หนังสือเล่มนั้น มีเนื้อคู่ของฉันซ่อนอยู่ บทที่ 2 : เนื้อคู่มีโอกาสเจอกัน (น้อย)
โดย : กุลวีร์
หนังสือเล่มนั้นมีเนื้อคู่ของฉันซ่อนอยู่ โดย กุลวีร์ นวนิยายออนไลน์ที่อ่านเอาจะพาทุกคนไปพบกับความมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นกับชาคร เมื่อหนังสือเล่มนั้นได้พาเขาไปพบกับหญิงสาวปริศนา จันตา…เธอคนนี้คือเนื้อคู่ของเขาอย่างที่ชายชราบอกอย่างนั้นหรือ หาคำตอบไปพร้อมกันที่เว็บไซต์ anowl.co พื้นที่ที่มีนวนิยายสนุกๆ ให้คุณได้เพลิดเพลิน
หญิงสาวตัดสินใจหาความรู้ให้แก่ตัวเองตามคำแนะนำของลูกพี่ลูกน้องซึ่งเป็นเสมือนพี่สาวที่พักอาศัยอยู่บ้านหลังเดียวกัน เธอจึงเลือกเรียนการศึกษานอกโรงเรียนหรือการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ซึ่งเรียกกันติดปากว่า กศน.
เนื่องจากใกล้ช่วงเวลาที่ลูกค้าจะเนื่องแน่น จันตารีบนำรถมอเตอร์ไซค์เข้าไปจอดไว้ยังที่ประจำ แล้วเร่งฝีเท้าเดินย้อนออกมาบริเวณหน้าบ้าน เข้าไปในร้านขายอาหารตามสั่งของดวงใจ
ร้านนี้จะเปิดบริการตั้งแต่สิบโมงเช้าจนถึงห้าโมงเย็น
“ไปห้องสมุด ได้ข้อมูลมาทำรายงานบ้างไหม” ดวงใจทักเมื่อเห็นหน้าเธอ
“ได้มาเยอะเลย พี่ดวง” จันตาเดินไปเก็บจานบนโต๊ะที่ลูกค้าเพิ่งลุกออกไปจากเก้าอี้ “จันไม่คิดเลยว่าที่ห้องสมุดจะเจอข้อมูลมากมายขนาดนี้ แต่ที่นั่นมันดูแปลกๆ ยังไงก็ไม่รู้ด้วยสิ”
เธอทิ้งท้ายไว้แค่นั้น เพราะยังตอบตัวเองไม่ได้ว่าสิ่งที่ได้เจอนั้นแปลกจริงๆ หรือคิดไปเอง
จนร้านยังไม่มีลูกค้า เพราะไม่ใช่ช่วงเที่ยงวัน จันตาก็พูดขึ้นมาอีก
“พี่ดวงเคยชี้ให้จันดูว่าห้องสมุดประชาชนอยู่ตรงไหน แต่วันนี้ที่จันไป มันเหมือนไม่ใช่ที่ที่เห็นในวันนั้นเลย”
“ผ่านมาเป็นเดือนแล้ว อาจจะจำสับสนบ้างก็ได้” ดวงใจนั่งคุยกับเธอ ระหว่างรอลูกค้าเข้ามาในร้าน
“จันคงจะจำผิดไปเอง แต่ที่นั่นก็แปลกอยู่ดีนะพี่ดวง”
“ไม่แปลกหรอก ห้องสมุดประชาชนที่จังหวัดนี้ก็มีอยู่ที่เดียว ถ้าจันไปเจอห้องสมุดก็คงเป็นที่เดียวกับวันนั้นนั่นแหละ”
จันตายังไม่ยอมหยุดปากเล่าถึงเรื่องแปลกประหลาดที่เพิ่งได้ประสบมากับตัว “ตอนที่จันขี่รถไป ฟ้าก็มืดเหมือนฝนจะตกหนัก”
“จริงเหรอ แถวนี้ฟ้าใสตลอดเลยนะ นี่ไง ที่ชาวบ้านชอบพูดกันว่าฝนตกไม่ทั่วฟ้า” ดวงใจเอ่ยแทรกขึ้นมา เพราะตั้งใจรับฟังสิ่งที่เธอพูด
“แต่ฝนไม่ได้ตกสักหยดเดียว พอจันขี่รถออกมาไกลจากห้องสมุด ฟ้าที่มืดอยู่ก็หายไปเลยนะ พี่ดวง”
จันตาต้องหยุดเล่าเพียงแค่นั้น เมื่อลูกค้าเดินเข้ามาสั่งอาหาร หากยังมีเรื่องแปลกหรือเหลือเชื่อยิ่งกว่าที่พูดออกไป แต่เธอไม่คิดจะเล่าให้ดวงใจรับรู้เรื่องราวเพิ่มเติม
“พี่ดวงคิดว่าชาตินี้ที่จันเกิดมา ระหว่างจันจะถูกหวยกับจันจะเจอเนื้อคู่ อะไรจะเกิดขึ้นก่อนกัน” จันตาตั้งคำถามกับดวงใจซึ่งยังวุ่นอยู่กับทำข้าวผัดในกระทะ จนเธอก็ได้คำตอบให้ตัวเอง
“แต่น่าจะถูกหวยก่อน จันไม่เชื่อหรอกว่าชาตินี้จะได้พบเนื้อคู่เป็นตัวเป็นตนจริงๆ”
ดวงใจตัดข้าวผัดใส่จาน แล้วยื่นจานให้เธอนำไปให้ลูกค้าซึ่งนั่งรออยู่ที่โต๊ะ
“ทำไมคิดอย่างนั้น หรือเห็นตัวอย่างจากพี่ กี่คนแล้วที่คบกันก็เลิกกันทุกที” ดวงใจถามเธอ เมื่อเธอเดินเข้ามาใกล้
“ไม่ใช่หรอก พี่ดวง คนเราจะเป็นเนื้อคู่กันจริงหรือเปล่าก็ยังไม่รู้เลย แค่เจอคนที่เข้าใจกัน คุยกันรู้เรื่อง ยอมรับกันและกันได้ ก็คงคบกันได้นาน”
จันตาคิดเสมอว่าคนสองคนที่จะรักกันยั่งยืน อาจไม่ได้เป็นแค่เนื้อคู่กันมาก่อน
เพียงคนคนหนึ่งที่ได้เจอคนอีกคนซึ่งเข้ากันได้พอดิบพอดีเหมือนต่อจิกซอว์ คงจะใช้เป็นเหตุผลได้ดีกว่าการที่แค่คนสองคนเป็นเนื้อคู่กันเท่านั้น
หญิงสาวนั่งนึกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา หลังจากดวงใจวุ่นอยู่กับการทำอาหารที่ลูกค้ารายใหม่เข้ามาสั่งอีกหลายเมนู
ตั้งแต่เธอเห็นคำว่าห้องสมุดประชาก็สงสัยขึ้นมาทันที
ทำไมถึงเป็นชื่อเช่นนั้น เพราะหลายแห่งที่มีห้องสมุดประชาชนเหมือนกัน คงใช้ชื่อสถานที่ไม่ต่างกัน ไม่ใช่จะมาตั้งชื่อตามใจชอบแบบนี้
พอเดินเข้าไปด้านใน ความแปลกใจก็เกิดขึ้นอีกมากมาย
เริ่มตั้งแต่มีชายชรายืนส่งยิ้มราวกับพนักงานต้อนรับซึ่งรอคอยการมาเยือนของเธอ
หากในใจเธอนั้นก็อดสงสารขึ้นมาไม่ได้
ที่แห่งนี้มีบรรณารักษ์เป็นชายสูงวัยซึ่งจะมีเรี่ยวแรงแค่ไหนในการยกหรือโยกย้ายหนังสือจัดเรียงขึ้นชั้นวาง
เมื่อก้าวขาไปตามทางเดินจนถึงตู้ใส่หนังสือซึ่งมีสี่ชั้น ตั้งวางเป็นแนวหน้ากระดานยาวจนถึงสุดผนังห้อง แค่เธอเลื่อนสายตาเพื่อหาหนังสือที่ต้องการเพียงไม่กี่เล่ม ก็ค้นพบเล่มที่จะนำข้อมูลมาทำรายงานได้ทันที และยังมีอีกหลายเล่มซึ่งวางอยู่ชิดติดกันประหนึ่งรู้ความต้องการของเธอ จึงไม่ต้องเสียเวลาค้นหาก็ได้ข้อมูลมากมายจนเกินที่จะนำมาใช้ได้
หลังจากนั่งอยู่กับกองหนังสือบนโต๊ะซึ่งอยู่บริเวณตรงข้ามกับตู้หนังสือ และคัดลอกข้อมูลจนพอใจ ก็ได้เวลาที่จะต้องกลับไปช่วยดวงใจขายอาหารตามสั่ง เพราะใกล้ช่วงที่ลูกค้าจะเข้ามาในร้านกันอย่างไม่ขาดสาย
หากก่อนจะเดินออกไปจากห้องสมุด ชายชราก็ยังยืนอยู่ที่เดิมพร้อมทั้งกวักมือเรียกให้เธอเข้าไปใกล้ จนได้รับรู้อีกหนึ่งเรื่องที่แสนประหลาดล้ำ
ถ้าไม่ได้ยินกับหูตัวเองก็ยากที่จะเชื่อได้!
จันตาจ้องมองหนังสือปกสีน้ำเงินทันที หลังจากได้รับรู้ว่าเป็นหนังสือที่คนเป็นเนื้อคู่กันจะกระทำใดๆ กับหนังสือก็ได้ ทั้งเขียนข้อความลงไป ทั้งเปิดอ่านเนื้อความด้านใน และยังมองเห็นได้เพียงสองคนเท่านั้น
‘ถ้าไม่เชื่อ ก็ลองเขียนอะไรลงไปในหนังสือดูสิ ถ้ามีคนมาเขียนตอบ หนูก็จะได้ค้นพบเนื้อคู่ของตัวเอง’ เป็นคำเชิญชวนเสมือนคำท้าทายจากชายชรา
หญิงสาวแค่พูดกับตัวเองในใจว่า…ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง หนูขอเลขเด็ดงวดนี้ด้วยได้ไหมคะ…
จันตาไม่รอช้า หยิบปากกาที่วางไว้ข้างหนังสือเล่มนั้น
หากไม่ใช่อยากจะได้เลขเด็ด แต่เป็นเพราะรู้สึกว่าถ้าไม่เขียนอะไรลงไปสักอย่าง ชายสูงวัยคงไม่ยอมให้เดินออกไปจากห้องสมุดง่ายๆ อย่างแน่นอน
จนตอนนี้เธอก็ยังเชื่อว่าหนังสือเล่มนั้นเป็นเพียงสมุดบันทึกธรรมดาที่ด้านในมีแผ่นกระดาษว่างเปล่าเพื่อรอให้คนเขียนบันทึกเรื่องราวต่างๆ ลงไป
จันตาจึงเขียนถึงสิ่งที่อยู่ในความคิดของตน
ถ้ามันเป็นหนังสือที่คนเป็นเนื้อคู่กันเท่านั้นจะเปิดอ่านได้ ก็คงไม่มีผู้ใดที่จะอ่านข้อความของเธอ
ความคิดคำนึงหยุดลงเพียงแค่นั้น เมื่อดวงใจวานให้เธอช่วยไปเก็บจานและทำความสะอาดโต๊ะ เพื่อรอให้ลูกค้ารายใหม่มานั่งรับประทานอาหาร
“พรุ่งนี้จันจะไปหาเลขเด็ด มีที่ดีๆ ไม่ไกลจากที่นี่ คนอื่นพากันไปขอแล้วได้มาแบบเต็มๆ เผื่อจันจะได้บ้าง” เธอเดินไปบอกดวงใจ
“ช่วงนี้ตระเวนหาเลขเด็ดเยอะนะ ระวังมันจะตีกันยุ่ง จนไม่ได้อะไรเลย”
“ก็ต้องหาจากหลายๆ ที่ งวดเดียวไปเลย มันต้องถูกตรงๆ สักตัวบ้างแหละ”
จันตายังเชื่ออยู่เช่นเดิมว่า…ในชาตินี้ โอกาสที่เธอจะถูกหวยนั้น คงมีมากกว่าที่จะได้พบคนเป็นเนื้อคู่กัน
- READ หนังสือเล่มนั้น มีเนื้อคู่ของฉันซ่อนอยู่ บทที่ 4 : ข้อความจากเนื้อคู่
- READ หนังสือเล่มนั้น มีเนื้อคู่ของฉันซ่อนอยู่ บทที่ 3 : หนังสือที่คนอื่นมองไม่เห็น
- READ หนังสือเล่มนั้น มีเนื้อคู่ของฉันซ่อนอยู่ บทที่ 2 : เนื้อคู่มีโอกาสเจอกัน (น้อย)
- READ หนังสือเล่มนั้น มีเนื้อคู่ของฉันซ่อนอยู่ บทที่ 1 : หนังสือเล่มนั้นอาจมีอยู่จริง
- READ หนังสือเล่มนั้น มีเนื้อคู่ของฉันซ่อนอยู่ : บทนำ