วิวาห์ถอดรูป : บทนำ

วิวาห์ถอดรูป : บทนำ

โดย : กุลวีร์

Loading

วิวาห์ถอดรูป โดย กุลวีร์ นวนิยายออนไลน์ที่อ่านเอาอยากให้คุณได้อ่านออนไลน์ เมื่อแม่ๆ หวังให้ลูกของพวกเธอได้มีคู่ครองที่ดี จึงพากันไปขอพรจาก ‘เจ้าแม่ปลวกทอง’ ความมหัศจรรย์จึงบังเกิดกับต่อลาภและเพาพะงา แต่ทั้งคู่ต้องพบเจอกับเรื่องอะไร และแม่ๆ จะสมหวังไหม ต้องติดตามกันเอง

ชายหนุ่มร่างสูงในชุดราชประแตนทำจากผ้าไหมไทยแท้เนื้อดี เสื้อสูทพอดีตัวสีชมพูอ่อนจางค่อนไปทางขาว คอตั้งสูง แขนยาวถึงข้อมือ ด้านหน้าตัวเสื้อมีกระดุมห้าเม็ดเรียงกันลงมาเป็นแถวตรง นุ่งโจงกระเบนสีชมพูกลีบบัว สวมถุงเท้าขาวยาวคลุมน่อง

ต่อลาภไม่คิดเลยว่าจะต้องแต่งงานก่อนวัยเบญจเพส ทั้งที่เข้าสู่กรุงเทพมหานครเพื่อตามหาฝัน หากโชคชะตาจับผลัดจับผลูให้กลายเป็นเจ้าบ่าวของหญิงสาวซึ่งมีบ้านเกิดในจังหวัดเดียวกันแต่อยู่คนละอำเภอ หรือ…สองคนอาจโคจรมาพบกัน ในเวลาเหมาะสม

เขาหยุดยืนตรงหน้าประตูห้องฝ่ายหญิง บนชั้นสองของบ้าน อีกไม่กี่อึดใจ จะได้เห็นหน้าเจ้าสาวเสียที เมื่อลงเรือลำเดียวกับหล่อนแล้วก็ต้องช่วยกันพายไปให้ถึงฝั่ง จึงตอบตกลงโดยดี ไม่คิดหน้าคิดหลังถึงการใช้ชีวิตหลังแต่งงาน ตอนที่หญิงสาวขอความช่วยเหลือเพราะมีเหตุจำเป็นที่ต้องเข้าสู่ประตูวิวาห์

ถ้าการแต่งงานเกิดขึ้นจากความรักของคนทั้งสองที่มีใจตรงกัน เขาคงรู้สึกดีมากกว่านี้ ถึงแม้จะรู้จักเจ้าสาวเพียงไม่กี่เดือนก็ตาม

ต่อลาภยืนถือซองเงินสีชมพูที่เหลืออยู่ในมือเพียงสี่ซอง ก่อนจะเปิดประตูห้องแล้วนำเจ้าสาวไปร่วมพิธีมงคลสมรสซึ่งมีแขกผู้มีเกียรติหลายสิบคนรออยู่ด้านล่างและบริเวณลานหน้าบ้านเพื่อร่วมเป็นสักขีพยานพร้อมทั้งแสดงความยินดี เขาต้องผ่านผู้กั้นประตูเงินประตูทองเป็นผู้หญิงสองคนยืนจับส่วนปลายของสร้อยคอทองคำเส้นบางคนละข้างขวางหน้าประตูไว้

ชายหนุ่มผ่านมาแล้วแปดประตูเงินประตูทอง แต่ละประตูแทบจะต้องยกมือขึ้นปาดเหงื่อ นี่มาสู่ขอผู้หญิงแต่งงานหรือมาเข้าค่ายฝึกทหารที่เขาชนไก่กันแน่ แต่ก็ยังดีที่คนกั้นไม่นำลวดหนามมาใช้เป็นประตูเงินประตูทอง

ถึงแม้จะเหน็ดเหนื่อยและตื่นเต้นมากเพียงใด เจ้าบ่าวยังมีรอยยิ้มให้แก่ทุกคนเสมอ โดยเฉพาะญาติฝ่ายหญิง เขาตั้งใจส่งยิ้มเพื่อให้คนเห็นต้องเคลิ้มไปราวต้องมนต์สะกด แล้วเอ่ยถาม “ในห้องยังมีประตูเงินประตูทองอีกไหมครับ”

“นี่เป็นประตูสุดท้ายค่ะ พี่ชื่อจีน่า เป็นพี่ที่ทั้งรักทั้งหวงน้องเพามาก แต่พอรู้ว่าเจ้าสาวมีสามีเด็กกว่า พี่ยอมยกน้องเพาให้ก็ได้” ผู้หญิงทางขวามือไว้ผมหน้าม้าตอบออกมาพร้อมกับแนะนำตัวเอง เขาจำได้เพราะเคยพบในที่ทำงานของหล่อนมาก่อน

“ผมจะได้เจอเจ้าสาวแล้วใช่ไหมครับ” ต่อลาภคิดว่าคงผ่านไปอย่างง่ายดาย ยื่นซองเงินให้แก่ผู้หญิงสองคนที่ยืนกั้นประตูเงินประตูทอง แต่ยิ้มของเขาไม่ได้ผลจึงต้องนำซองเงินกลับมาไว้กับตัวตามเดิม หลังจากหญิงสาวคนเดิมเอ่ยขึ้น

“เจ้าบ่าวอย่ารีบร้อนนะคะ เจ้าสาวไม่หนีหายไปไหนแน่นอน ถ้าอยากเจอหน้ากันเร็วๆ ก็ต้องผ่านประตูนี้ไปให้ได้ พี่ไม่โหดเกินไปหรอกค่ะ”

นึกว่าประตูนี้จะไม่ต้องตอบคำถามหรือทำอะไรเหมือนที่ผ่านเข้ามา เขาต้องทำหน้าที่เจ้าบ่าวในวันนี้ให้สำเร็จ เพราะความไว้ใจที่มอบให้กันและอาจจะเป็นความรักที่เขามี แม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายอาจจะไม่มีใจให้ แต่ไม่เคยสนใจ

“พี่มีคำถามง่ายๆ ให้เจ้าบ่าวตอบ ถ้าวันหนึ่งน้องเพาต้องโดนตัดนิ้วมือ จะเลือกให้ตัดนิ้วไหน ถ้าคำตอบไม่ตรงกับน้องเพา พี่ไม่ให้ผ่านนะคะ บอกไว้ก่อน”

“ไม่ให้ตัดเลยสักนิ้วครับ เพราะกลัวเจ็บ”

“เจ้าบ่าวตอบถูกต้องค่ะ แหม…รู้ใจกันเหลือเกิน คำตอบแป๊ะมากเหมือนน้องเพาตอบทุกพยางค์ โอ๊ย! พี่อิจฉา” คนตั้งคำถามบอกออกมาพร้อมกับดึงซองชมพูในมือเขาไปหนึ่งซองแล้วยื่นให้ผู้หญิงอีกคนที่ยืนเงียบจับปลายสร้อยคอไว้ด้านหนึ่ง

“นั่นคือคำถามของน้องคนนั้น ส่วนคำถามของพี่คือเจ้าบ่าวชอบอะไรในตัวเจ้าสาวมากที่สุดค่ะ”

“เพราะคุณเพาตาโตและมีแก้มป่องครับ” เขาตอบโดยไม่ต้องเสียเวลาคิด ยามนึกถึงหน้าตาเจ้าสาว

“ไม่ผ่านค่ะ มาว่าน้องเพาของพี่แก้มป่องได้ยังไง เจ้าสาวออกจะหน้าเรียวสวยขนาดนั้น พี่รับไม่ได้ มาขอผู้หญิงผิดคนหรือเปล่าค่ะ ถ้าเป็นอย่างนี้ต้องถูกทำโทษ”

ต่อลาภได้ยินดังนั้นก็นึกในใจ นั่นไงหาเรื่องให้เหนื่อยอีกตามเคย เหมือนกับทุกประตูเงินประตูทองที่ผ่านมา ถ้าการมาขอภรรยาสักคนจะยากเย็นขนาดนี้ เขายอมให้ขึงลวดหนามตั้งแต่หน้าประตูบ้านแล้วคลานศอกจนถึงหน้าห้องเจ้าสาวน่าจะดีกว่า

“จูบมือพี่แล้วจะยอมให้เข้าไปรับตัวเจ้าสาว” คนพูดยื่นมือข้างหนึ่งออกมาตรงหน้าเขา

“มีทางเลือกอื่นอีกไหมครับ” ชายหนุ่มไม่ยอมติดกับญาติฝ่ายเจ้าสาว

“แหม…พี่กะว่าจะขโมยจูบแรกของเจ้าบ่าวในวันแต่งงานซะหน่อย ทำเป็นรู้ทัน หรือหวงไว้ให้เจ้าสาวคนเดียว พี่คิดออกแล้ว เจ้าบ่าวคงชอบแทง งั้นแทงปลาไหลยี่สิบทีก็ได้ค่ะ”

เขายอมทำตามโดยไม่มีข้อต่อรองจนครบจำนวน

“ดีมากค่ะ พี่ทดสอบความแข็งแรงของเจ้าบ่าวที่ใช้ในคืนแต่งงาน แต่ยังมีอีกคำถามให้แก้ตัว โทษฐานที่มาว่าน้องเพาของพี่แก้มป่อง”

“พี่จีน่าปล่อยเจ้าบ่าวให้ไปเจอเจ้าสาวเถอะค่ะ” หญิงสาวที่ได้ซองชมพูไปแล้วทักท้วงขึ้นมา

“พี่เห็นแก่ความหล่อและหน้าละอ่อนของเจ้าบ่าว ส่งซองที่อยู่ในมือมาให้หมดค่ะ” คนพูดทำราวกับโจรปล้นซองเงิน เขาจึงรีบยื่นให้ก่อนที่อีกฝ่ายจะเปลี่ยนใจ

เขาผ่านประตูเงินประตูทองประตูสุดท้ายได้แล้ว อยากร้องไชโยดังๆ หากเกรงใจใครหลายคน

สิ่งที่รอคอยกำลังจะมาถึง ต่อลาภใช้มือข้างหนึ่งหมุนลูกบิดประตู แต่ช่วงเวลาที่จะได้พบหน้าเจ้าสาวถูกขัดจังหวะด้วยเสียงห้ามของผู้หญิงผมม้าคนเดิม “เดี๋ยวค่ะ พี่ขอเข้าไปดูเจ้าสาวก่อนว่าพร้อมไหม หรือจะตื่นเต้นจนเป็นลมเป็นแล้งไปแล้ว ปล่อยให้อยู่ในห้องคนเดียวเสียด้วย”

เขาจำเป็นต้องปล่อยมือจากลูกบิดประตูแล้วหลีกทางให้หญิงผู้นั้น ชายหนุ่มพยายามมองหาเจ้าสาวในช่วงเศษเสี้ยววินาทีที่มีคนเปิดประตูแล้วแทรกตัวเข้าไปด้านใน ก็ยังไม่พบหน้าหญิงสาวที่เขามาสู่ขอ

“เจ้าบ่าวเปิดประตูได้เลยค่ะ เจ้าสาวพร้อมแล้ว” เพียงไม่นาน เสียงตะโกนของผู้หญิงผมม้าดังขึ้นหลังบานประตู

ต่อลาภหมุนลูกบิดแล้วผลักบานประตูเข้าไปด้านใน หญิงสาวร่างระหง สวมชุดไทยจักรพรรดิสีชมพู ปักดิ้นทองทั่วทั้งชุดยืนส่งยิ้มให้

พอต่างฝ่ายเห็นหน้าซึ่งกันและกัน เกิดเสียงร้องอุทานออกมาพร้อมกัน “เฮ้ย!”

เขาก้าวถอยหลังออกจากห้องอย่างเร็วไว ในขณะที่ฝ่ายหญิงรีบปิดประตูใส่หน้าเขา

“ต่อเป็นอะไรหรือลูก” เสียงถามของผู้เป็นแม่ซึ่งยืนอยู่ด้านหลัง ยามเห็นท่าทีตกอกตกใจของบุตรชาย

เจ้าบ่าวจูงมือมารดาออกมาให้ห่างจากผู้คนที่ยืนอยู่หน้าห้องเจ้าสาว แล้วกระซิบกระซาบให้ได้ยินกันเพียงสองคน “ในห้องนั้นคือใครเหรอแม่”

“เจ้าสาวของลูกไง จำไม่ได้รึ” มารดาตอบด้วยเสียงไม่เบานัก

“ไม่ใช่นะแม่ ต่อไม่เคยรู้จักผู้หญิงคนนั้นมาก่อน แล้วจะมาเป็นเจ้าสาวของต่อได้ไง” นี่คือสิ่งที่ทำให้เขาตกใจเมื่อเปิดประตูเข้าไปแล้วได้เห็นหน้าเจ้าสาว

“พูดเป็นเล่นไป นั่นแหละเจ้าสาวของลูกที่พามาให้แม่รู้จัก อย่ามาอำแม่เล่นอย่างนี้”

“แต่ผู้หญิงคนนั้น ไม่ใช่คุณเพาที่ผมรู้จักนะแม่”

“นี่จะมาไม้ไหนกับแม่กันแน่ ที่เห็นเมื่อกี้คือหนูเพาพะงา จะไม่ใช่เจ้าสาวของต่อได้ยังไง” น้ำเสียงมารดาคล้ายคนเริ่มไม่สบอารมณ์และยังยืนเท้าสะเอว เมื่อได้ฟังคำยืนยันของเขา

“แต่นั้นไม่ใช่ผู้หญิงที่ต่อเคยเจอนะแม่ ใครก็ไม่รู้”

“เอาอย่างนี้ แม่จะเข้าไปในห้อง ไปดูให้แน่ใจว่าใช่ผู้หญิงที่ต่อเลือกมาเป็นเจ้าสาวหรือเปล่า” แม่พูดกับลูกชายแล้วเดินไปที่ห้องเจ้าสาว จากนั้นผลักประตูเข้าไปโดยไม่ฟังความเห็นจากเขาเลย

เพียงสามนาที แม่เปิดประตูออกมาแล้วตะโกนบอกผู้ร่วมงานเสียงดัง “รอสักครู่นะคะ พอดีเจ้าบ่าวตกใจความสวยของเจ้าสาว จนจำกันไม่ได้”

เสียงขำขันของคนหลายคนดังขึ้น หลังจากได้ยินคำกล่าวนั้น

มารดาเดินมาถึงตัวเขาซึ่งยังยืนรอตรงที่เดิม “แม่เข้าไปดูให้แล้ว ก็เห็นแต่หนูเพาพะงา เจ้าสาวของลูกตัวจริงเสียงจริง”

“แต่ที่ต่อเห็น ยังไงก็ไม่ใช่คุณเพา ผู้หญิงคนนั้นต่อไม่เคยรู้จักมาก่อนจริงๆ นะแม่” เขายังยืนยันคำตอบเดิมตั้งแต่แรกเห็นเจ้าสาวที่อยู่ในห้อง

“จะเอายังไงกันแน่ จะล้มเลิกงานแต่งวันนี้เลยดีไหม แล้วกลับบ้านใครบ้านมัน”

เขาฟังจากน้ำเสียง รู้เป็นนัยๆ ว่ามารดากล่าวประชดและเริ่มไม่พอใจ ต่อลาภอยากจะอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับเจ้าสาว แต่แม่เอ่ยแทรกขึ้นมาก่อน “ตอนนี้จะมากลัวการแต่งงานไม่ได้แล้วนะลูก หรือเพิ่งจะมาคิดได้ว่าอายุยังน้อยไปกับการเริ่มต้นชีวิตคู่  ถ้าตอนนี้เพิ่งรู้ว่าตัวเองยังไม่พร้อม จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่ ยังไม่สายที่จะล้มเลิกงานแต่งในวันนี้  ไม่ใช่แม่ไม่อยากได้หนูเพามาเป็นสะใภ้นะ แต่แม่เห็นใจหนูเพามากกว่า ถ้าต้องแต่งงานกับผู้ชายที่ไม่พร้อม ไม่ต้องแต่งจะดีกว่า”

“ไม่ใช่ต่อไม่อยากแต่งงานนะแม่ แต่เจ้าสาวในห้องนั้นไม่ใช่คนที่ต่อเคยรู้จัก”

“จะไม่ใช่ได้ยังไง คนนั้นคือหนูเพาพะงา” แม่พูดเสียงดังขึ้นด้วยอารมณ์ฉุนในตัวลูกชายซึ่งพูดย้ำแต่คำเดิม

“ทำไมเจ้าบ่าวไปรับเจ้าสาวนานจัง เดี๋ยวจะไม่ทันฤกษ์สวมแหวนนะ” เสียงบิดาตะโกนมาจากชั้นล่าง

แม่เอ่ยถามเขาด้วยสีหน้าและน้ำเสียงจริงจัง “ตกลงวันนี้จะแต่งหรือไม่แต่ง”

ต่อลาภจ้องหน้ามารดาพร้อมคิดทบทวนเวลาที่ผ่านมาแล้วให้คำตอบทันที

แต่ผู้หญิงคนนั้น…เขาก็ยังยืนยันว่าไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน

แล้วเพาพะงาคนที่เคยรู้จักกันหายไปไหน



Don`t copy text!