในฝันตามจังหวะที่เพื่อนรุ่นพี่ขยันชงมาให้ แต่ก็เกรงว่าจะเดินเกมพลาด ทำไมพร้อมต้องชอบผู้หญิงเรียบร้อย หงิมๆ ด้วยนะ

โอย เอาไงดีวะคะใบเตย จะแรดก็ไม่กล้า จะเรียบก็เสียดายโอกาส ขัดอกขัดใจเสียจริงเลย…

 

เชิงอรรถ : 

(1) นิตยสารเนชันแนลจีโอกราฟิกได้จัดอันดับรถรางที่ผ่านทิวทัศน์ที่งดงามของเมืองต่างๆ ในโลก โดยห้าอันดับแรกที่ได้รับเลือกได้แก่ โตรอนโต ซีแอทเทิล นิวออร์ลีนส์ ซานฟราสซิสโก เมลเบิร์น โดยบูดาเปสต์เข้ามาเป็นอันดับที่เจ็ด และถือเป็นตัวแทนเมืองจากยุโรปที่ติดเข้ามาเป็นอันดับแรก ตามด้วย เบอร์ลิน อัมสเตอร์ดัม และลิสบอนเป็นอันดับที่สิบ



Don`t copy text!