รักหนักแน่น บทที่ 3 : สัญชาตญาณบอก

รักหนักแน่น บทที่ 3 : สัญชาตญาณบอก

โดย : เอกวีย์

Loading

ความรักระหว่าง พร้อม – พิริยะภัทร์ ชายหนุ่มไม่หวือหวาแต่ดีพร้อม และ ใบเตย – บาจรีย์  เจ้าของสโลแกน ‘ทำบุญ สวยชาติหน้า ผ่านม อึ๋มชาตินี้’ จะหวานจนสำลักหรือจะหนักหน่วงขนาดไหน มาลุ้นไปพร้อมกันใน รักหนักแน่น โดย เอกวีย์ นิยายออนไลน์ แนวโรแมนติกคอมเมดี้ ที่อ่านเอา อยากให้คุณได้ อ่านออนไลน์

**********************

– 3 –

 

อดีตอันน่าสะพรึง…

บ.ต.สิบ ชื่อเรียกสองสาว ใบเตย ใบตอง คู่หูคู่ซี้ที่ไม่มีใครในโรงเรียนไม่รู้จัก คนหนึ่งตัวสูงยาวแขนขายาวเก้งก้างตัวตรงแน่วลงมาไร้ทรวดทรงดูแล้วเหมือนเลขหนึ่ง ในขณะที่อีกคนหนึ่งก็ตัวกลมป้อมมีแต่โค้งไม่มีเว้าดูแล้วเหมือนเลขศูนย์ เมื่อเดินด้วยกันเลยกลายเป็นโย่งกับป้อมดูเหมือนเลขสิบ หลังจากเปิดเทอมมาหลายสัปดาห์ บาจรีย์เลือกเรียนวิชาไฟฟ้าด้วยเหตุผลเดียวคือ ห้องเรียนวิวดีที่สุด เพราะอยู่ตรงข้ามกับห้องเรียนถ่ายรูป เธอมีความสุขกับการส่องเป้าหมาย โดยที่เขาไม่มีทางรู้เลยว่า มีคนกระหยิ่มยิ้มย่องแอบมองอยู่ทั้งชั่วโมง

‘ฝีมือแกใช่ไหม ไอ้เตย’

‘อะไร เปล่า ฉันเปล่า ฉันไม่ได้ทำอะไรเลย’

‘ไม่ได้โกหก ทำไมต้องทำเสียงสูง อย่ามาเนียน ฉันรู้นะ รูปพี่พร้อมที่หายไปจากบอร์ดของชมรมถ่ายรูป นั่นแกเป็นคนเอาไป’

‘เฮ้ย บอกให้เรียกพี่ยิ้ม แล้วขโมยอะไร ไม่มี’ เจ้าตัวโบกไม้โบกมือปฏิเสธแข็งขัน

‘เออ ไม่ใช่ก็ดี เพราะอาจารย์เขาฝากบอกมา ถ้าใครเอาไปให้เอามาคืน แล้วเขาจะไม่เอาเรื่อง ถ้าไม่คืนถือว่าขโมยสมบัติโรงเรียน เขาจะเรียกผู้ปกครองมาพบ’

‘เขาบอกเปล่าอะ ว่าจะเรียกพ่อหรือแม่’ หน้าตาเหลอหลานั้นทำให้คนฟังหลุดขำ

‘จะพ่อหรือแม่ แกจะอยากรู้ไปทำไม ถ้าแกไม่ได้ทำ’

‘เออ ไม่อยากรู้ก็ได้ แต่ทั้งพ่อทั้งแม่ฉันไปดูคุยงานที่เยอรมนีทั้งคู่นี่หว่า อิอิ รอด’

‘เออ ฉันจะรอดู’

 

‘พี่เบิ้ม…พี่เบิ้มมาทำอะไรที่นี่’

คนที่เดินแกว่งแขนสบายๆ เข้ามาห้องกิจการนักเรียนเพื่อพบอาจารย์ฝ่ายปกครองถึงกับตาเหลือกร้องเสียงหลงเมื่อเห็นบริภัทร บูรณธรณิน นักธุรกิจหนุ่มหล่อไฟแรงใส่สูทเต็มยศมานั่งโดดเด่นเป็นสง่าให้อาจารย์สาวๆ แอบมองศิษย์เก่าคนพิเศษกันเป็นทิวแถว แม้บริภัทรจะมีศักดิ์เป็นพี่ชาย แต่ด้วยวัยที่ห่างกันหนึ่งรอบ ทำให้เขาบอกอยู่บ่อยๆ ว่า ถ้าเขาพลาดทำผู้หญิงท้องตั้งแต่เริ่มแตกเนื้อหนุ่ม ลูกเขาก็คงรุ่นราวคราวเดียวกับนางสาวบาจรีย์ลูกพี่ลูกน้องสาวคนนี้

‘ใครควรถามใครกันแน่ ว่าทำไมพี่ต้องมาอยู่ที่นี่ ตอนนี้’

น้ำเสียงนิ่งของคนหน้าดุทำเอาคนที่คิดว่ายังไงก็เอาตัวรอดจากอาจารย์ฝ่ายปกครองได้สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง การที่บริภัทรมาเป็นผู้ปกครองน่าจะร้ายพอๆ กัน หรือร้ายกว่าเชิญแม่เธอมาเสียอีก แม้จะอายุแค่สามสิบต้นๆ และเพิ่งกลับจากเรียนต่อต่างประเทศได้แค่ห้าหกปี แต่บริภัทรเป็นที่เกรงใจของคนทั้งบริษัท รวมถึงมาดามลีนาขาโหดแม่ของเธอที่ให้เกียรติและยอมอ่อนข้อให้หลานชายคนโตของสามีคนนี้เพียงคนเดียว

‘โอ๊ย เตยขอโทษ พี่เบิ้มงานยุ่งใช่ไหม แย่จัง เตยไม่รู้เลยว่าหม่าม้าใส่ชื่อพี่เบิ้มเป็นผู้ปกครองถ้ามีอะไรฉุกเฉิน แต่นี่ไม่ฉุกเฉินซะหน่อย เตยว่า…’

‘เดี๋ยวค่อยว่ากัน เรามีเรื่องต้องคุยกันยาว ตอนนี้เข้าไปพบอาจารย์ก่อน จะได้จบไปทีละเรื่อง’

‘ค่ะ’ บาจรีย์เอามือสองข้างตีแก้มตัวเองพร้อมๆ กัน พ่นลมพรืดออกจากปาก ก่อนจะเดินคอตกตามพี่ชายไปเตรียมตัวถูกเชือดแต่โดยดี

สีหน้าเคร่งเครียดของบริภัทรยามเดินเข้าไปพบอาจารย์ด้านในดูจะเปลี่ยนเป็นอับอายแทบอยากหาปี๊บอันโตมาคลุมหัวยาวไปตลอดตัวยามเปิดประตูกลับออกมา ชายหนุ่มรีบก้าวเท้ายาวๆ ผ่านผู้คนออกจากห้องกิจการนักเรียน และลงจากตึกตรงไปที่ทางออก โดยมีน้องสาววิ่งกระหืดกระหอบตาม บริภัทรไม่อยากจะเชื่อ เขาให้เลขานุการเลื่อนประชุมบอร์ดผู้บริหารตอนบ่ายและเลื่อนนัดลูกค้าคนสำคัญในช่วงเย็น ตรงดิ่งมาที่โรงเรียนด้วยความรวดเร็ว เพื่อจะมารับทราบข้อกล่าวหาว่าน้องสาวเขาขโมยรูปรุ่นพี่ผู้ชายจากกระดานภาพของโรงเรียน มิหนำซ้ำเจ้าตัวยังยอมรับสารภาพผิดแต่โดยดี และบอกอีกว่า ไม่สามารถเอามาคืนได้ เนื่องจากได้เอาไปตัดแปะในไดอารี่เรียบร้อยแล้ว

ทันทีที่ก้าวขึ้นรถและเลื่อนที่กั้นระหว่างคนขับขึ้นแล้ว บริภัทรก็เปิดฉากถามด้วยน้ำเสียงเข้ม

‘คิดอะไรอยู่ตอนขโมยรูป แล้วไม่ดูหน้าดูหลังเลยหรือไง ถึงมีคนไปเห็นเข้าได้’

‘ก็ไม่ทันคิดไง ถ้าคิดตอนนั้น คงไม่ซวยอย่างตอนนี้’ เจ้าตัวได้แต่พึมพำตอบด้วยรู้ตัวว่าผิด แต่ก็ไม่คิดแก้ตัวใดๆ

‘อยากได้อะไรต้องคิดก่อนสิ ว่ามันมีวิธีไหนบ้าง แล้วเลือกวิธีที่มีความเป็นไปได้ ไม่ใช่สุ่มสี่สุ่มห้าทำ’

‘เตยรู้’ บาจรีย์รู้ถึงความประหลาดของครอบครัวเธอดี เธอรู้ว่าสิ่งที่ถูกตำหนินั้นคงไม่ใช่เรื่องกรี๊ดผู้ชายในวัยเรียน แต่เป็นเรื่องที่ไม่ใช้หัวคิด เลือกวิธีการที่งี่เง่าไม่เข้าท่ามากกว่า

‘แล้วนี่โดนทัณฑ์บน รอบหน้าจะโดนอะไร จะจบไหมมอหกน่ะ พี่จะทำยังไงกับเราดีนะใบเตย’

‘จบสิ ถึงเตยจะพลาดแต่ก็ไม่ได้โง่ขนาดทำให้ตัวเองเดือดร้อนขนาดนั้นไง’

หน้าจ๋อยๆ ของเด็กแสบประจำบ้านทำเอาบริภัทรถอนหายใจเฮือกใหญ่ พยายามสงบสติอารมณ์ ปรายตามองอย่างครุ่นคิดแล้วบอกว่า

‘นักร้องใช่ไหม อยากได้ไหม ตั๋วคอนเสิร์ตวงนี้’

‘พี่เบิ้ม พี่เบิ้มหาให้เตยได้เหรอ หายากนะ เต็มตลอด เต็มแบบเปิดขายออนไลน์ปุ๊บบัตรหมดภายในสองนาทีอย่างนั้นเลยอะ’ ดวงตาคู่นั้นเป็นประกายด้วยความตื่นเต้น วันดวงดีอะไรของเธอ นอกจากจะไม่โดนดุเยอะจากคนที่น่ากลัวที่สุดในบ้านแล้วยังมีลาภลอยมาใส่ตัวอีก

‘ถ้าจะหา ก็ไม่มีอะไรที่ไม่ได้ ว่าแต่จะเอาอะไรมาแลก’ เสียงเหมือนกำลังเจรจาต่อรองธุรกิจทำให้คนเป็นน้องชะงัก

‘เตยว่าแล้ว คนอย่างพี่เบิ้มไม่เคยให้อะไรใครฟรี’ เด็กสาวกลอกตาก่อนถอนใจยาว พี่ชายหน้าตาหล่อจัดมาดแมนฐานะดีดูพร้อมสรรพ เขาสามารถเนรมิตทุกสิ่งอย่างได้ดั่งใจ แต่ทำไมเธอกลับคิดว่าใครได้เป็นคนรักของบริภัทรน่าจะเป็นผู้หญิงที่โชคร้ายเสียจริงๆ

‘โซนวีไอพีรอบแรก บัตรสื่อเข้าหลังเวที แต่ถ้าไม่สน…’ น้ำเสียงเป็นต่อของคนที่ยักคิ้วก่อนทำเมินมองออกนอกหน้าต่างรถ

‘โอ๊ย ยอมแล้วๆ อยากได้อะไร เตยจะทำให้’

‘แค่เอาตัวเองให้รอดก็ยากแล้ว จะให้พี่หวังอะไร’ น้ำเสียงดูแคลนนั้นทำให้คนฟังฮึดสู้ โดนดุบาจรีย์ไม่กลัว แต่โดนดูถูกนี้ยอมกันไม่ได้

‘เตยจะตั้งใจเรียน สอบเข้าวิดวะ แล้วออกมาช่วยงานพี่เบิ้ม’ บาจรีย์ทำเสียงสะบัดสะบิ้ง แต่ในใจหัวเราะคิกคัก เธอเลือกพูดในสิ่งที่รู้ดีว่าพี่ชายอยากได้ยิน แต่จริงๆ แล้วเธอเองก็เพิ่งตัดสินใจไม่นานมานี้ว่านี่คือสิ่งที่เธอต้องการเช่นกัน สรุปแล้วเธอได้ประโยชน์ทั้งสองด้าน เธอไม่เอาตัวเองไปติดกับสิ่งที่เธอไม่อยากทำแน่ๆ ใบเตยซะอย่าง มีแต่ได้กับได้

‘ดี นี่พูดเองนะ พี่ไม่ได้บังคับ แล้วถ้าทำไม่ได้ล่ะ’ บริภัทรยักคิ้ว ในฐานะพี่คนโตเขาไม่เคยกะเกณฑ์อะไรน้องสาวแท้ๆ อย่างบรรณรี แต่กับนพและบาจรีย์ ลูกพี่ลูกน้องที่เป็นญาติสนิททั้งสอง บริภัทรกลับมองเห็นแววและหมายมั่นปั้นมือให้ทั้งสองมาช่วยกิจการบริษัทต่อไปในอนาคต

น้ำเสียงช่างท้าทาย ทำเอาคนอายุน้อยกว่าเชิดหน้าขึ้น

‘ไม่มีอะไรที่เตยตั้งใจแล้วจะทำไม่ได้’ คำพูดนั้นสมเป็นพี่น้องกันจริงๆ

‘ค่อยคุยกันรู้เรื่องหน่อย’ บริภัทรยิ้มกว้าง บาจรีย์เป็นเด็กฉลาดและใฝ่ดี แม้จะเป๋ไปบ้างตามวัยที่ฮอร์โมนพลุ่งพล่านแต่เขาเชื่อว่าในที่สุดแล้วน้องเล็กของบ้านรู้ดีว่าอยากให้ชีวิตในอนาคตข้างหน้าออกมาเป็นเช่นไร

สีหน้าพึงพอใจของคนเป็นพี่ รอยยิ้มกริ่มของคนยิ้มยาก ทำให้บาจรีย์ที่คิดมาตลอดว่าตัวเองเป็นฝ่ายได้เปรียบในเกมนี้เริ่มฉุกคิดว่า หรือจะเป็นเธอที่หลุดติดกับดักของพี่ชายไปเสียเอง แต่สิ่งล่อก็หอมหวนยวนใจเสียจนไม่สามารถปฏิเสธได้ลง

 

รถรางสาย ๒ วิ่งเลียบริมแม่น้ำฝั่งเปสต์มาสุดสายที่ จัตุรัส Kossuth Lajos ด้านหลังของตึกรัฐสภาที่ชาวฮังการีภาคภูมิใจว่าเป็นตึกรัฐสภาที่สวยที่สุดในโลก ตึกสวยสง่าด้วยสถาปัตยกรรมนีโอโกธิคตั้งสูงตระหง่านโดดเด่นริมฝั่งแม่น้ำดานูป ถือเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของเมืองบูดาเปสต์ที่ผู้มาเยือนถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึก เนื่องจากใกล้ถึงเวลาปิดทำการแล้วสมาชิกในทีมจึงตัดสินใจไม่เข้าไปชมความงามด้านใน ไอน้ำที่ปล่อยขึ้นมาจากพื้นบริเวณจัตุรัสด้านหลังตึก นัยว่าเพื่อดับความร้อนของอากาศชวนให้เด็กๆ นักท่องเที่ยวหลายคนวิ่งไล่เล่นไอหมอกขาวอย่างสนุกสนาน บาจรีย์คว้ากล้องถ่ายรูปวิ่งตรงไปเก็บบรรยากาศทั้งผู้คนและสถาปัตยกรรมที่สวยงาม อดไม่ได้ที่จะเล่นด้วยเสียเอง

ใครบางคนได้แต่มองตามแล้วอมยิ้ม

หลังจากนั้นทุกคนก็พากันเดินเลียบแม่น้ำเพื่อไปยังอีกจุดที่น่าสนใจของเมืองนี้ รองเท้าหล่อโลหะ ๖๐ คู่ที่วางเรียงรายริมฝั่งแม่น้ำดานูปรวมความยาวประมาณ ๔๐ เมตรนั้น สร้างความสะเทือนใจให้แก่ผู้พบเห็นไม่ใช่น้อย มันคืออนุสรณ์สถานที่สร้างไว้เพื่อรำลึกถึงชาวยิวในฮังการีที่ถูกสังหารโดยทหารนาซีในยุคสงครามโลกครั้งที่สอง เนื่องจากสมัยนั้นรองเท้าถือเป็นสิ่งขาดแคลน ชาวยิวจึงถูกบังคับให้ถอดรองเท้าวางไว้ที่ริมฝั่งแม่น้ำ ก่อนที่ร่างจะถูกยิงและโดนกระแสน้ำพัดลอยตามดานูปไป

บาจรีย์ลดกล้องลงและยืนสำรวมสงบนิ่งไว้อาลัยให้แก่ผู้เสียชีวิต แม้จะดูเหมือนเป็นสาวแกร่ง แต่ชีวิตเธอแวดล้อมไปด้วยคนจิตใจดี ไม่เคยต้องแก่งแย่งแข่งขัน บาจรีย์เคารพความแตกต่างในทุกเชื้อชาติ ศาสนา และไม่เข้าใจว่าทำไมคนต้องเข่นฆ่ากันเพียงเพราะคิดไม่เหมือนกัน เงาคนที่เดินผ่านมาด้านหลัง เธอจึงว่า

“น่าเศร้าจังเลยนะคะ สงครามมีแต่สูญเสีย ไม่เห็นจะต้องฆ่าฟันกันเลย”

“ครับ”

เสียงตอบรับสั้นๆ ทำให้หญิงสาวหันขวับ ทำตาโต ก่อนบอกแก้เก้อ

“ขอโทษค่ะ คิดว่าเป็นพี่ตี๋”

ร่างสูงที่ขยับเข้ามาห่างไปเพียงหนึ่งก้าวทำบาจรีย์กลั้นหายใจ ใกล้เกินไปแล้วนะ เมื่อรวมเข้ากับสายตาที่มองจ้องตรงมา เธอเหมือนรู้สึกได้ถึงไออุ่นของร่างกายของเขา ทั้งๆ ที่ไม่มีส่วนใดของร่างกายแตะต้องกันแม้แต่น้อย รูปปั้นรองเท้าวางเรียงรายเต็มพื้นและดอกไม้ที่ผู้มาเยือนวางไว้อาลัยทำให้เธอก้าวผ่านออกไปไม่สะดวกนัก ที่สำคัญชายหนุ่มตรงหน้ากลับยืนกั้นเป็นกำแพงสูงไม่ยอมหลีกทางอีกต่างหาก

จะกระโดดหลบ หรือถลาเข้าไปซบ เอ แต่ถ้าซบแล้วเขาจะคิดว่าเธอเอาหลังไปชนแทนด้านหน้าแทนหรือเปล่า บาจรีย์ก้มมองหุ่น ‘นางแบบ’ ของตัวเองที่ใครๆ ก็ชมว่าสวยเท่ แม่นะแม่…ให้มาน้อยเหลือเกิน อย่าลืมนะใบเตย ทำบุญสวยชาติหน้า ผ่านมสวยชาตินี้ โอ๊ย จัดเลยดีไหม…หรือจะเซไปทางซ้าย ฟังเสียงหัวใจเต้น องศาการปะทะที่พอเหมาะ ควรจะเป็นอย่างไร หัวสมองวิศวกรสาวรีบประมวลผลที่น่าจะตามมาอย่างรวดเร็ว

แต่โอกาสดีๆ ที่อยู่ๆ ก็หล่นปุมาใส่ดูดีและเนียนกว่านั้น พร้อมยื่นกุญแจบ้านมาตรงหน้าเธอก่อนถามว่า

“น้องเตยจะเก็บไว้ หรือให้พี่เก็บไว้ดีครับ พี่ตวงกับพี่ตี๋แยกไปกินข้าวแล้ว เห็นว่าน้องเตยอยากลองกล้องใหม่ถ่ายพระอาทิตย์ตกที่ริมดานูป เดี๋ยวพี่จะอยู่เป็นเพื่อน”

พระอาทิตย์ดวงกลมโตเคลื่อนตัวลงทางตะวันตก แต่ยังห่างจากปลายยอดของพระราชวังงามสง่าบนฝั่งบูดา แสงสะท้อนสีส้มสวยทอลงแผ่นน้ำของดานูป บาจรีย์มองกุญแจในมือเขา ทำตาโต มันเหมือนคู่รักอยู่ร่วมชายคา ใช้กุญแจบ้านร่วมกันเลย

พี่ไม่คิดอะไร แต่หนูคิดไปไกลแล้วนะพี่เอ๋ย

“ไว้ที่พี่พร้อมดีกว่าค่ะ เดี๋ยวเตยทำหาย” หญิงสาวพูดแล้วก็รู้สึกกระดากเล็กน้อย เธอเนี่ยนะทำของหาย ถึงแม้จะชอบทำรกและไม่สะอาดเรียบร้อยนัก แต่เธอก็ดูแลตัวเองและข้าวของของสำคัญของตัวเองได้ดีเสมอ จนพ่อแม่ยอมปล่อยออกมาไกลบ้านขนาดนี้ แต่ผู้ชายส่วนใหญ่น่าจะชอบเป็นผู้นำใช่ไหม โดยเฉพาะผู้ชายใจดีที่ชอบดูแลคนอื่นอย่างพร้อม ดูจากเขาช่วยลากน้องส้ม กระเป๋าเดินทางใบเก่งของเธอมาเกือบตลอดทางจากสนามบินไม่ยอมปล่อยให้เธอทำเองแล้ว เขาน่าจะอยากเป็นคนถือกุญแจไว้เอง

พร้อมยิ้มแล้วเก็บกุญแจไว้ในกระเป๋ากางเกง พลิกดูนาฬิกาก่อนว่า

“ยังพอมีเวลา เราลองเดินเลียบแม่น้ำไปทางเชนบริดจ์ดีไหมครับ ถ่ายภาพพระอาทิตย์ตกดินถ้ามีองค์ประกอบอื่นเข้ามาในภาพด้วยอย่างเสาสะพาน หรือปลายยอดปราสาทกับสีท้องฟ้าในช่วงนั้น น่าจะทำให้ภาพดูน่าสนใจมากขึ้น”

ชายหนุ่มแนะนำเป็นเรื่องเป็นราว ในขณะที่คนฟังจับใจความได้เพียงเดินเล่นริมน้ำกับพี่พร้อม จริงๆ ต่อให้พี่พาไปเดินที่ริมคลองแสนแสบเธอก็คงตื่นเต้นแล้ว นี่คือแม่น้ำดานูป แม่น้ำสายที่ยาวที่สุดในสหภาพยุโรป ไหลผ่านหล่อเลี้ยงผืนดินกว่าสิบประเทศ สุดยอดความโรแมนติก มีมนตร์ขลัง เกินฝันมากมายจริงๆ

โดยมารยาทแล้วเธอควรจะเสนอให้เขาไปรับประทานอาหารเย็นตามเวลา แต่ ณ จุดนี้ มารยาทหรือจะสำคัญสู้มารยาได้ ในเมื่อโอกาสอยู่ตรงหน้า จงฉกฉวยมันไว้บาจรีย์ สิบวันนี้เป็นของเธอ จงใช้ให้เป็นประโยชน์ที่สุด

เริ่มตั้งแต่วินาทีนี้ เป็นต้นไป…



Don`t copy text!